สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์ ที่ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ประเทศสิงคโปร์ ในแบบฉบับ คนมีงบน้อย
ไปคนเดียวก็สามารถเดินทางได้ง่ายๆ การคมนาคมของสิงคโปร์ สะดวกสบายมากๆครับ ถ้าหลายคนที่อยากจะไปต่างประเทศ
ผมขอแนะนำประเทศ สิงคโปร์เป็นที่เปิดประสบการณ์การไปต่างประเทศครั้งแรกเลยครับผม งบประมาณที่ใช้ไปไม่รวมตั๋วเครื่องบินนะครับ
วันแรกก่อนการเดินทาง ผมไม่ได้เตรียมตัวไรเลยครับ ก็จัดกระเป๋าตามปกติ มีพาสปอร์ตใบนึง กับเงินดอลล่าสิงคโปร์ 410 SGD
(ประมาณ 10475 บาทครับ)
ส่วนตั๋วเครื่องบินผมจองตั้งแต่เดือนมกรา แล้วครับ ไป-กลับ ประมาณ 4300 ครับ ตอนหลังผมมาดูตั๋วอีกที มันดันลดราคาเหลือ 3 พันหน่อยๆ
เจ็บใจนิดหน่อยครับ แฮ่ๆ
ระหว่างที่นั่งอยู่บนเครื่องบินผมก็เริ่มเห็นเกาะสิงคโปร์แล้ว ใช้เวลา ประมาณ 2 ชม.ครึ่งครับ
ใกล้จะลงจอดแล้วครับ ตื่นเต้นมากครับ
วันแรกที่ผมไปถึงที่สนามบินชางฮี เวลาประมาณ เที่ยงๆ ลงที่ เทอมินอล 3 ครับ ผมก็ออกมาคือออกมาแบบไม่รู้ไรครับ ว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี
ผมก็เดินตามๆเค้าไปกัน ถามคนไทยที่มากับทัวร์แล้วก็เดินไปลงบันเลื่อน ก็จะเจอ ตรวจคนเข้าเมืองเลยครับ
ตม.ที่สิงคโปร เค้าไม่ถามไรเลยครับ เป็นผญ.หน้าตาน่ารักมากๆครับ เป็นเพราะพี่ไกด์ที่มาด้วยบอกว่า เค้าจะถามต่อเมื่อใบที่ผ่าน ตม. เราไม่เขียนที่อยู่ว่าเราพักที่ไหนนั้นเองครับ แต่ผมเขียนเรียบร้อย เค้าก็ปล่อยผ่านไปครับ อ่ออย่าลืมหยิบลูกอมมานะครับ อร่อยดี
สักพักผมก็ไปเอากระเป๋า เดินออกไป เจอร้านขายซิมการ์ด พอดีครับ ซิมที่ผมซื้อ ราคาอยู่ที่ 15 SGD ประมาณ 384 บาทครับ ไม่ได้ทำโรมมิ่งมา
หน้าตาซิมเป็นแบบนี้ครับ ผมเลือก Singtel ครับ ทั้งหมดมี 4 GB สำหรับ 5 วันครับ แอบคิดนะ ของผมใช้ทรุมูฟ 4 GB คือให้ใช้ทั้งเดือน 5555+แต่นี้ใช้ 5 วัน อันนี้ป้าแกเอาก็อสเทป มาแปะให้ครับ กันหาย
อันนี้ป้าที่เค้าเตอร์ครับ แอบถ่ายแก น่ารักมากๆ คือแกเปลี่ยนซิมให้ ดูไรให้หมดเลย คนจะไปซื้อแกเยอะ เพราะบริการของป้าแกมั้งครับ
ผมเดินตามทางมาเรื่อยๆ ตามป้ายที่ไป เทอมินอล 2 เพื่อจะไปซื้อตั๋ว เข้าเมืองครับ ไปแบบ งง ๆ อังกฤษอ่อนๆ อาศัยเดินๆตามชาวบ้านเค้าไป คนไทยก็ไม่มีให้ถาม 55555 เดินไปครับเราก็เจอเครื่องจำหน่ายตัว อัจฉริยะ จริงๆจะซื้อ บัตร EZ Link นะ แต่เค้าเตอร์ตรงนั้นดันไม่เปิด
