เที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเองเริ่มจากการเแพลนทริป ทริปนี้เราใช้เวลาเที่ยวเพียง 2 วันนิดๆ สำหรับที่พักถ้าจะประหยัดจริง แนะนำให้พักโฮสเทลซึ่งมีทั้งแบบห้องรวมและห้องคู่ เพราะราคาถูกเพียงคืนละไม่ถึงพันบาทและให้เลือกมองหาที่พักที่อยู่ใกล้กับสถานี MRT จะได้สะดวก
เที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเองวันที่ 1
ไชน่าทาวน์. รูปภาพ: Chris Chrissss/CC BY 2.0
ไปถึงสนามบินชางกีในช่วงเย็นๆ เมื่อรับกระเป๋าเสร็จแล้วก็ตรงไปยังสถานีรถ MRT ที่อยู่ใต้ Terminal 2 เพื่อต่อรถเข้าเมืองไปยังที่พัก โดยดูแผนที่ได้
ที่นี่ เนื่องจากวันแรกเรามีเวลาน้อยจึงเที่ยวแถว China Town ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของสิงคโปร์ แถวนี้ร้านค้าและสถานที่ท่องเที่ยว เช่น วัดจีน วัดแขก พิพิธภัณฑ์ รวมถึงร้านอาหารจีนอร่อยๆ มากมาย เมื่อเก็บกระเป๋าเสร็จ เรารีบตรงไปที่
Red Dot Museum ซึ่ง เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงสิ่งของที่มีเอกลักษณ์ด้านการออกแบบจากทั่วโลก (ค่าเข้าประมาณ 250 บาท) สำหรับคนที่ชอบช็อปปิ้ง ก็สามารถเดินซื้อของในร้านต่างๆ ได้ ก่อนจะทานอาหารจีนและนั่งจิบเครื่องดื่มชิลๆ ในบาร์ที่มีอยู่ทั่วไป จากนั้นกลับโรงแรมเพื่อพักผ่อน แต่ถ้าใครเป็นนักเที่ยวแล้วละก็ แนะนำให้ไปเที่ยวผับดังๆ ของสิงคโปร์ เช่น
Zouk หรือ
Attica ในคืนวันศุกร์ เพราะจะคึกคักเป็นพิเศษ
เที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเองวันที่ 2
ตื่นแต่เช้าและรับประทานอาหารใกล้โรงแรม อาหารเช้าจานเด็ดของแถวนี้คือติ่มซำที่อร่อยไปเสียทุกร้าน คงเป็นเพราะว่าตั้งอยู่แถว China Town นี่เอง เริ่มต้นวันนี้ที่ East Coast Park โดยนั่ง MRT มาลง Bedok และต่อรถเมล์สาย 401 ซีงจะพาเราไปที่สวน East Cost ที่นั่นจะมีร้านเช่าจักรยานหลายร้าน เลือกเช่าคันที่ชอบได้เลย (ใช่แล้ว…เราจะเที่ยวสิงคโปร์ด้วยจักรยานกัน) โดยราคาเช่าจะประมาณ 500 บาทต่อวัน ตามกฎหมายที่นี่จะต้องใส่หมวก อย่าลืมขอที่ล็อคจักรยานด้วยล่ะ ทางร้านจะให้แผนที่ทางจักรยานมาด้วย มีแผ่นนี้แผนเดียวรับรองไม่หลง
เริ่มขี่ดูถนนหนทางไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยเพราะมีทางจักรยานเป็นระเบียบเรียบร้อยทั่ว เมือง จุดแรกที่จะแวะเที่ยวคือ Arab Street และ Haji Lane ซึ่งเป็นแหล่งเที่ยวของวัยรุ่นสิงคโปร์ มีร้านบูติกเล็กๆ น่ารักเต็มไปหมด สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูป อย่าพลาดการโพสท่ากับลวดลาย Graffiti บนกำแพง และ Sultan Mosque ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กของย่านนี้
Arab Street. รูปภาพ: Bryn Pinzgauer/CC BY 2.0
