สวัสดีคร่า อยากมาแชร์ แบ่งปันประสบการณ์ พาลูกทัวร์ ลูกกรุ๊ป ลูกค้าไปกวางเจา กิน เที่ยว ช้อป แด๊นซ์ มึนๆเมาๆ แถมตื่นไปดูงานต่อ..... เอิ่มมม แบบว่า สุดพลังมากกคร่า ทริป 5 วัน 4 คืน งานนี้ขอบอกว่า ขาลากกกกก ใครที่เป็นขาลุย ตามมาเลยคร่า
เริ่มจาก ออกเดินทางจาก สนามบินสุวรรณภูมิ ไป สนามบินไป่หยิน กวางเจา ระยะเวลาเดินทาง ประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง
---->>> เราว๊าบบบ ไป ถึงสนามบินไป่หยิน กวางเจากันเลยละกันค่ะ
ถึงแล้ว......!!!! ช่วงที่ไปเป็นช่วงหลัง ตรุษจีน หรือประมาณ ปลายเดือนกุมภานะค่ะ อากาศจะเย็นๆ ไม่หนาวมาก ประมาณ 18-20 องศา แนะนำให้เอาเสื้อหนาวไปนะค่ะ บางวันลมแรง บางวันฝนตก เตรียมไว้ดีกว่าอากาศที่กวางเจาจะค่อนข้างชื้น เรียกว่า อากาศแบบนี้ เป็นหวัดง่ายมากๆ เด่วจะไม่สบายเอา
หลังจากเอากระเป๋าเสด ก้อเดินกันมาที่ด้านหน้าของประตูทางออก จะมีรถแอร์พอร์ต เอ็กเพรส รออยุ่ ที่ด้านซ้ายมือ รถจะแบ่งเป็นหลายๆสาย ต้องดูกันให้ดีๆนะค่ะ ว่าจอดที่ไหนบ้าง
ส่วนคนไหนที่อยากเรียกแท๊กซี่ต้องข้ามถนนไปอีกเลนนึง ถึงจะเรียกได้นะค่ะ ต้องเดินกันยาวหน่อย บางทีต้องต่อแถว จากในรูปจะเหน เลนรถยนต์ เลนแท๊กซี่ แบ่งอย่างนี้นะค่ะ เลนนอกสุดรถยนต์ แวะรับส่ง---》เลนกลาง เลนแทีกซี่ ---》 เลนในสุด เลนรถแอร์พอร์ต เอ็กเพรส
ค่าใช้จ่ายก้อไม่แพงนะค่ะ รถแอร์พอร์ต เอ็กเพรส ราคาประมาณ 15-25 หยวน แล้วแต่ระยะทาง จากในรูปพอเราเจอแล้วว่าเราจะเดินทางไปไหนขึ้นสายอะไรแล้ว เราก้อลากกระเป๋า เข้าไปต่อคิวกันเลยค่ะ พอรถมาถึง จะมีพนักงานขายตั๋วที่จะมีสายสะพายสีเหลือง จะเป็นคนเก็บค่ารถ เราบอกสถานีปลายทางเค้าจะคิดเงินตามระยะทางเลยค่ะ ส่วนกระเป๋าเดินทางวางใต้รถได้เลยค่ะ เค้าจะแปะสติ๊กเกอร์หมายเลขกระเป๋าไว้ให้เรา และให้สติ๊กเกอร์อีกแผ่นกับเรา เอาไว้เช็คตอนหยิบกระเป๋า ป้องกันการหยิบผิดไป ถ้าหากว่ามีของสำคัญ กระเป๋าใบเล็กสามารยกขึ้นได้ ก้อยกขึ้นรถเถอะค่ะ ด้วยความปรารถนาดี........
อ่อ รถแอร์พอร์ต เอ็กเพรส จะออกทุกๆครึ่ง ชม. นะค่ะ รอบรถจะมีตลอดทั้งวัน ตั้งแต่ ช่วง 6:30-22:00 โดยประมาณ ใครที่จะขึ้นรถแอร์พอร์ต เอ็กเพรส ก้อกะเวลากันดีๆนะค่ะ รถใช้เวลาเดินทาง จากสนามบินเข้าในเมืองประมาณ 1-2 ชม. เพราะต้องแวะจอด ตามสถานีต่างๆ
แล้วก้อ ใครที่มาถึงรอบดึก แนะนำเป็น รถไฟใต้ดิน ก้อสะดวกดีค่ะ ถูกด้วย แต่อาจจะต้องเปลี่ยน หลายสายหน่อย ส่วนตัวคิดว่าไม่ค่อยสะดวก ถ้ากระเป๋าเยอะ แต่ รถไฟใต้ดินจะปิดดึกกว่า น่าจะปิด ราวๆ 23:00- เที่ยงคืน ประมาณนั้น
.
