ออกตัวก่อนว่า ส่วนใหญ่แล้วผมจะชอบอ่านมากกว่าตั้งกระทู้อะไรแบบนี้ ไม่คิดเหมือนกันว่าวันนึ่งจะได้มาเขียนบอกเล่าเรื่องราไรแบบนี้ แต่ก็ยินดีถ่ายทอดประสบการณ์ตรงของผม เรื่องอาจยาวหน่อยคงไม่ว่ากันนะครับ 555+
ตอนนี้ผมอายุ 28 ปี (แก่ไปมั้ย 555+) ทำงานเป็นช่างเทคนิค บริษัทน้ำมันเอกชนแห่งหนึ่งครับ
ผมคบกับแฟนมา 9 ปี 9 เดือน กับอีก 5 วัน (เริ่มนับจากวันที่ตกลงเป็นแฟนกันนะ) แล้วเราก็เลิกกันในวันเกิดของเธอที่ผ่านมาไม่นานนี้
เธอคนนี้เป็น ผญ คนแรกที่ผมคบจริงจังและเป็นคนเดียวที่ผมรักเรื่อยมา ความรักของเราค่อนข้างจะราบรื่นเรื่อยมา จนเมื่อไม่นานมานี้ผมเริ่มประสบปัญหาทางการงานและการเงิน และทำให้พฤติกรรมและอารมณ์ของผมเปลี่ยนไป
ที่ว่าราบรื่นหมายความว่า พ่อแม่ของผมและเธอไม่ได้กีดกันความรักของเรา เรารักกันพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายต่างรับรู้ พ่อแม่ของเธอก็ชอบผมนะ (ถ้าผมไม่มโนไปเอง 555+)
เริ่มเรื่องเลยละกันครับ ย้อนกลับไปสมัย ม.ปลาย
เราสองคนเป็นเด็กต่างจังหวัดครับ เป็นเพื่อนร่วมห้องสมัย ม.ต้นตอนปลาย และตลอดทั้ง ม.ปลาย คือผมย้ายเข้ามาอยู่ รร. นี้ตอน ม. 3 ตอนนั้นยังไม่ได้ชอบกัน เป็นแค่เพื่อนร่วมห้องกันเฉยๆ และพอขึ้น ม. ปลาย ด้วยจำนวนห้อง ม. ปลาย รร. ผมมีน้อย (มีแค่ 2 ห้องเอง) พอขึ้น ม. ปลายก็ยังได้อยู่ห้องเดียวกันอีกทำให้เวลามีกิจกรรมอะไรก็มักได้ทำร่วมกันเสมอ เธอเป็น ผญ. ธรรมดาๆ คนนึ่งที่ผมก็ไม่คิดเหมือนกันว่าผมจะรักเธอได้จนถึงทุกวันนี้ (คือเป็นเรื่องปกติมั้ยครับที่ ผช. จะชอบ ผญ. สวย 555+) คือตอนนั้นเธอก็ไม่ได้สวยอะไร ออกเจ้าเนื้ออวบๆ นิด ไว้ผมบ๊อบตามระเบียบ รร. หน้ากลมสไตล์เด็ก ม.ปลาย คิดแล้วก็ขำทรงผม นักเรียน ญ แต่ก่อนนะ 555+ โทษทีนะครับ แค่แซวขำๆ แต่ทุกวันนี้เธอสวยกว่าแต่ก่อนมาก อาจเป็นเพราะอายุและวุฒิภาวะความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ผมรู้สึกภูมิใจในตัวเธอทุกครั้งที่มีคนทักว่าผมได้แฟนสวยนะ อิจฉาจังรักกันนานขนาดนี้ และผมก็ภูมิใจทุกครั้งที่ได้เล่าประสบการณ์ความรักของเราให้คนอื่นฟัง(คือประมาณมีคนมาถามนะว่าทำไมถึงรักกันได้นาน ไม่ใช่ว่าไปเที่ยวเล่าให้คนอื่นฟังนะครับ อันนั้นก็ดูโอ้อวดสรรพคุณเกินไป 555+) กลับมาๆ สมัย ม. ปลาย ช่วงนั้นเป็นช่วงที่สนุกกับเพื่อนมากๆ ก็คงเป็นปกติมั้ง ม. ปลายนี้ เป็นความทรงจำที่ดีมากที่สุดสำหรับช่วงชีวิตการศึกษา