รีวิวไม่สปอยล์ BATMAN VS SUPERMAN : Dawn of Justice
รุ่งอรุณแห่งยุติธรรม
คะเเนนและเสียงวิจารณ์เป็นเพียงส่วนประกอบเล็กๆ ในการตัดสินใจดูหนัง ไม่ใช่ตัวตัดสินคุณภาพของหนัง คุณเองต่างหากล่ะ
=======
ตอนนี้กระแสที่มาแรงที่สุดใน24ชมที่ผ่านมา ตั้งแต่การฉายรอบปฐมทัศน์สื่อมวลชนจบลง แอดมินจากเพจใหญ่น้อยและนักวิจารณ์ต่างมีความคิดเห็นต่อหนังเรื่องนี้ที่ขัดแย้งกัน แทบจะจุดประเด็นทำลายความคาดหวังของคนดูได้เลย
=======
สำหรับผมเอง ถือว่าได้รับเกียรติมากที่ ในเวลาไม่ถึง24ชม ได้ดูจบ2รอบแล้ว คือรอบปฐมทัศน์เมื่อคืน และรอบIMAX3D รอบแรกสุดของวันนี้ คือเมื่อคืนอยากจะบอกว่าเหมือนเกิดศึกย่อมๆ ระหว่างความเห็นของคนที่ได้ดู ที่เรียกได้ว่าเสียงแตกกันไปคนละทิศทาง บวกกับคะแนนที่ชวนให้ตะลึงของมะเขือเน่าที่ทำให้ คนที่เฝ้าติดตามทุกคนสับสนอลหม่าน คนที่ว่าดีก็ดีมาก คนที่ว่าเฮียก็เฮียเลย เมื่อคืนที่ดูก็ไม่ได้ว่าประทับใจเท่าไรหรอก มีอะไรที่ทำให้ไม่ชอบหนังเรื่องนี้อยู่มากพอตัว เลยไม่อยากลงความเห็นอะไรขอนอน ตกผลึกสักคืนและวันนี้ก็ได้ดูอีกรอบทำให้ได้เก็บรายละเอียดของหนังได้มากขึ้น เรียงร้อยถ้อยคำให้คนอ่านได้เข้าใจมากขึ้น ถือว่าการรีวิวหนังเรื่องนี้ยากพอสมควร พิมพ์แล้วลบ พิมพ์แล้วลบ
======
สิ่งแรกที่เมื่อคืนเอาตีนก่ายหน้าผากคิดๆๆๆ แล้วผมได้ตกผลึกก็คือ Zack Snyder เขาคือผู้กำกับที่มีเซนส์เรื่องภาพและคิวดีที่สุดคนนึงของโลกปัจจุบัน แต่ "เขาไม่ใช่นักเล่าเรื่องที่ดี" อันนี้ประมวลจากทุกผลงานที่ผมดูมา เรื่องที่เขาทำได้ดีที่สุด คือ ดาวน์ ออฟ เดอะ เดด,300,และ วอชเมน หนังที่ถือว่าขึ้นหิ้ง ทำไมมันถึงออกมาดี เพราะทุกเรื่อง มันมาจากบทประพันธ์ ระดับ เบสท์โนเวล ที่ดีมากๆอยู่แล้ว ยกตัวอย่าง วอชเมน มาจากโนเวลคอมมิคขึ้นหิ้งของ อลัน มัวร์ ที่แทบเป็นสตอร์รี่บอร์ดได้เลย, 300มาจากคอมมิคของแฟรงค์ มิลเลอร์ , หรือ ดาวน์ ออฟ เดอะ เดด ที่เขียนบทโดยลูกบ้า อย่างเจมส์ กันน์ ทั้งหมดนี้คือมันดีมากๆ ดี
ๆ อยู่แล้ว
เฮีย แซ็ค แกเพียงแค่ เอาหยิบมาใส่เป็นหนัง โดยใช้มนุษย์แสดงแทนปากกา