.
.
ถึงโรงแรมก้อทำเรื่องเชคอิน เตรียมเอกสารการจองห้อง พร้อมกับหนังสือเดินทางให้พร้อม เพื่อง่ายและรวดเร็วต่อการเช็คอินนะค่ะ กรุ๊ปนี้ เราเดินทางกันทั้งหมด 23 คน ได้ค่ะ ที่บินมาวันเดียวกันแต่หลังจากนั้นก้อมี ตามมาทีหลังอีกหลายคนเหมือนกัน พี่ๆบางคนติดธุระ เลยตามมาวันรุ่งขึ้น วันไปและวันกลับมีไกด์ไปด้วย เรียกได้ว่าดูแลตลอดทริป
ลืมบอกไป ว่าพักที่โรงแรมกวางเจา หรือ กวางโจวปิงกว่าน Guangzhou Hotel ลงสถานี ไห่จูกว่างฉาง ไลน์ 5 นะค่ะ ค่ารถประมาณ 25 หยวน รถจะจอดข้างโรงแรมเลย ถือว่าสะดวกมากๆ แนะนำโรงแรมหาก ไม่ซีเรียสมาก ว่าต้อง4-5 ดาว โรงแรมนี้ก้อถือว่าโอเครเลย วิวสวยพอประมาณ ใกล้ริมแม่น้ำ ใกล้ที่ช้อปปิ้ง ตลาดของเล่นกิ๊ฟช้อปOnelink เดินทางสะดวกใกล้รถไฟใต้ดิน ใกล้ 7-11 อาจจะเก่าไปหน่อยแต่ก้อไม่ได้ถึงกับแย่ ราคาประมาณ 1800-2500 บาท แล้วแต่ช่วง
วิวโรงแรมก้อพอได้อยู่ เอาจิงๆพอถึงเวลาก้อหลับค่ะหลับ เพราะกลางวันเดินเยอะ ดูงานทั้งวัน กลางคืนกินเยอะ เที่ยวเยอะ กลับมาถึงห้อง คือเพลียมากกกกก
หากต้องการโรงแรมดีหน่อย 4ดาว ก้ออยากแนะนำโรงแรมด้านซ้ายมือจากในรูป โรงแรมแลนด์มาร์คแคนตัน หรือ ฮวาเซี่ยต้าจิ่วเตี่ยน Landmark Canton Hotel ราคาไม่แพงมาก ประมาณ 2500-3500 บาท แล้วแต่ช่วง ตัวโรงแรมจะอยุ่ใกล้แม่น้ำจูเจียง โรงแรมนี้มีของอร่อย ร้านติ่มซำชื่อดัง อยู่ที่ชั้นสองของโรงแรม แต่คนเยอะมากต้องรอคิวกันหน่อย
และยังใกล้ Club ชื่อดังของกวางเจา Hei Hei Club เดินเลยไปอีกหน่อยก้อมี ภัตตาคารทะเลชื่อดัง ที่ใครมาถึงกวางเจาแล้ว ต้องลองกันค่ะ อาหารทะเลสดๆ จะสดแค่ไหน เด่วตามมาดูข้างล่าง เราพาไปแน่นอน
.
.
.
วันที่ 2 ตื่นมาพร้อมลุยรึยังค่ะ นัดกัน 9:00 โมง ที่หน้าล็อบบี้ แต่ก้อตามเคยกรุ๊ปคนไทย เรทสิค่ะ ชิวๆ 9:30 ออกจากโรงแรม
ทานอาหารเช้ากัน ง่ายๆ เมืองนี้กินเหมือน ฮ่องกง มาเก๊า จะเป็น โจ๊ก ปาท่องโก๋ ก๋วยเตี๋ยวหลอด บะหมี่ หมั่นโถ น้ำเต้าหู้ (จะจืดกว่าและไม่เข้มข้นเท่าของไทย) มื้อแรก พามากินแบบLocal แบบคนพื้นที่ ถ้าเดินจากโรงแรมมา ก้อเดินไปทางซ้ายมือ เดินเลย 7-11 ตรงไปจะเจอร้านอาหารหลายร้าน ใครที่พูดจีนไม่ได้ ง่ายๆเลยค่ะ บอกเค้าไปเลยว่า โจ๊กๆๆ ภาษาเดียวกันเลย โจ๊ก ก้อคือ โจ๊ก หรือ โจว ถ้าใครอยากได้ เนื้อหมู ก้อ จูโหร่ว รวมกันคือ จูโหร่วโจว แปลว่า โจ๊กหมู อย่าลืมนะค่ะ คนจีนพูดภาษาอังกฤษ ได้น้อยมากๆ ยิ่งร้านอาหารทั่วไปแบบ Local บอกเรยว่า ภาษามือ นี่แหละค่ะ เดินไปชี้ๆเอา ง่ายสุด
พอกินเสร็จ ก้อเดินกลับมาทางโรงแรม ลงสถานีรถไฟใต้ดินค่ะ ซื้อตั๋วสถานี จะมีตู้กดเหรียญ ใช้ได้ แค่ แบงค์ 10,5,1 หรือเหรียญ เท่านั้นนะค่ะ
