ขออนุญาติยืมไอดีเพื่อนมาใช้หน่อยนะคะ พอดีได้ดูย้อนหลังคลับฟรายเดย์ ตอนเพื่อนรักเพื่อนร้าย ไอ้เราก็อินค่ะตั้งสเตตัสดราม่าในเฟสงี้ แล้วเพื่อนก็เม้นมาประมาณว่า “ชีวิตจริงมันมีแบบนี้หรอวะ เพื่อนแย่งแฟนเพื่อน บ้าไปแล้ว”
หูยยย! นี่ขึ้นเลยค่ะ ถึงกับขึ้น!! พอเล่าให้เพื่อนฟังเพื่อนก็บอกว่า ลงพันทิพด่วนจ้า จะได้ให้เป็นอุทาหรณ์ ว่าอย่าไว้ใจใคร แม้แต่เพื่อนที่เรารัก!! เริ่มเลยเนอะ (ถ้าเล่างงๆ ไปบ้างอย่าถือสานะคะ เรามือใหม่)
เรื่องเกิดขึ้นตอนเราอยู่ปี 1 ค่ะ เราไปแอบชอบผู้ชายคนนึง คือชอบมาก แบบประกาศตัวกับเพื่อนๆเลยว่าชอบผู้ชายคนนี้ เราก็เลยเริ่มเดินหน้าจีบเขาก่อน เริ่มจาก ซื้อขนม ซื้อของ นู่นนี่นั่นให้ และเพื่อนๆแทบทั้งเอกก็ช่วยเชียร์ เราก็ได้คุยกับผู้ชายคนนั้นมากขึ้นค่ะ เพราะว่าอยู่หอพัก เลยง่ายที่จะได้เจอกัน เขาจะชอบ มาซ้อมดนตรีที่ข้างๆหออยู่บ่อยๆ เราอยู่หอตรงข้ามก็ชอบไปแอบดูตรงบันไดหนีไฟ พอมีกีฬามหาลัย เราก็ได้ทำงานร่วมกันอีกทำให้เราได้คุยกันมากขึ้น เวลาเขาไปไหนเพื่อนก็จะบีบีมาบอก เราก็จะรีบเอาตัวไปเดินผ่านหน้าเขา ให้อยู่ในสายตาเขาบ่อยๆ เคยคิดจะถอดใจอยู่หลายครั้งนะคะ แต่มันก็มีเหตุการณ์นึงที่ทำให้ รู้สึกว่าเราไม่สามารถถอนตัวจากผู้ชายคนนี้ได้ก็คือ
คืนวันหนึ่ง อยู่ดีๆเขาก็โทรเข้ามา แล้วบอกว่า “มีไรให้ฟัง” แล้วอยู่ดีๆเขาก็เล่นเปียโนเพลง หยุด ของ กรูฟไรเดอร์ ให้เราฟัง จากนั้นก็บ้าไปเลยค่ะ5555 แบบเพ้อไปเลย หลังจากนั้นก็มีนัดดูหนัง กินข้าวกันบ่อยขึ้น ตอนนี้คู่เราดังไปทั้งคณะ ยาวไปจนถึงต่างคณะ เพราะเราออกตัวแรงเกินไป 5555555
แล้วเรื่องก็เกิด ตอนประมาณวันที่ 3 ตุลาคม 2010 เป็นงานคอนเสริต Melody Of Life Music Festival ความที่เราเป็นคนติดเพื่อน ดังนั้นเวลาไปไหนเราจะต้องพาเพื่อนๆไปด้วยตลอด วันนั้นก็นัดกับเขาไปดูคอนเสริตค่ะ แล้วเราก็ขนเพื่อนไปด้วย รวมถึง “นาง” คนนั้น(นางคือเพื่อนรหัสเราค่ะ) ก็ไปจอยกัน เต้นกัน ไม่มีอะไรผิดปกติค่ะ เพื่อนยังล้อมวงแล้วแซวเรากับเขาคนนั้นอยู่เลย เราก็ไม่ได้เอะใจอะไร