แต่พอมาเป็นหนังที่แกอยากเล่าเรื่องเอง กลับแป๊ก ตัวอย่างจะๆ คือ Sucker Punch จนมันส่งต่อมายัง Man of STEEL ที่ไม่มีอะไรสุดสักอย่างเลย
พอมาBvsนี้ มีชื่อนึงที่มาการันตี ในบทได้พอสมควร คือ โนแลน ซึ่งทำให้ค่อนข้างวางใจ จนมาได้ดูจริงๆ แล้วรู้ว่า โนแลนไม่ปรู้ฟไรบ้างเลยเหรอ ปล่อยผ่านมาได้ไง
ให้เปรียบแซ็ค ก็คงเหมือนกับคนเขียนการ์ตูนภาพเก่งๆ วาดสวยๆสีสวยๆ แต่แต่งเรื่องเองไม่เป็น
========
เอาล่ะ ผมลืมบอกไปว่า แบทแมน รีเทิร์น เวอร์ชั่น ทิม เบอร์ตันคือหนังเรื่องแรกในชีวิตที่ผมดูในโรง(โรงแสตนด์อโลน) ที่ทำให้ผมรักฮีโร่ตัวนี้มาตั้งแต่เด็ก แต่ไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ที่ตามเก็บทุกรายละเอียดอันนี้ไม่ใช่ ทำให้การดู BVSครั้งนี้ ด้วยสิ่งที่คิดวิเคราะห์พยายามหาเหตุผล จากการดู2รอบ ผมจึงสามารถรีวิวในฐานะเป็นกลางได้มากที่สุด
========
เปิดเรื่องมาก็คือว่า (อีห่านเพิ่งเปิดเรื่อง) หนังจะต่อกับเรื่องMOS ก่อนหน้า ซึ่งผมไม่ชอบในส่วนนี้เป็นการส่วนตัว หนังพยายามหาเหตุผลที่ทำให้แบทแมน มาปะทะกับซุปเปอร์แมน แต่มันยังไม่สุดในหลายๆด้าน เช่น ปมปัญหา ไดอาล๊อกและโทนเรื่องของหนังค่อนข้างสะเปะสะปะในกลางเรื่อง องค์รวมไม่สมบูรณ์ หาจุดยูนี้คยังไม่ได้ ก็อย่างที่บอกละครับ แซ๊ค แกไม่เหมาะเล่าเรื่องเสกลขนาดนี้
ผมได้กลิ่นไอบางอย่างที่ แซ๊ค พยายามลอกตามสูตรสำเร็จของหนัง หลายๆเรื่องของแกเอง
1 ซุปเปอร์แมน โคตร มีกลิ่น ของด็อกเตอร์แมนฮัตตัน ในวอชเมน คือคอนเสปที่ชัดเจนที่สุด คือ อยากให้ซุปเป็นพระเจ้าในหมู่มนุษย์ ซึ่งไม่ผิดแต่มันน่าจะสุดให้มากกว่านี้
2 ขายภาพNIMIT แบบซัคเกอร์พันช์ อ่านมาถึงตรงนี้อาจสปอยล์เล็กน้อยนะครับ ภาพที่น่าสนใจในตัวอย่างที่เราดูแล้วเหมือนผิดที่ผิดทาง บางจุดคือภาพนิมิต หรือมโน แบบซัคเกอร์พันช์ ที่ ผมไม่รู้ว่าแซ็คแกชอบพลอตตรงนี้อะไรนักหนา เอามาขายอยู่เรื่อย ซึ่งมันบางแบบไม่ส่งไปถึงเหตุการณ์ไหนเลย
3 การเมืองและฮีโร่ อันนี้ต้องชม ภาพบางจังหวะทำได้ดี แบบวอชเมน มีการประท้วง การไต่สวน หมู่มวลชน
=========
หนังพยายามเล่าเหตุผลให้แบทปะทะกับซุป ปูมาอย่างดีโดย จับปมการทำลายล้างของซุป ที่ส่งผลกับชีวิตและทรัพย์สิน คือ