ซื้อไม่ยากค่ะ มีภาษาอังกฤษอยู่ แต่ดูสถานีดีๆนะค่ะ เผื่อมีการเปลี่ยนสาย เปลี่ยนไลน์ จะมึนพอสมควร เพราะคนจะเยอะมาก วิธีง่ายๆ เดินตามเค้าไปค่ะ
พอไปถึงอีกไลน์ แล้วค่อยดูว่าจะขึ้นฝั่งไหน แต่เราก้อควรศึกษาเส้นทางให้ดีก่อนนะค่ะ ถ้าเดินทางจาก โรงแรมไปงานแฟร์ ก้อไม่ยากค่ะ
จาก ไลน์ 2 ไป ไลน์ 8
สถานีไห่จูกว่างฉ่าง (ไลน์ 2) -สถานีชังกั่ง(เปลี่ยนไลน์) - สถานีผาโจว (ไลน์ 8)
พอเปลี่ยนไลน์แล้ว ก้อนั่งกันยาวๆเลยค่ะ อีกหลายสถานี ระหว่างนั้น ก้อคุยเล่น แซวกันสนุกสนาน
》
》
อย่าเม้าท์เพลินจนลืมลงนะค่ะ
สถานี Pazhou ผาโจว นะค่ะ เป็นสถานที่จัดแสดงงานแฟร์ ต่างๆ ซึ่งจะมีงานเกือบตลอดทั้งปี เหมือนเมืองทองบ้านเราเลย
แต่ว่า ใหญ่กว่ามากก ใครที่ว่าแน่ เดินอึด ยังมีเมื่อยค่ะ คอนเฟริม มีหลาย Hall มาก คือเยอะมากจิงๆ ใครจะดูสินค้าอะไร ก้อทำการบ้านกันมาหน่อยนะคะ จะได้ไม่เสียเวลาเดินวน เดินหา วันแรกๆ จะไม่เท่าไหร่ ชิวๆ พอวันใกล้ๆ กลับ รีบหากันใหญ่ แต่บางทีร่างกายก้อไม่ไหว เหนื่อยล้าสะสมมาหลายวัน
*** อยากแนะนำเพิ่มเติมอีกนิดนึงนะค่ะ เปนเทคนิค พิเศษเบาๆ ค่ะ ถ้าเราเดินทางไป-กลับด้วย รถไฟใต้ดิน คือสะดวกสุดแล้วในการเดินทางของที่นี่ ถึงแม้ฝูงชนจะมากมายก้อตาม ถือว่ารวดเร็ว และ ประหยัด ที่สุด เมื่อเราไปถึงสถานี ปลายทาง และเรามั่นใจว่า จะเดินทางกลับในตอนเย็นของวันนั้น เมื่อไปถึง ให้เราซื้อตั๋วรถ ขากลับไว้เลยค่ะ หยอดเหรียญซื้อไว้เลยค่ะ แล้วเก็บใส่กระเป๋าให้ดีๆ จนถึงช่วงเย็น เราก้อควักมาใช้ค่ะ
---》 เทคนิคนี้ อยากแชร์ เพราะขากลับ รอต่อแถว คนเปนล้าน ต่ำๆ มีรอครึ่ง ชม. ค่ะ แต่ต้องซื้อที่สถานีปลายทางเท่านั้นนะค่ะ คือ จะขึ้นจากสถานีไหน ซื้อที่สถานีนั้น ไม่งั้นเข้าไม่ได้ค่ะ แต่ ปลายทาง ออกที่ไหนก้อได้ สมมติ เราไม่รู้ว่า ตอนกลับจะแวะไปไหนรึป่าว ไม่เป้นไรค่ะ เราซื้อ ที่ราคา 5 หยวน เราสามารถออกได้ทุกสถานีที่ราคา 5 หยวน ถ้าค่ารถต่ำกว่าราคาที่เราซื้อออกได้แน่นอน ถ้าแพงกว่าออกไม่ได้ ไม่เปนไรค่ะ ง่ายๆ ไปที่ตู้ที่มีพนักงานค่ะ เค้าจะให้เราจ่ายเงินเพิ่ม ของส่วนต่าง ***
ใครที่เคยไปงานแฟร์มา คงจะนึกภาพออก ว่าต้องรอคิวยังไง ต่อแถวมั่วขนาดไหน ที่สำคัญ คนเยอะขนาดไหน แท๊กซี่ก้อเรียกยากมากกกก เพราะคนเยอะมาก ยิ่งบางที ไปหลายคน ขึ้นไม่ได้อีกเพราะเค้าจำกัดจำนวนผู้โดยสารนั่งได้ไม่เกิน 4 คน เทคนิคนี้ ดีที่สุด เมื่อรู้แล้ว คุณจะเดินไปขึ้นรถไฟใต้ดิน แบบชิวมากๆ แล้วจะรุ้สึกโชคดีเหลือเกิน ที่ไม่ต้องต่อคิว เบียดกับฝูงชน 5555+
.
