Sakura Hunter 1 Day in Tokyo 2015 (After Full Bloom สมหวังบ้าง ผิดหวังบ้าง ปนๆกันไป)


  สวัสดีครับทุกท่าน อากาศหนาวกำลังจะผ่านไป อากาศอบอุ่นก็ค่อยๆผ่านเข้ามา วันนี้ผมจะพาไปชมดอกซากุระกันที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งรูปภาพจากกระทู้นี้ผมไปมาเมื่อช่วงวันที่ 6 – 12 เมษายน 2015 โดยผมใช้เวลาตามล่าซากุระอยู่ที่เฉพาะโตเกียว 1 วันเต็มๆ ตามที่ได้ทำการบ้านมา ที่ไหนสวย ที่ไหนมีเยอะ ตามไปให้หมด

Website ที่ผมใช้เป็นหลักในการวางแผน มีจัดอันดับความสวยงาม รายงานสถานการณ์รายวัน และที่สำคัญบอกวิธีการเดินทางไปด้วยครับ http://www.japan-guide.com/


06.04.2015
Tsukiji Fish Market

04.30 am ตื่นนอนออกจากที่พัก ฝนตกปรอยๆ เดินกางร่มออกจาก โรงแรมแคปซูลย่าน Tsukiji ไปยังตลาดปลา Tsukiji ตั้งแต่เช้า

เป้าหมายจะไปทาน “ซูชิ ได” อันเลื่องลือ เมื่อเดินเท้าตาม Google Map มาจนถึงจุดหมายใน Map ปรากฏว่าหาทางเข้าไม่เจอ เดินงงๆ วนไปวนมา จนเห็นคนเดินผ่านเข้าไปทางที่มีรถบรรทุกวิ่งเข้า วิ่งออก ก็จึงดินตามเขาเข้าไป (แหม่ ปล่อยเงิบไปหลายนาที ) เข้าไปถึงหน้าร้านประมาณ 05.10 am โอ้โห คนเยอะมาก แบบท้อแท้เห็นแถวแล้วต้องบอกยอมแพ้ คิดในใจ ”ถ้ารอกินนี่ วันนี้ทั้งวันคงพลาดจุดหมายต่างๆไปหลายจุด จึงยอมตัดใจไม่เข้าแถวรอ แล้วไปหาร้านอื่นทานทดแทน “

ผมจึงเดินชมตลาด หาร้านอื่นทาน จนมาเจอร้าน Donburi ที่มีนักท่องเที่ยวต่อแถวอยู่สัก 4 – 5 คน ก็ตัดสินใจเลย ร้านนี้แล้วกันที่เราจะฝากท้องไว้เช้านี้
เมนูหน้าร้าน มีรูปประกอบ ชอบอันไหนจิ้มเลย

Hokodate Don ข้าวหน้าปลาทูน่า แซลมอน ไข่หอยเม่น และไข่ปลาแซลมอล ราคา 2500 เยน ซุปมิโซะ เติมได้ไม่อั้น



Tsukiji Hongan-ji

ท้องอิ่มแล้วเตรียมตัวออกเดินทางกันต่อ ระหว่างทางเดินจะไปสถานีรถไฟใต้ดิน ก็เดินผ่านวัด Tsukiji Hongan-ji ซึ่งมองเข้าไปแอบเห็นซากุระกำลังบานสะพรั่งก็ขอแว้บๆ แวะเข้าไปสักหน่อย






Imperial Palace Tokyo
Nijubashi bridge สะพานแว่นตา


ผมนั่งรถไฟจากสถานี Tsukiji ไปยังสถานี Nijubashi-Mae เดินออกจากสถานีมา ข้างนอกฝนลงแรงเลย ลมพัดเข้ามา ขนลุกซู่เลย (ผมดู App Weather บอกอุณหภูมิ 10 องศาเซลเซียส จึงหยิบเสื้อกันหนาวมาตัวเดียว รู้เรื่องเลยคับ) รออยู่ซักพักให้ฝนเบาลงหน่อยแล้วจึงค่อยเดินออกจากสถานี
จุดที่ปักหมุดแดงไว้คือจุดชมสะพานคับ