ปูมาดีมากแล้ว แต่เหตุผลที่ทำให้มันมาตีกันกลับเป็นอีกเรื่องไปเลยซึ่งค่อนข้างปัญญาอ่อน
และสิ่งที่ไม่ชอบที่สุดเลยคือ เล็กซ์ ลูเธอร์ มหาเศรษฐีอัจฉริยะ ที่เปนคู่ปรับกับซุป เหมือนโจ๊กเกอร์กับแบทแมน แต่ลองนึกดูว่า แซ็คพยายามจะสร้างโจ็กเกอร์ อีกตัวนึง โดยใช้ชื่อ ลูเธอร์ มันไม่เมคเซนต์เลย ตอนแรกผมก็วาดภาพลูเทอร์ ที่แบบร้ายลึก ร้ายอัจฉริยะ ร้ายแบบเท่าทันเกมส์ แต่ผลที่ได้ คือ เจซซี่ ไอเซเบิร์ก เล่นใหญ่ไป ดูพิลึก กะหล้าหะหลั่น แม่มมดุ๊กๆดิ๊กๆ เหมือนคนเป็นสันนิบาต มันไม่สมเหตุสมผลในตัวมันเอง ไปดูกันเองนะครับ
===========
มาถึงสิ่งที่ดีงามกันบ้าง คือ แบทแมน อยากบอกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับ แบทแมนคือ ดีงาม ผมขอเป็นอีกเสียงที่ยืนยันว่า เวอร์ชั่น เบน เอฟเฟร็ค เป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด มันคือภาพของฮีโร่ วัยเกษียณ อายุ55ปี ที่มีสัญชาตญาณแห่งวัยทอง อันดิบเถื่อน และทรงอำนาจ
ชม แซ๊ค ที่ให้ความสำคัญและรายละเอียดกับแบทแมนมาก ชุด2-3ชุด แบทโมบิล แบทวิง ถ้ำค้างคาว คฤหาสน์เวยน์พังๆ คือเลอค่า แต่อยากเห็นอะไรมากกว่านี้ครับ อยากโดนเอ็นเตอร์เทนโดยแบทแมนอีก โดยเฉพาะความโหดนี่ให้ 10เลย นึกว่าพันนิชเชอร์มา
===========
อีกสิ่งที่ไม่พูดไม่ได้เลยคือ วอนเดอร์วูแมน เอาเป็นว่าอยู่ในจุดดี เกล กาดอท เหมาะสมกับบทนี้ แคสได้ดี รอดูหนังเต็มของเธอกันครับ
และในส่วนที่ค่อนข้างเป็นการตลาด คือการพรีเซน ตัวละครตัวอื่นแบบแว้บๆผิวๆ เพื่อเร่งโปรเจค จัสติส ลีค เพื่อไปปะทะตลาดกับ อเวนเจอร์ของมาเวล หลายคนบ่นว่ายัดเยียด ชุ่ย ตีกิน แต่ผมเฉยๆนะ อายุปูนนี้แล้ว รีบๆทำ รีบๆฉายก็ดี ไม่อยากรอให้ปู เป็นสิบปี ยี่สิบปีแล้ว
และประเด็นที่สำคัญ ที่ผมคิดว่าติ่งไม่ชอบ ก็เพราะคำว่า มันไม่ได้ดังใจ มันไม่ใช่เค้าโคลง ดาร์คไนท์รีเทิร์น ที่เฝ้ารอคอย โหยหา
ในฐานะที่เป็นกลางผมเข้าใจผู้สร้างนะครับ ว่า ซีรีย์ นี้เพิ่งเริ่มต้น แต่โจทย์มันเยอะซาสส เยอะมากจนเห็นใจ ป๋าเเซ็คเลย คือต้องสร้างให้เด็กดูได้ ให้คนธรรมดาเข้าใจ เอาใจติ่งระดับนึง และที่สำคัญเอาใจนายทุน ปูทาง เส้นทางของจักรวาลดีซี ต้องยัดทุกอย่างใน3ชม แบบกระเบียดกนะเสียด
