นึกถึงที่เที่ยวที่ ต ร า ด ใครๆ ก็อยากไปแต่ ติ ด เ ก า ะ ก ล า ง ท ะ เ ล จริงมั้ย
เดี๋ยวคนนั้นก็ไป เกาะช้าง เดี๋ยวคนนี้ก็ไป เกาะหมาก คนนั้นก็จะไป เกาะกูด

อ๊ะๆๆ รู้ ห มื อ ไ ร่ ไปตราดทั้งที ต้องไม่พลาดเกาะนี้
"เ ก า ะ เ รื อ ดู ป่ า ช า ย เ ล น  ณ  บ้ า น น้ ำ เ ชี่ ย ว" ไงล้าาาาา



แต่ที่นี่ไม่ได้มีแค่เกาะนี้เกาะเดียวนาจา แต่ยังมี
"เ ก า ะ ก ล้ อ ง ส่ อ ง ดู ชุ ม ช น "ส อ ง ศ า ส น า" กับอีก "ส า ม วั ฒ น ธ ร ร ม" ณ  บ้ า น น้ ำ เ ชี่ ย ว" อีกเช่นเคย
ซึ่งเกาะนี้จะแบ่งเป็นสองหมู่เกาะหลักๆ ได้แก่ ห มู่ เ ก า ะ พุ ท ธ และ ห มู่ เ ก า ะ มุ ส ลิ ม



แล้วมุสลิมมาตั้งถิ่นฐานที่นี่ได้ยังไง พี่ที่เป็นเจ้าของโฮมสเตย์ที่จขกท. ไปพักแกเล่าให้ฟังว่า มุสลิมพวกนี้สืบเชื้อสายมาจาก แ ข ก จ า ม อพยพจากกัมพูชาเข้ามาตั้งถิ่นฐานที่นี่ได้สองร้อยกว่าปีมาแล้ว พอเข้ามาอยู่ที่นี่ บางครอบครัวแต่งงานกับชาวไทยพุทธซึ่งเป็นเจ้าถิ่นอยู่ก่อนแล้ว หรือไม่ก็แต่งกับคนจีนที่ล่องเรือสำเภาเข้ามาค้าขายที่นี่ เลยกลายเป็นที่มาของฉายา
ชุ ม ช น ส อ ง ศ า ส น า ส า ม วั ฒ น ธ ร ร ม ยังไงล่ะ

เอาล่ะ รู้ความเป็นมาของที่นี่แบบหอมปากหอมคอก่อน เพราะต่อจากนี้ เราจะนำทุกท่านเข้าสู่
วิ ถี ส โ ล ว์ ไ ล ฟ์  ณ  เ ก า ะ แ ห่ ง นี้ เป็นเวลา 2 วัน 1 คืน



การเดินทางเริ่มต้นจากขนส่งเอกมัยมาที่บขส.ตราด ไม่ต้องแปลกใจถ้าในภาพยังดูเงียบๆ วังเวงๆ เพราะจขกท. นั่งรถบัสรอบห้าทุ่มครึ่ง ลงมาเหยียบบขส. ตราด ตี สี่ ค รึ่ ง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กำลังหลับสบายพอดีเลยฮะ



และนี่คือรถสองแถวที่จะพาจขกท. ไปส่งที่บ้านน้ำเชี่ยว (จริงๆ คือไปรวมกับพวกที่เหมาไปลงท่าเรือเกาะช้าง เพราะทริปนี้ จขกท. ลุยเดี่ยวฮับ)



แชะภาพแรกทันทีที่มาถึงบ้านน้ำเชี่ยว เวลาตอนนั้นราวๆ ตีห้าได้
สาจจจจจจจจจ โคตรง่วงและเพลีย (คือนอนบนรถบัสเหมือนไม่ได้นอน)
มาถึงแล้วก็ต้องนั่งสัปหงกหน้าศาลเจ้าต่ออีกราวๆ ครึ่งชั่วโมง ก็เริ่มมีแม่ค้ามาขายของตลาดเช้าละ