จนผ่านมาประมาณ 1เดือนได้ค่ะ ก็มีเพื่อนเราสองคนมาบอกว่า เห็น เขา กับ นาง ไปขี่จักรยานมุ้งมิ้งกัน! คือแบบเรางงมากกก เขากับนางก็ไม่ได้สนิทกัน เพราะนางเนี่ย สนิทกับเราด้วยค่ะ แต่ไม่ได้อยู่แกงค์เดียวกัน เลยคิดว่าไม่น่าจะไปสนิทกับเขาถึงขนาดไปปั่นจักรยานมุ้งมิ้งกันได้ ตอนแรกเราก็ไม่เชื่อค่ะ แต่พอพยานเริ่มหนาหูขึ้น จากเพื่อนนางที่มาตอกย้ำอีก เราทำไรไม่ถูกค่ะ ด้วยความที่ตอนนั้นเป็นชะนีน่ารำคาญ ยังสู้รบกับใครไม่เป็น มองโลกในแง่ดีประหนึ่งบวชมาแล้วตลอดชีวิต (ถ้าเป็นตอนนี้นะ หึ!!) เราก็คิดแค่ว่า อืม นางก็น่ารัก ก็ไม่ผิดที่เขาจะไปชอบนาง และเรากับเขาก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน เสียใจนะ แต่เราไม่มีสิทธิที่จะไปหึงหวงอะไร เราก็เป็นแค่คนที่แอบชอบเขา
คืนนั้นแกงค์เพื่อนเรารู้เรื่อง เลยพากันขึ้นไปบนหอนาง ประมาณ 8 คน รวมเราด้วย ก็เคลียค่ะ ว่าเกิดอะไรขึ้น รู้ไหมว่าเขาคุยกับเราอยู่ แล้วทำไมถึงทำแบบนี้ แต่คือที่เคลียเนี่ย เพื่อนเราเป็นคนพูดหมดเลยนะคะ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเรานั่งโอบนางอยู่ แล้วก็ปลอบนางด้วย (เห้ยยย ทำไปได้ไงอ่ะตอนนั้น? งงตัวเอง) เพื่อนเราก็ถามว่า “แล้วยุ่งกับเขาทำไม คันหรอ?” นางก็ตอบมาด้วยประโยคเด็ดที่จำไปจนวันตายก็คือ “คันคืออะไรอ่ะ เราไม่รู้ว่าคันคืออะไร แต่เราไม่ชอบให้ใครมาว่าเราว่าคัน!” นี่แหละค่ะ แบ๊วเท่านั้นที่ครองโลก และ ผู้ชายก็มักจะดูไม่ออกด้วยหนะสิ หึ!!!!!
ก็สรุปที่นางบอกว่า ผู้ชายมาจีบนางก่อน ก็แค่คุยๆกัน ผู้ชายชวนนางไปตลาด นางไม่ได้เล่นด้วย ผู้ชายเป็นฝ่ายตื๊อ โอเค เราเชื่อ (ห๊ะ เชื่อ เชื่อได้ไง!?) เอาเป็นว่าตอนนั้นเราเชื่อ และตัดใจจากผู้ชายคนนั้นไป เพราะเราคิดว่า ถ้าเขาชอบถึงขั้นมาตามจีบทั้งๆที่นางไม่เล่นด้วย ก็โอเค เราควรตัดใจ เพื่อนเราโวยเลยค่า คือตอนนั้นทุกคนว่าเราโง่มาก (พอมาย้อนดูก็โง่จริงแหละ)
