ดิฉันเป็นลูกคนสุดท้องหรือลูกคนที่สามของบ้าน เป็นคนจีนเชื้อสายไทยค่ะ มีพี่ชายสองคน ดิฉันไม่อยากคบทั้งสองคนเลย โดยเฉพาะคนกลาง ดิฉันเกลียดมันมาก ตอนนี้ตัดพี่ตัดน้องกันไปแล้ว แต่กับคนโตดิฉันก็ทนได้อยู่ค่ะไม่อยากถือสา ดิฉันขอเล่าประสบการณ์และสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อระบายและขอคำแนะนำเพื่อหาทางออก ดิฉันไม่สามารถจะปรึกษาใครได้ซึ่งหน้าเพราะ มันน่าอายมาก
แม่ของดิฉันรักลูกไม่เท่ากัน แม่จะรักลูกชายคนกลางมากที่สุดและแสดงออกนอกหน้าด้วย ตอนเป็นเด็กดิฉันโดนพี่คนกลางแกล้งทุกวันที่พ่อไปต่างจังหวัดโดยที่แม่เห็นและไม่สนใจที่ตักเตือนเลย พี่ชายคนโตก็ไปอยู่กับอาแล้ว และพี่ชายคนกลางก็ถูกไล่ออกจากงานและไม่มีที่ไปจึงกลับมาบ้านได้ประมาณ 3 ปีแล้วค่ะ ตั้งแต่กลับมามีปัญหาที่บ้านตลอด เขาชอบหาเรื่องดิฉันสารพัด ไม่ว่าตอนดิฉันคุยโทรศัพท์ หรือทำอะไร ขนาดดิฉันอยู่ในห้องนอนเขาก็ยังมาแอบฟังที่ประตูห้องดิฉันค่ะ ชอบรื้อของดิฉันที่วางอยู่นอกห้องจนดิฉันต้องเอามาเก็บไว้เอง สอดรู้สอดเห็นเรื่องของดิฉันสารพัด เพื่อจะเอาเป็นเรื่องไปฟ้องญาติผู้ใหญ่ บ่อยครั้งที่เขาจะสร้างเรื่องมาเอง คือ โกหกทั้งหมดบางก็บางส่วน และญาติๆก็จะโทรมาด่าดิฉันและพ่อแม่ เขาจะทำแบบนี้เวลาดิฉันไม่เอาเงินให้เค้าใช้ เขาจะขอเงินทีละ 1000-3000 บาทโดยใช้คำว่า ยืม(แต่ไม่เคยคืน) ตั้งแต่ดิฉันมาอยู่บ้านหลายปีนี้ดิฉันก็หยุดให้เงินเขา ทำให้มีเรื่องมาตลอด ดิฉันจะบ้าตายอยู่แล้วค่ะ ทำไมพี่ทำกับน้องแบบนี้ ดิฉันรู้สึกว่า เหมือนไม่ได้อยู่บ้านของตนเองเหือนที่ผ่านมาเลยค่ะ รู้สึกอึดอัดมากๆ
นอกจากนี้ พี่คนกลางยังมีนิสัยยุให้แตกกันเป็นนิจ ตอนแรกดิฉันโดนคนแรกเลย เขายุให้พี่คนโตโมโหและต่อยตีดิฉัน ซึงตอนนั้นดิฉันก็งงมากว่าทำไมพี่คนโตถึงโกรธดิฉัน จึงมารู้ทีหลังว่าจากปากพี่คนโตนี่แหละ และเขายังยุให้ญาติๆมองดิฉันในแง่ร้ายหลายอย่างซึ่งแม่ก็มักจะพูดเข้าข้างเขาด้วย เพราะแม่คงกลัวว่าถ้าบอกความจริงไป ทุกคนจะรู้ว่าลูกชายสุดที่รักองแม่พูดโกหก ต่อมาดิฉันกับเขาก็มีเรื่องลงไม้ลงมือกันรุนแรงมาก เพราะเขาแอบแกล้งดิฉันโดยใส่อะไรสักอย่างลงในอาหารและนํ้าชาที่ดิฉันกินซึ่งเป็นหลายครั้งและเขาก็โกหกหน้าด้านๆว่าไม่ได้ทำ ทั้งๆที่มีเขาคนเดียวที่อยู่บ้าน ทุกคนออกมากับดิฉันหมด