เรื่องเล่าจากคนป่วย~

กระทู้สนทนา
“ การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ “ เป็นประโยคที่เราฟังแล้วรู้สึกลึกซึ้งถึงบางอ้อเลยล่ะค่ะ และคิดว่าคงมีอีกหลายๆคนที่เข้าใจประโยคนี้เหมือนกัน ;)
    จขกท.เองเป็นคนไม่ค่อยแข็งแรงและป่วยบ่อยมากๆตั้งแต่เด็กๆแล้ว เรียกได้ว่า สามวันดีสี่วันไข้เลยก็ได้ ด้วยความที่เราเป็นเด็กแก่นๆคนหนึ่ง เราไม่อยากให้ใครมองว่าเราเป็นคนขี้โรค เลยพยายามเล่นแบบเด็กผู้ชาย และเล่นกีฬาหลายชนิดเพื่อให้ตัวเองแข็งแรง ทั้งฟุตบอล ฟุตซอล แชร์บอล เปตอง แบตมินตัน ปิงปอง ฯลฯ คือเราเล่นกีฬาเยอะมาก จนปัจจุบัน จขกท.เองก็อายุเกือบครบ 18 ปีแล้ว ...แต่ก็ยังคงป่วยอยู่(หัวเราะ) อมยิ้ม07
    ก็ใช่ว่าป่วยแล้วมันจะหายกันได้ง่ายๆนี่นา จนโรคล่าสุดที่เพิ่งเจอมาก็กลายเป็นโรคประจำตัวของจขกท.ไปโดยปริยาย(หัวเราะ) ในเมื่อมันหายไม่ได้ เราก็ต้องยอมรับและดูแลตัวเองให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้มันแย่ลง จริงไหม? งั้นมาฟังเรื่องเล่าประสบการณ์ที่จขกท.เจอกับอาการป่วยนี้กัน เผื่อใครเคยเจออาการเดียวกัน จะได้รู้และดูแลตัวเองกันได้อย่างถูกต้อง
    อาการป่วยนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา(พ.ศ.2559) โดยตัวจขกท.เองมีอาการไอและมีเสมหะติดต่อกันหลายวัน จนเมื่อวันที่ 3 ม.ค. 59 จู่ๆร่างกายก็เริ่มมีอาการผิดปกติ ช่วงเวลาประมาณตี 2 (รุ่งเช้า) วันนั้นสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะเริ่มมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก และไอไม่หยุด เราก็พยายามที่จะข่มตานอนต่อ แต่ก็ทำไม่ได้ จนต้องนั่งพิงฝาผนังห้องจนถึงเช้า(นอนราบแล้วหายใจไม่ออก) แต่ก็ไม่สามารถหลับลงได้ ก็รอเวลาจนถึงรุ่งเช้า(7 โมง) เลยรีบลุกขึ้นไปอาบน้ำ เพราะคิดว่าอาบน้ำแล้วคงจะช่วยให้หายใจคล่องขึ้น แต่หลังจากอาบน้ำเสร็จอาการก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย เลยลองพยายมจะนอนหลับต่อ เพราะง่วงมากจากการไม่ได้นอน จนถึงเวลาเที่ยงของวันนั้น ก็ได้เล่าอาการให้คุณแม่ฟังว่าหายใจไม่สะดวกเหมือนมีอะไรสักอย่างติดอยู่ที่หน้าอก คุณแม่ก็เลยพาไปโรงพยาบาลใกล้บ้าน ก็ได้พ่นยาไป 2 ครั้ง อาการดีขึ้นเล็กน้อย เลยกลับมาพักที่บ้าน กลางดึกคืนนั้นก็เริ่มมีไข้และไอถี่ขึ้น จนเวลาประมาณ  5 ทุ่มครึ่ง อาการก็เริ่มแย่ลง จากเดิมที่นอนราบแล้วหายใจไม่ออก ก็กลายเป็นว่านั่งก็หายใจลำบากมาก คุณพ่อกับคุณเม่ก็เลยรีบพาเราไปโรงพยาบาลอีกครั้ง คราวนี้จากอาการหายใจลำบากก็มีอาการหายใจเหนื่อยหอบ และหัวใจเต้นเร็วมากจนใจสั่นเลยทีเดียว ก็ได้พ่นยาอีกครั้ง แต่ก็ไม่ดีขึ้น จึงทำการเจาะเลือด และ X-ray ไป
