Batman V Superman (2016)
"Ben Affleck=MVP"
ใครที่อยากดูแบทแมนเวอร์ชั่นดาร์คๆเครียดๆหักมุมๆสมจริงๆ แนวคริสโตเฟอร์ โนแลน ขอแนะนำให้ทิ้งความฝันนั้นไปทันทีเลยครับ
-ข้อเสีย-
หนังพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะเอาอย่าง The Dark Knight แต่ปัญหาอยู่ที่วิธีการเล่าเรื่องอันแบนราบไม่มีรอยหยักของ ผกก. Zack Snyder (300,Watchmen,Men of Steel) และบทที่ไม่สมดุลและไม่ค่อยมีเหตุผล ทำใหช่วงเวลา 10-120 นาทีแรกเป็นเหมือนหายนะอย่างแท้จริง
ก่อนที่ผมจะเข้าไปดูในโรงในใจก็คิดว่าคงจะได้เบื่อกับฉากแอ็คชั่นที่ใส่มาทั้งเรื่องเหมือน Men of Steel ตามสไตล์ของคุณแซคเขา และอินไปกับเนื้อเรื่องที่ดาร์คขึ้น แต่ที่ไหนได้กลับต้องมาเจอกับช่วงเวลาชวนเหนื่อยกับการที่ให้ตัวละครแต่ละตัวออกมาพูดคุยกันเรื่อยๆ โดยเฉพาะ Lex Luthor ที่บทพูดไร้สาระชวนรำคาญ จนต้องภาวนาขอให้ตัวหลักทั้งสองตัวต่อยกันซักทีเถอะ ขอร้องละครับ
บทของหนัง เหมือนถูกแยกเป็นหลายๆเรื่อง มีทั้งภาคต่อซูเปอร์แมน หนังใหม่วอนเดอร์ วูแมน หนังแบทแมน ซึ่งก็แนะนำตัวละครไปแต่แทบไม่มีการพัฒนาคาแร็คเตอร์ต่อเลย
-ข้อดี-
แต่เมื่อถึงฉากแอ็คชั่น Bat V Sup ในช่วงองก์สุดท้ายความประทับใจก็พุ่งกระฉูดจากติดลบ ฉากต่อสู้ของเรื่องนั้นทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม มันส์มาก และยังมีฉากแบทแมนโซโล่ที่ออกแบบมาได้อย่างเจ๋งมาก เห็นได้ว่า ผกก.คนนี้ มีฝีมือในฉากแอคชั่นอย่างแท้จริง โโโโโโคตรมันส์.....จนทำให้(เกือบ)ลืมหายนะในสองชั่วโมงแรกได้
ทีมนักแสดงต้องบอกเลยว่าเหมาะสมกับบทบาทอย่างมากโดยเฉพาะ Ben Affleck ที่เล่นเป็น บรูซ เวย์น แนวแก่ๆดาร์คๆ ได้อย่างดีมาก อาจจะเป็น แบทแมนที่เหมาะสมกว่า Christian Bale ด้วยซำ้ไป และทั้ง Gal Gadot, Jesse Eisenberg ก็แสดงได้เหมาะดีแต่บทของเจสซี่ออกน่ารำคาญไปนิด
-สรุป-
ฉากแอ็คชั่นระหว่างแบทแมนและซุปเปอร์แมน กับฉากแบทแมนโซโล่เก็บพวกร้ายคนเดียว เป็นฉากฮีโร่แอคชั่นที่ส่วนตัวคิดว่าดีที่สุด อย่าคาดหวังมากคิดว่าไปดูหนังแอคชั่นดีๆก็พอ (เสียดาย 2 ชั่วโมงแรกมากครับ)
-ปล.ดูจบแล้วจึงอยากดูหนังแยกของแบทแมนมากๆ ทำไมไม่ให้แบทแมนเป็นตัวเอกในการดำเนินเรื่องภาคนี้ไปเลยนะ
เพจเล็กๆของผมครับ :
https://www.facebook.com/FilmsAspects/