.
.
พอมาถึงงาน ระหว่างรอซื้อตั๋วขากลับ ก้อแอบโปรโมท ชูป้ายงานกันนิดนึงค่ะ
งานที่พามาจะเปนงานเกี่ยวกับป้าย สื่อสิ่งพิมพ์ งานจอLED นะค่ะ
เป็นงานเฉพาะกลุ่ม อย่างที่บอกว่าที่นี่เค้ามีงานตลอดทั้งปี ประเภทงานก้อหลากหลาย
วันแรกแนะนำให้มาเช้าหน่อยนะค่ะ ไม่ว่าจะงานอะไรก้อตามถ้าเรายังไม่มีป้ายเข้างาน เพราะว่ารอต่อคิว Register นานมากกกกกก
คนจะเยอะมากกกกก
หลังจากที่ Register ได้บัตรเข้างานเรียบร้อย ก้อพร้อมลุยกันเลยค่ะ ถ่ายรูปก่อนแยกย้าย ถ้ามาเป็นกรุ๊ป 25 คน แบบที่เราพามา
อยากแนะนำให้ จ้างไกด์ 4-5 คน นะค่ะ คือ ไกด์ 1 คน ต่อ ลูกค้า 4-5 คน จะดูแลแทคแคร์ได้ทั่วถึง เพราะว่าถ้าคนเยอะ ไกด์จะมึนมากค่ะ
เพราะพอเดินเข้างานเจอสินค้าแปลกใหม่ ต่างคนต่างสนใจ ต่างอยากได้ข้อมูล ไกด์ถามแปล ไม่ทัน วิ่งหน้าวิ่งหลัง มึนค่ะมึน บางทีบอกตรงๆมีเบลอนะค่ะ พูดไทยสลับจีน หันมาพูดกับคนไทยภาษาจีน แบบลิ้นมันพันกันอ่ะ 555 ทั้ง
หลังจากนี้ทั้งวันคือเดิน และ เดิน และ เดินค่ะ
เดินดูงานกันเต็มๆ
ช่วงเที่ยงพักทานข้าวกันก่อน ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือ 11:30 นะค่ะ เพราะคนจะยังไม่เยอะมาก ไม่ต้องรอนาน และกับข้าวจะมีให้เลือกหลากหลาย แต่ถ้าใครมาช้าหน่อย ก้ออย่าเกินบ่าย 2 นะค่ะ ที่จีนเค้าปิดครัวกันแล้ว จะไม่มีตัวเลือกมากนัก เผลอๆข้าวหมด อดกินค่ะ
อย่างแรกที่มาถึงนะค่ะ หาโต๊ะนั่งก่อนเลยค่ะ แบ่งกลุ่มกันไป ให้คนนึงไปจองโต๊ะ คนที่เหลือไปเดินเลือกอาหาร เมนูแนะนำ ข้าวหมูแดงค่ะ หรือ ชาซาวฟ่าน 叉烧饭 รสชาติจะออกเค็มๆหวานๆ ถูกปากคนไทย แต่บางคนอาจจะอยากลองเมนูอื่น ก้อมี ข้าวไก่ผัดเผ็ด หรือ ล่าจื่อจีฟ่าน 辣子鸡饭 ，ข้าวมะเขือม่วงผัด หรือ เฉี่ยะจื่อฟ่าน 茄子饭 หรือใครจะใช้วิธีเดิม คือ แอบมองชาวบ้านแล้วชี้ๆ แบบอันนี้น่ากิน
ก้อชี้แล้วบอกเค้าไปว่า ชั้นชอบเค้า...！！！ 555 ม่ายช่ายละๆๆ
ชี้ๆ แล้วบอกว่า อันนี้ หรือ เจ้อเก้อๆ 这个 ， 1 หรือ อี 一 ， อัน หรือ เก้อ 个
พอทานข้าวเสร็จ ก้อถึงเวลาเดินค่ะเดิน เดินวนไปค่ะ วนไปค่ะ
ดูงานไปค่ะ วันแรก ตื่นตา ตื่นใจ ชาร์ตพลังมาเต็ม เดินไม่มีเหนื่อย เก็บรายละเอียด
เดินจนงานเลิก คือ 5-6 โมงเย็น แนะนำว่า ควรออกก่อนเวลานะค่ะ ซัก 5 โมงกำลังดี เพราะคนจะไม่เยอะมาก และ เรายังคงมีภารกิจต้องไป
ล่าท้าฝันกันต่อ ช่วงค่ำภารกิจรอเราอยู่..........
