เขาเย็น เส้นทางเดินป่าที่เปิดใหม่ของอุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า จ.กำแพงเพชร โดยทริปเดินขึ้นยอดเขาเย็นต้องใช้เวลา 3 วัน 2 คืน
และเนื่องด้วยทางคณะแก๊งของเราไม่สามารถจองได้ตรงกับวันหยุด 1 วัน จึงจำต้องลาป่วยสำหรับการมาลุยเขาครั้งนี้ เอาเป็นว่าเริ่มกันเลยดีกว่า...
ทริปนี้เริ่มเดินตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2559 ถึง 13 มีนาคม 2559 และเริ่มเดินทางออกจาก กทม ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2559 หลังเลิกงาน
และเดินทางโดยการเหมารถตู้
เมื่อมาถึงอุทยานคลองวังเจ้าเวลาราวๆตี 2 ตี 3 ก็นอนเอาแรงกันก่อน
ตื่นเช้ามาในอุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า
หมอกจางๆหรือควัน (ควันแน่นอน)
พระอาทิตย์ตอนเช้าในอุทยาน
หลังจากที่ตื่นมาทำธุระส่วนตัวหรืออะไรกันเรียบร้อยก็ได้ออกไปหาเสบียง(รวมอาหารกลางวัน)แถวๆสี่แยกก่อนเข้าอุทยานเข้ามา
สีแยก
หลังจากที่เก็บเสบียงกินข้าวอะไรเรียบร้อยแล้ว ก็กลับเข้ามาอุทยานเพื่อเตรียมตัวไปขึ้นเขา
และทางทริปมีสมาชิกทั้งหมด 10 คน โดยค่าใช้จ่ายจะเป็นราคาเหมาตกหัวละ 1000 บาท รวมค่าเจ้าหน้าที่นำทาง ลูกหาบ และรถ
และรถก็เริ่มออกเดินทางประมาณเกือบๆ 9 โมงครึ่ง
นั่งหน้าหรือหลังก็มีความทุกข์ที่เหมือนๆกัน
สะพานแบบนี้มีอยู่หลายจุดความหวาดเสียวก็จะต่างกัน
มอ...
ระหว่างนั่งรถก็จะเจอเห็นได้ชัดเลยว่าทริปนี้ได้ฝ่าควันเดินขึ้นดอยแน่
ผ่านหมู่บ้านชาวเขา...
ไปเรื่อยๆจนถึงจุดเดินเท้าเกือบๆตอนเที่ยงโดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งสำหรับนั่งรถ
พอเริ่มเดินแล้วช่วงแรกก็เดินชิวๆไปเรื่อยๆ
ก็จะถึงลำธารแรก ถ้ามาช่วงปลายหนาวหรือที่ไม่ใช่ฤดูแล้งจัดตรงนี้ได้ลุยแน่นอน
จากลำธารแรกไม่ไกลก็มาถึงลำธารที่สองแต่น้ำไม่ค่อยมี ลูกหาบที่เดินมาล่วงหน้าต้มกาแฟกินรอ
หลังจากลำธารที่สองนี้ เส้นทางก็จะเป็นขึ้นอย่างเดียวจนกว่าจะถึงที่พัก
ขึ้นขึ้นและขึ้นไปเรื่อยๆ พอพ้นช่วงป่าก็จะเป็นสันเขาโล่งๆรับลมโชยๆที่พัดตลอดเวลา
ใกล้จะถึงแล้ว
แล้วก็ถึงที่พักคืนแรกจนได้ ใช้เวลาเดินประมาณเกือบๆ 4 ชั่วโมง เดินแบบไม่รีบด้วยนะครับ
ณ ที่พักจะเห็นวิวและทิวเขาแต่ว่าวันนี้ควันจากไฟป่ามีมากเลยทำให้ไม่ค่อยจะเห็นอะไรเลย
