*****คำเตือน รูปอาหารในกระทู้นี้มีผลแต่ความหิว และให้ผลรุนแรงเป็นพิเศษหลัง 22.00 น. และบอบบางต่อกะเพราะอาหารของคนกลังไดเอท คนจิตไม่แข็งต่ออาหารควรได้รับคำแนะนำ*****

คราวก่อนข้าพเจ้าไปเที่ยวเกาหลีและกินหนักมาก ได้บันทึกลงกระทู้ไว้เป็นลายลักษณ์อักษร

Korea Let's Eat : เที่ยวคนเดียว กินคนเดียว เกาหลีแบบขี้เกียจ สิ้นเปลือง และอิ่มม้ากกกกกกกก
http://ppantip.com/topic/34038620

[CR][SR]Korea Let's Eat MORE : ภาค 2 เที่ยวคนเดียว กินคนเดียว เกาหลีแบบขี้เกียจ สิ้นเปลือง และอิ่มม้ากกกกกกกก
http://ppantip.com/topic/34050708

คราวนี้ข้าพเจ้าไปญี่ปุ่นและกินหนักไม่แพ้กัน แต่ก่อนเริ่มกินขออธิบายความ SR CR มาก่อน ณ โอกาสนี้

SR – สำหรับค่าตั๋วเครื่องบิน + ค่าโรงแรม ค่ากิน ค่ารถไฟ ในวันที่ 4 5 6 เนื่องจากไปชนะแคมเปญมา รวมถึง S7 โทรศัพท์มือถือที่หยิบยืมซัมซุงไป แต่ไม่ได้ตังค์จากทั้งสองฝั่งแต่อย่างใด
CR – สำหรับค่าโรงแรม ค่ากิน ค่ารถไฟ ค่าแท็กซี่ ค่าทั้งหมดที่ดูแลตัวเอง ในวันที่ 1 2 3

เริ่มละนะ



เหมือนรอบที่แล้ว...ข้าพเจ้าไปฟรี รอบที่แล้วฟรีเพราะบริษัทส่งไปทำงานเลยแอบเที่ยวเองไปสามวัน คราวนี้ชนะแคมเปญของการท่องเที่ยวโตเกียวที่จำไม่ได้ว่าสมัครยังไงและเมื่อไหร่ แต่ได้ไปฟรีแบบงงๆ เค้าพาเที่ยวสามวันเลยขอไปเองล่วงหน้าและทำการเที่ยวเอง 3 วัน เป็นที่มาของการ CR ณ จุดนี้ ขอขอบคุณแฟนเพจ Tokyo Fan Club มา ณ จุดนี้

รอบนี้ก็คล้ายรอบที่แล้วตรงที่ข้าพเจ้าเที่ยวแบบอิ่มมากกกก ขี้เกียจมากกกก สิ้นเปลืองมากกกก จิงๆเราไม่ได้รวยนะ แต่ว่าเที่ยวทั้งทีเราไม่ต้องการความลำบากไง การพักร้อนควรมาพร้อมความสบาย เราเลยไม่วางแผนอะไรทั้งนั้นนอกจากลิสต์รายชื่ออาหารที่อยากกิน (“เฮ้ย..มันถูกต้องแล้วหรอวะ” จิตใต้สำนึกลึกๆ กล่าว แต่เนื่องจากมันอยู่ลึกมาก ข้าพเจ้าเลยไม่ฟัง )

การเตรียมตัวล่วงหน้าอย่างเดียวที่เรามี ก็คือการจองโรงแรม โดยข้าพเจ้าเลือกมาอย่างดีว่าจะนอนให้ใกล้ตลาดปลาซึกิจิมากที่สุดเท่าที่ทำได้ เพราะจะได้เดินไปกินปลาได้สะดวกๆ หาไปหามาตัวเลือกที่ดีที่สุดคือ Airbnb ที่ทำให้ได้ห้องกว้าง(สำหรับญี่ปุ่นก็ถือว่ากว้างแหละ) มีที่นอนสำหรับสี่คน มีครัว มีห้องน้ำในตัว มีอ่างอาบน้ำ มีระเบียง โอ้ยฟินสุด เดินจากรถไฟใช้เวลาประมาณ 8 นาที (รูปมาจาก airbnb นะก๊ะ)