ไปกวางเจา กิน เที่ยว ช้อป แฮงค์เอ้าท์ แถมได้งาน
เริ่มจาก ออกเดินทางจาก สนามบินสุวรรณภูมิ ไป สนามบินไป่หยิน กวางเจา ระยะเวลาเดินทาง ประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง
---->>> เราว๊าบบบ ไป ถึงสนามบินไป่หยิน กวางเจากันเลยละกันค่ะ
ถึงแล้ว......!!!! ช่วงที่ไปเป็นช่วงหลัง ตรุษจีน หรือประมาณ ปลายเดือนกุมภานะค่ะ อากาศจะเย็นๆ ไม่หนาวมาก ประมาณ 18-20 องศา แนะนำให้เอาเสื้อหนาวไปนะค่ะ บางวันลมแรง บางวันฝนตก เตรียมไว้ดีกว่าอากาศที่กวางเจาจะค่อนข้างชื้น เรียกว่า อากาศแบบนี้ เป็นหวัดง่ายมากๆ เด่วจะไม่สบายเอา
หลังจากเอากระเป๋าเสด ก้อเดินกันมาที่ด้านหน้าของประตูทางออก จะมีรถแอร์พอร์ต เอ็กเพรส รออยุ่ ที่ด้านซ้ายมือ รถจะแบ่งเป็นหลายๆสาย ต้องดูกันให้ดีๆนะค่ะ ว่าจอดที่ไหนบ้าง
ส่วนคนไหนที่อยากเรียกแท๊กซี่ต้องข้ามถนนไปอีกเลนนึง ถึงจะเรียกได้นะค่ะ ต้องเดินกันยาวหน่อย บางทีต้องต่อแถว จากในรูปจะเหน เลนรถยนต์ เลนแท๊กซี่ แบ่งอย่างนี้นะค่ะ เลนนอกสุดรถยนต์ แวะรับส่ง---》เลนกลาง เลนแทีกซี่ ---》 เลนในสุด เลนรถแอร์พอร์ต เอ็กเพรส
ค่าใช้จ่ายก้อไม่แพงนะค่ะ รถแอร์พอร์ต เอ็กเพรส ราคาประมาณ 15-25 หยวน แล้วแต่ระยะทาง จากในรูปพอเราเจอแล้วว่าเราจะเดินทางไปไหนขึ้นสายอะไรแล้ว เราก้อลากกระเป๋า เข้าไปต่อคิวกันเลยค่ะ พอรถมาถึง จะมีพนักงานขายตั๋วที่จะมีสายสะพายสีเหลือง จะเป็นคนเก็บค่ารถ เราบอกสถานีปลายทางเค้าจะคิดเงินตามระยะทางเลยค่ะ ส่วนกระเป๋าเดินทางวางใต้รถได้เลยค่ะ เค้าจะแปะสติ๊กเกอร์หมายเลขกระเป๋าไว้ให้เรา และให้สติ๊กเกอร์อีกแผ่นกับเรา เอาไว้เช็คตอนหยิบกระเป๋า ป้องกันการหยิบผิดไป ถ้าหากว่ามีของสำคัญ กระเป๋าใบเล็กสามารยกขึ้นได้ ก้อยกขึ้นรถเถอะค่ะ ด้วยความปรารถนาดี........
อ่อ รถแอร์พอร์ต เอ็กเพรส จะออกทุกๆครึ่ง ชม. นะค่ะ รอบรถจะมีตลอดทั้งวัน ตั้งแต่ ช่วง 6:30-22:00 โดยประมาณ ใครที่จะขึ้นรถแอร์พอร์ต เอ็กเพรส ก้อกะเวลากันดีๆนะค่ะ รถใช้เวลาเดินทาง จากสนามบินเข้าในเมืองประมาณ 1-2 ชม. เพราะต้องแวะจอด ตามสถานีต่างๆ
แล้วก้อ ใครที่มาถึงรอบดึก แนะนำเป็น รถไฟใต้ดิน ก้อสะดวกดีค่ะ ถูกด้วย แต่อาจจะต้องเปลี่ยน หลายสายหน่อย ส่วนตัวคิดว่าไม่ค่อยสะดวก ถ้ากระเป๋าเยอะ แต่ รถไฟใต้ดินจะปิดดึกกว่า น่าจะปิด ราวๆ 23:00- เที่ยงคืน ประมาณนั้น
.
.
.
