อาหารอิตาลี ไม่ได้มีแค่พิซซ่ากับพาสต้า :: กิน-อยู่ 10 วัน แบบคนอิตาลีแท้ๆ ที่เกาะ Sardegna

** หมายเหตุ :: ยืมไอดีเพื่อนมานะคะ ที่จริงของตัวเองก็มี แต่โพสรูปไม่ได้ และขี้เกียจยืนยันตัวตน แฮ่ 555

เมื่อวันที่ 8-17 มีนาคมที่ผ่านมา ได้มีโอกาสกลับไปเยี่ยมโฮสต์แฟมิลี่ที่ประเทศอิตาลีมาค่ะ

คือตอนมัธยมปลาย (ปี 2009-2010) เคยเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนมาก่อน ตอนนั้นไปอยู่บ้านโฮสต์มา 10 เดือน สนิทกับโฮสต์มากกกกและไม่เคยเปลี่ยนโฮสต์เลย ตอนช่วงประมาณปีสองเราเคยบอกเค้าไว้ว่า เราเรียนจบมหาลัยเมื่อไหร่ จะกลับไปเยี่ยมเค้าทันที ซึ่งสาขาวิชาที่เราเรียนต้องเรียนห้าปีค่ะ หลังจากจบปีห้า แจ้งจบส่งงานส่งวิจัยส่งอะไรต่อมิอะไรให้เรียบร้อย ส่งเอกสารทำใบประกอบวิชาชีพให้มหาลัยเสร็จวันอาทิตย์ เราบินไปอิตาลีคืนวันจันทร์เลยค่ะ รีบมาก 55555

เกาะ Sardegna คือที่ไหน อยู่ส่วนไหนของอิตาลี ?

เกาะ Sardegna (ซาร์เดนญ่า) มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Sardinia (ซาร์ดีเนีย)

เป็นเกาะที่อยู่ทางตะวันตกของอิตาลี เหนือจรดใต้ประมาณ 300 กิโลเมตร ประชากรประมาณ 1.6 ล้านคน
เกาะนี้เราเรียกเล่นๆว่า เกาะที่ถูกลืมของอิตาลี เพราะบางทีพวกของ Souvenir รูปแผนที่ประเทศอิตาลีที่ขายตามเมืองใหญ่ๆอย่างโรม ฟลอเรนซ์ เวนิซ ยังมีแค่รูปรองเท้าบูทกับเกาะ Sicilia เลย ... แล้วเกาะ Sardegna หายไปไหน 5555

ส่วนเมืองที่เราอยู่มีชื่อว่าเมือง Nuoro (นูโอโร) อยู่ตอนกลางของเกาะค่อนมาทางตะวันออก (ดูตามรูปคือตรงธงแดง) เมืองนี้อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 600 เมตร ภูมิประเทศของเมืองจะเป็นแบบภูเขา เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง อย่างบ้านโฮสต์เราถ้าเข้าทางประตูหน้าต้องเดินขึ้นบันไดไป 6 ขั้น แต่ประตูหลังบ้านจะอยู่ระนาบเดียวกับพื้นด้านนอกพอดี

ถึงเกาะนี้จะเป็นเกาะที่มักจะถูกลืมอยู่บ่อยๆ แต่คนในเกาะนี้ก็ไม่ค่อยบอกว่าตัวเองเป็นคนอิตาลีนะ เค้าจะมีวลีประจำเกาะ (ที่พูดด้วยภาษาท้องถิ่น) อยู่ว่า “Sardigna no est Italia” ซึ่งแปลเป็นภาษาอิตาลีได้ว่า “Sardegna non e’ Italia” หรือว่า “Sardinia is not Italy” นั่นเอง แบ่งแยกอะไรขนาดนั้น

นานมาแล้วเราเคยเขียนบทความสั้นๆถึงเกาะนี้ไว้ว่า
“เกาะซาร์ดีเนีย
เกาะที่มีแกะเยอะกว่าคน มองไปบนภูเขาจะเห็นสีขาวเป็นกระจุกๆตัดกับสีเขียวๆของต้นไม้และพื้นหญ้า
ถ้าเดินขึ้นไปบนภูเขาแล้วมองลงมา จะเห็นน้ำทะเลใสไล่สีฟ้าครามสวยชนกับสีของท้องฟ้าที่มีฟ้าทุกเฉดสีเท่าที่โลกนี้มันจะมีได้
เกาะที่มีเมืองเล็กๆอยู่ตามซอกเขา ยิ่งตอนกลางคืนมองไปบนเขาไกลๆ จะเห็นเมืองแต่ละเมืองเปิดไฟระยิบระยับ สวยอย่างกับกลุ่มดาวบนฟ้า” ...

เกาะนี้สวยมากในฤดูร้อนค่ะ โฮสต์เล่าให้ฟังว่า ชาวอิตาลีและชาวยุโรปที่อยากเที่ยวทะเล แต่ไม่ไปทะเลแคริบเบียน ไม่มาทะเลไทย ก็จะมาที่เกาะนี้นี่แหละ ซึ่งช่วงเวลาที่เราไปปีนี้ตรงกับฤดูหนาว เลยไม่ได้ไปทะเลเลยสักวัน เพราะถึงไปทะเลก็ไม่สวยอยู่ดี

เล่ามาเยอะละ เข้าเรื่องเลยดีกว่า กระทู้นี้ไม่เน้นเที่ยวนะคะ เน้นกิน ไม่สิ เรียกว่ามีแต่ของกินจะดีกว่า 55555

ถ้าให้คนอิตาลีพูดถึงวัฒนธรรมของตัวเอง ก็ต้องพูดถึงเรื่องกินนี่แหละที่คนอิตาลีภูมิใจม้ากมาก ขนาดตอนเราบอกโฮสต์ว่าเราจะไปหา แทนที่เค้าจะถามเราว่าอยากไปเที่ยวที่ไหน อยากไปเจอใคร เค้ากลับถามเราคำถามแรกว่า “อยากกินอะไร” แหม่!! ไม่อ้วนยังไงไหว (ตอนเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน 10 เดือน น้ำหนักขึ้นมา 11 กิโลค่ะ ส่วนทริปนี้ 10 วัน น้ำหนักขึ้นมาครึ่งกิโล ยังพอไหวๆ)

Travel Plan
วันที่ 1 (8 มี.ค.) Milan
วันที่ 2-9 (9-16 มี.ค.) Nuoro
วันที่ 10 (17 มี.ค.) เดินทางกลับกรุงเทพ

ทั้งหมด 10 วัน เดี๋ยวแบ่งโพสต์เป็น 10 ความเห็นนะคะ

รูปมาจาก iPhone6 นะคะ ซึ่งรูปทั้งหมดนี้ไม่ได้ปรับแต่งรูปอะไรเลยค่ะ ทำไม่เป็น T T” resize เป็นอย่างเดียว

* การออกเสียงภาษาอิตาลีในกระทู้ เราพิมพ์ตามความเคยชินของเรานะคะ อาจจะสำเนียงบ้านนอกไปนิด ขออภัยล่วงหน้า แฮ่

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่