ใกล้ๆที่พักก็จะมีตาน้ำ ที่ผลิตน้ำดื่มตราเขาเย็นของแท้ไม่มีตะกอนอยู่
เหยี่ยวร่อนลมที่ไกลมากๆจากที่เห็นตรงที่พัก
สำหรับวันแรกก็คงจบเพียงเท่านี้ เดินชิวดีนะครับทริปนี้ ที่เหลือก็ทานอาหารทำธุระส่วนตัวแล้วก็ตัวใครตัวมัน
ตื่นขึ้นมาส่องทางช้างเผือกเวลาประมาณเกือบๆตี 4 และเห็นแสงสีแดงมาจากหลายทิศทางนั้นคือไฟป่าแน่นอน
แค่ออกมาส่องช้างยังน้ำตาไหลเพราะควันไฟป่าและลมที่พัดตลอดเวลาทำให้หนาวสั่นอีก เลยทำให้ทางช้างเผือกเบลอ (รําไม่ดี โทษปี่โทษกลอง )
เช้าวันที่สองตื่นมาดูชมพระอาทิตย์ และก็พบว่าควันได้จางลงบ้าง
ทิวเขาที่นี้สวยดี หากว่ามาพบเจอกับทะเลหมอกสวยๆช่วงปลายหนาวคงจะสวยไม่แพ้ที่อื่นๆ
นกยอดหญ้าดำ
หลังจากชมพระอาทิตย์กันเรียบร้อยก็ทำธุระเก็บข้าวของสำหรับเดินไปยอดเขาเย็น 1800
( เขาเย็นมี 2 เส้นทางคือยอด 1800 และ 1900 โดยยอด 1900 จะโหดกว่าตามที่เจ้าหน้าที่บอกมา )
เริ่มเดินประมาณ 9 โมงนิดๆ โดยเริ่มเดินขึ้นตรงนี้
ต้นไม้ต้นนี้ที่ใครๆก็มาถ่ายรูปกัน
หันหลังกลับมาก็จะเห็นตามภาพ
สังเกตุว่าตั้งแต่ที่พักคืนแรกเป็นต้นมาต้นไม้ส่วนมากก็ห่มผ้าซึ่งบ่งบอกว่าที่นี้เย็นทั้งปี
ดอกเอื้องดอย
ช่วงเดินทางระหว่างที่พักคืนแรกกับยอด 1800 (ที่พักคืนสอง) จะมีดอกไม้ต่างๆออกมากมายรวมถึงกุหลาบพันปีที่ออกเดือนกุมพา ( เจ้าหน้าที่ได้กล่าวไว้ ) สำหรับทริปนี้กุหลาบร่วงหมดแล้ว
เส้นทางเดินก็จะขึ้นตลอดไปเรื่อยๆจนถึงที่พัก แต่ว่ายิ่งเดินขึ้นมาสูงอากาศยิ่งเย็นและลมพัดตลอด
เดินไปเรื่อยๆแบบไม่ต้องรีบ แวะถ่ายรูปแวะพักแวะดื่มน้ำแวะข้างทาง ไม่ต้องรีบ
เห็นที่พักแล้ว ตรงเว้าๆระหว่างเขา
ก้อนหินที่ใครๆก็ปีนขึ้นไปเพื่อประกาศชัยชนะ ( หากคิดจะขึ้นระวังด้วยหินไม่มั่นคง )
ณ ที่พักจุดนี้เลือกเอาครับจะนอนฝั่งไหนระหว่าง ตาก(ซ้าย) กำแพงเพชร (ขวา)
วิวฝั่งตาก ( เขตรักษาพันธุ์ป่าอุ้มผาง )
เวลาที่ใช้เดินจากที่พักจุดแรกมายังจุดที่สองใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แบบไม่รีบ
หลังจากที่กางเต้นท์ทำอะไรเป็นที่เรียบร้อยก็ต้องหาอะไรมาฆ่าเวลาจนกว่าจะถึงตอนเย็น
ส่องนกระหว่างฆ่าเวลาถ่ายยากมาก
ก่อนพระอาทิตย์จะตกดินก็ได้เดินไปสำรวจเนินเขาใกล้ๆปรากฏว่าทางส่วนมากรกไม่เหมาะแก่การชมพระอาทิตย์ขึ้น
หลังจากนั้นก็กลับไปที่พักและทำกับข้าวรอชมพระอาทิตย์ตก
