แสง สี เสียง The Symphony of Lights

แสง สี เสียง The Symphony of Lights  
เล่ากันว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในโลก

        วันที่ 6 มีนาคม 2559 วันนี้คณะเรายังติดอยู่ที่เกาะเกาลูน ในย่าน มงก๊ก แผนการเดินทางสำหรับวันนี้คือการข้ามไปเกาะฮ่องกง เพื่อไปชม The Peak ,Repulse Bay,และ The Symphony of Lights  

คณะเราไปลงใต้ดินที่ A2 ใกล้ๆที่พัก เพื่อนั่งรถไฟฟ้าสายสีแดง

จุดหมายปลายทางลงที่สถานี Tsim Sha Tui  ใช้เวลาไม่นานผ่านสองสามสถานีเราเดินออกทางทางออก E ตามแผนผัง

ออกจากรถไฟฟ้าใต้ดิน เดินขึ้นทางออก ผ่านเส้นทางพิพิธภัณฑ์ฮ่องกง


คณะเดินตามทางไปเรื่อยๆตามป้ายบอกทางเพื่อไปลงเรือสตาร์เฟอรี่

ข้ามฟากไปเกาะฮ่องกง

จุดประสงค์ปลายทางคือแอ่วดอยที่สูงที่สุดบนเกาะ ถ่ายภาพตึกสูง นั่งรถรางลงเขา ตอนขากลับนั่งรถเมล์ไปนมัสการขอพรจากเจ้าแม่กวนอิมและเทพเจ้าแห่งโชคลาภที่อ่าว Repulse Bay (รายการนี้ภาพเยอะมากจะนำเสนอเป้นเรื่องๆไป)

จาก Repulse Bay  คณะเราขึ้นรถเมล์สาย 5  มาลงสุดสายบริเวณใต้ตึก พากันเดินลัดเลาะใต้ทางยกระดับของเกาะฮ่องกง ที่เต็มไปด้วยผู้คนอพยพ เดินมาถึงท่าเรือสตาร์เฟอรี่

ที่เซนทรัล เพียร์ Central Pear เรือกำลังจะออกพอดี


เรือเป็นเรือสองชั้น ชั้นบน ชั้นล่างราคาต่างกัน แต่เราก็เดินตามๆกันมานั่งสบายๆข้ามฝั่งแบบไม่รีบร้อนอะไร

นั่งเรือประมาณ 10 กว่านาที ก็ข้ามมาท่าเรือที่เกาลูน


ตะวันใกล้จะลับเขาชิงพลบพอดี จุดหมายก็คือไปนั่งดูแสงสีเสียงบริเวณหน้าหอนาฬิกาบนฝั่งเกาลูน


     อนุสรณ์สถานหอนาฬิกา สร้างจากอิฐสีแดงและหินแกรนิต สูงประมาณ 44 เมตร

สร้างขึ้นในปี 1915 มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่าเป็นส่วนหนึ่งของสถานีรถไฟเกาลูน แคนตัน ที่ได้เลิกให้บริการไปนมนานแล้ว

และยังคงเป็นสถานที่ให้ระลึกถึงยุครุ่งเรืองของรถจักรไอน้ำ ได้รับอิทธิพลจากอังกฤษเต็มๆ ถือเป็นสัญลักษณ์ของผู้อพยพชาวจีนนับล้านคนที่ต้องผ่านสถานีนี้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฮ่องกงตลอดจนพากันหนีไปที่ต่างๆในโลก เออถึงว่าตอนที่เราเดินผ่าน ใต้สะพานลอยจะเห็นผู้คนอพยพมาจากไหนไม่รู้ ทั้งชายหญิง ลูกเด็กเล็กแดงมานั่งๆนอนๆ นั่งกินข้าว ล้อมวงเล่นไพ่ ดีดกีต้า ร้องเพลง สารพัด พร้อมสัมภาระเป็นถุง เป็นกล่อง เป็นห่อ เต็มไปหมด

     สำหรับเรื่องประวัติของหอนาฬิกา ขออนุญาตนำเอาข้อมูลที่มีผู้โพสเล่าไว้ในหลายๆแห่งนำมาเล่าต่อ บอกกันถึงพัฒนาการในแต่ละปีว่า
1910 ทางรถไฟสายเกาลูน แคนตันเปิดให้บริการ
1913 วางฐานรากของสถานีในจิมซาโจ่ย
1915 สถานีและหอนาฬิกาก่อสร้างเกือบเสร็จสมบูรณ์ แต่การจัดส่งเครื่องตกแต่งและเครื่องใช้ไม้สอยจากอังกฤษเกิดความล่าช้าเนื่องจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
1916 สถานีรถรางสร้างเสร็จสมบูรณ์และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม นาฬึกาก็ไม่ได้รับการติดตั้งในหอคอย เนื่องจากปัญหาด้านค่าใช้จ่าย รูปถ่ายต่างๆ ในยุคนี้แสดงให้เห็นหอคอยที่ไม่มีหน้าปัดนาฬิกา
1919 ในที่สุดก็สามารถรวบรวมเงินทุนในการสร้างหอนาฬิกาได้สำเร็จ ระฆังและนาฬิกาไฟฟ้าส่งมาถึงฮ่องกง แต่การติดตั้งต้องเลื่อนออกไปจนกว่าจะได้รับแบบร่างและคำแนะนำการติดตั้งจากผู้ผลิต
1921 หลังจากความล่าช้าเป็นเวลาหลายปี ในที่สุดนาฬิกาก็เริ่มเดิน
1970 สถานีรถรางแห่งใหม่เปิดให้บริการในฮุงฮอม และสถานีเก่าถูกรื้อทิ้งไปเหลือเพียงหอนาฬิกา
1990 หอนาฬิกาถูกขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถาน


วกกลับมาคุยเรื่อง
The Symphony of Lights  ที่เราจะนั่งดูกันบริเวณริมน้ำ หน้าหอนาฬิกา ในวันนี้


เป็นการแสดงแสง สี เสียง กลางแจ้งที่ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในโลก และถูกบันทึกโดย Guinness World Records เอาไว้แล้ว

สำหรับสถานที่ชม Symphony of Lights มีให้เลือกสองสามแห่ง คือ บริเวณ Avenue of Stars  หน้า Clock Tower / Hong Kong Museum of Arts  ตรงนี้จะมี 2 ชั้น

หรือจะจองตั๋วล่องเรือสำราญเพื่อรับประทานอาหารและนั่งชมโชว์กลางลำน้ำก็ได้




หากอยากจะได้มุมดีๆก็ต้องเดินทางไปก่อนเวลาเพื่อเลือกหาทำเลที่ว่าเองนะจะบอกให้

การแสดงจะเริ่มในเวลา 20.00 น.ตรง ใช้เวลา แสดงเพียง 15 นาที ถ้าเป็นเทศกาลก็จะมีการจุดพลุด้วย

คณะของเรามาถึงที่นี่ในเวลาประมาณ 17.20 น.โอ้โห..ต้องรอเกือบสามชั่วโมง แต่ก็มีผู้คนพากันมาจองที่ไว้กันแล้วนะ

เด็กๆเริ่มชักจะอ่อนแรงเดินไม่ไหวต้องรับภาระอุ้มกันเดินๆดูตามริมน้ำไปก่อน



นี่ไงโคมไฟเลเซอร์ที่เขาใช้ยิงส่องออกไปตามตึก เล่ากันว่าสั่งทำมาจากประเทศออสเตรเลีย

เวลาแสดงก็ใช้ช่างชาวออสซี่เพียงคนสองคนกดปุ่มเปิดไฟสว่างไสววับๆแว๊ปๆออกตามตึกต่างๆโดยอัตโนมัติ

ตามคอมพิวเตอร์ที่เขียนโปรแกรมไว้ เก่งจุงเบย

ด้านล่างมีลานเวทีการแสดงด้วยไม่ได้ลงไปดู

เด็กไม่ไหวแล้วก็ได้แต่จับจองที่นั่งชมวิวทิวทัศน์ตึกฮ่องกงฝั่งตรงข้าม ตอนตะวันลับเขา บรรยากาศเทาๆ จนถึงช่วงแสงสีเสียง


ระหว่างนั่งรอเวลา 20.00 น.ผู้คนก็เริ่มมากันมากขึ้นๆ เออมีช่างภาพมาถ่ายทำสารคดีกันด้วย


เอา แชะ โช๊ะ แชะ ถ่ายจนเมื่อย เรือมาก็ถ่าย เรือออกไปก็ถ่าย กล้องเก่าเก็บก็เริ่มรวนอีกแระภาพออกมาน้อยจุดด่างเต็มไปหมดเบย
ชมภาพบรรยากาศทั่วๆไปก่อนนะ



ก่อนเวลา 5 นาที เสียงประกาศเริ่มดังขึ้น ทำเอาผู้คนเริ่มคึกคัก ที่ลุกไปก็กลับมาเข้าที่


โชคดีวันนี้มีพากภาษาอังกฤษแถมมาด้วย

การแสดงจะประกอบด้วย 5 Themes

เริ่มด้วย Awakening, Energy, Heritage, Partnership และ The Final
และในแต่ละวันคำบรรยายจะต่างกันถึง 3 ภาษา ตามวันดังนี้
วันจันทร์, วันพุธ และวันศุกร์  : ภาษาอังกฤษ
วันอังคาร, วันพฤหัส และวันเสาร์ :  ภาษาโปรตุเกส
ส่วนวันอาทิตย์ : ภาษาจีน ล้วนๆ

20.00 น. ตรง   เริ่มการแสดง


เปิดฉากด้วยการแนะนำตึกอาคารชั้นนำต่างๆทั้งฝั่งฮ่องกงและเกาลูน ถึง 44 อาคาร

ประกาศชื่อตึกใด ตึกนั้นก็จะมีไฟกระพริบยิงแสงเลเซอร์ให้ผู้ชมได้เห็นเหมือนเป็นการทักทายกัน



จากนั้นก็จะเป็นเพลงบรรเลงไปจนจบ



แสงเลเซอร์ ไฟบนตึกต่างๆที่ส่องลงมาสะท้อนลงกับผิวน้ำ เวลาที่เรือเล่นผ่านระลอกคลื่นที่พริ้วไปมากระทบกับสี แสง



จะส่งประกายระยิบระยับเป็นฉากประดับที่สวยงามยิ่งนัก 15 นาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว


...อ้าวโพสเกินอีกแระเอาไปต่อในตคอมเม้นนะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่