[CR] “ ลางาน หลบความวุ่นวาย ไปสัมผัสธรรมชาติ ณ หมู่เกาะสุรินทร์ ”

สวัสดีครับ นี้เป็นการรีวิวแรกของผม หลังจากสมัคร Pantip น๊า
ทริปนี้ “ ลางาน หลบความวุ่นวาย ไปสัมผัสธรรมชาติ ณ หมู่เกาะสุรินทร์ ”
ก่อนหน้านี้ผมได้ไปเที่ยวที่หมู่เกาะสิมิลัน ซึ่งเป็นการไปเที่ยวทะเลฝั่งอันดามันครั้งแรก ทะเลไทยที่จุดหมายของนักเที่ยวท่องทั่วโลก ผมเป็นคนหนึ่งที่เคยคิดว่า...ทะเลที่เป็นสีฟ้าคราม น้ำใส ต้องไปที่ต่างประเทศเท่านั้น แต่พอได้ไปหมู่เกาะสิมิลัน ภาพแรกที่เห็นเมื่อถึงจุดหมายพร้อมกับการตื่นนอน ( เดินทางด้วยเรือมาไกลจนหลับ ) ทำให้รู้สึกว่า....โหโหโหโห

ภาพทะเลในฝันมันมีอยู่จริง น้ำทะเลสีฟ้าอ่อนตัดกับสีฟ้าเข้มมีเบื้องหลังเป็นภูเขาหินรูปเรือใบ หาดทรายสีขาว ป่าไม้สีเขียว นึกในใจว่า ....นี้ คือ ภาพทะเลในฝัน ทะเลที่เคยนึกออกยามที่ต้องวาดรูป สวยมากๆๆๆ จนหลงรักทะเลอันดามันของไทยตั้งแต่แรกเห็น


ต่อจากเกาะสิมิลัน ก็เป็นทริปเกาะตาชัย สีน้ำทะเลสวยมากๆๆๆ แต่ที่โด่ดเด่น คือ หาดทรายขาวละเอียดยาวมาก ( ประมาณ 700 m )

ทำให้ผมหลงรักทะเลใต้ มากขึ้นไปอีก ยิ่งกว่านั้น ก้าวแรกที่เท้าย่ำลงพื้นทรายละเอียด เหมือนเหยียบแป้ง เม็ดทรายละเอียดมาก นุ่มเหมือนเหยียบปุยนุ่น เมื่อคลื่นซัดเข้าฝั่งจะเห็นเม็ดทรายไหลปะปนกลับคลื่นน้ำทะเล สวยงามมากมาย


ต่อจากทริปเกาะตาชัย ก็เป็นทริปเกาะหลีเป๊ะ วิวที่โดดเด่นสวยงาม คงเป็นหาดซันเซ็ท สวยงามมากด้วยเส้นโค้งของหาดทรายกับน้ำทะเล



และเมื่อได้ดำน้ำ ณ ร่องน้ำจาบัง โอ้ยยยยยยย........สวยมากๆๆๆๆๆๆๆ ปะการังอ่อนหลากสี ที่จุดอื่นอื่นก็น้ำใสปิ้งราวกับกระจกใสพิเศษ ปะการังอยู่ตื้น ใกล้ตัวเรามากๆๆๆๆ

เล่าเรื่องในอดีตมาตั้งมากมาย เพื่อจะบอกที่มาของแรงกระตุ้นในการไปทริปหมู่เกาะสุรินทร์ หลังจากจบทริปเกาะหลีเป๊ะ
พี่ร่วมทริปบอกว่า “ ต้องลองไปหมู่เกาะสุรินทร์ ธรรมชาติใต้น้ำสวยที่สุด ” และด้วยใจที่หลงรักทะเลไทย
จึงศึกษาข้อมูลทั้งจากพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ และก็ Internet (http://www.dnp.go.th/parkreserve/asp/style1/default.asp?npid=202 )
พร้อมกับมีคำล่ำลือถึง อุณหภูมิที่ร้อนมากในตอนกลางคืน และก็ด้วยความอยาก ที่อยากไปสัมผัสด้วยตัวเองจึงตั้งใจหาวิธีที่จะไป ตอนแรก Plan ว่าจะไปช่วงวันหยุดสงกรานต์เนื่องจากเป็นวันหยุดยาว แต่ทุกอย่างก็ต้องหยุดชะงัก เพราะ ช่วงสงกรานต์ที่โรงงานมีการซ่อมเครื่องจักร ซึ่งเราก็ต้องมาทำตามหน้าที่

แล้วจะเอาไงดี ไปเที่ยวก็อยากไป แต่งานก็จำเป็นต้องทำ

ในที่สุดก็อยากทำทั้ง 2 อย่าง ( เที่ยวก็ได้ไป งานก็มาทำ ) จึงต้องลาหยุด 2 วัน เนื่องจากวันที่ตัดสินใจเป็นวันอังคาร ( 8 มีนาคม2559 ) มี Plan ที่จะไปยังหมู่เกาะสุรินทร์ในวันที่ 11-13 มีนาคม ซึ่งเวลาเตรียมตัวกระชั้นชิดมาก และเป้าหมายมีไว้พุ่งชน ( ทริปนี้ไม่ได้คำนึงเรื่องงบน่ะครับ ไป Alone คิดอยู่อย่างเดียว คือ ยังไงก็ต้องไป 555 ) เลยตัดสินใจจองแพ็จเกจของซาบีน่าทัวร์ ( ผิดจากความตั้งใจไปนิด ตอนแรกอยาก backpack คนเดียวชิวๆๆ หลังจากจากแพ็จเกจ 3 วัน 2 คืน ได้แล้ว ก็ถึงเวลาจัดเตรียมของ ( ผ้าเช็ดตัว ต้องพกไปเองน่ะครับ )

และแล้วการเดินทางของทริปนี้ก็เริ่มขึ้นในวันพฤหัส หลังจากเลิกงานก็ต้องรีบนั่งรถตู้ไปปิ่นเกล้า เพื่อไปซื้อกล้องถ่ายรูปใต้น้ำ และแล้วก็ได้ ( Nikon Coolpix AW130 ) มาเป็นกล้องประจำทริปนี้

หลังจากได้กล้องเรียบร้อยก็รีบนั่งรถเมล์ไปขึ้นรถบัสที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ทริปนี้ใช้บริการของลิกไนท์ทัวร์ ( กรุงเทพ – คุระบุรี )
เวลารถออก 19.05 น. ถึงสถานีขนส่งคุระบุรี ตี 5 นิดๆๆ ลงจากรถบัสพร้อมสัมภาระก็มีเจ้าหน้าที่ของซาบีน่าทัวร์ มาเรียกขึ้นรถสองแถว นั่งไปไม่ถึง 10 นาที ก็ถึงออฟฟิตของซาบีน่าทัวร์ อยู่หน้าท่าเรือคุระบุรี สะดวกมากมาย

ระหว่างรอลงเรือ ( ประมาณ 9.00 น. ) เหลือเวลาเกือบ 3 hr ก็รีบเอาโทรศัพท์ , Power bank , กล้องถ่ายรูป มาชาร์จแบต แล้วก็มีเวลาให้อาบน้ำ มีข้าวต้มปลา ( อร่อยมากๆๆๆ ) ตามด้วยกาแฟ ปาท่องโก๋ อิ่มมากๆๆๆๆ แล้วก็ลงเรือมุ่งหน้าไปหมู่เกาะสุรินทร์ ใช้เวลานั่งเรือประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ ( ถึงที่หมายประมาณ 10.30 น. )

เรือ Speed Boat จะจอดส่งนักท่องเที่ยวบริเวณอ่าวช่องขาด แล้วมีเรือหางยาวมารับสัมภาระกับนักท่องเที่ยวไปยังที่พัก

ที่อุทยานหมู่เกาะสุรินทร์มีบริเวณที่พัก 2 จุด คือที่ อ่าวช่องขาด กับหาดไม้งาม ทริปนี้ผมได้พักเต้นท์@หาดไม้งามครับ



ไปถึงอ่าวไม้งามก็มีเจ้าหน้าที่ของซาบีน่าทัวร์รอรับและไปส่งยังเต้นท์ที่พัก แล้วนัดเวลาทานอาหารมื้อแรกบนเกาะ เวลา 11.30 น. โดยมีไกด์คอยเตรียมอาหารให้และ นัดเวลาตอน 12.40 น. เพื่อขึ้นเรือไปดำน้ำรอบแรก 2 จุด ( อ่าวแม่ยาย + อ่าวช่องขาด )