หลังจากนั้นก็ตัดใจแต่ก็ยังตัดได้ไม่สนิทอะเนอะ ก็ยังมีซื้อขนมไปให้ฝากให้ เขียนจดหมายให้อยู่เบาๆ เพื่อนจะพยายามพาไปเที่ยว ไปดูหนังแก้เครียด ก็ไปจ้า พอไปถึงโรงหนังก็ยกขบวนกันไปเข้าห้องน้ำ พอไปถึงหน้าห้องน้ำปุ๊บ เราก็เจอนางยืนอยู่ค่ะ นางก็ทำหน้าเจื่อนๆ เราก็ทักทายไปตามประสาเพื่อน แล้วก็ขอลาไปเข้าห้องน้ำ แต่ แต่ แต่!!!! เราก็เห็น เขาคนนั้น เดินออกมาจากห้องน้ำ แล้วก็เดินไปหานางคนนั้น หูย ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกเลยค่ะ รู้แค่ว่าเสียใจมาก หน้าชาไปเลย ไหนบอกว่าไม่ได้มีใจให้ แล้วมาดูหนังกัน คือ?? ถึงเวลาที่เราจะต้องตัดใจจริงๆสักทีค่ะ เราพอ เราพอแล้วจริงๆ เราก็ทำของขวัญชิ้นนึงไปเพื่อบอกลาเขา แล้วก็ตกลงกันว่า “เราจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดต่อกันตลอดไป”
แล้วเวลาก็ผ่านมาประมาณ 3 เดือน โดยที่เราไม่รู้เลยว่าเขาและนางยังคุยกันอยู่รึป่าว เราก็พยายามที่จะไม่สนใจ จนวันที่ 7 มกราคม 2011 เราจัดงานปีใหม่ที่บ้าน เขาก็มาด้วย ก็ไม่มีอะไรก็ คุยเล่นกันตามปกติ โดยที่เรานึกแค่ว่า เราก็เป็นเพื่อนกันได้ ยังดีกว่าไม่มีตัวตนในสายตาเขาเลย เพื่อนทุกคนรวมถึงเขาก็มาค้างบ้านเราค่ะ วันรุ่งขึ้นก็ไปดูหนังกัน พอดูจบระหว่างจะไปขึ้นรถกลับบ้าน เขาก็เดินมาขยี้หัวเรา!!!!! หืมมม แล้วก็แยกย้ายกันกลับ โอเค เราคงคิดไปเองสินะ (ไม่ลงรายละเอียดเนอะมันยาวมาก เข้าเรื่องเลยละกัน)
วันรุ่งขึ้นเขาก็โทรเข้ามา ชวนไปดูประกวดวงดนตรีกันวันที่ 9 มกราคม เราก็ไปค่ะ วันนั้นเค้าเปลี่ยนไปมาก คือ เทคแคร์ดี เป็นฝ่ายชวนคุย นั่งรถไฟฟ้ามาส่ง และก็นัดไปดูหนัง เรื่องมันเกิดวันที่ดูหนังนี่แหละค่ะทุกคนนนน ระหว่างหนังกำลังฉาย เขาก็พูดขึ้นมาว่า “เราไม่รู้ว่าสายไปรึเปล่า แต่เรารักเธอแล้วหวะ” ?????????????????????????? ตอนนั้นมีแต่เครื่องหมายคำถามเต็มไปหมด แล้วเราก็ ได้คบกันหลังจากนั้น 2 เดือน ก็คบกันปกติค่ะ เราก็ได้ยินมาว่านางเพิ่งเลิกกับแฟน เรากับนางเรียนห้องเรียนเดียวกัน จึงต้องเจอกันบ่อยเป็นธรรมดา มีอยู่วันนึงนางก็มาถามว่า
นาง :: “แกกับเขาเป็นไงมั่ง?”
เรา :: ก็ดีนะแฮปปี้ดี
นาง :: เนี่ย เขาชอบมากดไลค์รูปเราตลอดเลย แม่เราก็พูดนะ ว่าแฟนคลับเรา(แม่นางเรียกเขาว่าแฟนคลับนาง)หายไปไหน เขาก็ชอบแชทมาคุยกับแม่เราตลอดเลยอ่ะ เนี่ยไม่รู้เขาคิดอะไรกับเรารึป่าว
เรา :: …………………………………….