แต่ในยุคที่CGIสามารถทำอะไรก็ได้หมด หนังแบบนี้มัน ก็ต้องสู้กันด้วยเนื้อเรื่องป่าววะ เรื่องบทพลิกแพลง ซึ่งมารเวลมันก็จับทางของมันลงตัวแล้ว ดีซีก็ประกาศก้องว่าจะซีเรียส ก็พลิกแพลง แทยงยิง หน่อยดิวะ วัตถุดิบเจ๋งๆก็เยอะ โนแลน อะหัดโทรไปถามดิ
===========
สุดท้าย ฉากบู้ องค์3 ที่ถลุงเงินหลายร้อยล้านเหรียญ ที่โคตรประทับใจ โคตรสุด วินาศสันตะโร อิบอ๋ายวายป่วง มีเพียงแซ็คคนเดียวนี้แหละที่ทำได้ ก็ทำให้ลืมอะไรที่ไม่ประทับใจไปเลย
===========
สรุป หนังมันส์สสสสทุกอย่างดี แค่บทเหลวเป๋ว
ด้วยทุกสิ่งที่กล่าวมา ผมขอให้ให้ 7.5/10 ตามเนื้อผ้า สำหรับฉากแบทแมนและฉากบู้องค์3ที่มาช่วยชีวิตได้ทัน
แนะนำให้ไปดูIMAXครับ หนังดูมีอะไรขึ้น15%
ขอยืนยันคำเดิมครับ
"คะเเนนและเสียงวิจารณ์เป็นเพียงส่วนประกอบเล็กๆ ในการตัดสินใจดูหนัง ไม่ใช่ตัวตัดสินคุณภาพของหนัง คุณเองต่างหากล่ะ"
เข้าติดตามเพจ ทาสหนังของผมได้นะครับ
https://www.facebook.com/aloneintheatre/
[SR] รีวิวไม่สปอยล์ BATMAN VS SUPERMAN : Dawn of Justice
รีวิวไม่สปอยล์ BATMAN VS SUPERMAN : Dawn of Justice
รุ่งอรุณแห่งยุติธรรม
คะเเนนและเสียงวิจารณ์เป็นเพียงส่วนประกอบเล็กๆ ในการตัดสินใจดูหนัง ไม่ใช่ตัวตัดสินคุณภาพของหนัง คุณเองต่างหากล่ะ
=======
ตอนนี้กระแสที่มาแรงที่สุดใน24ชมที่ผ่านมา ตั้งแต่การฉายรอบปฐมทัศน์สื่อมวลชนจบลง แอดมินจากเพจใหญ่น้อยและนักวิจารณ์ต่างมีความคิดเห็นต่อหนังเรื่องนี้ที่ขัดแย้งกัน แทบจะจุดประเด็นทำลายความคาดหวังของคนดูได้เลย
=======
สำหรับผมเอง ถือว่าได้รับเกียรติมากที่ ในเวลาไม่ถึง24ชม ได้ดูจบ2รอบแล้ว คือรอบปฐมทัศน์เมื่อคืน และรอบIMAX3D รอบแรกสุดของวันนี้ คือเมื่อคืนอยากจะบอกว่าเหมือนเกิดศึกย่อมๆ ระหว่างความเห็นของคนที่ได้ดู ที่เรียกได้ว่าเสียงแตกกันไปคนละทิศทาง บวกกับคะแนนที่ชวนให้ตะลึงของมะเขือเน่าที่ทำให้ คนที่เฝ้าติดตามทุกคนสับสนอลหม่าน คนที่ว่าดีก็ดีมาก คนที่ว่าเฮียก็เฮียเลย เมื่อคืนที่ดูก็ไม่ได้ว่าประทับใจเท่าไรหรอก มีอะไรที่ทำให้ไม่ชอบหนังเรื่องนี้อยู่มากพอตัว เลยไม่อยากลงความเห็นอะไรขอนอน ตกผลึกสักคืนและวันนี้ก็ได้ดูอีกรอบทำให้ได้เก็บรายละเอียดของหนังได้มากขึ้น เรียงร้อยถ้อยคำให้คนอ่านได้เข้าใจมากขึ้น ถือว่าการรีวิวหนังเรื่องนี้ยากพอสมควร พิมพ์แล้วลบ พิมพ์แล้วลบ