แต่ก็มีกังวลเรื่องเรียนนิดๆ ว่าจบแล้วจะเรียนต่อที่ไหน แต่ก็ติดเพื่อนมากกว่า 555+ ส่วนเรื่องเรียนก็สนใจเฉพาะบางวิชา 555+ (น้องๆ อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะครับ) ผมชอบคณิตศาสตร์กับฟิสิกส์ ตอนนั้นจำได้ว่าไปลงเรียนพิเศษสองตัวนี้โดยเฉพาะตลอดทั้ง ม. ปลาย เลย เพื่อนๆ มักขอผมลอกการบ้านสองวิชานี้ และมีบางครั้งถึงกับทำข้อสอบในห้องเรียนให้เพื่อนเลยก็มี (น้องๆ อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะครับ)
ก่อนผมจะรัก ผญ. คนนี้ ใช่ว่าจะไม่เคยคุย ผญ. คนไหนนะครับ ตอน ม.4 ก่อนปิดเทอม ผมรู้สึกชอบ ผญ. คนนึ่งก็เป็นเพื่อนร่วมห้องเหมือนกันนี่แหละครับ ช่วงปิดเทอมก็คุยกันทางโทรศัพท์ เจอกันบางนิดหน่อย แต่ทุกๆ ปิดเทอมส่วนใหญ่ผมจะกลับบ้านต่างจังหวัดไปหาแม่ครับ อยู่กับแม่ ช่วยงานที่บ้านแม่ ทำไร่ ทำนาครับ (ลืมบอก พ่อผมรับราชการอยู่อีกจังหวัดนึ่งครับ ส่วนแม่ผมดูแลตากับยายอีกจังหวัดนึ่งซึ่งเป็นจังหวัดติดกัน ขับรถไม่นานประมาณชั่วโมงนึ่งถึง ผมและพ่อจะกลับไปหาแม่ทุกเย็นวันศุกร์และกลับมาเรียนและทำงานทุกเย็นวันอาทิตย์ เป็นอย่างงี้ซะส่วนใหญ่) กับ ผญ. คนนี้คุยได้สักพักรู้สึกว่าไม่ใช่แล้วผมก็เงียบไป แล้วก็เลิกกัน จนทุกวันนี้ผมคิดว่าเธอคนนั้นก็คงยังไม่รู้ว่า ผมเป็นอะไร ถ้าเธอได้เข้ามาอ่าน อยากว่าเรา “เราขอโทษนะ” แม้เรื่องมันจะผ่านมานานแล้วก็ตาม (ฟังดูเลวเนาะ ผมยอมรับครับ และนี่แหละครับคือข้อเสียของผม) เปิดเทอมมา ม. 5 ผมก็มองหน้าเธอไม่ติดตามระเบียบเพราะรู้สึกผิด T_T แล้วเวลาก็ผ่านไป ช่วง ม. 5 เป็นช่วงที่คิดเรื่องเรียนมากขึ้น เรียนพิเศษมากขึ้น แต่ก็ยังแบ่งเวลาเล่นได้เท่าเดิม 555+ ช่วงนี้เป็นช่วงที่กิจกรรมเริ่มเยอะขึ้นทั้งงานไหว้ครู กีฬาสี งานโรงเรียน และอื่นๆ ทำให้ผมและแฟนได้ทำกิจกรรมร่วมกันมากขึ้น มีคอนเนคชั่นกันมากขึ้นทั้งเพื่อนและคนรอบข้างต่างเป็นใจผมไม่รู้ว่าตอนนั้นมันวางแผนกันหรือป่าวนะครับ 555+ แต่ก็ยังไม่ได้รู้สึกว่าชอบกันหรอกครับ แต่รู้สึกว่าคุยกันแล้วสนุก คุยกันรู้เรื่อง ตอนนั้นโทรศัทพ์ค่าย AIS มั้ง ที่มีโปร 5 วิ ไม่เสียตัง มีใครทันบ้าง 555+ ฟังดูโคตรแก่เลยเหนอะ เชื่อไม่ว่า 5 วิ คุยกันเป็น ชม. สอง ชม. 555+ พักหลังไม่ไหวละ ตัดสินใจเติมโปร ชม.