แล้วนางก็จะชอบมาถามไถ่ถึงแฟนเราด้วยประโยคประมาณนี้อยู่บ่อยๆ เราไม่เข้าใจว่า เจตนาคืออะไร
เราเลยไปเคลียกับแฟนเราเลยค่ะว่าทำไมยังติดต่อกันอยู่ เพราะแฟนเราเป็นคนตรงๆ มีไรก็พูดกัน แฟนเราบอกว่า คุยกับแม่นางจริง เพราะเคารพในฐานะผู้ใหญ่คนนึง ส่วนกับนางเลิกคุยกันก่อนจะกลับมาคุยกับเราอีก แล้วแฟนเราก็เล่าอีกว่า ตอนนั้น เขาไม่ชอบเราเลย เพราะนางเล่าให้ฟังว่า “เราชอบตั้งตัวเป็นหัวโจก วันนั้นก็ยกพวกมารุมด่านางถึงในห้อง(เรารุมหรอวะ แล้วใครปลอบนางคะวันนั้น)” “แล้วก็โทรมาอ้อนแฟนเราทุกวันว่าเราทำให้เพื่อนเกลียดนาง” “โทรคุยกันทุกคืน (แล้วนางบอกว่านางไม่ยุ่ง)”
เห้ยยย งง คือเราไม่เคยไปด่า ไปว่า โอเคที่ตอนนี้เราเกลียดนางหลังจากได้ยินประโยคนั้น คนแบบนังเชอรี่ในละคร
มีอยู่จริงค่ะ!! แต่เราก็แอบสงสารนางนะที่นางไม่มีเพื่อนคบ เพราะสิ่งที่นางทำกับเรา และหลายๆอย่างที่นางไปทำกับเพื่อนคนอื่นๆ
แต่ตอนนี้เรากับเขาก็เลิกกันไปแล้วหละค่ะ แต่เลิกกันด้วยดี เพราะเขามีฝันที่เขาจะต้องทำให้เป็นจริง และบางครั้งความรักก็อาจจะไปรั้งเขา เราเลยคิดว่าปล่อยเขาไปและคอยดูเขาอยู่ห่างๆดีกว่า บางครั้งความรักก็คือการได้เห็นเขามีความสุขในสิ่งที่เขาเลือก โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องมีเราอยู่ด้วยก็ตาม
ที่มาเล่าคือ อยากเล่าค่ะ เรียกว่าอยากระบายมากกว่ามั้งคะ คือเรื่องนี้มันติดอยู่ในใจมานานมากกก ถึงมันจำผ่านไปนานมากแต่เราจำได้ทุกอย่าง ทุกประโยค มันเรื่องเราอาจจะไม่ได้แซ่บเหมือนละคร แต่มันคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับตัว เรื่องที่ทำให้เราไว้ใจใครยากขึ้น เข้มแข็งขึ้น ความรักเป็นเรื่องที่ห้ามกันไม่ได้ค่ะไม่ว่าจะเป็นแฟนใคร แต่ในเมื่อรักแล้วก็ห้ามใจยากป่ะ? ดังนั้น ไม่ไว้ใจใครดีที่สุดค่ะ
“ความรัก” แม้แต่เพื่อนก็ไว้ใจไม่ได้! คนที่ไว้ใจร้ายที่สุด!!
หูยยย! นี่ขึ้นเลยค่ะ ถึงกับขึ้น!! พอเล่าให้เพื่อนฟังเพื่อนก็บอกว่า ลงพันทิพด่วนจ้า จะได้ให้เป็นอุทาหรณ์ ว่าอย่าไว้ใจใคร แม้แต่เพื่อนที่เรารัก!! เริ่มเลยเนอะ (ถ้าเล่างงๆ ไปบ้างอย่าถือสานะคะ เรามือใหม่)
เรื่องเกิดขึ้นตอนเราอยู่ปี 1 ค่ะ เราไปแอบชอบผู้ชายคนนึง คือชอบมาก แบบประกาศตัวกับเพื่อนๆเลยว่าชอบผู้ชายคนนี้ เราก็เลยเริ่มเดินหน้าจีบเขาก่อน เริ่มจาก ซื้อขนม ซื้อของ นู่นนี่นั่นให้ และเพื่อนๆแทบทั้งเอกก็ช่วยเชียร์ เราก็ได้คุยกับผู้ชายคนนั้นมากขึ้นค่ะ เพราะว่าอยู่หอพัก เลยง่ายที่จะได้เจอกัน เขาจะชอบ มาซ้อมดนตรีที่ข้างๆหออยู่บ่อยๆ เราอยู่หอตรงข้ามก็ชอบไปแอบดูตรงบันไดหนีไฟ พอมีกีฬามหาลัย เราก็ได้ทำงานร่วมกันอีกทำให้เราได้คุยกันมากขึ้น เวลาเขาไปไหนเพื่อนก็จะบีบีมาบอก เราก็จะรีบเอาตัวไปเดินผ่านหน้าเขา ให้อยู่ในสายตาเขาบ่อยๆ เคยคิดจะถอดใจอยู่หลายครั้งนะคะ แต่มันก็มีเหตุการณ์นึงที่ทำให้ รู้สึกว่าเราไม่สามารถถอนตัวจากผู้ชายคนนี้ได้ก็คือ