จากนั้นขี่ต่อไปเพื่อดูย่านแปลกตาอย่าง Little India คุณจะรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในประเทศอินเดียเลยทีเดียว ที่นี่มีอาหารและร้านให้จับจ่ายซื้อของได้ในราคาย่อมเยา สำหรับผู้ที่จะซื้อของที่ระลึก แนะนำให้ซื้อที่นี่ ที่ต่อไปคือถนน Orchard ซึ่งเป็นแหล่งช็อปปิ้งยอดนิยมของคนไทย มีทั้งร้านแบรนด์เนมหรูและร้านดังอื่นๆ อย่าง Sephora, Zara และ H & M ที่ราคาถูกกว่าเมืองไทยเยอะทีเดียว แต่เรารอไว้ซื้อวันอาทิตย์ดีกว่าจะได้ไม่พะรุงพะรังเวลาขี่จักรยาน
รูปภาพ: Tristan Schmurr/CC BY 2.0
จากนั้นขี่ต่อไปยัง Merlion Park ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ มีรูปปั้นสิงโตพ่นน้ำอันโด่งดัง มองข้ามทะเลไปจะเห็น
Marina Bay Sands โรงแรม หรูที่เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของสิงคโปร์ คุณสามารถขึ้นไปชมวิวได้ด้วยราคา 500 บาท นอกจากนี้ในบริเวณนี้ยังมี Esplanade ห้างที่คนไทยเรียกกันว่าหนามทุเรียน เป็นตึกรูปทรงแปลกตาที่ต้องไปเห็นให้ได้
Gardens by the Bay. รูปภาพ: _paVan_/CC BY 2.0
ขี่ต่อไปยัง Gardens by the Bay สวนพฤกษชาติขนาดใหญ่ที่ไม่ควรพลาดเลย เพราะเป็นแลนด์มาร์กสุดฮิตอีกแห่งหนึ่ง พักจากการปั่นจักรยานมาเดินชมสวนที่ตกแต่งได้ชิกที่สุด และ Super Trees อีก 18 ต้นทำให้หายเหนื่อยไปได้มาก เมื่อมาถึงตรงนี้ก็ใกล้ค่ำเต็มที่ แนะนำให้รอจนถึงมืดซึ่งสวนนี้จะเปิดไฟและดูสวยงามแปลกตายิ่งขึ้น (ค่าเข้า 750 บาท)
Clarke Quay. รูปภาพ: Edwin Lee/CC BY 2.0
จากตรงนี้ปั่นตามแผนที่กลับไปที่ East Coast Park เพื่อคืนจักรยาน จากนั้นถ้ายังมีแรงเหลือ ก็ขึ้น MRT มานั่งจิบเครื่องดื่มที่ Clarke Quay ที่เป็นแหล่งชิลยอดนิยมของคนที่นี่ แต่ถ้านึกอยากไปเที่ยว
Night Safari ก็สามารถนั่ง MRT ไปยังสถานี Ang Mo Kio แล้วต่อรถเมล์สาย 138 หรือ Choa Chu Kang แล้วต่อรถสาย 927 เสียค่าเข้าประมาณ 800 บาท
เที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเองวันที่ 3
รูปภาพ: Nan-Cheng Tsai/CC BY-ND 2.0
หลังจากเที่ยวมาอย่างหนักในวันเสาร์ วันอาทิตย์ถือเป็น free day ที่เก็บตกสิงคโปร์ มีทางเลือกสองทางว่าจะช็อปปิ้งหรือไปเที่ยว
Universal Studio ที่ อยู่บนเกาะเซนโตซ่า ไปสองอย่างไม่ได้ เพราะเวลาไม่พอเดี๋ยวตกเครื่องบิน เราเลือกไป Universal (ค่าเข้าประมาณ 1,900 บาท) เล่นยังไม่ทันครบก็บ่ายกว่าๆ แล้ว เพราะคนเยอะมากๆ จึงต้องรีบกลับที่พักและเดินทางด้วย MRT ไปสนามบิน
สรุปค่าใช้จ่าย
รวมใช้เงินไปทั้งหมด (ไม่รวมช็อปปิ้งกับค่าตั๋วเครื่องบิน) ไม่ถึง 9,000 บาท ไม่แพงอย่างที่คิดใช่ไหมล่ะตามนี้:
ค่าที่พัก 1,800 บาท
ค่าเดินทาง ซื้อตั๋ว
Three Day Tourist Pass ราคาประมาณ 550 บาท ค่ามัดจำ 10 SGD
ค่าเข้าชม 2,900 บาท (Red Dot, Gardens by the Bay, Universal)
ค่าเช่าจักรยาน 500 บาท
ค่าอาหาร 3,000 บาท
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์นี้ได้จาก