BvS : ข้อดี+ข้อเสีย และ Ben Affleck=MVP
Batman V Superman (2016)
"Ben Affleck=MVP"
ใครที่อยากดูแบทแมนเวอร์ชั่นดาร์คๆเครียดๆหักมุมๆสมจริงๆ แนวคริสโตเฟอร์ โนแลน ขอแนะนำให้ทิ้งความฝันนั้นไปทันทีเลยครับ
-ข้อเสีย-
หนังพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะเอาอย่าง The Dark Knight แต่ปัญหาอยู่ที่วิธีการเล่าเรื่องอันแบนราบไม่มีรอยหยักของ ผกก. Zack Snyder (300,Watchmen,Men of Steel) และบทที่ไม่สมดุลและไม่ค่อยมีเหตุผล ทำใหช่วงเวลา 10-120 นาทีแรกเป็นเหมือนหายนะอย่างแท้จริง
ก่อนที่ผมจะเข้าไปดูในโรงในใจก็คิดว่าคงจะได้เบื่อกับฉากแอ็คชั่นที่ใส่มาทั้งเรื่องเหมือน Men of Steel ตามสไตล์ของคุณแซคเขา และอินไปกับเนื้อเรื่องที่ดาร์คขึ้น แต่ที่ไหนได้กลับต้องมาเจอกับช่วงเวลาชวนเหนื่อยกับการที่ให้ตัวละครแต่ละตัวออกมาพูดคุยกันเรื่อยๆ โดยเฉพาะ Lex Luthor ที่บทพูดไร้สาระชวนรำคาญ จนต้องภาวนาขอให้ตัวหลักทั้งสองตัวต่อยกันซักทีเถอะ ขอร้องละครับ
บทของหนัง เหมือนถูกแยกเป็นหลายๆเรื่อง มีทั้งภาคต่อซูเปอร์แมน หนังใหม่วอนเดอร์ วูแมน หนังแบทแมน ซึ่งก็แนะนำตัวละครไปแต่แทบไม่มีการพัฒนาคาแร็คเตอร์ต่อเลย
-ข้อดี-
แต่เมื่อถึงฉากแอ็คชั่น Bat V Sup ในช่วงองก์สุดท้ายความประทับใจก็พุ่งกระฉูดจากติดลบ ฉากต่อสู้ของเรื่องนั้นทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม มันส์มาก และยังมีฉากแบทแมนโซโล่ที่ออกแบบมาได้อย่างเจ๋งมาก เห็นได้ว่า ผกก.คนนี้ มีฝีมือในฉากแอคชั่นอย่างแท้จริง โโโโโโคตรมันส์.....จนทำให้(เกือบ)ลืมหายนะในสองชั่วโมงแรกได้
ทีมนักแสดงต้องบอกเลยว่าเหมาะสมกับบทบาทอย่างมากโดยเฉพาะ Ben Affleck ที่เล่นเป็น บรูซ เวย์น แนวแก่ๆดาร์คๆ ได้อย่างดีมาก อาจจะเป็น แบทแมนที่เหมาะสมกว่า Christian Bale ด้วยซำ้ไป และทั้ง Gal Gadot, Jesse Eisenberg ก็แสดงได้เหมาะดีแต่บทของเจสซี่ออกน่ารำคาญไปนิด
-สรุป-
ฉากแอ็คชั่นระหว่างแบทแมนและซุปเปอร์แมน กับฉากแบทแมนโซโล่เก็บพวกร้ายคนเดียว เป็นฉากฮีโร่แอคชั่นที่ส่วนตัวคิดว่าดีที่สุด อย่าคาดหวังมากคิดว่าไปดูหนังแอคชั่นดีๆก็พอ (เสียดาย 2 ชั่วโมงแรกมากครับ)
-ปล.ดูจบแล้วจึงอยากดูหนังแยกของแบทแมนมากๆ ทำไมไม่ให้แบทแมนเป็นตัวเอกในการดำเนินเรื่องภาคนี้ไปเลยนะ
เพจเล็กๆของผมครับ : https://www.facebook.com/FilmsAspects/