======
สิ่งแรกที่เมื่อคืนเอาตีนก่ายหน้าผากคิดๆๆๆ แล้วผมได้ตกผลึกก็คือ Zack Snyder เขาคือผู้กำกับที่มีเซนส์เรื่องภาพและคิวดีที่สุดคนนึงของโลกปัจจุบัน แต่ "เขาไม่ใช่นักเล่าเรื่องที่ดี" อันนี้ประมวลจากทุกผลงานที่ผมดูมา เรื่องที่เขาทำได้ดีที่สุด คือ ดาวน์ ออฟ เดอะ เดด,300,และ วอชเมน หนังที่ถือว่าขึ้นหิ้ง ทำไมมันถึงออกมาดี เพราะทุกเรื่อง มันมาจากบทประพันธ์ ระดับ เบสท์โนเวล ที่ดีมากๆอยู่แล้ว ยกตัวอย่าง วอชเมน มาจากโนเวลคอมมิคขึ้นหิ้งของ อลัน มัวร์ ที่แทบเป็นสตอร์รี่บอร์ดได้เลย, 300มาจากคอมมิคของแฟรงค์ มิลเลอร์ , หรือ ดาวน์ ออฟ เดอะ เดด ที่เขียนบทโดยลูกบ้า อย่างเจมส์ กันน์ ทั้งหมดนี้คือมันดีมากๆ ดี ๆ อยู่แล้ว
เฮีย แซ็ค แกเพียงแค่ เอาหยิบมาใส่เป็นหนัง โดยใช้มนุษย์แสดงแทนปากกา
แต่พอมาเป็นหนังที่แกอยากเล่าเรื่องเอง กลับแป๊ก ตัวอย่างจะๆ คือ Sucker Punch จนมันส่งต่อมายัง Man of STEEL ที่ไม่มีอะไรสุดสักอย่างเลย
พอมาBvsนี้ มีชื่อนึงที่มาการันตี ในบทได้พอสมควร คือ โนแลน ซึ่งทำให้ค่อนข้างวางใจ จนมาได้ดูจริงๆ แล้วรู้ว่า โนแลนไม่ปรู้ฟไรบ้างเลยเหรอ ปล่อยผ่านมาได้ไง
ให้เปรียบแซ็ค ก็คงเหมือนกับคนเขียนการ์ตูนภาพเก่งๆ วาดสวยๆสีสวยๆ แต่แต่งเรื่องเองไม่เป็น
========
เอาล่ะ ผมลืมบอกไปว่า แบทแมน รีเทิร์น เวอร์ชั่น ทิม เบอร์ตันคือหนังเรื่องแรกในชีวิตที่ผมดูในโรง(โรงแสตนด์อโลน) ที่ทำให้ผมรักฮีโร่ตัวนี้มาตั้งแต่เด็ก แต่ไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ที่ตามเก็บทุกรายละเอียดอันนี้ไม่ใช่ ทำให้การดู BVSครั้งนี้ ด้วยสิ่งที่คิดวิเคราะห์พยายามหาเหตุผล จากการดู2รอบ ผมจึงสามารถรีวิวในฐานะเป็นกลางได้มากที่สุด
========