http://bit.ly/1nNaDpx
จองทริปท่องเที่ยวของได้ง่ายๆ กับเอ็กซ์พีเดีย จองเที่ยวบิน พร้อมโรงแรม ลดสูงสุด 32% คุ้มเว่อออร์ #อย่าบอกใครนะ ที่
http://bit.ly/ExpediaTHM
จองโรงแรม หรือ จองเที่ยวบิน ได้ที่
http://bit.ly/ExpediaTHA
หยุดยาว สงกรานต์นี้ ช้อปมันส์ ที่ฮ่องกง กับ ดีลสุดคุ้ม “Splashing Songkran Holiday | เที่ยวสงกรานต์ ชิลล์ ชิลล์ กับเอ็กซ์พีเดีย!” หรือจะเที่ยวฟินๆ ได้ทั้งใน และนอกประเทศ โปรฯ ดี #อย่าบอกใครนะ
เชียงใหม่, ภูเก็ต, กระบี่, สมุย, กรุงเทพฯ, ฮ่องกง, สิงคโปร์, ญี่ปุ่น, เกาหลี, ยุโรป, อเมริกา, และอีกมากมาย
วันจอง: วันนี้ - 31 มี.ค. 59
เดินทาง: 16 มี.ค - 31 พ.ค. 59
3 วัน 2 คืน (เที่ยวบิน + โรงแรม) เริ่มที่ 3,199 บาท/ท่าน
โรงแรม เริ่มที่ 999 บาท/คืน
คลิกจอง
http://bit.ly/ExpediaTHM
คู่มือท่องเที่ยวสิงคโปร์
Places to Visit In Bangkok
Botanic Gardens กว่า 460 ไร่ ที่นี่พยายามรักษาพันธุ์ไม้เก่าแก่ของเกาะเอาไว้ รวมทั้งสร้างโซนพันธุ์ไม้ต่างๆ ขึ้น เช่น โซนดึกดำบรรพ์ที่จำลองบรรยากาศพืชพรรณโบราณอย่างมอส
Pulau Ubin เกาะเล็กๆ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสิงคโปร์ เต็มไปด้วยธรรมชาติ ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องเส้นทางปั่นจักรยานเสือภูเขา ให้นักท่องเที่ยวและคนเมืองได้มาปั่นออกกำลังกายกันแบบเบาๆ
Gillman Barracks ซ่อนตัวอยู่ในสวนเขียวขจี ภายในเต็มไปด้วยแกลเลอรีศิลปะมากมาย แถมยังเปิดให้ชมยันดึก และจัดงานปาร์ตี้เก๋ๆ อย่าง Art after Dark เพื่อดึงให้คนมาเสพศิลป์ในยามค่ำคืนกันทุกเดือนด้วย
Bangkok Cuisine
ข้าวมันไก่สิงคโปร์ จะแตกต่างจากไทยเราที่น้ำจิ้ม ที่มีน้ำจิ้มพริกแบบตำสีส้มสด รสชาติออกเปรี้ยวๆ แบบน้ำส้มสายชูที่มีพริก แต่ไก่เขานุ่ม หวาน ละมุนลิ้นกว่าบ้านเรา สั่งเป็นชุดได้ ชุดนึงจะมีข้าวมันไก่จานนึง ไก่อย่างเดียวจานนึง และคะน้าน้ำมันหอยอีกจาน
ปูผัดพริก (Chilli crab) แนะนำให้ไปจองโต๊ะล่วงหน้าเพราะร้านเขาเต็มเป็นประจำ หากคุณไม่ได้ลองทานจานนี้แสดงว่าคุณยังมาไม่ถึงสิงคโปร์จริงๆ
ไก่ทอดไข่เค็ม ลองเปลี่ยนมากินจานใหม่บ้าง ความเด็ดอยู่ที่ความกรุบกรอบของหนังที่ด้านนอก เคลือบด้วยซอสไข่เค็มอันหอมหวล มีร้านให้ลองกินไก่ทอดไข่เค็มอยู่หลายร้าน แต่ร้านน่านั่งสุดฮิปคือ Chick and Ken
Kranji Countryside พื้นที่เขต Kranji นั้น เต็มไปด้วยฟาร์มปลูกผัก เลี้ยงสัตว์มากมาย รวมทั้งกบยักษ์ที่ฟาร์มกบ Jurong Frog Farm ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเยี่ยมชมฟาร์มได้ทุกสุดสัปดาห์ โดยกบเหล่านี้ก็จะถูกขายไปทำกบหม้อดิน หรือโจ๊กกบ เมนูสุดอร่อยของสิงคโปร์
สีสันยามค่ำคืนที่สิงคโปร์
1-altitude นั่งดริ้งค์ไปกับชมวิวแบบ 360 องศา ชมความงามของตึกสวยหรูอย่าง Marina Bay Sands 1-altitude เป็นบาร์เปิดโล่งบนชั้นที่ 63 ของยอดตึก One Raffles Place