ตื่นมาเช้าวันที่ 2 ก็อาบน้ำ เตรียมตัวกินข้าว แล้วก็ดำน้ำรอบเช้าของวันที่ 2 ตอนแรกไกด์พาไปหินกอง ในใจคิดว่าต้องสวยแน่ๆ เพราะว่าเป็นกองหินที่อยู่กลางทะเล แถมอยู่ไม่ไกลจากจุดดำน้ำลึกกองหินริเชลิว อันโด่งดัง ( อยากไปดำน้ำแบบ Scuba มั้ง ) แต่ก็ไม่ได้ลงไปยลโฉมใต้ทะเล ณ จุดนี้

เนื่องจากวัน/เวลา ที่ไป คลื่นแรงมาก จึงเปลี่ยนเป้าหมายเป็นอ่าวเต่า+อ่าวสับปะรด
จุดนี้สวยมาก น้ำใส+คลื่นไม่แรง แถมได้เจอ ปลาไหลมอเรย์ , ปลาสิงโต สวยงามจริง








จากนั้นก็กลับมากินข้าวที่หาดไม้งาม รอบบ่ายของเช้าวันที่ 2 ไกด์พาไปเกาะสต๊อก ใช้เวลาเดินทางไกลกว่าจุดอื่น พอควร อยู่ติดกับชายแดนพม่าเลย จุดนี้ไกด์บอกว่าพาไปดูปลา ใต้น้ำมีกระแสน้ำอุ่นกับกระแสน้ำเย็น ไหล อยู่ น้ำไม่ค่อยใสเมื่อเทียบกับจุดอื่น แต่มีปลาแบบว่าจัดเต็ม
เจอกับปลาฉลาม เต่า

แล้วปลาอีกหลายชนิดว่ายกันเป็นกลุ่ม บนพื้นทะเลเต็มไปด้วยซากของปะการังเขากวางที่ตายแล้วเป็นบริเวณกว้างมาก

ลองนึกดูว่า ถ้าปะการังเขากวางบริเวณนี้ยังคงความสมบูรณ์ คงเป็นเหมือนป่าใต้น้ำที่สวยงามมาก แต่ก็เห็นปะการังเกิดใหม่เริ่มขึ้น หวังว่าสักวันความสมบูรณ์จะกลับคืนมาอีกครั้ง  แล้วก็ไปยังจุดหมายถัดไป อ่าวทรายเอน น้ำนิ่ง ใส มีปะการังเขากวางเริ่มขึ้น

หลังจากนั้นก็กลับมายังหาดไม้งาม ยังมีเวลาก่อนถึงเวลากินข้าวอีกประมาณ 1-2 hr เลยได้มีโอกาสเดินเลาะตามชายฝั่งที่เป็นป่าโก่งกางบนผืนทรายสลับกับโขดหิน ( เจอปู , ปลาตีน , แมลงปอ , ปู , กุ้งมังกร )



เมื่อน้ำลดเราสามารถดำน้ำบริเวณหน้าหาดไม้งามได้ มีปะการัง , ดอกไม้ทะเล , หญ้าทะเล , ปลาตัวเล็กตัวน้อยต่างๆ )





แต่สิ่งที่ควรระวังคืออย่าไปรบกวนสิ่งอื่นมากเกินไป เวลาเดินต้องดูให้ดีๆก่อนว่าไม่เหยียบบนปะการัง แต่มีนักท่องเที่ยวบางส่วนที่ไม่คำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ ธรรมชาติอาจโดนทำร้ายจนไม่สามารถฟื้นฟูได้อีก


หลังจากนั้นก็กินข้าว ก็เอากล้องไปชาร์ทแบตที่โรงอาหาร ทางอุทยานมีไฟฟ้าให้ชาร์ทอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคเตรียมไว้ให้ครับ ไม่ต้องกังวลเรื่องแบทหมด ( แต่ไฟฟ้าเปิด-ปิด เป็นเวลาครับ ) เมื่อกินข้าวเสร็จก็ลองไปถ่ายดาว แต่เอ๊ะ ทำไมไม่เห็น ( 555 )

และแล้วก็ถึงเวลานอนในคืนที่ 2 แต่ต้องตื่นกลางดึก อากาศร้อนสมคำล่ำลือจริงๆ ต้องไปอาบน้ำใหม่และใช้แป้งเย็นทา แล้วรีบกลับมานอนให้หลับ ก่อนแป้งเย็นจะหมดฤทธิ์
ชื่อสินค้า:   หมู่เกาะสุรินทร์
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่