มาถึงวันแรกในไฟลต์เช้า ข้าพเจ้าก็เริ่มทริปขี้เกียจด้วยการจ่ายตังค์เพิ่มเพื่อเช็คอินตั้งแต่เช้า แล้วเข้าห้องไปเอ่อ..นอน..นอนตั้งแต่เก้าโมงเช้ายันบ่ายโมง ค่ะ..ใช้เวลาเที่ยวได้คุ้มค่ามาก พอนอนพอใจก็ค่อยๆอาบน้ำ แต่งหน้า แล้วก็ออกหากิน

Afuri Ramen
https://goo.gl/7pGL0p

ขุ่นพี่สาว...ผู้ไปร่ำเรียนที่ญี่ปุ่นมาเป็นเวลา 5 ปี กล่าวว่าถ้าอยากกินราเมงจงมาลองร้านนี้

Afuri ไม่ได้เป็นราเมงทีวีแชมเปี้ยน (อันนั้นที่ไทยก็มี) ไม่ได้มีหมูละลายในปาก (อันนั้นที่ไทยก็มี) ไม่ได้มี..โอ้ยพอ!!.. เอาเป็นว่าที่ไทยมีร้านราเมงให้เลือกลองกินมากมาย ในเมื่อเวลามีน้อยก็จงเลือกในสิ่งแปลกใหม่ นั่นคือสาเหตุที่เรามาที่นี่ เพื่อจานนี้



Yuzu Shio Ramen
แม่น้องสาว เจ้าช่างน่ารับประทาน

แม่นางยูซึชิโอะราเมงเป็นราเมงเกลือเจือกลิ่นและรสส้มยูซึ



คือข้าพเจ้าเชื่อว่ามีคนที่ชอบกินราเมงเยอะแหละ แต่ราเมงอร่อยๆบางร้านต่อให้ลดมันยังไงก็ยังมันมาก ประหนึ่งน้ำซุปทำจากหมูสามชั้นที่เคี่ยวจนน้ำมันออกมาเป็นน้ำซุปรสหมู

แต่ปัญหานี้จะหมดไป เมื่อคุณโทร...เอ่อ..เมื่อคุณไปกินราเมงชามนี้ แม้จะชื่อว่าราเมงเกลือ แต่น้ำซุปไก่ก็กลมกล่อมแถมยังหอมกลิ่นส้มยูซึที่ตัดเลี่ยนได้มากโข หมูชาชูย่างมากำลังดี ไข่ก็ข้นหวาน เพิ่มหน่อไม้แบบที่ชอบไปก็ยิ่งฟิน ถือเป็นมิติใหม่ของการชิมราเมง ยิ่งกับสาวๆ ก็น่าจะยิ่งชอบ ยิ่งสาวบอบบาง(?)ผู้ชื่นชมส้มยูซึอย่างข้าพเจ้าก็ยิ่งชอบ ถือเป็นการผสมผสานระหว่างความเข้มแข็งของซุปไก่กับความหอมหวานของยูซึอย่างลงตัว (ว่าไปนั่น)

สรุปคือ...เป็นที่แนะนำด้วยประการทั้งปวง

ป.ล.

- ไม่เหมาะกับสายน้ำซุปไขมันหมูสามชั้นเข้มข้น และหมูสามชั้นยังไม่ถึงขั้นฟินจะบ้าตายละลายในปาก
- ราคา ชามละ 900 กว่าๆเยน ไม่รวมท้อปปิ้ง
- เดินเข้าไปจงกดเลือกสิ่งอยากกินจากตู้สั่ง โดยใส่เงินเข้าไปก่อนกดสั่ง ตู้ มีภาษาอังกฤษและรูปสั่งไม่ยาก