IndoChine อยู่บนยอดไม้ของต้นไม้เรืองแสงอย่าง Supertree Grove ทำให้มองเห็นวิวของสวน Gardens by the Bay ตึก Marina Bay Sands และรวมไปถึง Singapore Flyer
[Advertorial]
เที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเอง 3 วัน 2 คืน กับงบ 9,000 บาท
เที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเองวันที่ 1
ไปถึงสนามบินชางกีในช่วงเย็นๆ เมื่อรับกระเป๋าเสร็จแล้วก็ตรงไปยังสถานีรถ MRT ที่อยู่ใต้ Terminal 2 เพื่อต่อรถเข้าเมืองไปยังที่พัก โดยดูแผนที่ได้ที่นี่ เนื่องจากวันแรกเรามีเวลาน้อยจึงเที่ยวแถว China Town ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของสิงคโปร์ แถวนี้ร้านค้าและสถานที่ท่องเที่ยว เช่น วัดจีน วัดแขก พิพิธภัณฑ์ รวมถึงร้านอาหารจีนอร่อยๆ มากมาย เมื่อเก็บกระเป๋าเสร็จ เรารีบตรงไปที่ Red Dot Museum ซึ่ง เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงสิ่งของที่มีเอกลักษณ์ด้านการออกแบบจากทั่วโลก (ค่าเข้าประมาณ 250 บาท) สำหรับคนที่ชอบช็อปปิ้ง ก็สามารถเดินซื้อของในร้านต่างๆ ได้ ก่อนจะทานอาหารจีนและนั่งจิบเครื่องดื่มชิลๆ ในบาร์ที่มีอยู่ทั่วไป จากนั้นกลับโรงแรมเพื่อพักผ่อน แต่ถ้าใครเป็นนักเที่ยวแล้วละก็ แนะนำให้ไปเที่ยวผับดังๆ ของสิงคโปร์ เช่น Zouk หรือ Attica ในคืนวันศุกร์ เพราะจะคึกคักเป็นพิเศษ
เที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเองวันที่ 2
ตื่นแต่เช้าและรับประทานอาหารใกล้โรงแรม อาหารเช้าจานเด็ดของแถวนี้คือติ่มซำที่อร่อยไปเสียทุกร้าน คงเป็นเพราะว่าตั้งอยู่แถว China Town นี่เอง เริ่มต้นวันนี้ที่ East Coast Park โดยนั่ง MRT มาลง Bedok และต่อรถเมล์สาย 401 ซีงจะพาเราไปที่สวน East Cost ที่นั่นจะมีร้านเช่าจักรยานหลายร้าน เลือกเช่าคันที่ชอบได้เลย (ใช่แล้ว…เราจะเที่ยวสิงคโปร์ด้วยจักรยานกัน) โดยราคาเช่าจะประมาณ 500 บาทต่อวัน ตามกฎหมายที่นี่จะต้องใส่หมวก อย่าลืมขอที่ล็อคจักรยานด้วยล่ะ ทางร้านจะให้แผนที่ทางจักรยานมาด้วย มีแผ่นนี้แผนเดียวรับรองไม่หลง
เริ่มขี่ดูถนนหนทางไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยเพราะมีทางจักรยานเป็นระเบียบเรียบร้อยทั่ว เมือง จุดแรกที่จะแวะเที่ยวคือ Arab Street และ Haji Lane ซึ่งเป็นแหล่งเที่ยวของวัยรุ่นสิงคโปร์ มีร้านบูติกเล็กๆ น่ารักเต็มไปหมด สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูป อย่าพลาดการโพสท่ากับลวดลาย Graffiti บนกำแพง และ Sultan Mosque ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กของย่านนี้