ก็เลยได้ตั๋วมาครับ ใช้ไม่ยาก คล้ายๆ MRT บ้านเรา กดที่หมาย ราคาก็จะขึ้น ใส่เงิน บัตรก็ออกมา
วิธีดูเส้นทางไปยังสถานที่ต่างๆ ง่ายครับ ดูว่าเราจะต้องไปต่อไหนลงไหน ก็เหมือนBTS จำแนกเป็นสีๆ จากสนามบินชางฮี เส้นสีเขียว
อย่างของผม จะไป Chinatown ก็ดูว่ามันอยุ่ สีอะไร แล้วเส้นไหนมันไปต่อกันได้ แค่นั้นเองครับ
จากสนามบินชางฮี ต้องไปลงที่ Tanah แล้วก็ต่อสีเดิม ไปยังสีที่จะไป จุดหมายปลายทางของเราครับ
บรรยากาศ ย่าน Chinatown ครับ ผมว่าบรรยากาศคล้ายๆข้าวสารบ้านเรานะ ฝรั่งเยอะ ร้านนั่งกินริมทาง
เดินๆ ชักร้อนครับ หาไอศครีมกิน คือจะบอกว่า อากาศบ้านเค้ามีร้อน กับ ฝนครับ แต่ความรู้สึกตอนนั้น ทำไมร้อนกว่าประเทศไทยจังว่ะ
ด้วยพื้นที่ติดทะเลด้วย เลยรุ้สึกเหนียวตัวมากๆ ครับ นี้เป็นหน้าตาของไอศครีมครับ ราคา 1.20 SGD ครับผม มาChinatown ต้องชิมเจ้านี่ซะหน่อยครับ
แล้วก็ต่อด้วย ร้านฟูดคอด ครับ เดินผ่านวัดพระเกี๊ยวแก้ว ข้ามฝั่งมา ตึกสีส้มๆ ก็เจอแล้วครับ จะมากินข้าวมันไก่ เทียน เทียนเจ้าดัง วันนี้ปิดซะนี่
แล้วเราก็ไปหาร้านจำหน่าย ตั๋ว Universal Studio Singapore กันครับ ที่ห้าง People Park กันครับ อยู่ตรงข้ามChinatown นี้เเหล่ะ หาไม่เจอ กลูเกิลแมป เลยครับ อันนี้เป็นรุปโรงแรม Hotel 81 ผมว่ามันสวยดีเลยถ่ายเก็บไว้
ก็ถึงห้างครับ ขึ้นไปชั้น 3 ราคาตั๋วทีผมได้ มันถุกลงกว่าเมื่อก่อนครับ 62 SGD ครับ เค้ามีราคาเปรียบเทียบราคาที่ไม่ได้ลดด้วยประหยัดไปเยอะครับ
ได้มาแล้วครับ
แล้วได้ไปชิมอาหาร ที่ฟูด หลังซื้อตั๋วเสร้จ ก็ดันอยากจะกินอะไรแปลกๆ ไอ้เราเห็นหน้าตาอาหารนึกว่าอารมณ์ผัดไท บ้านเรามั้ง
พอดูวิธีทำเท่านั้นแหล่ะ ใส่ผลไม้แล้วคลุกๆ น้ำซอสหวานๆ เปรี๊ยวหน่อยๆ สำหรับผมว่าไม่ค่อยอร่อยครับ กินไม่หมดด้วย
ผมก็นั่งรถไฟไปต่อที่พักครับ สถานที่ ที่พัก อยู่ย่าน Little India ครับ
ถึงที่พักแล้วครับ ผมนอนที่นี้ 2 คืน ตกประมาณ 1060 บาท
บริการดีครับ เป็นมิตรเป็นกันเองครับ ส่วนใหญ่ผมอาศัย กูลเกิลนำทางครับคือประเทศนี้ ไม่ต้องกลัวหลงครับและค่อนข้างที่จะปลอดภัยมากๆ
ตำรวจนี้ผมไม่เห็นนะ แสดงว่า ความเป็นระเบียบวินัยดี กฏหมายเค้าแรงด้วยล่ะครับ
สภาพห้องที่ผมรีวิว นะครับ มีเตียง ทั้งหมด 6 เตียง แอร์เย็นฉ่ำ ที่นอนก็นุ่มมากๆ
