ตรอ.(ตรวจสภาพรถเอกชน) เปลี่ยนไป ดูแลเราเป็นพิเศษเลย วันนี้

วันนี้ เอารถมอไซค์ ไปตรวจสภาพที่ ตรอ.  เพื่อจะไปขอต่อทะเบียน
เลี้ยวเข้าปุ๊ป โห! โล่งเลยแฮ่ะ ดีๆ ว่างแบบนี้ไม่ต้องรอคิวให้เสียเวลา
คือ มีเราคันเดียว ที่มาตรวจสภาพ ณ. ตอนนี้
ปกติ ทุกปีที่เคยไปตรวจ พี่แกก็จะเอาเทปกาวหนังไก่ มาขูดเลขเครื่อง เลขตัวถัง
แล้วก็ไปเขียนใบ รับเงินค่าตรวจ 60 บาท จบ



แต่ วันนี้ มาแปลก แฮ่ะ!
พนักงาน ตรอ.ทำไม่เยอะจัง  4 คนมารุมตรวจรถเรา
1 คนขึ้นนั่ง สตาร์ทรถ เปิดไฟเลี้ยวซ้ายที ขวาที  1คนอยู่หน้า 1คนอยู่หลัง
ปากก็ตะโกน ซ้ายหลังติด ซ้ายหน้าติด ขวาหน้าติด ขวาหลังติด ไฟเบรคติด
ยัง ยัง ไม่หมดแค่นั้น ระหว่างที่ 3 คนกำลัง ตรวจสอบระบบไฟ คนที่ 4 ก็
กุลี กุจอ ไปขนสารพัดเครื่องมือออกมา

เฮ้ย! นี่รถเราสภาพมันไม่น่าไว้วางใจ ขนาดนั้นเลยหรอว่ะเนี่ยะ! (ผมนึกในใจน่ะ)

เครื่องมือวัด เดซิเบล เสียงท่อไอเสียก็มา
เครื่องมือวัด ค่า การปล่อยมลพิษ ก็มา


ณ.ตอนนี้รถมอไซค์เรายังสตาร์ทติดเครื่องยนต์อยู่น่ะ
(ดีที่เพิ่งไปเติมน้ำมันมาน่ะพี่เล่น ติดเครื่องผมซ่ะเกือบครึ่ง ชม.)

หลังจากตรวจระบบไฟเสร็จ พนง.ตรอ. ก็ยัดสายยาวๆของเครื่องมืออะไรสักอย่างเข้าไปในท่อไอเสีย
อีกคนที่นั่งคร่อมตั้งแต่ที่แรกก็เบิ้ล เบรื้อนน.. เบรื้อนน..เบรื้อนนนนนนน
มีเสียงตะโกนมา. จากใครสักคนในกลุ่มนั้น

เฮ้ย! เอ็งตรวจกันแบบนี้หรอหว่ะเนี่ยะ ไม่ต้องเร่งขนาดนั้น เครื่องมือไม่มีหรือไง ไปเอามา
พนง.ตรอ. งง เครื่องมืออะไรครับ
ที่นี้ไม่มีหรอ เครื่องตรวจวัดรอบเครื่องยนต์น่ะ
มีครับ ๆ


ตั้งแต่ได้ยินเสีย เฮ้ย! (ผมก็เริ่มหาจุดสังเกตุ แระ คนกลุ่มนี้เป็นใครกันน่ะ)
คนที่ตะโกนเสียงดัง ที่ป้ายห้อยคอ มีตราสัญลักษณ์ กรมขนส่งฯ
อ๋อ! จนท.จากกรมฯ เขามาตรวจมาตราฐาน ของ ตรอ. นั้นเอง (ตอนแรกเดาเอา พอตรวจเสร็จก็ไปถามพี่เขาเลย)


คู่มือการตรวจน่ะมีไหม ไปเอามาดู ต้องวัดที่รอบเครื่องยนต์เท่าไหร่? (เสียง จนท. แนะนำ วิศวะกรผู้ควบคุม ตรอ.)
รถจดทะเบียนปีอะไร ค่ามาตราฐานต้องเป็นเท่าไหร่ เทียบ กับที่วัดได้

สักพัก เครื่อมมีวัดวามสว่างของหลอดไฟหน้ารถ ก็มา
(รถผมยังติดเครื่องอยู่น่ะ) พนง.ตรอ. ก็เอาเครื่องมือนั้น ตั้งทีหน้ารถ แล้วก็วัด
เจ้าหน้าที่ ตะโกนมาอีกแระ เฮ้ย! ไม่ถูก เอ็งต้อง วัดก่อนว่าเครื่องมือต้องมีความสูง และระยะห่างในการวัดเท่าไหร่

หลังจากตรวจทุกอย่างเสร็จ พนง.ตรอ.ก็เข็นมอไซค์เรา ไปชิดด้านซ้าย
จนท.ขนส่ง  เอ้ย! ตั้งรถให้ตรง และอยู่กึ่งกลาง ของกรอบทีตีเส้นไว้หน่อยสิ

ตอนหลังผมจึงถามว่า พนง.ตรอ.ว่าไอ้จุดสุดท้ายมันคืออะไรครับ เห็นเข็นรถเข้าไป แล้วก็ไม่ทำอะไร แล้วก็เข็นออกมา
ได้คำตอบว่ามันคือ จุด ถ่ายรูปรถ ซึ้งต้องเห็นทะเบียนและตัวรถให้ชัดเจน เพื่อออนไลน์รูปไปยังขนส่ง ซึ่งต้องกรอกเลขที่ใบตรวจสภาพ
ลงไปด้วย เพื่อยืนยันว่าได้นำรถเขาตรวจจริง (ป้องกันพวกรับจ้างตรวจโดยไม่ได้นำรถมา)

สรุป ผมใช้เวลาในการตรวจสภาพรถครั้งนี้ เกือบครึ่ง ชม. เพราะ พนง. ทำผิดขั้นตอน จนท.ขนส่ง บอกก็ทำใหม่
ผิดๆ ถูกๆ อยู่แบบนั้นแหละ

ความเห็นส่วนตัวน่ะครับ ผมว่าตรวจแบบนี้ดีครับ
ถ้า พนง.ตรอ.มีความชำนาญในการใช้เครื่องมือ
และรู้ค่ามาตราฐานในการตรวจ คงทำให้เราเสียเวลาไม่นาน
แต่ส่วนรวม(ผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกัน)จะเกิดความปลอดภัย
(โดยส่วนตัวผมน่ะผมไม่ค่อยโอเคกับพวกรถ 7ที่นั่ง กับรถกระบะรุ่นใหม่ๆ
ที่เขาทำมาสูงๆ อ่ะ ไฟต่ำเขา ทำไม่ผมรู้สึกว่ามันเหมือนไฟสูงเลย สว่างจ้าไปยังดาวอังคาร แสบตาฟุดๆ)

ขอขอบคุณ จนท.จากรมขนส่ง ที่ดูแล เราเป็นอย่างดี แต่จะดีกว่านี้เยอะน่ะครับถ้าแอบมาดู หรือตั้งกล้องวีดีแบบเรียวไทม์
ออนไลน์ไปยัง ขนส่ง (คล้ายๆกับที่บังคับให้ รถบรรทุก ทุกคันต้องติด GPS และออนไลน์ไปยังขนส่ง)
เพื่อจะได้ดูว่าตรอ. ทำถูกขั้นตอนหรือเปล่า หรืออย่างน้อย ตรอ. ก็จะเกรงกลัวเพราะเหมือนถูกจับตา
ดูอยู่ตลอดเวลา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่