จากนั้นขี่ต่อไปเพื่อดูย่านแปลกตาอย่าง Little India คุณจะรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในประเทศอินเดียเลยทีเดียว ที่นี่มีอาหารและร้านให้จับจ่ายซื้อของได้ในราคาย่อมเยา สำหรับผู้ที่จะซื้อของที่ระลึก แนะนำให้ซื้อที่นี่ ที่ต่อไปคือถนน Orchard ซึ่งเป็นแหล่งช็อปปิ้งยอดนิยมของคนไทย มีทั้งร้านแบรนด์เนมหรูและร้านดังอื่นๆ อย่าง Sephora, Zara และ H & M ที่ราคาถูกกว่าเมืองไทยเยอะทีเดียว แต่เรารอไว้ซื้อวันอาทิตย์ดีกว่าจะได้ไม่พะรุงพะรังเวลาขี่จักรยาน
จากนั้นขี่ต่อไปยัง Merlion Park ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ มีรูปปั้นสิงโตพ่นน้ำอันโด่งดัง มองข้ามทะเลไปจะเห็น Marina Bay Sands โรงแรม หรูที่เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของสิงคโปร์ คุณสามารถขึ้นไปชมวิวได้ด้วยราคา 500 บาท นอกจากนี้ในบริเวณนี้ยังมี Esplanade ห้างที่คนไทยเรียกกันว่าหนามทุเรียน เป็นตึกรูปทรงแปลกตาที่ต้องไปเห็นให้ได้
ขี่ต่อไปยัง Gardens by the Bay สวนพฤกษชาติขนาดใหญ่ที่ไม่ควรพลาดเลย เพราะเป็นแลนด์มาร์กสุดฮิตอีกแห่งหนึ่ง พักจากการปั่นจักรยานมาเดินชมสวนที่ตกแต่งได้ชิกที่สุด และ Super Trees อีก 18 ต้นทำให้หายเหนื่อยไปได้มาก เมื่อมาถึงตรงนี้ก็ใกล้ค่ำเต็มที่ แนะนำให้รอจนถึงมืดซึ่งสวนนี้จะเปิดไฟและดูสวยงามแปลกตายิ่งขึ้น (ค่าเข้า 750 บาท)
จากตรงนี้ปั่นตามแผนที่กลับไปที่ East Coast Park เพื่อคืนจักรยาน จากนั้นถ้ายังมีแรงเหลือ ก็ขึ้น MRT มานั่งจิบเครื่องดื่มที่ Clarke Quay ที่เป็นแหล่งชิลยอดนิยมของคนที่นี่ แต่ถ้านึกอยากไปเที่ยว Night Safari ก็สามารถนั่ง MRT ไปยังสถานี Ang Mo Kio แล้วต่อรถเมล์สาย 138 หรือ Choa Chu Kang แล้วต่อรถสาย 927 เสียค่าเข้าประมาณ 800 บาท
เที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเองวันที่ 3
หลังจากเที่ยวมาอย่างหนักในวันเสาร์ วันอาทิตย์ถือเป็น free day ที่เก็บตกสิงคโปร์ มีทางเลือกสองทางว่าจะช็อปปิ้งหรือไปเที่ยว Universal Studio ที่ อยู่บนเกาะเซนโตซ่า ไปสองอย่างไม่ได้ เพราะเวลาไม่พอเดี๋ยวตกเครื่องบิน เราเลือกไป Universal (ค่าเข้าประมาณ 1,900 บาท) เล่นยังไม่ทันครบก็บ่ายกว่าๆ แล้ว เพราะคนเยอะมากๆ จึงต้องรีบกลับที่พักและเดินทางด้วย MRT ไปสนามบิน
สรุปค่าใช้จ่าย
รวมใช้เงินไปทั้งหมด (ไม่รวมช็อปปิ้งกับค่าตั๋วเครื่องบิน) ไม่ถึง 9,000 บาท ไม่แพงอย่างที่คิดใช่ไหมล่ะตามนี้:
ค่าที่พัก 1,800 บาท
ค่าเดินทาง ซื้อตั๋ว Three Day Tourist Pass ราคาประมาณ 550 บาท ค่ามัดจำ 10 SGD
ค่าเข้าชม 2,900 บาท (Red Dot, Gardens by the Bay, Universal)
ค่าเช่าจักรยาน 500 บาท
ค่าอาหาร 3,000 บาท
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์นี้ได้จาก http://bit.ly/1nNaDpx
จองทริปท่องเที่ยวของได้ง่ายๆ กับเอ็กซ์พีเดีย จองเที่ยวบิน พร้อมโรงแรม ลดสูงสุด 32% คุ้มเว่อออร์ #อย่าบอกใครนะ ที่ http://bit.ly/ExpediaTHM
จองโรงแรม หรือ จองเที่ยวบิน ได้ที่ http://bit.ly/ExpediaTHA