แม่จึงให้เขาออกไปอยู่บ้านญาติสองสามวัน แล้วก็เป็นแบบนี้เกือบปีก็มีเรื่องกับพ่ออีก แม่จึงให้มันออกไปอยู่บ้านยาย พอไปอยู่บ้านยายได้ปีกว่ามันก็หางานทำแล้วก็โดนให้ออกอีกทำงานได้3 เดือนเอง แล้วก็มาอยู่บ้านอีก คราวนี้ก็มีปากเสียงกับดิฉันอีก นิสัยมันไม่เปลียนเลย มีอยู่ครั้งนึงดิฉันบังเอิญได้ยินเขาคุยโทรศัพท์กับเพื่อน โดยเอาดิฉันไปด่าแบบเสียๆหายๆเลยค่ะ แล้วยังขอร้องให้เพื่อนเขามาดักแล้วจัดการซ้อมดิฉันด้วย ซึ่งคุยนานเลยค่ะ ดิฉันก็เอาไปฟ้องให้พ่อแม่ญาติพี่น้องและเพื่อนๆเลยค่ะ เพราะถ้ามันเกิดจริงดิฉันเป็นอะไรไป ตำรวจจะได้รู้ หลังจากนั้นญาติก็ด่าเขาเลยค่ะ หลังจากนั้นไม่นานเขากับแม่ก็ไปขอให้ญาติช่วยสร้างร้านขายอาหารให้ซึ่งญาติก็สงสารทำให้ ซึ่งเขาไม่ต้องกลับมาบ้านแล้วอยู่กินที่นั่นเลย ไม่ต้องเสียค่าเช่าร้าน เพียงแต่ขายอย่างเดียวตักตวงอย่างเดียว ขนาดเครื่องครัวโต๊ะเก้าอี้ก็ไม่ใช่เงินมัน แล้วตอนนี้มันกับพี่คนโตก็ขายของด้วยกัน โดยมีแม่เป็นขี้ข้าของมัน อันนี้ดิฉันกับพ่อรู้สึกเซ็งมากๆ มันกับพี่คนโตช่วงแรกๆก็ทะเลาะกัน หวิดวางมวยหลายที แต่พอมันเห็นพี่คนโตมาคุยกับดิฉันดี ท่าทีของมันต่อพี่คนโตก็เปลี่ยนไปเลย คือ ทำดี พูดดีกับพี่คนโตหลายอย่างและที่ดิฉันได้ยินคือ "พี่...อย่าไปฟังคำพูดของอี...(ดิฉัน) มันเชื่อไม่ได้" ดิฉันเข้าใจว่าที่มันทำแบบนี้เพราะกลัวว่าพี่คนโตจะมาอยู่ข้างดิฉันและจะทิ้งให้มันเป็นหมาหัวเน่า วันดีคืนดีมันก็กลับมาบ้านซึ่งดิฉันไม่อยากให้มันกลับมาเลยค่ะ
เขามักมีนิสัยหวาดระแวงมากๆ ชอบดื่มเหล้าเบียร์สูบบุหรี่ทุกวัน ชอบนินทา เป็นคนที่เห็นแก่ตัวมากๆ(อะไรก็จะฮุบเอาไว้เอง ไม่แบ่งใครทั้งนั้น) ขี้ขโมย(เป็นมาแต่เด็ก) และชอบแย่งของทุกชิ้นของดิฉัน เรื่องหวาดระแวงนี่ขอเล่าหน่อย ข้าวของรถยนต์ของเขาเขาจะแอบมาด้อมๆมองๆว่าใครในบ้านมายุ่งมาใช้รึเปล่า เพื่อที่จะได้หาเรื่องด่าว่าขี้ขโมยใช้ของของมัน อะไรมันหายก็จะโทษคนในบ้านก่อนเลย เขาจะไม่ชอบให้ใครมองหน้าขนาดพ่อแม่มันก็ไม่เว้นมันด่า แล้วก็ทะเลาะกับพ่อเลย ยิ่งเป็นคนอื่นที่มองหน้ามัน มันจะจ้องจนคนนั้นหลบสายตา แต่มันชอบมองหน้าคนอื่น มองแบบจ้องเลยค่ะ ไม่เป็นมิตรอย่างแรง และดิฉันก็เกลียดมากกับกริยาแบบนี้ เขาจะชอบนินทามากๆ โดยเฉพาะนินทาผู้หญิง แบบน่าเกลียดเลยค่ะ ขนาดตอนเขาไปอยู่บ้านยายก็มักจะเอาเรื่องลูกสาวของน้าหญิงมานินทาบ่อยมาก แบบปั้นเรื่องมาเป็นตุเป็นตะ ญาติที่ฟังพากันเชื่อกันทั้งนั้น แต่ดิฉันไม่เชื่อ เพราะดิฉันได้เห็นความจริงกับตามาเยอะค่ะก็ต้องพูดแก้ต่างหาข้อบริสุทธิ์ให้ลูกสาวน้า เพราะสงสารมากค่ะ ตอนที่เขาทำงานต่างจังหวัดเขามักจะเอาผู้หญิงมานอนแบบอยู่กินด้วย เปลี่ยนผู้หญิงมาหลายคน ทุกคนล้วนจบไม่สวย คือ โดนเขาไล่ออกไปทำนองพอเบื่อแล้วก็ถีบหัวส่ง ผู้หญิงโดบเขาถีบจริงๆค่ะ ทั้งตบ ทั้งด่าหยาบคายสารพัด ที่รู้เพราะแม่บอก เขาต้องย้ายห้อง ย้ายหอพักหนีญาติและแฟนเก่าของผู้หญิงหลายครั้ง
ทุกวันนี้กินข้าวร่วมโต๊ะไม่ได้ และไม่มองหน้ากันเลย แบบว่า ถ้ามันอยู่ไหนก็จะไม่ไปตรงนั้นเลย ดิฉันเกลียดมันค่ะ และกลัวว่าอนาคตจะมีเรื่องยุ่งยากตามมาอีก คือ พ่อจะยกบ้านให้ดิฉันค่ะ แต่ที่กลัวคือ กลัวเขาจะกลับมาอยู่ด้วย ซึ่งดิฉันอยู่กับมันไม่ได้จริงๆค่ะ, อีกอย่างเขาเป็นคนที่ชอบเล่นพวกนินจาและมีความต้องการที่จะใช้บริการนักสืบ ดิฉันกลัวว่าในอนาคตเขาจะจ้างนักสืบมาสืบสารพัดเรื่องของดิฉัน, ถ้าดิฉันมีครอบครัว ดิฉันไม่อยากให้เขามายุ่งกับครอบครัวของดิฉันโดยเฉพาะลูกๆ ที่ดิฉันกลัวก็เพราะรู้ว่าเขาเป็นคนเช่นไร จึงอยากได้คำแนะนำที่จะป้องกันเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้น ควรทำยังไงค่ะ ขอคำปรึกษาด้วย
เกลียดคนในครอบครัว
แม่ของดิฉันรักลูกไม่เท่ากัน แม่จะรักลูกชายคนกลางมากที่สุดและแสดงออกนอกหน้าด้วย ตอนเป็นเด็กดิฉันโดนพี่คนกลางแกล้งทุกวันที่พ่อไปต่างจังหวัดโดยที่แม่เห็นและไม่สนใจที่ตักเตือนเลย พี่ชายคนโตก็ไปอยู่กับอาแล้ว และพี่ชายคนกลางก็ถูกไล่ออกจากงานและไม่มีที่ไปจึงกลับมาบ้านได้ประมาณ 3 ปีแล้วค่ะ ตั้งแต่กลับมามีปัญหาที่บ้านตลอด เขาชอบหาเรื่องดิฉันสารพัด ไม่ว่าตอนดิฉันคุยโทรศัพท์ หรือทำอะไร ขนาดดิฉันอยู่ในห้องนอนเขาก็ยังมาแอบฟังที่ประตูห้องดิฉันค่ะ ชอบรื้อของดิฉันที่วางอยู่นอกห้องจนดิฉันต้องเอามาเก็บไว้เอง สอดรู้สอดเห็นเรื่องของดิฉันสารพัด เพื่อจะเอาเป็นเรื่องไปฟ้องญาติผู้ใหญ่ บ่อยครั้งที่เขาจะสร้างเรื่องมาเอง คือ โกหกทั้งหมดบางก็บางส่วน และญาติๆก็จะโทรมาด่าดิฉันและพ่อแม่ เขาจะทำแบบนี้เวลาดิฉันไม่เอาเงินให้เค้าใช้ เขาจะขอเงินทีละ 1000-3000 บาทโดยใช้คำว่า ยืม(แต่ไม่เคยคืน) ตั้งแต่ดิฉันมาอยู่บ้านหลายปีนี้ดิฉันก็หยุดให้เงินเขา ทำให้มีเรื่องมาตลอด ดิฉันจะบ้าตายอยู่แล้วค่ะ ทำไมพี่ทำกับน้องแบบนี้ ดิฉันรู้สึกว่า เหมือนไม่ได้อยู่บ้านของตนเองเหือนที่ผ่านมาเลยค่ะ รู้สึกอึดอัดมากๆ