เดินลุยฝนเข้ามาทาง Imperial palace พอข้ามสะพานเข้าเขตสวนเข้ามาเท่านั้นแหละ หันไปเห็นทิวซากุระบานสะพรั่ง โอ้ววว มาไม่เสียเที่ยวแล้ววว ฟินกันไป ขนาดฝนตกพรำๆ มีชาวญี่ปุ่นมาวิ่งออกกำลังกายบริเวณนี้



หลังจากชื่นชมซากุระเสร็จสิ้น เดินเท้าต่อมายังสะพานแว่นตา มาถึงเวลาราวๆ 8 โมงเช้า ฝนเริ่มซาๆ น้ำนิ่งพอเห็นสะท้อนเป็นแว่นตาอยู่


เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจที่สะพานแว่นตา ตามแพลนคือจะเดินทะลุ Imperial palace ไปทาง east gate ผ่าน east garden ขึ้นไปยัง Chidorigafuchi แต่เนื่องจาก ฝนตก และคิดว่าเดินข้างในคงอีกไลก คนคงเยอะ และระหว่างที่ยืนถ่ายรูปสะพานแว่นตาอยู่ก็เห็นผู้คนเดินผ่านไปหลายคน เลยคิดเองว่า มันน่าจะมีสถานีรถไฟอยู่ใกล้ๆ ที่ไม่ใช่สถานี เลยเดินสวนผู้คนที่เค้าเดินกันมา หวังว่าสถานีจะอยู่ไม่ไกล เดินผ่านมาเรื่อยๆก็พบ west gate มองเข้าไปเห็นต้นซากุระ ใบอ่อนเริ่มแตกแล้ว

เดินพ้นประตูไปเล็กน้อยก็พบกับสถานีรถไฟใต้ดิน Sakuradamon จ้า ขณะนั้นเวลา 8 โมงกว่าๆ ได้ กำลัง Rush hour เลย

สถานีรถไฟ ในช่วงเวลา Rush hour ทุกคนเดินกันด้วยความเร็วประหนึ่งวิ่ง เดินเป็นเส้นทางเดียวกันหมด ในชานชาลาต่อแถวขึ้นรถไฟกันเต็มพื้นที่ คนเดินต้องเดินผ่านด้านหน้าระหว่างผู้คนที่ยืนรอขึ้นรถไฟ กับรางรถไฟ เมื่อรถไฟมา เปิดประตู ผู้คนด้านหลังจะนำพาตัวทุกท่านเข้าไปในรถไฟเอง อัดกันแบบแนบเนื้อ พอถึงสถานีที่เราจะลง เบียดลงกันเลยคับ ไม่ต้องเกรงใจ เพราะไม่เช่นนั้น จะถูกผู้คนจากภายนอกดันเข้ามาในรถไฟอีกครั้ง


Chidoriga-fuchi

จากที่ขึ้นรถไฟใต้ดินจากสถานี Sakuradamon ต้องมาต่อรถที่สถานี Nagatacho
เพื่อไปยังสถานี Kundashita ต่อ เดินขึ้นมาตามทางเพื่อไป chidorigafuchi (จุดที่ปักหมุดไว้เป็นจุดชมวิวของที่นี่ครับ)

ตามทางเดินมีแต่กลีบซากุระร่วงโรย ใจคอไม่ดีเลย

ระหว่างทางแหงนหน้ามองก็เห็นซากุระคับ แต่ก็ร่วงโรยไปเยอะ แตกใบอ่อนกันส่วนใหญ่แล้วแต่ไหนๆก็มาถึงแล้ว เดินชมมันไปเรื่อยๆแล้วกัน เดินไปรอบๆ จนถึงมุมที่ทำการบ้านมา ได้มาเท่านี้จริงๆ แอบเสียใจเล็กๆ ตั้งเป้าหมายไว้ใหม่ ชั้นต้องมาใหม่ในวันที่มัน Full Bloom