เปิดเรื่องมาก็คือว่า (อีห่านเพิ่งเปิดเรื่อง) หนังจะต่อกับเรื่องMOS ก่อนหน้า ซึ่งผมไม่ชอบในส่วนนี้เป็นการส่วนตัว หนังพยายามหาเหตุผลที่ทำให้แบทแมน มาปะทะกับซุปเปอร์แมน แต่มันยังไม่สุดในหลายๆด้าน เช่น ปมปัญหา ไดอาล๊อกและโทนเรื่องของหนังค่อนข้างสะเปะสะปะในกลางเรื่อง องค์รวมไม่สมบูรณ์ หาจุดยูนี้คยังไม่ได้ ก็อย่างที่บอกละครับ แซ๊ค แกไม่เหมาะเล่าเรื่องเสกลขนาดนี้
ผมได้กลิ่นไอบางอย่างที่ แซ๊ค พยายามลอกตามสูตรสำเร็จของหนัง หลายๆเรื่องของแกเอง
1 ซุปเปอร์แมน โคตร มีกลิ่น ของด็อกเตอร์แมนฮัตตัน ในวอชเมน คือคอนเสปที่ชัดเจนที่สุด คือ อยากให้ซุปเป็นพระเจ้าในหมู่มนุษย์ ซึ่งไม่ผิดแต่มันน่าจะสุดให้มากกว่านี้
2 ขายภาพNIMIT แบบซัคเกอร์พันช์ อ่านมาถึงตรงนี้อาจสปอยล์เล็กน้อยนะครับ ภาพที่น่าสนใจในตัวอย่างที่เราดูแล้วเหมือนผิดที่ผิดทาง บางจุดคือภาพนิมิต หรือมโน แบบซัคเกอร์พันช์ ที่ ผมไม่รู้ว่าแซ็คแกชอบพลอตตรงนี้อะไรนักหนา เอามาขายอยู่เรื่อย ซึ่งมันบางแบบไม่ส่งไปถึงเหตุการณ์ไหนเลย
3 การเมืองและฮีโร่ อันนี้ต้องชม ภาพบางจังหวะทำได้ดี แบบวอชเมน มีการประท้วง การไต่สวน หมู่มวลชน
=========
หนังพยายามเล่าเหตุผลให้แบทปะทะกับซุป ปูมาอย่างดีโดย จับปมการทำลายล้างของซุป ที่ส่งผลกับชีวิตและทรัพย์สิน คือปูมาดีมากแล้ว แต่เหตุผลที่ทำให้มันมาตีกันกลับเป็นอีกเรื่องไปเลยซึ่งค่อนข้างปัญญาอ่อน
และสิ่งที่ไม่ชอบที่สุดเลยคือ เล็กซ์ ลูเธอร์ มหาเศรษฐีอัจฉริยะ ที่เปนคู่ปรับกับซุป เหมือนโจ๊กเกอร์กับแบทแมน แต่ลองนึกดูว่า แซ็คพยายามจะสร้างโจ็กเกอร์ อีกตัวนึง โดยใช้ชื่อ ลูเธอร์ มันไม่เมคเซนต์เลย ตอนแรกผมก็วาดภาพลูเทอร์ ที่แบบร้ายลึก ร้ายอัจฉริยะ ร้ายแบบเท่าทันเกมส์ แต่ผลที่ได้ คือ เจซซี่ ไอเซเบิร์ก เล่นใหญ่ไป ดูพิลึก กะหล้าหะหลั่น แม่มมดุ๊กๆดิ๊กๆ เหมือนคนเป็นสันนิบาต มันไม่สมเหตุสมผลในตัวมันเอง ไปดูกันเองนะครับ
===========
มาถึงสิ่งที่ดีงามกันบ้าง คือ แบทแมน อยากบอกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับ แบทแมนคือ ดีงาม ผมขอเป็นอีกเสียงที่ยืนยันว่า เวอร์ชั่น เบน เอฟเฟร็ค เป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด มันคือภาพของฮีโร่ วัยเกษียณ อายุ55ปี ที่มีสัญชาตญาณแห่งวัยทอง อันดิบเถื่อน และทรงอำนาจ