เก็บข้าวของอะไรเรียบร้อยแล้ว ตอนกลางคืนก็ออกไปชมแสงสี ครับ
ตอนเดินมาก็เงยมองขึ้นไป สูงยิ่งใหญ่จริงครับ
มุมอีกฝากฝั่งครับ สวยงาม
เดินมาสักพัก ชักหิวครับ เจอมาเก็ตเล็กๆ ริมอ่าว พอดี หน้าตาอาหารครับ ผมจำไม่ได้ครับ ชื่อเรียกยาก ได้แต่ชี้ตามรูปครับ
รสชาติก็ผัดหมี่นะ รสอ่อนๆ เครื่องปรุงไม่มี อันนี้อร่อยดีครับ
พอกินอิ่มผมก็เข้าที่พัก ครับ
วันที่ 2 ครับ ตั้งใจว่าจะไป Universal ออกประมาณ 8 โมงได้ เดินไปครับ เรื่อยๆ เดินเท่าไหร่ก็ไม่เมื่อยครับ บ้านเค้าสะอาดมาก
เวลาตอนเช้าๆ แดดมีไม่มาก แต่ก็ร้อนนะครับ เลยไป ถ่ายกับเจ้า สิงโตพ่นน้ำก่อน คนไม่เยอะมากครับ
พอถ่ายรุป เซลฟี่อะไรเสร็จ ก็นั่งรถไฟ ไปเซนโตซ่า ต่อ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา คิดว่าคนจะเยอะมากๆ
แวะมาทานข้าวมันไก่กลับ ผมว่าอร่อยดีนะ แค่บ้านเราเน้นเค้ม เผ็ด แต่ที่สิงคโปร์ รสชาติค่อนข้างอ่อน 4.50 SGD ครับจานนี้
อิ่มแล้วก็ต่อเลยครับ
ถึงแล้วว รอเข้าแถว เพื่อเข้าไปด้านในครับ
บรรยากาศภายใน Universal ครับ
อย่างแรกที่ไม่ควรพลาดนะครับ ทรามฟอร์มอร์ ครับ มันส์สุดๆ คนต่อแถวเยอะ ขืนไปเล่นสุดท้ายเราจะรอนาน ไปเล่นก่อนเลยครับ
อันนี้ ต่อจากที่นั่งอันนี้แล้ว เค้าจะไม่ให้ถ่ายรูป ผมพกน้ำมาจากประเทศไทยครับ คือที่นี้ ตกขวดละ เกือบๆ 40 บาท
ตามมาด้วย อียิปต์ ครับ ใครๆก็คิดว่าต้องเป็นไรที่น่ากลัว ผีๆแน่เลย เพราะมีเด็กญี่ปุ่นพี่น้อง2คนมันเดินเข้าไปก่อน แล้วก็กรี๊ดดดดด วิ่งกันผมก็คิดว่าบ้านผีสิงป่าวว่ะ พอเข้าไปพนักงานบอก Fastโอเค เล่นเลยแล้วกัน
มันก็คล้ายรถไฟเหาะครับ เสียวดี
แต่ไม่เท่าเจ้าเครื่องเล่นอันนี้ ครับโชคดี ที่ผมมาเค้าไม่ปิดซ่อม ตอนลงด้วยสปิดของเครื่องเล่น ใจมันตกลงไปเลยครับ
ชอบความท่าทายต้องเครื่องนี้เลย
คิดถูกแล้วครับ ที่ออกเช้า เพราะว่าพอตกบ่ายคนเยอะมากครับ ซักประมาณ 3 โมงผมก็เล่นเครื่องเล่นจนเกือบจะหมดแล้ว
ก็ออกจาก ยูนิเวิลเซล ไปสถานี Clarke Quay ต่อ ไปกินมักกุ๊ดเต๋ ครับ
ที่เค้ารีวิวมา ร้านนี้อร่อยที่สุดในทริปครับ
นี้ล่ะครับหน้าตาของมักกุ๊ดเต๋ ก็กระดูกหมูตุ๋น นั้นล่ะฮะ ซดน้ำซุปหมดเค้าก็เติมให้เรื่อยๆ อร่อยครับ
บรรยากาศ ภายในร้านครับ คนต่อแถว เยอะครับ
อันนี้ เรียกว่าอะไรไม่รุ้ รสชาติ ก็ข้าวขาหมูครับ เหมือนกันเเดี๊ยะ