ถึงโรงแรมก้อทำเรื่องเชคอิน เตรียมเอกสารการจองห้อง พร้อมกับหนังสือเดินทางให้พร้อม เพื่อง่ายและรวดเร็วต่อการเช็คอินนะค่ะ กรุ๊ปนี้ เราเดินทางกันทั้งหมด 23 คน ได้ค่ะ ที่บินมาวันเดียวกันแต่หลังจากนั้นก้อมี ตามมาทีหลังอีกหลายคนเหมือนกัน พี่ๆบางคนติดธุระ เลยตามมาวันรุ่งขึ้น วันไปและวันกลับมีไกด์ไปด้วย เรียกได้ว่าดูแลตลอดทริป
ลืมบอกไป ว่าพักที่โรงแรมกวางเจา หรือ กวางโจวปิงกว่าน Guangzhou Hotel ลงสถานี ไห่จูกว่างฉาง ไลน์ 5 นะค่ะ ค่ารถประมาณ 25 หยวน รถจะจอดข้างโรงแรมเลย ถือว่าสะดวกมากๆ แนะนำโรงแรมหาก ไม่ซีเรียสมาก ว่าต้อง4-5 ดาว โรงแรมนี้ก้อถือว่าโอเครเลย วิวสวยพอประมาณ ใกล้ริมแม่น้ำ ใกล้ที่ช้อปปิ้ง ตลาดของเล่นกิ๊ฟช้อปOnelink เดินทางสะดวกใกล้รถไฟใต้ดิน ใกล้ 7-11 อาจจะเก่าไปหน่อยแต่ก้อไม่ได้ถึงกับแย่ ราคาประมาณ 1800-2500 บาท แล้วแต่ช่วง
วิวโรงแรมก้อพอได้อยู่ เอาจิงๆพอถึงเวลาก้อหลับค่ะหลับ เพราะกลางวันเดินเยอะ ดูงานทั้งวัน กลางคืนกินเยอะ เที่ยวเยอะ กลับมาถึงห้อง คือเพลียมากกกกก
หากต้องการโรงแรมดีหน่อย 4ดาว ก้ออยากแนะนำโรงแรมด้านซ้ายมือจากในรูป โรงแรมแลนด์มาร์คแคนตัน หรือ ฮวาเซี่ยต้าจิ่วเตี่ยน Landmark Canton Hotel ราคาไม่แพงมาก ประมาณ 2500-3500 บาท แล้วแต่ช่วง ตัวโรงแรมจะอยุ่ใกล้แม่น้ำจูเจียง โรงแรมนี้มีของอร่อย ร้านติ่มซำชื่อดัง อยู่ที่ชั้นสองของโรงแรม แต่คนเยอะมากต้องรอคิวกันหน่อย
และยังใกล้ Club ชื่อดังของกวางเจา Hei Hei Club เดินเลยไปอีกหน่อยก้อมี ภัตตาคารทะเลชื่อดัง ที่ใครมาถึงกวางเจาแล้ว ต้องลองกันค่ะ อาหารทะเลสดๆ จะสดแค่ไหน เด่วตามมาดูข้างล่าง เราพาไปแน่นอน
.
.
.
วันที่ 2 ตื่นมาพร้อมลุยรึยังค่ะ นัดกัน 9:00 โมง ที่หน้าล็อบบี้ แต่ก้อตามเคยกรุ๊ปคนไทย เรทสิค่ะ ชิวๆ 9:30 ออกจากโรงแรม
ทานอาหารเช้ากัน ง่ายๆ เมืองนี้กินเหมือน ฮ่องกง มาเก๊า จะเป็น โจ๊ก ปาท่องโก๋ ก๋วยเตี๋ยวหลอด บะหมี่ หมั่นโถ น้ำเต้าหู้ (จะจืดกว่าและไม่เข้มข้นเท่าของไทย) มื้อแรก พามากินแบบLocal แบบคนพื้นที่ ถ้าเดินจากโรงแรมมา ก้อเดินไปทางซ้ายมือ เดินเลย 7-11 ตรงไปจะเจอร้านอาหารหลายร้าน ใครที่พูดจีนไม่ได้ ง่ายๆเลยค่ะ บอกเค้าไปเลยว่า โจ๊กๆๆ ภาษาเดียวกันเลย โจ๊ก ก้อคือ โจ๊ก หรือ โจว ถ้าใครอยากได้ เนื้อหมู ก้อ จูโหร่ว รวมกันคือ จูโหร่วโจว แปลว่า โจ๊กหมู อย่าลืมนะค่ะ คนจีนพูดภาษาอังกฤษ ได้น้อยมากๆ ยิ่งร้านอาหารทั่วไปแบบ Local บอกเรยว่า ภาษามือ นี่แหละค่ะ เดินไปชี้ๆเอา ง่ายสุด
พอกินเสร็จ ก้อเดินกลับมาทางโรงแรม ลงสถานีรถไฟใต้ดินค่ะ ซื้อตั๋วสถานี จะมีตู้กดเหรียญ ใช้ได้ แค่ แบงค์ 10,5,1 หรือเหรียญ เท่านั้นนะค่ะ