แกงหยวกทีเด็ดของทริปนี้เลยฝีมือเจ้าหน้าที่และลูกหาบ
พระอาทิตย์ตกฝั่งตาก
ตื่นตอนเกือบๆตีสี่เพื่อมาส่องช้างอีกรอบ
ในทิศที่ไร้ช้าง
เช้าวันที่สาม วันนี้มีแค่ดูพระอาทิตย์ขึ้นและเก็บข้าวของลงดอยกลับ กทม ไปพบโลกแห่งออฟฟิตเหมือนเดิม
พระอาทิตย์ขึ้น
หลังจากนั้นก็ทำธุระเก็บข้าวของลงดอยประมาณ 8 โมงครึ่ง ถึงจุดเริ่มเดินเท้าประมาณ 11 โมงครึ่ง
จุดเริ่มเดิน
นั่งรถกลับทางเดิมเพิ่มเติมคือความเหนื่อย
มีทุ่งดอกหอมด้วย ระหว่างทาง
หลังจากที่กลับถึงอุทยานก็ได้รับในประกาศผู้พิชิตเขาเย็นคนละใบเผื่อใครสนใจจะเอาไปสมัครงาน
และทริปนี้ก็จบเพียงเท่านี้ละครับ เก็บข้าวของกลับ กทม แล้วไปนั่งตากแอร์ในออฟฟิตเหมือนเดิม
สรุป
ทริป 3 วัน 2 คืน ค่าใช้จ่ายสำหรับเขาเย็นหลักๆก็หัวละ 1000 บาท ส่วนที่เหลือก็แล้วแต่ค่าอาหารกับเดินทางของแต่ละคน
เขาเย็นถือว่าเป็นเส้นทางเดินป่าที่ไม่ค่อยหนักหนาเท่าไหร่ เดินสบายๆไม่ต้องรีบ ( สำหรับยอด 1800 ) และบนยอดเขาก็เย็นสมชื่อของมันแน่นอนถึงแม้ว่าทริปนี้จะมาช่วงอากาศร้อน
สำหรับระยะเวลาในการเดิน
วันแรก เดินประมาณ 4 ชั่วโมง
วันที่สอง เดินประมาณ 2 ชั่วโมง
วันที่สาม ( ลงรวดเดียว ) เดินประมาณ 2 ชั่วโมง
fb :
https://www.facebook.com/iamvisitorpage/
website :
http://iamvisitor.com/
ปล. ผิดพลาดประการใดขออภัย มีอะไรแนะนำติชมกันได้ครับจะได้ปรับปรุงขอบคุณครับ
[CR] ลาป่วยไปขึ้นเขาเย็น (ขี้ข้าพาเที่ยว)
และเนื่องด้วยทางคณะแก๊งของเราไม่สามารถจองได้ตรงกับวันหยุด 1 วัน จึงจำต้องลาป่วยสำหรับการมาลุยเขาครั้งนี้ เอาเป็นว่าเริ่มกันเลยดีกว่า...
และเดินทางโดยการเหมารถตู้
เมื่อมาถึงอุทยานคลองวังเจ้าเวลาราวๆตี 2 ตี 3 ก็นอนเอาแรงกันก่อน
ตื่นเช้ามาในอุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า
หมอกจางๆหรือควัน (ควันแน่นอน)
พระอาทิตย์ตอนเช้าในอุทยาน
สีแยก
และทางทริปมีสมาชิกทั้งหมด 10 คน โดยค่าใช้จ่ายจะเป็นราคาเหมาตกหัวละ 1000 บาท รวมค่าเจ้าหน้าที่นำทาง ลูกหาบ และรถ
และรถก็เริ่มออกเดินทางประมาณเกือบๆ 9 โมงครึ่ง
นั่งหน้าหรือหลังก็มีความทุกข์ที่เหมือนๆกัน
สะพานแบบนี้มีอยู่หลายจุดความหวาดเสียวก็จะต่างกัน
มอ...
ระหว่างนั่งรถก็จะเจอเห็นได้ชัดเลยว่าทริปนี้ได้ฝ่าควันเดินขึ้นดอยแน่
ผ่านหมู่บ้านชาวเขา...