เสร็จกิจที่ Chidorigafuchi แล้วเดินทางกลับไปยังสถานีใต้ดิน Kundashita หวังจะเดินทางต่อไปยังที่อื่น ปรากฏว่าระหว่างทาง พบกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ญี่ปุ่นมาทัศนะศึกษาบริเวณนี้ มากันแบบเยอะมาก น่าจะยกกันมาทั้งวิทยาลัย แต่เขาก็เดินมากันอย่างเป็นระเบียบ เป็นแถว มีรุ่นพี่มากั้นเชือก และคอยให้หยุดเมื่อมีคนจะเดินข้าม ทำให้มาหยุดยืนอยู่บนทางเท้า ซึ่งมีขบวนนักศึกษาขวางอยู่ทำให้ข้ามไปสถานีรถไฟใต้ดินไม่ได้ พอดีว่ามีแผนที่บริเวณนี้อยู่ ก็ไปยืนอ่านแผนที่รอแล้วพบว่าใกล้ๆนี้ มีศาลเจ้า Yasukuni เห็นว่ามีขนาดใหญ่พอสมควร เดินไปแวะชมดีกว่า ไหนๆก็เวลาเหลือ และกำลังเศร้าๆจาก Chidorigafuchi


Yasukuni Shrine


แวะเข้ามาก็พบทัวร์จีนกำลังลงจากรถเลยจ้า กางร่มเดินเข้าไปกันกลุ่มใหญ่ บ้างก็ยืนถ่ายรูปกับเสาโทริบ้าง


เดินผ่านเสาโทริเข้ามา ก็มาพบกับประตูเข้าวัดละ ยิ่งใหญ่อลังการ งานประตูไม้ มองลอดเข้าไปเริ่มเห็นซากุระอยู่ด้วนใน มีลุ้นแล้วเรา

และสิ่งที่ไม่คิดว่าจะเจอในศาลเจ้า ซากุระจ้า ยืนเรียงรายกันเต็มไปหมด แต่ก็ร่วงโรยไปเยอะแล้วเหมือนกัน แต่ก็สร้างความงามขึ้นได้เช่นกัน กลีบดอกที่ร่วงโรย กลายเป็นพรมปูพื้นให้ขาวละลานตา ดูสวยงาม ตามธรรมชาติมาก


เข้ามาถึงในตัวศาลเจ้าแล้ว แต่ก็ไม่ได้เข้าไปไหว้ศาลเจ้านะ ไหว้ไม่เป็นต้องทำยังไง ก็เลยได้แต่มองคนอื่นไหว้กันไป

ขอแปะข้อมูลศาลเจ้านี้ไว้ซะหน่อย อ่านแล้วเพิ่งรู้ว่า โอ้ว...มันเป็นศาลเจ้าที่สำคัญแห่งหนึ่งเลยในโตเกียว จาก Wiki
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เป็นความประทับใจที่ไม่ได้คาดหวังมานะคับ กับศาลเจ้าแห่งนี้ สงบ ร่มเย็น เห็นซากุระ....
ได้ลองเดินเข้าไปในสถานที่ที่ไม่รู้ว่ามีอะไรมันก็ตื่นเต้นดีนะครับ แล้วผลที่ได้รับมามันก็คุ้มค่าจริงๆ

เดินทางกันต่อครับ ไปยังสถานที่ต่อไป ไฮไลท์ของวันนี้ ที่มีความหวังว่าจะได้ชมซากุระกันเต็มๆตาที่นี่ คือ Shinjuku Gyoen
ออกจาก Yasukuni shrine แล้ว ก็เดินทางต่อไปยังเป้าหมายต่อไป Shinjuku Gyoen เปิด Google map หาสถานีรถไฟ คือจะเดินกลับไปสถานี Kundashita ก็ได้ แต่ก็แบบเคยผ่านทางนั้นแล้ว ก็เห็นว่ามี สถานี Ichigaya อยู่อีกทางหนึ่ง ไกลกว่าเดินกลับไปเพียง 100 เมตร เลยตัดสินใจเดินต่อไปสถานีนั้นแล้วกัน ระหว่างทางก็เดินตากฝนไปเรื่อยๆ ชิวๆ slow life จนมาถึงสถานี Ichigaya แล้วจึงนั่งรถไฟไปลงสถานี Shinjuku Sanchome เดินต่ออีกนิดหน่อยก็ถึงสวนแล้วจ้า Shinjuku Gyeon

จุดปักหมุดแดงคือประตูทางเข้าครับ มีให้ซื้อบัตรผ่านประตู

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่