ซื้อไม่ยากค่ะ มีภาษาอังกฤษอยู่ แต่ดูสถานีดีๆนะค่ะ เผื่อมีการเปลี่ยนสาย เปลี่ยนไลน์ จะมึนพอสมควร เพราะคนจะเยอะมาก วิธีง่ายๆ เดินตามเค้าไปค่ะ
พอไปถึงอีกไลน์ แล้วค่อยดูว่าจะขึ้นฝั่งไหน แต่เราก้อควรศึกษาเส้นทางให้ดีก่อนนะค่ะ ถ้าเดินทางจาก โรงแรมไปงานแฟร์ ก้อไม่ยากค่ะ
จาก ไลน์ 2 ไป ไลน์ 8
สถานีไห่จูกว่างฉ่าง (ไลน์ 2) -สถานีชังกั่ง(เปลี่ยนไลน์) - สถานีผาโจว (ไลน์ 8)
พอเปลี่ยนไลน์แล้ว ก้อนั่งกันยาวๆเลยค่ะ อีกหลายสถานี ระหว่างนั้น ก้อคุยเล่น แซวกันสนุกสนาน
》
》
อย่าเม้าท์เพลินจนลืมลงนะค่ะ
สถานี Pazhou ผาโจว นะค่ะ เป็นสถานที่จัดแสดงงานแฟร์ ต่างๆ ซึ่งจะมีงานเกือบตลอดทั้งปี เหมือนเมืองทองบ้านเราเลย
แต่ว่า ใหญ่กว่ามากก ใครที่ว่าแน่ เดินอึด ยังมีเมื่อยค่ะ คอนเฟริม มีหลาย Hall มาก คือเยอะมากจิงๆ ใครจะดูสินค้าอะไร ก้อทำการบ้านกันมาหน่อยนะคะ จะได้ไม่เสียเวลาเดินวน เดินหา วันแรกๆ จะไม่เท่าไหร่ ชิวๆ พอวันใกล้ๆ กลับ รีบหากันใหญ่ แต่บางทีร่างกายก้อไม่ไหว เหนื่อยล้าสะสมมาหลายวัน
*** อยากแนะนำเพิ่มเติมอีกนิดนึงนะค่ะ เปนเทคนิค พิเศษเบาๆ ค่ะ ถ้าเราเดินทางไป-กลับด้วย รถไฟใต้ดิน คือสะดวกสุดแล้วในการเดินทางของที่นี่ ถึงแม้ฝูงชนจะมากมายก้อตาม ถือว่ารวดเร็ว และ ประหยัด ที่สุด เมื่อเราไปถึงสถานี ปลายทาง และเรามั่นใจว่า จะเดินทางกลับในตอนเย็นของวันนั้น เมื่อไปถึง ให้เราซื้อตั๋วรถ ขากลับไว้เลยค่ะ หยอดเหรียญซื้อไว้เลยค่ะ แล้วเก็บใส่กระเป๋าให้ดีๆ จนถึงช่วงเย็น เราก้อควักมาใช้ค่ะ
---》 เทคนิคนี้ อยากแชร์ เพราะขากลับ รอต่อแถว คนเปนล้าน ต่ำๆ มีรอครึ่ง ชม. ค่ะ แต่ต้องซื้อที่สถานีปลายทางเท่านั้นนะค่ะ คือ จะขึ้นจากสถานีไหน ซื้อที่สถานีนั้น ไม่งั้นเข้าไม่ได้ค่ะ แต่ ปลายทาง ออกที่ไหนก้อได้ สมมติ เราไม่รู้ว่า ตอนกลับจะแวะไปไหนรึป่าว ไม่เป้นไรค่ะ เราซื้อ ที่ราคา 5 หยวน เราสามารถออกได้ทุกสถานีที่ราคา 5 หยวน ถ้าค่ารถต่ำกว่าราคาที่เราซื้อออกได้แน่นอน ถ้าแพงกว่าออกไม่ได้ ไม่เปนไรค่ะ ง่ายๆ ไปที่ตู้ที่มีพนักงานค่ะ เค้าจะให้เราจ่ายเงินเพิ่ม ของส่วนต่าง ***
ใครที่เคยไปงานแฟร์มา คงจะนึกภาพออก ว่าต้องรอคิวยังไง ต่อแถวมั่วขนาดไหน ที่สำคัญ คนเยอะขนาดไหน แท๊กซี่ก้อเรียกยากมากกกก เพราะคนเยอะมาก ยิ่งบางที ไปหลายคน ขึ้นไม่ได้อีกเพราะเค้าจำกัดจำนวนผู้โดยสารนั่งได้ไม่เกิน 4 คน เทคนิคนี้ ดีที่สุด เมื่อรู้แล้ว คุณจะเดินไปขึ้นรถไฟใต้ดิน แบบชิวมากๆ แล้วจะรุ้สึกโชคดีเหลือเกิน ที่ไม่ต้องต่อคิว เบียดกับฝูงชน 5555+
.