อันนี้ผักเครื่องเคียงครับ ก็ผัดน้ำมันหอย แต่รสชาติจืดไปหน่อย ก็อร่อยอยู่ครับ
สิงคโปร์ 3 วัน2 คืน งบไม่เกิน 10000บาท
ไปคนเดียวก็สามารถเดินทางได้ง่ายๆ การคมนาคมของสิงคโปร์ สะดวกสบายมากๆครับ ถ้าหลายคนที่อยากจะไปต่างประเทศ
ผมขอแนะนำประเทศ สิงคโปร์เป็นที่เปิดประสบการณ์การไปต่างประเทศครั้งแรกเลยครับผม งบประมาณที่ใช้ไปไม่รวมตั๋วเครื่องบินนะครับ
วันแรกก่อนการเดินทาง ผมไม่ได้เตรียมตัวไรเลยครับ ก็จัดกระเป๋าตามปกติ มีพาสปอร์ตใบนึง กับเงินดอลล่าสิงคโปร์ 410 SGD
(ประมาณ 10475 บาทครับ)
ส่วนตั๋วเครื่องบินผมจองตั้งแต่เดือนมกรา แล้วครับ ไป-กลับ ประมาณ 4300 ครับ ตอนหลังผมมาดูตั๋วอีกที มันดันลดราคาเหลือ 3 พันหน่อยๆ
เจ็บใจนิดหน่อยครับ แฮ่ๆ
ระหว่างที่นั่งอยู่บนเครื่องบินผมก็เริ่มเห็นเกาะสิงคโปร์แล้ว ใช้เวลา ประมาณ 2 ชม.ครึ่งครับ
ใกล้จะลงจอดแล้วครับ ตื่นเต้นมากครับ
วันแรกที่ผมไปถึงที่สนามบินชางฮี เวลาประมาณ เที่ยงๆ ลงที่ เทอมินอล 3 ครับ ผมก็ออกมาคือออกมาแบบไม่รู้ไรครับ ว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี
ผมก็เดินตามๆเค้าไปกัน ถามคนไทยที่มากับทัวร์แล้วก็เดินไปลงบันเลื่อน ก็จะเจอ ตรวจคนเข้าเมืองเลยครับ
ตม.ที่สิงคโปร เค้าไม่ถามไรเลยครับ เป็นผญ.หน้าตาน่ารักมากๆครับ เป็นเพราะพี่ไกด์ที่มาด้วยบอกว่า เค้าจะถามต่อเมื่อใบที่ผ่าน ตม. เราไม่เขียนที่อยู่ว่าเราพักที่ไหนนั้นเองครับ แต่ผมเขียนเรียบร้อย เค้าก็ปล่อยผ่านไปครับ อ่ออย่าลืมหยิบลูกอมมานะครับ อร่อยดี
สักพักผมก็ไปเอากระเป๋า เดินออกไป เจอร้านขายซิมการ์ด พอดีครับ ซิมที่ผมซื้อ ราคาอยู่ที่ 15 SGD ประมาณ 384 บาทครับ ไม่ได้ทำโรมมิ่งมา
หน้าตาซิมเป็นแบบนี้ครับ ผมเลือก Singtel ครับ ทั้งหมดมี 4 GB สำหรับ 5 วันครับ แอบคิดนะ ของผมใช้ทรุมูฟ 4 GB คือให้ใช้ทั้งเดือน 5555+แต่นี้ใช้ 5 วัน อันนี้ป้าแกเอาก็อสเทป มาแปะให้ครับ กันหาย
อันนี้ป้าที่เค้าเตอร์ครับ แอบถ่ายแก น่ารักมากๆ คือแกเปลี่ยนซิมให้ ดูไรให้หมดเลย คนจะไปซื้อแกเยอะ เพราะบริการของป้าแกมั้งครับ
ผมเดินตามทางมาเรื่อยๆ ตามป้ายที่ไป เทอมินอล 2 เพื่อจะไปซื้อตั๋ว เข้าเมืองครับ ไปแบบ งง ๆ อังกฤษอ่อนๆ อาศัยเดินๆตามชาวบ้านเค้าไป คนไทยก็ไม่มีให้ถาม 55555 เดินไปครับเราก็เจอเครื่องจำหน่ายตัว อัจฉริยะ จริงๆจะซื้อ บัตร EZ Link นะ แต่เค้าเตอร์ตรงนั้นดันไม่เปิด