หยุดยาว สงกรานต์นี้ ช้อปมันส์ ที่ฮ่องกง กับ ดีลสุดคุ้ม “Splashing Songkran Holiday | เที่ยวสงกรานต์ ชิลล์ ชิลล์ กับเอ็กซ์พีเดีย!” หรือจะเที่ยวฟินๆ ได้ทั้งใน และนอกประเทศ โปรฯ ดี #อย่าบอกใครนะ
เชียงใหม่, ภูเก็ต, กระบี่, สมุย, กรุงเทพฯ, ฮ่องกง, สิงคโปร์, ญี่ปุ่น, เกาหลี, ยุโรป, อเมริกา, และอีกมากมาย
วันจอง: วันนี้ - 31 มี.ค. 59
เดินทาง: 16 มี.ค - 31 พ.ค. 59
3 วัน 2 คืน (เที่ยวบิน + โรงแรม) เริ่มที่ 3,199 บาท/ท่าน
โรงแรม เริ่มที่ 999 บาท/คืน
คลิกจอง http://bit.ly/ExpediaTHM
คู่มือท่องเที่ยวสิงคโปร์
Places to Visit In Bangkok
Botanic Gardens กว่า 460 ไร่ ที่นี่พยายามรักษาพันธุ์ไม้เก่าแก่ของเกาะเอาไว้ รวมทั้งสร้างโซนพันธุ์ไม้ต่างๆ ขึ้น เช่น โซนดึกดำบรรพ์ที่จำลองบรรยากาศพืชพรรณโบราณอย่างมอส
Pulau Ubin เกาะเล็กๆ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสิงคโปร์ เต็มไปด้วยธรรมชาติ ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องเส้นทางปั่นจักรยานเสือภูเขา ให้นักท่องเที่ยวและคนเมืองได้มาปั่นออกกำลังกายกันแบบเบาๆ
Gillman Barracks ซ่อนตัวอยู่ในสวนเขียวขจี ภายในเต็มไปด้วยแกลเลอรีศิลปะมากมาย แถมยังเปิดให้ชมยันดึก และจัดงานปาร์ตี้เก๋ๆ อย่าง Art after Dark เพื่อดึงให้คนมาเสพศิลป์ในยามค่ำคืนกันทุกเดือนด้วย
Bangkok Cuisine
ข้าวมันไก่สิงคโปร์ จะแตกต่างจากไทยเราที่น้ำจิ้ม ที่มีน้ำจิ้มพริกแบบตำสีส้มสด รสชาติออกเปรี้ยวๆ แบบน้ำส้มสายชูที่มีพริก แต่ไก่เขานุ่ม หวาน ละมุนลิ้นกว่าบ้านเรา สั่งเป็นชุดได้ ชุดนึงจะมีข้าวมันไก่จานนึง ไก่อย่างเดียวจานนึง และคะน้าน้ำมันหอยอีกจาน
ปูผัดพริก (Chilli crab) แนะนำให้ไปจองโต๊ะล่วงหน้าเพราะร้านเขาเต็มเป็นประจำ หากคุณไม่ได้ลองทานจานนี้แสดงว่าคุณยังมาไม่ถึงสิงคโปร์จริงๆ
ไก่ทอดไข่เค็ม ลองเปลี่ยนมากินจานใหม่บ้าง ความเด็ดอยู่ที่ความกรุบกรอบของหนังที่ด้านนอก เคลือบด้วยซอสไข่เค็มอันหอมหวล มีร้านให้ลองกินไก่ทอดไข่เค็มอยู่หลายร้าน แต่ร้านน่านั่งสุดฮิปคือ Chick and Ken
Kranji Countryside พื้นที่เขต Kranji นั้น เต็มไปด้วยฟาร์มปลูกผัก เลี้ยงสัตว์มากมาย รวมทั้งกบยักษ์ที่ฟาร์มกบ Jurong Frog Farm ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเยี่ยมชมฟาร์มได้ทุกสุดสัปดาห์ โดยกบเหล่านี้ก็จะถูกขายไปทำกบหม้อดิน หรือโจ๊กกบ เมนูสุดอร่อยของสิงคโปร์
สีสันยามค่ำคืนที่สิงคโปร์
1-altitude นั่งดริ้งค์ไปกับชมวิวแบบ 360 องศา ชมความงามของตึกสวยหรูอย่าง Marina Bay Sands 1-altitude เป็นบาร์เปิดโล่งบนชั้นที่ 63 ของยอดตึก One Raffles Place
IndoChine อยู่บนยอดไม้ของต้นไม้เรืองแสงอย่าง Supertree Grove ทำให้มองเห็นวิวของสวน Gardens by the Bay ตึก Marina Bay Sands และรวมไปถึง Singapore Flyer
[Advertorial]