.
.
พอมาถึงงาน ระหว่างรอซื้อตั๋วขากลับ ก้อแอบโปรโมท ชูป้ายงานกันนิดนึงค่ะ
งานที่พามาจะเปนงานเกี่ยวกับป้าย สื่อสิ่งพิมพ์ งานจอLED นะค่ะ
เป็นงานเฉพาะกลุ่ม อย่างที่บอกว่าที่นี่เค้ามีงานตลอดทั้งปี ประเภทงานก้อหลากหลาย
วันแรกแนะนำให้มาเช้าหน่อยนะค่ะ ไม่ว่าจะงานอะไรก้อตามถ้าเรายังไม่มีป้ายเข้างาน เพราะว่ารอต่อคิว Register นานมากกกกกก
คนจะเยอะมากกกกก
หลังจากที่ Register ได้บัตรเข้างานเรียบร้อย ก้อพร้อมลุยกันเลยค่ะ ถ่ายรูปก่อนแยกย้าย ถ้ามาเป็นกรุ๊ป 25 คน แบบที่เราพามา
อยากแนะนำให้ จ้างไกด์ 4-5 คน นะค่ะ คือ ไกด์ 1 คน ต่อ ลูกค้า 4-5 คน จะดูแลแทคแคร์ได้ทั่วถึง เพราะว่าถ้าคนเยอะ ไกด์จะมึนมากค่ะ
เพราะพอเดินเข้างานเจอสินค้าแปลกใหม่ ต่างคนต่างสนใจ ต่างอยากได้ข้อมูล ไกด์ถามแปล ไม่ทัน วิ่งหน้าวิ่งหลัง มึนค่ะมึน บางทีบอกตรงๆมีเบลอนะค่ะ พูดไทยสลับจีน หันมาพูดกับคนไทยภาษาจีน แบบลิ้นมันพันกันอ่ะ 555 ทั้ง
หลังจากนี้ทั้งวันคือเดิน และ เดิน และ เดินค่ะ
เดินดูงานกันเต็มๆ
ช่วงเที่ยงพักทานข้าวกันก่อน ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือ 11:30 นะค่ะ เพราะคนจะยังไม่เยอะมาก ไม่ต้องรอนาน และกับข้าวจะมีให้เลือกหลากหลาย แต่ถ้าใครมาช้าหน่อย ก้ออย่าเกินบ่าย 2 นะค่ะ ที่จีนเค้าปิดครัวกันแล้ว จะไม่มีตัวเลือกมากนัก เผลอๆข้าวหมด อดกินค่ะ
อย่างแรกที่มาถึงนะค่ะ หาโต๊ะนั่งก่อนเลยค่ะ แบ่งกลุ่มกันไป ให้คนนึงไปจองโต๊ะ คนที่เหลือไปเดินเลือกอาหาร เมนูแนะนำ ข้าวหมูแดงค่ะ หรือ ชาซาวฟ่าน 叉烧饭 รสชาติจะออกเค็มๆหวานๆ ถูกปากคนไทย แต่บางคนอาจจะอยากลองเมนูอื่น ก้อมี ข้าวไก่ผัดเผ็ด หรือ ล่าจื่อจีฟ่าน 辣子鸡饭 ，ข้าวมะเขือม่วงผัด หรือ เฉี่ยะจื่อฟ่าน 茄子饭 หรือใครจะใช้วิธีเดิม คือ แอบมองชาวบ้านแล้วชี้ๆ แบบอันนี้น่ากิน
ก้อชี้แล้วบอกเค้าไปว่า ชั้นชอบเค้า...！！！ 555 ม่ายช่ายละๆๆ
ชี้ๆ แล้วบอกว่า อันนี้ หรือ เจ้อเก้อๆ 这个 ， 1 หรือ อี 一 ， อัน หรือ เก้อ 个
พอทานข้าวเสร็จ ก้อถึงเวลาเดินค่ะเดิน เดินวนไปค่ะ วนไปค่ะ
ดูงานไปค่ะ วันแรก ตื่นตา ตื่นใจ ชาร์ตพลังมาเต็ม เดินไม่มีเหนื่อย เก็บรายละเอียด
เดินจนงานเลิก คือ 5-6 โมงเย็น แนะนำว่า ควรออกก่อนเวลานะค่ะ ซัก 5 โมงกำลังดี เพราะคนจะไม่เยอะมาก และ เรายังคงมีภารกิจต้องไป
ล่าท้าฝันกันต่อ ช่วงค่ำภารกิจรอเราอยู่..........