    คืนนั้นคุณหมอก็ให้นอนโรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการ มันเป็นคืนที่ทรมานมาก อะไรๆก็ดูแย่ไปหมด ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะอาการหนักขนาดนั้น จากนั้นคุณหมอก็ให้เก็บปัสสวะแล้วก็ฉีดยาไป ตอนเช้าอาการก็เริ่มทรงตัวเพราะให้ออกซิเจนตลอดเวลา ทำให้หายใจสะดวกขึ้น แต่ก็ยังเหนื่อยๆอยู่ ผลตรวจปัสสวะออกมา พบว่าติดเชื้อในกระเพาะปัสสวะ(ซึ่งเป็นผลมาจากการอั้นฉี่บ่อยๆ ร้องไห้ ) ส่วนผลตรวจเลือดนั้นยังปกติ ก็เลยต้องนอนโรงพยาบาลต่อไปอีก อาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ จนเช้าวันที่ 6 ม.ค. 59 คุณหมอก็มาตรวจแล้วถามว่า ‘ยังเหนื่อยอยู่ไหม?’ เราก็ตอบว่า ‘ไม่เหนื่อยเลยค่ะ’ อมยิ้ม21 พร้อมกับส่งยิ้มพิมพ์ใจให้หมอดูเพื่อยืนยันว่าตัวเองหายแล้วจริงๆ(หัวเราะ) ดีใจคิดว่าจะได้กลับบ้านแล้ว แต่เมื่อคุณหมอตรวจและฟังเสียงปอดดูก็พบว่ามีเสียงวี้ดคล้ายกับคนเป็นโรคหอบหืดแต่ก็ไม่เชิงซะทีเดียว(โดยปกติทราบมาว่าคนเป็นโรคหอบหืดจะมีเสียงวี้ดในปอดเวลาหายใจออก แต่จะไม่มีเสียงเวลาหายใจเข้า..ซึ่งแน่นอนเคสของจขกท.มันตรงกันข้าม) ทำให้ต้องนอนโรงพยาบาลอีกคืน เช้าวันต่อมาคุณหมอก็มาตรวจอีก เราก็ยิ้มแย้มหน้าตาสดใสเตรียมพร้อมจะกลับบ้านเต็มที่เหมือนเดิม และเรายืนยันว่าเราสบายดี ไม่เหนื่อยแล้วด้วย คุณหมอก็ตรวจแล้วบอกว่า ‘คนไข้ดูสดใสมากเลยนะ เฮฮามาก แต่ข้างในร่างกายไม่ปกตินี่สิ?’ คุณหมอเลยทำการส่งตัวผู้ป่วย(เราเอง)ไปยัง รพ.สงขลานครินทร์(มอ.หาดใหญ่) เพื่อตรวจอย่างละเอียดอีกทีในวันถัดมา(ที่โรงพยาบาลเดิมมีอุปกรณ์ไม่เพียงพอและขาดแพทย์เฉพาะทางเลยต้องส่งตัวมา) ความรู้สึกตอนนั้นคือแย่นะ อยากกลับบ้านมาก แต่ก็เพื่อตัวของเราเองเลยต้องอดทน
    คุณหมอก็ตรวจและให้เจาะเลือดกับ X-ray อีก ผลวินิจฉัยของคุณหมอก็บอกว่า หลอดลมที่คอมันตีบมากกว่าคนอื่น อาจจะเป็นสาเหตุทำให้หายใจลำบาก และผลตรวจเลือด เม็ดเลือดดูเล็กและซีด อาจจะเป็นพาหะธาลัสซีเมีย แต่หมอจะไม่พูดถึงเรื่องนั้นก่อน(หัวเราะ) ก็เลยนัดมาตรวจอีกทีในสัปดาห์ถัดมา ...
    ...นี่ก็เป็นประสบการณ์คร่าวๆ(ที่ยาวมาก O_O) สำหรับอาการการป่วยแบบกะทันหันโดยไม่รู้ตัวของ จขกท.เอง ครั้งหน้าก็อยากจะมาเล่าระละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนการรักษาตัวและการดูแลตัวเองเมื่อป่วยกันค่ะ
*ป่วยกายแต่ใช่ว่าใจจะต้องป่วยตามนะคะ เม่าชอปปิ้ง การป่วยเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็จริงแต่เมื่อป่วยแล้วเราก็ต้องเรียนรู้การดูแลรักษาตัวเองและใช้ชีวิตต่อไป ถึงแม้บางโรคอาจจะไม่สามารถหายขาดได้แต่คนป่วยอย่างเราก็รู้ดีที่สุดค่ะว่าเราจะสามารถอยู่กับมันโดยมีความสุขได้ ;)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่