คืนวันหนึ่ง อยู่ดีๆเขาก็โทรเข้ามา แล้วบอกว่า “มีไรให้ฟัง” แล้วอยู่ดีๆเขาก็เล่นเปียโนเพลง หยุด ของ กรูฟไรเดอร์ ให้เราฟัง จากนั้นก็บ้าไปเลยค่ะ5555 แบบเพ้อไปเลย หลังจากนั้นก็มีนัดดูหนัง กินข้าวกันบ่อยขึ้น ตอนนี้คู่เราดังไปทั้งคณะ ยาวไปจนถึงต่างคณะ เพราะเราออกตัวแรงเกินไป 5555555
แล้วเรื่องก็เกิด ตอนประมาณวันที่ 3 ตุลาคม 2010 เป็นงานคอนเสริต Melody Of Life Music Festival ความที่เราเป็นคนติดเพื่อน ดังนั้นเวลาไปไหนเราจะต้องพาเพื่อนๆไปด้วยตลอด วันนั้นก็นัดกับเขาไปดูคอนเสริตค่ะ แล้วเราก็ขนเพื่อนไปด้วย รวมถึง “นาง” คนนั้น(นางคือเพื่อนรหัสเราค่ะ) ก็ไปจอยกัน เต้นกัน ไม่มีอะไรผิดปกติค่ะ เพื่อนยังล้อมวงแล้วแซวเรากับเขาคนนั้นอยู่เลย เราก็ไม่ได้เอะใจอะไร
จนผ่านมาประมาณ 1เดือนได้ค่ะ ก็มีเพื่อนเราสองคนมาบอกว่า เห็น เขา กับ นาง ไปขี่จักรยานมุ้งมิ้งกัน! คือแบบเรางงมากกก เขากับนางก็ไม่ได้สนิทกัน เพราะนางเนี่ย สนิทกับเราด้วยค่ะ แต่ไม่ได้อยู่แกงค์เดียวกัน เลยคิดว่าไม่น่าจะไปสนิทกับเขาถึงขนาดไปปั่นจักรยานมุ้งมิ้งกันได้ ตอนแรกเราก็ไม่เชื่อค่ะ แต่พอพยานเริ่มหนาหูขึ้น จากเพื่อนนางที่มาตอกย้ำอีก เราทำไรไม่ถูกค่ะ ด้วยความที่ตอนนั้นเป็นชะนีน่ารำคาญ ยังสู้รบกับใครไม่เป็น มองโลกในแง่ดีประหนึ่งบวชมาแล้วตลอดชีวิต (ถ้าเป็นตอนนี้นะ หึ!!) เราก็คิดแค่ว่า อืม นางก็น่ารัก ก็ไม่ผิดที่เขาจะไปชอบนาง และเรากับเขาก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน เสียใจนะ แต่เราไม่มีสิทธิที่จะไปหึงหวงอะไร เราก็เป็นแค่คนที่แอบชอบเขา
คืนนั้นแกงค์เพื่อนเรารู้เรื่อง เลยพากันขึ้นไปบนหอนาง ประมาณ 8 คน รวมเราด้วย ก็เคลียค่ะ ว่าเกิดอะไรขึ้น รู้ไหมว่าเขาคุยกับเราอยู่ แล้วทำไมถึงทำแบบนี้ แต่คือที่เคลียเนี่ย เพื่อนเราเป็นคนพูดหมดเลยนะคะ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเรานั่งโอบนางอยู่ แล้วก็ปลอบนางด้วย (เห้ยยย ทำไปได้ไงอ่ะตอนนั้น? งงตัวเอง) เพื่อนเราก็ถามว่า “แล้วยุ่งกับเขาทำไม คันหรอ?” นางก็ตอบมาด้วยประโยคเด็ดที่จำไปจนวันตายก็คือ “คันคืออะไรอ่ะ เราไม่รู้ว่าคันคืออะไร แต่เราไม่ชอบให้ใครมาว่าเราว่าคัน!” นี่แหละค่ะ แบ๊วเท่านั้นที่ครองโลก และ ผู้ชายก็มักจะดูไม่ออกด้วยหนะสิ หึ!!!!!