ก็เลยได้ตั๋วมาครับ ใช้ไม่ยาก คล้ายๆ MRT บ้านเรา กดที่หมาย ราคาก็จะขึ้น ใส่เงิน บัตรก็ออกมา
วิธีดูเส้นทางไปยังสถานที่ต่างๆ ง่ายครับ ดูว่าเราจะต้องไปต่อไหนลงไหน ก็เหมือนBTS จำแนกเป็นสีๆ จากสนามบินชางฮี เส้นสีเขียว
อย่างของผม จะไป Chinatown ก็ดูว่ามันอยุ่ สีอะไร แล้วเส้นไหนมันไปต่อกันได้ แค่นั้นเองครับ
จากสนามบินชางฮี ต้องไปลงที่ Tanah แล้วก็ต่อสีเดิม ไปยังสีที่จะไป จุดหมายปลายทางของเราครับ
บรรยากาศ ย่าน Chinatown ครับ ผมว่าบรรยากาศคล้ายๆข้าวสารบ้านเรานะ ฝรั่งเยอะ ร้านนั่งกินริมทาง
เดินๆ ชักร้อนครับ หาไอศครีมกิน คือจะบอกว่า อากาศบ้านเค้ามีร้อน กับ ฝนครับ แต่ความรู้สึกตอนนั้น ทำไมร้อนกว่าประเทศไทยจังว่ะ
ด้วยพื้นที่ติดทะเลด้วย เลยรุ้สึกเหนียวตัวมากๆ ครับ นี้เป็นหน้าตาของไอศครีมครับ ราคา 1.20 SGD ครับผม มาChinatown ต้องชิมเจ้านี่ซะหน่อยครับ
แล้วก็ต่อด้วย ร้านฟูดคอด ครับ เดินผ่านวัดพระเกี๊ยวแก้ว ข้ามฝั่งมา ตึกสีส้มๆ ก็เจอแล้วครับ จะมากินข้าวมันไก่ เทียน เทียนเจ้าดัง วันนี้ปิดซะนี่
แล้วเราก็ไปหาร้านจำหน่าย ตั๋ว Universal Studio Singapore กันครับ ที่ห้าง People Park กันครับ อยู่ตรงข้ามChinatown นี้เเหล่ะ หาไม่เจอ กลูเกิลแมป เลยครับ อันนี้เป็นรุปโรงแรม Hotel 81 ผมว่ามันสวยดีเลยถ่ายเก็บไว้
ก็ถึงห้างครับ ขึ้นไปชั้น 3 ราคาตั๋วทีผมได้ มันถุกลงกว่าเมื่อก่อนครับ 62 SGD ครับ เค้ามีราคาเปรียบเทียบราคาที่ไม่ได้ลดด้วยประหยัดไปเยอะครับ
ได้มาแล้วครับ
แล้วได้ไปชิมอาหาร ที่ฟูด หลังซื้อตั๋วเสร้จ ก็ดันอยากจะกินอะไรแปลกๆ ไอ้เราเห็นหน้าตาอาหารนึกว่าอารมณ์ผัดไท บ้านเรามั้ง
พอดูวิธีทำเท่านั้นแหล่ะ ใส่ผลไม้แล้วคลุกๆ น้ำซอสหวานๆ เปรี๊ยวหน่อยๆ สำหรับผมว่าไม่ค่อยอร่อยครับ กินไม่หมดด้วย
ผมก็นั่งรถไฟไปต่อที่พักครับ สถานที่ ที่พัก อยู่ย่าน Little India ครับ
ถึงที่พักแล้วครับ ผมนอนที่นี้ 2 คืน ตกประมาณ 1060 บาท
บริการดีครับ เป็นมิตรเป็นกันเองครับ ส่วนใหญ่ผมอาศัย กูลเกิลนำทางครับคือประเทศนี้ ไม่ต้องกลัวหลงครับและค่อนข้างที่จะปลอดภัยมากๆ
ตำรวจนี้ผมไม่เห็นนะ แสดงว่า ความเป็นระเบียบวินัยดี กฏหมายเค้าแรงด้วยล่ะครับ
สภาพห้องที่ผมรีวิว นะครับ มีเตียง ทั้งหมด 6 เตียง แอร์เย็นฉ่ำ ที่นอนก็นุ่มมากๆ
เก็บข้าวของอะไรเรียบร้อยแล้ว ตอนกลางคืนก็ออกไปชมแสงสี ครับ
