ครั้งแรก 2แสน ไม่ถึง 15 วันได้ผลตอบแทนมากกว่า 10% จึงชักชวนญาติร่วมอีกกว่า 50ล้าน

หลอกลงธุรกิจ ร้านโทรมือถือ วอน‘ศรีวราห์’จี้
2 สามีภรรยา จ.ขอนแก่น ร้อง ทุกข์ “บิ๊กปู” พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. หัวหน้าศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล หลังโดน พ.อ. และภรรยา กับพวก ร่วมกันหลอกลวงให้ลงทุนธุรกิจร้านซื้อขายโทรศัพท์มือถือ ใน จ.ขอนแก่น ผู้เสียหายกว่า 20 ราย สูญกว่า 72 ล้านบาท ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยันให้ บก.ป.ร่วม บช.ภ.4 ลงพื้นที่ดำเนินการ พร้อมประสานกองทัพบก เพราะผู้ถูกกล่าวหาเป็นนายทหาร และให้ตรวจสอบ บก.ภ.จ.ขอนแก่น ว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่หลังคดีไม่คืบ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
จากกรณีนายสมคิด หอมเนตร สมาชิกเครือข่ายภาคประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน สมัชชาคุณธรรมแห่งชาติ พร้อมผู้เสียหาย 4 คนและทนาย เข้าให้ปากคำ ต่อเจ้าพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น หลังมีการแจ้งความเอาผิด พ.อ.ทหารม้าคนหนึ่งทางภาคเหนือ กับเมียและผู้ร่วมแก๊งอีกหลายคน หลอกร่วมลงทุนทำธุรกิจขายส่งโทรศัพท์มือถือเสียหายหลายล้านบาท เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 25 มี.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) น.ส.สาลินี ทะสา พร้อมด้วยนายชาญชัย ดงไม้สถิต สองสามีภรรยาชาวจังหวัดขอนแก่น เข้าร้องเรียนยื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่ง ชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล ถึงกรณี พ.อ.รายนี้กับพวกได้ร่วมกันหลอกลวง ฉ้อโกงให้ร่วมลงทุนธุรกิจร้านมือถือ มีผู้เสียหายกว่า 20 ราย มีทั้งญาติและประชาชนรายอื่นๆ ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น จ.อุดรธานี และ จ.ระยอง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 72 ล้านบาท
น.ส.สาลินีกล่าวว่า เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.57 นายทหารและเมียได้มาติดต่อพูดโน้มน้าวใจให้ตนร่วมลงทุนเปิดร้านขายโทรศัพท์มือถือที่ จ.ขอนแก่น โดยอ้างว่ามีฐานลูกค้าจำนวนมาก แต่ไม่มีเงินลงทุน จึงเชิญชวนให้เข้ามาร่วมเป็นสมาชิก ระยะแรกมีผลตอบแทนดี จนกระทั่งวันที่ 19 ก.ย.58 ไม่สามารถติดต่อได้เลย จึงรู้ตัวว่าถูกหลอก สูญเงินไปกว่า 1,300,000 บาท
“ที่ผ่านมาเคยร้องเรียนกับหลายหน่วยงาน ตั้งแต่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น ตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น กองทัพบก และหลายหน่วยงาน แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าจึงตัดสินใจเข้ามาร้องเรียนกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ในฐานะที่รับผิดชอบในการปราบปรามผู้มีอิทธิพล เนื่องจากคู่กรณีเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ภาคอีสาน โดยนำหลักฐานการโอนเงิน และหลักฐานอื่นๆ มามอบให้ด้วย” น.ส.สาลินีกล่าว
ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์เผยว่า คดีนี้ได้มอบหมายให้ บก.ป. ลงพื้นที่ไปดำเนินการร่วมกับ บช.ภ.4 หากพบว่ามีการกระทำผิดจริงก็จะใช้มาตรการทางด้านกฎหมายดำเนินการกับผู้กระทำผิด กรณีนี้เข้าข่ายความผิดกฎหมายอาญา อย่างไรก็ตาม ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตำรวจจะดำเนินการอย่างตรงไป ตรงมา ว่าไปตามกฎหมาย โดยจะประสานข้อมูลกับทางกองทัพบก เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นทหารเป็นลักษณะของการประสานข้อมูลระหว่างกัน ทั้งนี้ หากประชาชนถูกผู้มีอิทธิพลในพื้นที่คุกคาม และไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถมาร้องเรียนที่ตนเองได้ทันที ส่วนกรณีผู้เสียหายไปร้องเรียนกับหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะ บก.ภ.จ.ขอนแก่น แต่คดีไม่มีความคืบหน้า ถือว่าตำรวจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่นั้น กรณีแบบนี้ถือว่าเป็นการละเลย ได้สั่งการให้ บช.ภ.4 สอบสวนข้อเท็จจริงและเร่งรัดการสืบสวนสอบสวนกรณีนี้แล้ว