นอกจากนี้ พี่คนกลางยังมีนิสัยยุให้แตกกันเป็นนิจ ตอนแรกดิฉันโดนคนแรกเลย เขายุให้พี่คนโตโมโหและต่อยตีดิฉัน ซึงตอนนั้นดิฉันก็งงมากว่าทำไมพี่คนโตถึงโกรธดิฉัน จึงมารู้ทีหลังว่าจากปากพี่คนโตนี่แหละ และเขายังยุให้ญาติๆมองดิฉันในแง่ร้ายหลายอย่างซึ่งแม่ก็มักจะพูดเข้าข้างเขาด้วย เพราะแม่คงกลัวว่าถ้าบอกความจริงไป ทุกคนจะรู้ว่าลูกชายสุดที่รักองแม่พูดโกหก ต่อมาดิฉันกับเขาก็มีเรื่องลงไม้ลงมือกันรุนแรงมาก เพราะเขาแอบแกล้งดิฉันโดยใส่อะไรสักอย่างลงในอาหารและนํ้าชาที่ดิฉันกินซึ่งเป็นหลายครั้งและเขาก็โกหกหน้าด้านๆว่าไม่ได้ทำ ทั้งๆที่มีเขาคนเดียวที่อยู่บ้าน ทุกคนออกมากับดิฉันหมด แม่จึงให้เขาออกไปอยู่บ้านญาติสองสามวัน แล้วก็เป็นแบบนี้เกือบปีก็มีเรื่องกับพ่ออีก แม่จึงให้มันออกไปอยู่บ้านยาย พอไปอยู่บ้านยายได้ปีกว่ามันก็หางานทำแล้วก็โดนให้ออกอีกทำงานได้3 เดือนเอง แล้วก็มาอยู่บ้านอีก คราวนี้ก็มีปากเสียงกับดิฉันอีก นิสัยมันไม่เปลียนเลย มีอยู่ครั้งนึงดิฉันบังเอิญได้ยินเขาคุยโทรศัพท์กับเพื่อน โดยเอาดิฉันไปด่าแบบเสียๆหายๆเลยค่ะ แล้วยังขอร้องให้เพื่อนเขามาดักแล้วจัดการซ้อมดิฉันด้วย ซึ่งคุยนานเลยค่ะ ดิฉันก็เอาไปฟ้องให้พ่อแม่ญาติพี่น้องและเพื่อนๆเลยค่ะ เพราะถ้ามันเกิดจริงดิฉันเป็นอะไรไป ตำรวจจะได้รู้ หลังจากนั้นญาติก็ด่าเขาเลยค่ะ หลังจากนั้นไม่นานเขากับแม่ก็ไปขอให้ญาติช่วยสร้างร้านขายอาหารให้ซึ่งญาติก็สงสารทำให้ ซึ่งเขาไม่ต้องกลับมาบ้านแล้วอยู่กินที่นั่นเลย ไม่ต้องเสียค่าเช่าร้าน เพียงแต่ขายอย่างเดียวตักตวงอย่างเดียว ขนาดเครื่องครัวโต๊ะเก้าอี้ก็ไม่ใช่เงินมัน แล้วตอนนี้มันกับพี่คนโตก็ขายของด้วยกัน โดยมีแม่เป็นขี้ข้าของมัน อันนี้ดิฉันกับพ่อรู้สึกเซ็งมากๆ มันกับพี่คนโตช่วงแรกๆก็ทะเลาะกัน หวิดวางมวยหลายที แต่พอมันเห็นพี่คนโตมาคุยกับดิฉันดี ท่าทีของมันต่อพี่คนโตก็เปลี่ยนไปเลย คือ ทำดี พูดดีกับพี่คนโตหลายอย่างและที่ดิฉันได้ยินคือ "พี่...อย่าไปฟังคำพูดของอี...(ดิฉัน) มันเชื่อไม่ได้" ดิฉันเข้าใจว่าที่มันทำแบบนี้เพราะกลัวว่าพี่คนโตจะมาอยู่ข้างดิฉันและจะทิ้งให้มันเป็นหมาหัวเน่า วันดีคืนดีมันก็กลับมาบ้านซึ่งดิฉันไม่อยากให้มันกลับมาเลยค่ะ