ตอนเดินมาก็เงยมองขึ้นไป สูงยิ่งใหญ่จริงครับ
มุมอีกฝากฝั่งครับ สวยงาม
เดินมาสักพัก ชักหิวครับ เจอมาเก็ตเล็กๆ ริมอ่าว พอดี หน้าตาอาหารครับ ผมจำไม่ได้ครับ ชื่อเรียกยาก ได้แต่ชี้ตามรูปครับ
รสชาติก็ผัดหมี่นะ รสอ่อนๆ เครื่องปรุงไม่มี อันนี้อร่อยดีครับ
พอกินอิ่มผมก็เข้าที่พัก ครับ
วันที่ 2 ครับ ตั้งใจว่าจะไป Universal ออกประมาณ 8 โมงได้ เดินไปครับ เรื่อยๆ เดินเท่าไหร่ก็ไม่เมื่อยครับ บ้านเค้าสะอาดมาก
เวลาตอนเช้าๆ แดดมีไม่มาก แต่ก็ร้อนนะครับ เลยไป ถ่ายกับเจ้า สิงโตพ่นน้ำก่อน คนไม่เยอะมากครับ
พอถ่ายรุป เซลฟี่อะไรเสร็จ ก็นั่งรถไฟ ไปเซนโตซ่า ต่อ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา คิดว่าคนจะเยอะมากๆ
แวะมาทานข้าวมันไก่กลับ ผมว่าอร่อยดีนะ แค่บ้านเราเน้นเค้ม เผ็ด แต่ที่สิงคโปร์ รสชาติค่อนข้างอ่อน 4.50 SGD ครับจานนี้
อิ่มแล้วก็ต่อเลยครับ
ถึงแล้วว รอเข้าแถว เพื่อเข้าไปด้านในครับ
บรรยากาศภายใน Universal ครับ
อย่างแรกที่ไม่ควรพลาดนะครับ ทรามฟอร์มอร์ ครับ มันส์สุดๆ คนต่อแถวเยอะ ขืนไปเล่นสุดท้ายเราจะรอนาน ไปเล่นก่อนเลยครับ
อันนี้ ต่อจากที่นั่งอันนี้แล้ว เค้าจะไม่ให้ถ่ายรูป ผมพกน้ำมาจากประเทศไทยครับ คือที่นี้ ตกขวดละ เกือบๆ 40 บาท
ตามมาด้วย อียิปต์ ครับ ใครๆก็คิดว่าต้องเป็นไรที่น่ากลัว ผีๆแน่เลย เพราะมีเด็กญี่ปุ่นพี่น้อง2คนมันเดินเข้าไปก่อน แล้วก็กรี๊ดดดดด วิ่งกันผมก็คิดว่าบ้านผีสิงป่าวว่ะ พอเข้าไปพนักงานบอก Fastโอเค เล่นเลยแล้วกัน
มันก็คล้ายรถไฟเหาะครับ เสียวดี
แต่ไม่เท่าเจ้าเครื่องเล่นอันนี้ ครับโชคดี ที่ผมมาเค้าไม่ปิดซ่อม ตอนลงด้วยสปิดของเครื่องเล่น ใจมันตกลงไปเลยครับ
ชอบความท่าทายต้องเครื่องนี้เลย
คิดถูกแล้วครับ ที่ออกเช้า เพราะว่าพอตกบ่ายคนเยอะมากครับ ซักประมาณ 3 โมงผมก็เล่นเครื่องเล่นจนเกือบจะหมดแล้ว
ก็ออกจาก ยูนิเวิลเซล ไปสถานี Clarke Quay ต่อ ไปกินมักกุ๊ดเต๋ ครับ
ที่เค้ารีวิวมา ร้านนี้อร่อยที่สุดในทริปครับ
นี้ล่ะครับหน้าตาของมักกุ๊ดเต๋ ก็กระดูกหมูตุ๋น นั้นล่ะฮะ ซดน้ำซุปหมดเค้าก็เติมให้เรื่อยๆ อร่อยครับ
บรรยากาศ ภายในร้านครับ คนต่อแถว เยอะครับ
อันนี้ เรียกว่าอะไรไม่รุ้ รสชาติ ก็ข้าวขาหมูครับ เหมือนกันเเดี๊ยะ
อันนี้ผักเครื่องเคียงครับ ก็ผัดน้ำมันหอย แต่รสชาติจืดไปหน่อย ก็อร่อยอยู่ครับ