ปลาที่นี่มีแต่ชื่อแปลกๆ ทั้งน้านนนนนนนน ไม่ว่าจะเป็น
#ป ล า โ อ #ป ล า แ ป้ น #ป ล า ข า ไ ก่ และ #ป ล า พิ กุ ล ท อ ง







หอยสดๆ ก็มี ผักสดก็ตามกันมา

  

น้ำพริกกุ้งเสียบ น่ากินจัง







ฟ้าเริ่มสว่างละฮับ ได้เวลาเดินไปหาเจ้าของโฮมสเตย์ที่เราจองไว้ (แกบอกรออยู่แถวๆ สะพานวัดใจ)
โฮมสเตย์ที่นี่ไม่รับขาเที่ยวแบบ W a l k  i n นะจ๊ะ อยากมาต้องโทรจองล่วงหน้าอย่างน้อย 2 อาทิตย์ เพราะบางทีมีคณะดูงานจากองค์กรต่างๆ มาแล้วจะมีปัญหาเรื่องที่พักไม่พอ อะไหนๆ ก็พูดถึงโฮมสเตย์ละ มีข้อควรรู้ที่ต้องรู้นิดนึงนาจา

1. โฮมสเตย์ที่นี่มีเจ้าเดียว คือ กลุ่มโฮมสเตย์บ้านน้ำเชี่ยวที่เป็นขององค์กรในพื้นที่ ไม่มีเจ้าอื่นเข้ามาแบ่งเค้ก เหตุผลคือคนพื้นที่ไม่อยากให้ที่นี่ต้องกลายเป็นการท่องเที่ยวเชิงการค้า ซึ่งพอยท์หลักของการเที่ยวที่นี่คืออนุรักษ์และศึกษาวิถีชีวิตของคนในชุมชน
2. โฮมสเตย์จริงๆ จะมีเจ้าของบ้านคอยดูแล พูดคุยกับเรา ให้บรรยากาศที่เป็นกันเองสุดๆ เหมือนเราเป็นสมาชิกบ้านหลังนี้ไปโดยปริยาย ง่ายๆ คือเหมือนมาบ้านญาติคนหนึ่งน่ะแหละ
3. โฮมสเตย์ของที่นี่อาจไม่ตอบโจทย์ขาเที่ยวที่มีโลกส่วนตัวสูง ไม่ชอบสุงสิงกับใคร (จริงๆ จขกท. โลกส่วนตัวสูงนะ แต่ใช้ความอยากรู้อยากเห็นนี่แหละพังกำแพงนี้ไปได้)
4. มาพักที่นี่กี่ครั้งๆ ไม่มีวันได้พักที่บ้านหลังเดิมแน่นอน (ระบบโฮมสเตย์ที่นี่เป็นแบบหมุนเวียน มีคนกลางประสานอีกที)

    

2 วัน 1 คืน ที่จะได้กิน นอน อาบน้ำที่เกาะนี้แหละ เ ก า ะ บ้ า น น อ น
บ้านอยู่ริมคลอง เลยไม่ร้อนมากเพราะมีลมพัดตลอด





เริ่มต้นมื้อแรกของทริปนี้ด้วย ป า ท่ อ ง โ ก๋ แป้งเน้นๆ ต่อด้วยข้าวผัดทูน่า
(พักที่นี่มีอาหารฟรี 3 มื้อนะฮับ แต่โควตาของจขกท. เริ่มตอนมื้อเที่ยง)

เติมพลังมื้อเช้าแล้ว กิจกรรมที่จขกท. จะไปทำต่อก็คือ
ต ะ ลุ ย เ ก า ะ
ว่าแต่จะเริ่มจากเกาะไหนก่อนดี ไว้พรุ่งนี้มาว่ากันต่อนะ

โ ป ร ด ติ ด ต า ม เ ก า ะ ต่ อ ไป