เขามักมีนิสัยหวาดระแวงมากๆ ชอบดื่มเหล้าเบียร์สูบบุหรี่ทุกวัน ชอบนินทา เป็นคนที่เห็นแก่ตัวมากๆ(อะไรก็จะฮุบเอาไว้เอง ไม่แบ่งใครทั้งนั้น) ขี้ขโมย(เป็นมาแต่เด็ก) และชอบแย่งของทุกชิ้นของดิฉัน เรื่องหวาดระแวงนี่ขอเล่าหน่อย ข้าวของรถยนต์ของเขาเขาจะแอบมาด้อมๆมองๆว่าใครในบ้านมายุ่งมาใช้รึเปล่า เพื่อที่จะได้หาเรื่องด่าว่าขี้ขโมยใช้ของของมัน อะไรมันหายก็จะโทษคนในบ้านก่อนเลย เขาจะไม่ชอบให้ใครมองหน้าขนาดพ่อแม่มันก็ไม่เว้นมันด่า แล้วก็ทะเลาะกับพ่อเลย ยิ่งเป็นคนอื่นที่มองหน้ามัน มันจะจ้องจนคนนั้นหลบสายตา แต่มันชอบมองหน้าคนอื่น มองแบบจ้องเลยค่ะ ไม่เป็นมิตรอย่างแรง และดิฉันก็เกลียดมากกับกริยาแบบนี้ เขาจะชอบนินทามากๆ โดยเฉพาะนินทาผู้หญิง แบบน่าเกลียดเลยค่ะ ขนาดตอนเขาไปอยู่บ้านยายก็มักจะเอาเรื่องลูกสาวของน้าหญิงมานินทาบ่อยมาก แบบปั้นเรื่องมาเป็นตุเป็นตะ ญาติที่ฟังพากันเชื่อกันทั้งนั้น แต่ดิฉันไม่เชื่อ เพราะดิฉันได้เห็นความจริงกับตามาเยอะค่ะก็ต้องพูดแก้ต่างหาข้อบริสุทธิ์ให้ลูกสาวน้า เพราะสงสารมากค่ะ ตอนที่เขาทำงานต่างจังหวัดเขามักจะเอาผู้หญิงมานอนแบบอยู่กินด้วย เปลี่ยนผู้หญิงมาหลายคน ทุกคนล้วนจบไม่สวย คือ โดนเขาไล่ออกไปทำนองพอเบื่อแล้วก็ถีบหัวส่ง ผู้หญิงโดบเขาถีบจริงๆค่ะ ทั้งตบ ทั้งด่าหยาบคายสารพัด ที่รู้เพราะแม่บอก เขาต้องย้ายห้อง ย้ายหอพักหนีญาติและแฟนเก่าของผู้หญิงหลายครั้ง
ทุกวันนี้กินข้าวร่วมโต๊ะไม่ได้ และไม่มองหน้ากันเลย แบบว่า ถ้ามันอยู่ไหนก็จะไม่ไปตรงนั้นเลย ดิฉันเกลียดมันค่ะ และกลัวว่าอนาคตจะมีเรื่องยุ่งยากตามมาอีก คือ พ่อจะยกบ้านให้ดิฉันค่ะ แต่ที่กลัวคือ กลัวเขาจะกลับมาอยู่ด้วย ซึ่งดิฉันอยู่กับมันไม่ได้จริงๆค่ะ, อีกอย่างเขาเป็นคนที่ชอบเล่นพวกนินจาและมีความต้องการที่จะใช้บริการนักสืบ ดิฉันกลัวว่าในอนาคตเขาจะจ้างนักสืบมาสืบสารพัดเรื่องของดิฉัน, ถ้าดิฉันมีครอบครัว ดิฉันไม่อยากให้เขามายุ่งกับครอบครัวของดิฉันโดยเฉพาะลูกๆ ที่ดิฉันกลัวก็เพราะรู้ว่าเขาเป็นคนเช่นไร จึงอยากได้คำแนะนำที่จะป้องกันเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้น ควรทำยังไงค่ะ ขอคำปรึกษาด้วย