*ที่มา ข่าวช่อง8 และไทยรัฐ
ข่าวแบบนี้คุ้นๆมั้ยครับ ร่วมลงทุนให้ผลตอบแทนสูง
หลอกลงธุรกิจ ร้านโทรมือถือ วอน‘ศรีวราห์’จี้
2 สามีภรรยา จ.ขอนแก่น ร้อง ทุกข์ “บิ๊กปู” พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. หัวหน้าศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล หลังโดน พ.อ. และภรรยา กับพวก ร่วมกันหลอกลวงให้ลงทุนธุรกิจร้านซื้อขายโทรศัพท์มือถือ ใน จ.ขอนแก่น ผู้เสียหายกว่า 20 ราย สูญกว่า 72 ล้านบาท ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยันให้ บก.ป.ร่วม บช.ภ.4 ลงพื้นที่ดำเนินการ พร้อมประสานกองทัพบก เพราะผู้ถูกกล่าวหาเป็นนายทหาร และให้ตรวจสอบ บก.ภ.จ.ขอนแก่น ว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่หลังคดีไม่คืบ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
จากกรณีนายสมคิด หอมเนตร สมาชิกเครือข่ายภาคประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน สมัชชาคุณธรรมแห่งชาติ พร้อมผู้เสียหาย 4 คนและทนาย เข้าให้ปากคำ ต่อเจ้าพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น หลังมีการแจ้งความเอาผิด พ.อ.ทหารม้าคนหนึ่งทางภาคเหนือ กับเมียและผู้ร่วมแก๊งอีกหลายคน หลอกร่วมลงทุนทำธุรกิจขายส่งโทรศัพท์มือถือเสียหายหลายล้านบาท เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 25 มี.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) น.ส.สาลินี ทะสา พร้อมด้วยนายชาญชัย ดงไม้สถิต สองสามีภรรยาชาวจังหวัดขอนแก่น เข้าร้องเรียนยื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่ง ชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล ถึงกรณี พ.อ.รายนี้กับพวกได้ร่วมกันหลอกลวง ฉ้อโกงให้ร่วมลงทุนธุรกิจร้านมือถือ มีผู้เสียหายกว่า 20 ราย มีทั้งญาติและประชาชนรายอื่นๆ ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น จ.อุดรธานี และ จ.ระยอง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 72 ล้านบาท
น.ส.สาลินีกล่าวว่า เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.57 นายทหารและเมียได้มาติดต่อพูดโน้มน้าวใจให้ตนร่วมลงทุนเปิดร้านขายโทรศัพท์มือถือที่ จ.ขอนแก่น โดยอ้างว่ามีฐานลูกค้าจำนวนมาก แต่ไม่มีเงินลงทุน จึงเชิญชวนให้เข้ามาร่วมเป็นสมาชิก ระยะแรกมีผลตอบแทนดี จนกระทั่งวันที่ 19 ก.ย.58 ไม่สามารถติดต่อได้เลย จึงรู้ตัวว่าถูกหลอก สูญเงินไปกว่า 1,300,000 บาท
“ที่ผ่านมาเคยร้องเรียนกับหลายหน่วยงาน ตั้งแต่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น ตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น กองทัพบก และหลายหน่วยงาน แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าจึงตัดสินใจเข้ามาร้องเรียนกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ในฐานะที่รับผิดชอบในการปราบปรามผู้มีอิทธิพล เนื่องจากคู่กรณีเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ภาคอีสาน โดยนำหลักฐานการโอนเงิน และหลักฐานอื่นๆ มามอบให้ด้วย” น.ส.สาลินีกล่าว
ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์เผยว่า คดีนี้ได้มอบหมายให้ บก.ป. ลงพื้นที่ไปดำเนินการร่วมกับ บช.ภ.4 หากพบว่ามีการกระทำผิดจริงก็จะใช้มาตรการทางด้านกฎหมายดำเนินการกับผู้กระทำผิด กรณีนี้เข้าข่ายความผิดกฎหมายอาญา อย่างไรก็ตาม ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตำรวจจะดำเนินการอย่างตรงไป ตรงมา ว่าไปตามกฎหมาย โดยจะประสานข้อมูลกับทางกองทัพบก เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นทหารเป็นลักษณะของการประสานข้อมูลระหว่างกัน ทั้งนี้ หากประชาชนถูกผู้มีอิทธิพลในพื้นที่คุกคาม และไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถมาร้องเรียนที่ตนเองได้ทันที ส่วนกรณีผู้เสียหายไปร้องเรียนกับหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะ บก.ภ.จ.ขอนแก่น แต่คดีไม่มีความคืบหน้า ถือว่าตำรวจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่นั้น กรณีแบบนี้ถือว่าเป็นการละเลย ได้สั่งการให้ บช.ภ.4 สอบสวนข้อเท็จจริงและเร่งรัดการสืบสวนสอบสวนกรณีนี้แล้ว
*ที่มา ข่าวช่อง8 และไทยรัฐ