ไปเรื่อยๆจนถึงจุดเดินเท้าเกือบๆตอนเที่ยงโดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งสำหรับนั่งรถ
พอเริ่มเดินแล้วช่วงแรกก็เดินชิวๆไปเรื่อยๆ
ก็จะถึงลำธารแรก ถ้ามาช่วงปลายหนาวหรือที่ไม่ใช่ฤดูแล้งจัดตรงนี้ได้ลุยแน่นอน
จากลำธารแรกไม่ไกลก็มาถึงลำธารที่สองแต่น้ำไม่ค่อยมี ลูกหาบที่เดินมาล่วงหน้าต้มกาแฟกินรอ
หลังจากลำธารที่สองนี้ เส้นทางก็จะเป็นขึ้นอย่างเดียวจนกว่าจะถึงที่พัก
ขึ้นขึ้นและขึ้นไปเรื่อยๆ พอพ้นช่วงป่าก็จะเป็นสันเขาโล่งๆรับลมโชยๆที่พัดตลอดเวลา
ใกล้จะถึงแล้ว
แล้วก็ถึงที่พักคืนแรกจนได้ ใช้เวลาเดินประมาณเกือบๆ 4 ชั่วโมง เดินแบบไม่รีบด้วยนะครับ
ณ ที่พักจะเห็นวิวและทิวเขาแต่ว่าวันนี้ควันจากไฟป่ามีมากเลยทำให้ไม่ค่อยจะเห็นอะไรเลย
ใกล้ๆที่พักก็จะมีตาน้ำ ที่ผลิตน้ำดื่มตราเขาเย็นของแท้ไม่มีตะกอนอยู่
เหยี่ยวร่อนลมที่ไกลมากๆจากที่เห็นตรงที่พัก
สำหรับวันแรกก็คงจบเพียงเท่านี้ เดินชิวดีนะครับทริปนี้ ที่เหลือก็ทานอาหารทำธุระส่วนตัวแล้วก็ตัวใครตัวมัน
ตื่นขึ้นมาส่องทางช้างเผือกเวลาประมาณเกือบๆตี 4 และเห็นแสงสีแดงมาจากหลายทิศทางนั้นคือไฟป่าแน่นอน
แค่ออกมาส่องช้างยังน้ำตาไหลเพราะควันไฟป่าและลมที่พัดตลอดเวลาทำให้หนาวสั่นอีก เลยทำให้ทางช้างเผือกเบลอ (รําไม่ดี โทษปี่โทษกลอง )
เช้าวันที่สองตื่นมาดูชมพระอาทิตย์ และก็พบว่าควันได้จางลงบ้าง
ทิวเขาที่นี้สวยดี หากว่ามาพบเจอกับทะเลหมอกสวยๆช่วงปลายหนาวคงจะสวยไม่แพ้ที่อื่นๆ
นกยอดหญ้าดำ
หลังจากชมพระอาทิตย์กันเรียบร้อยก็ทำธุระเก็บข้าวของสำหรับเดินไปยอดเขาเย็น 1800
( เขาเย็นมี 2 เส้นทางคือยอด 1800 และ 1900 โดยยอด 1900 จะโหดกว่าตามที่เจ้าหน้าที่บอกมา )
เริ่มเดินประมาณ 9 โมงนิดๆ โดยเริ่มเดินขึ้นตรงนี้
ต้นไม้ต้นนี้ที่ใครๆก็มาถ่ายรูปกัน
หันหลังกลับมาก็จะเห็นตามภาพ
สังเกตุว่าตั้งแต่ที่พักคืนแรกเป็นต้นมาต้นไม้ส่วนมากก็ห่มผ้าซึ่งบ่งบอกว่าที่นี้เย็นทั้งปี
ดอกเอื้องดอย
ช่วงเดินทางระหว่างที่พักคืนแรกกับยอด 1800 (ที่พักคืนสอง) จะมีดอกไม้ต่างๆออกมากมายรวมถึงกุหลาบพันปีที่ออกเดือนกุมพา ( เจ้าหน้าที่ได้กล่าวไว้ ) สำหรับทริปนี้กุหลาบร่วงหมดแล้ว
เส้นทางเดินก็จะขึ้นตลอดไปเรื่อยๆจนถึงที่พัก แต่ว่ายิ่งเดินขึ้นมาสูงอากาศยิ่งเย็นและลมพัดตลอด