ชม แซ๊ค ที่ให้ความสำคัญและรายละเอียดกับแบทแมนมาก ชุด2-3ชุด แบทโมบิล แบทวิง ถ้ำค้างคาว คฤหาสน์เวยน์พังๆ คือเลอค่า แต่อยากเห็นอะไรมากกว่านี้ครับ อยากโดนเอ็นเตอร์เทนโดยแบทแมนอีก โดยเฉพาะความโหดนี่ให้ 10เลย นึกว่าพันนิชเชอร์มา
===========
อีกสิ่งที่ไม่พูดไม่ได้เลยคือ วอนเดอร์วูแมน เอาเป็นว่าอยู่ในจุดดี เกล กาดอท เหมาะสมกับบทนี้ แคสได้ดี รอดูหนังเต็มของเธอกันครับ
และในส่วนที่ค่อนข้างเป็นการตลาด คือการพรีเซน ตัวละครตัวอื่นแบบแว้บๆผิวๆ เพื่อเร่งโปรเจค จัสติส ลีค เพื่อไปปะทะตลาดกับ อเวนเจอร์ของมาเวล หลายคนบ่นว่ายัดเยียด ชุ่ย ตีกิน แต่ผมเฉยๆนะ อายุปูนนี้แล้ว รีบๆทำ รีบๆฉายก็ดี ไม่อยากรอให้ปู เป็นสิบปี ยี่สิบปีแล้ว
และประเด็นที่สำคัญ ที่ผมคิดว่าติ่งไม่ชอบ ก็เพราะคำว่า มันไม่ได้ดังใจ มันไม่ใช่เค้าโคลง ดาร์คไนท์รีเทิร์น ที่เฝ้ารอคอย โหยหา
ในฐานะที่เป็นกลางผมเข้าใจผู้สร้างนะครับ ว่า ซีรีย์ นี้เพิ่งเริ่มต้น แต่โจทย์มันเยอะซาสส เยอะมากจนเห็นใจ ป๋าเเซ็คเลย คือต้องสร้างให้เด็กดูได้ ให้คนธรรมดาเข้าใจ เอาใจติ่งระดับนึง และที่สำคัญเอาใจนายทุน ปูทาง เส้นทางของจักรวาลดีซี ต้องยัดทุกอย่างใน3ชม แบบกระเบียดกนะเสียด
แต่ในยุคที่CGIสามารถทำอะไรก็ได้หมด หนังแบบนี้มัน ก็ต้องสู้กันด้วยเนื้อเรื่องป่าววะ เรื่องบทพลิกแพลง ซึ่งมารเวลมันก็จับทางของมันลงตัวแล้ว ดีซีก็ประกาศก้องว่าจะซีเรียส ก็พลิกแพลง แทยงยิง หน่อยดิวะ วัตถุดิบเจ๋งๆก็เยอะ โนแลน อะหัดโทรไปถามดิ
===========
สุดท้าย ฉากบู้ องค์3 ที่ถลุงเงินหลายร้อยล้านเหรียญ ที่โคตรประทับใจ โคตรสุด วินาศสันตะโร อิบอ๋ายวายป่วง มีเพียงแซ็คคนเดียวนี้แหละที่ทำได้ ก็ทำให้ลืมอะไรที่ไม่ประทับใจไปเลย
===========
สรุป หนังมันส์สสสสทุกอย่างดี แค่บทเหลวเป๋ว
ด้วยทุกสิ่งที่กล่าวมา ผมขอให้ให้ 7.5/10 ตามเนื้อผ้า สำหรับฉากแบทแมนและฉากบู้องค์3ที่มาช่วยชีวิตได้ทัน
แนะนำให้ไปดูIMAXครับ หนังดูมีอะไรขึ้น15%
ขอยืนยันคำเดิมครับ
"คะเเนนและเสียงวิจารณ์เป็นเพียงส่วนประกอบเล็กๆ ในการตัดสินใจดูหนัง ไม่ใช่ตัวตัดสินคุณภาพของหนัง คุณเองต่างหากล่ะ"
เข้าติดตามเพจ ทาสหนังของผมได้นะครับ
https://www.facebook.com/aloneintheatre/