ก็สรุปที่นางบอกว่า ผู้ชายมาจีบนางก่อน ก็แค่คุยๆกัน ผู้ชายชวนนางไปตลาด นางไม่ได้เล่นด้วย ผู้ชายเป็นฝ่ายตื๊อ โอเค เราเชื่อ (ห๊ะ เชื่อ เชื่อได้ไง!?) เอาเป็นว่าตอนนั้นเราเชื่อ และตัดใจจากผู้ชายคนนั้นไป เพราะเราคิดว่า ถ้าเขาชอบถึงขั้นมาตามจีบทั้งๆที่นางไม่เล่นด้วย ก็โอเค เราควรตัดใจ เพื่อนเราโวยเลยค่า คือตอนนั้นทุกคนว่าเราโง่มาก (พอมาย้อนดูก็โง่จริงแหละ)
หลังจากนั้นก็ตัดใจแต่ก็ยังตัดได้ไม่สนิทอะเนอะ ก็ยังมีซื้อขนมไปให้ฝากให้ เขียนจดหมายให้อยู่เบาๆ เพื่อนจะพยายามพาไปเที่ยว ไปดูหนังแก้เครียด ก็ไปจ้า พอไปถึงโรงหนังก็ยกขบวนกันไปเข้าห้องน้ำ พอไปถึงหน้าห้องน้ำปุ๊บ เราก็เจอนางยืนอยู่ค่ะ นางก็ทำหน้าเจื่อนๆ เราก็ทักทายไปตามประสาเพื่อน แล้วก็ขอลาไปเข้าห้องน้ำ แต่ แต่ แต่!!!! เราก็เห็น เขาคนนั้น เดินออกมาจากห้องน้ำ แล้วก็เดินไปหานางคนนั้น หูย ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกเลยค่ะ รู้แค่ว่าเสียใจมาก หน้าชาไปเลย ไหนบอกว่าไม่ได้มีใจให้ แล้วมาดูหนังกัน คือ?? ถึงเวลาที่เราจะต้องตัดใจจริงๆสักทีค่ะ เราพอ เราพอแล้วจริงๆ เราก็ทำของขวัญชิ้นนึงไปเพื่อบอกลาเขา แล้วก็ตกลงกันว่า “เราจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดต่อกันตลอดไป”
แล้วเวลาก็ผ่านมาประมาณ 3 เดือน โดยที่เราไม่รู้เลยว่าเขาและนางยังคุยกันอยู่รึป่าว เราก็พยายามที่จะไม่สนใจ จนวันที่ 7 มกราคม 2011 เราจัดงานปีใหม่ที่บ้าน เขาก็มาด้วย ก็ไม่มีอะไรก็ คุยเล่นกันตามปกติ โดยที่เรานึกแค่ว่า เราก็เป็นเพื่อนกันได้ ยังดีกว่าไม่มีตัวตนในสายตาเขาเลย เพื่อนทุกคนรวมถึงเขาก็มาค้างบ้านเราค่ะ วันรุ่งขึ้นก็ไปดูหนังกัน พอดูจบระหว่างจะไปขึ้นรถกลับบ้าน เขาก็เดินมาขยี้หัวเรา!!!!! หืมมม แล้วก็แยกย้ายกันกลับ โอเค เราคงคิดไปเองสินะ (ไม่ลงรายละเอียดเนอะมันยาวมาก เข้าเรื่องเลยละกัน)
วันรุ่งขึ้นเขาก็โทรเข้ามา ชวนไปดูประกวดวงดนตรีกันวันที่ 9 มกราคม เราก็ไปค่ะ วันนั้นเค้าเปลี่ยนไปมาก คือ เทคแคร์ดี เป็นฝ่ายชวนคุย นั่งรถไฟฟ้ามาส่ง และก็นัดไปดูหนัง เรื่องมันเกิดวันที่ดูหนังนี่แหละค่ะทุกคนนนน ระหว่างหนังกำลังฉาย เขาก็พูดขึ้นมาว่า “เราไม่รู้ว่าสายไปรึเปล่า แต่เรารักเธอแล้วหวะ” ?????????????????????????? ตอนนั้นมีแต่เครื่องหมายคำถามเต็มไปหมด แล้วเราก็ ได้คบกันหลังจากนั้น 2 เดือน ก็คบกันปกติค่ะ เราก็ได้ยินมาว่านางเพิ่งเลิกกับแฟน เรากับนางเรียนห้องเรียนเดียวกัน จึงต้องเจอกันบ่อยเป็นธรรมดา มีอยู่วันนึงนางก็มาถามว่า
นาง :: “แกกับเขาเป็นไงมั่ง?”