เดินไปเรื่อยๆแบบไม่ต้องรีบ แวะถ่ายรูปแวะพักแวะดื่มน้ำแวะข้างทาง ไม่ต้องรีบ
เห็นที่พักแล้ว ตรงเว้าๆระหว่างเขา
ก้อนหินที่ใครๆก็ปีนขึ้นไปเพื่อประกาศชัยชนะ ( หากคิดจะขึ้นระวังด้วยหินไม่มั่นคง )
ณ ที่พักจุดนี้เลือกเอาครับจะนอนฝั่งไหนระหว่าง ตาก(ซ้าย) กำแพงเพชร (ขวา)
วิวฝั่งตาก ( เขตรักษาพันธุ์ป่าอุ้มผาง )
เวลาที่ใช้เดินจากที่พักจุดแรกมายังจุดที่สองใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แบบไม่รีบ
หลังจากที่กางเต้นท์ทำอะไรเป็นที่เรียบร้อยก็ต้องหาอะไรมาฆ่าเวลาจนกว่าจะถึงตอนเย็น
ส่องนกระหว่างฆ่าเวลาถ่ายยากมาก
ก่อนพระอาทิตย์จะตกดินก็ได้เดินไปสำรวจเนินเขาใกล้ๆปรากฏว่าทางส่วนมากรกไม่เหมาะแก่การชมพระอาทิตย์ขึ้น
หลังจากนั้นก็กลับไปที่พักและทำกับข้าวรอชมพระอาทิตย์ตก
แกงหยวกทีเด็ดของทริปนี้เลยฝีมือเจ้าหน้าที่และลูกหาบ
พระอาทิตย์ตกฝั่งตาก
ตื่นตอนเกือบๆตีสี่เพื่อมาส่องช้างอีกรอบ
ในทิศที่ไร้ช้าง
เช้าวันที่สาม วันนี้มีแค่ดูพระอาทิตย์ขึ้นและเก็บข้าวของลงดอยกลับ กทม ไปพบโลกแห่งออฟฟิตเหมือนเดิม
พระอาทิตย์ขึ้น
หลังจากนั้นก็ทำธุระเก็บข้าวของลงดอยประมาณ 8 โมงครึ่ง ถึงจุดเริ่มเดินเท้าประมาณ 11 โมงครึ่ง
จุดเริ่มเดิน
นั่งรถกลับทางเดิมเพิ่มเติมคือความเหนื่อย
มีทุ่งดอกหอมด้วย ระหว่างทาง
หลังจากที่กลับถึงอุทยานก็ได้รับในประกาศผู้พิชิตเขาเย็นคนละใบเผื่อใครสนใจจะเอาไปสมัครงาน
และทริปนี้ก็จบเพียงเท่านี้ละครับ เก็บข้าวของกลับ กทม แล้วไปนั่งตากแอร์ในออฟฟิตเหมือนเดิม
สรุป
ทริป 3 วัน 2 คืน ค่าใช้จ่ายสำหรับเขาเย็นหลักๆก็หัวละ 1000 บาท ส่วนที่เหลือก็แล้วแต่ค่าอาหารกับเดินทางของแต่ละคน
เขาเย็นถือว่าเป็นเส้นทางเดินป่าที่ไม่ค่อยหนักหนาเท่าไหร่ เดินสบายๆไม่ต้องรีบ ( สำหรับยอด 1800 ) และบนยอดเขาก็เย็นสมชื่อของมันแน่นอนถึงแม้ว่าทริปนี้จะมาช่วงอากาศร้อน
สำหรับระยะเวลาในการเดิน
วันแรก เดินประมาณ 4 ชั่วโมง
วันที่สอง เดินประมาณ 2 ชั่วโมง
วันที่สาม ( ลงรวดเดียว ) เดินประมาณ 2 ชั่วโมง
fb : https://www.facebook.com/iamvisitorpage/
website : http://iamvisitor.com/
ปล. ผิดพลาดประการใดขออภัย มีอะไรแนะนำติชมกันได้ครับจะได้ปรับปรุงขอบคุณครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น