เรา :: ก็ดีนะแฮปปี้ดี
นาง :: เนี่ย เขาชอบมากดไลค์รูปเราตลอดเลย แม่เราก็พูดนะ ว่าแฟนคลับเรา(แม่นางเรียกเขาว่าแฟนคลับนาง)หายไปไหน เขาก็ชอบแชทมาคุยกับแม่เราตลอดเลยอ่ะ เนี่ยไม่รู้เขาคิดอะไรกับเรารึป่าว
เรา :: …………………………………….
แล้วนางก็จะชอบมาถามไถ่ถึงแฟนเราด้วยประโยคประมาณนี้อยู่บ่อยๆ เราไม่เข้าใจว่า เจตนาคืออะไร
เราเลยไปเคลียกับแฟนเราเลยค่ะว่าทำไมยังติดต่อกันอยู่ เพราะแฟนเราเป็นคนตรงๆ มีไรก็พูดกัน แฟนเราบอกว่า คุยกับแม่นางจริง เพราะเคารพในฐานะผู้ใหญ่คนนึง ส่วนกับนางเลิกคุยกันก่อนจะกลับมาคุยกับเราอีก แล้วแฟนเราก็เล่าอีกว่า ตอนนั้น เขาไม่ชอบเราเลย เพราะนางเล่าให้ฟังว่า “เราชอบตั้งตัวเป็นหัวโจก วันนั้นก็ยกพวกมารุมด่านางถึงในห้อง(เรารุมหรอวะ แล้วใครปลอบนางคะวันนั้น)” “แล้วก็โทรมาอ้อนแฟนเราทุกวันว่าเราทำให้เพื่อนเกลียดนาง” “โทรคุยกันทุกคืน (แล้วนางบอกว่านางไม่ยุ่ง)”
เห้ยยย งง คือเราไม่เคยไปด่า ไปว่า โอเคที่ตอนนี้เราเกลียดนางหลังจากได้ยินประโยคนั้น คนแบบนังเชอรี่ในละครมีอยู่จริงค่ะ!! แต่เราก็แอบสงสารนางนะที่นางไม่มีเพื่อนคบ เพราะสิ่งที่นางทำกับเรา และหลายๆอย่างที่นางไปทำกับเพื่อนคนอื่นๆ
แต่ตอนนี้เรากับเขาก็เลิกกันไปแล้วหละค่ะ แต่เลิกกันด้วยดี เพราะเขามีฝันที่เขาจะต้องทำให้เป็นจริง และบางครั้งความรักก็อาจจะไปรั้งเขา เราเลยคิดว่าปล่อยเขาไปและคอยดูเขาอยู่ห่างๆดีกว่า บางครั้งความรักก็คือการได้เห็นเขามีความสุขในสิ่งที่เขาเลือก โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องมีเราอยู่ด้วยก็ตาม
ที่มาเล่าคือ อยากเล่าค่ะ เรียกว่าอยากระบายมากกว่ามั้งคะ คือเรื่องนี้มันติดอยู่ในใจมานานมากกก ถึงมันจำผ่านไปนานมากแต่เราจำได้ทุกอย่าง ทุกประโยค มันเรื่องเราอาจจะไม่ได้แซ่บเหมือนละคร แต่มันคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับตัว เรื่องที่ทำให้เราไว้ใจใครยากขึ้น เข้มแข็งขึ้น ความรักเป็นเรื่องที่ห้ามกันไม่ได้ค่ะไม่ว่าจะเป็นแฟนใคร แต่ในเมื่อรักแล้วก็ห้ามใจยากป่ะ? ดังนั้น ไม่ไว้ใจใครดีที่สุดค่ะ