ละ 2 3 5 บาท คุยกันเลย คุยกันจนผ่านไปสักพักมารู้ตัวอีกที นี่เราคุยกันมากขนาดนี้ตอนไหนว่ะเนี่ย แล้วก็ปิดเทอม ม. 5 ช่วงปิดเทอม ม. 5 นี้ ผมไม่ได้กลับบ้านหาแม่เพราะต้องเรียนพิเศษ เรียนวันละ 2-4 ชม. แล้วก็ได้เจอเห็น ผญ. คนนึ่งเป็นเพื่อนต่าง รร. ต่างจังหวัดมาเรียน ผมรู้สึกปิ้ง และอยากรู้จัก นับว่าเป็นการจีบ ผญ. แบบตรงๆ ครั้งแรกของผมเลยก็ว่าได้ 555+ เขาเป็น ผญ. มาจาก จ. ข้างเคียงมาเรียนพิเศษและเช่าหออยู่ จ. ผม ประมาณเดือนนึ่งมั้ง แว๊บแรกที่เห็น ผญ. คนนี้เธอดูโดดเด่นกว่าทุกคนในห้อง สูง ขาว สวย โอ้ สเปคชายหลายๆ คนเลยทีเดียว แล้วก็ลองจีบ เริ่มจีบยังไงตอนนั้นจำไม่ได้ แต่จำได้ว่าก่อนจะปิดคอร์สได้เทคแคร์อยู่พักนึ่ง ได้พาเขาไปในทีต่างๆ ของ จ. ผม ไปกินข้าว เดินเล่นสวนสุขภาพ ออกกำลังกาย เดินห้างน้อยๆ คือห้างในจังหวัดผมตอนนั้นมันเล็กมาก มี 4 ชั้น 4 คูหาใหญ่ๆ เพราะเจ้าของเป็นคนพื้นที่ ตอนช่วงเดินห้างนี้ก็พีคเหมือนกันนะ มีวันนึ่งขณะที่พา ผญ. คนนี้ไปเดิน ได้ไปจ๊ะเอ๋กับ แฟนผม(ตอนนั้นยังไม่ได้เป็นแฟนกันนะ เป็นช่วงที่คุยกัน จำได้ป่าว อิอิ) และเพื่อนของเธอก็เข้ามาเคลีย จำได้ว่าตอนนั้นผมโดนเพื่อนผมเรียกไปเคลียเหมือนเข้าห้องเย็นอ่ะ 555 บทสนทนาประมาณนี้
เพื่อน : ทำไมทำแบบนี้ แล้วคนที่ผมคุยอยู่(หมายถึงแฟนผมอะนะ) มันจะคิดยังไง
ผม : ............เงียบ (สไตล์เดิม พูดไม่ออก)
เพื่อน : จะเอาไงว่ามา(นั่นประโยคเด็ดสำหรับคนรักเพื่อนเลย 555+)
ผม : กูก็ไม่รู้ว่ะ กู้ก็ไม่รู้ใจตัวเองเหมือนกัน (นี่บักพระเอก ห่า ขั่วเอ้ย 555+ คำอุทานของคนภาคอีกสานนะครับ 555+)
จริงๆ ตอนนั้นจำไม่ได้ว่าผมพูดไรไปบ้าง แต่ก็กลับมาคิดนะว่า กูก็ยังไม่ได้เป็นแฟนนี่หว่า จะจีบใครก็คงไม่ผิดมั้ง (แต่ผิดที่ทำให้อีกฝ่ายคิดไปไกล อันนี้พึ่งมาคิดได้ตอนโตขึ้นมาอีกหน่อยนะ เด็กๆ ควรคิดให้รอบขอบนะ ก่อนจะคบใคร) หลังจากปิดคอร์สเรียนพิเศษ ผญ. คนนั้นก็กลับไปเรียนที่ จ. ของเธอตามปกติ แต่ผมก็คุยตามปกติ ผช. จีบ ผญ. แต่ด้วยระยะทางและเวลาทำให้เราห่างกันมากขึ้นจนผมเลิกติดต่อไปเอง (นั่นเลวอีกละ ป่าวหรอก ผมก็ยังติดต่อเหมือนเดิมแหละ แต่พักหลังเริ่มรู้สึกว่า ผญ คนนั้นเค้าไม่ค่อยสนใจผมเท่าไหร่ การสนทนาเริ่มฟังดูห่างเหิน ผมก็เลยหยุดติดต่อกับเธอ เล๊ว เลว เนาะ) ช่วงเปิดเทอมขึ้น ม. 6 ใหม่ๆ ผมก็เหมือนเดิม เหมือนตอน ม. 4 เลย 555 มองหน้าแฟนผมไม่ติดรู้สึกผิด ไม่กล้าพูด ไม่กล้าคุย ก็ปล่อยผ่านไปสักพักใหญ่ๆ (แต่เพราะตอนนั้นผมก็ยังติดต่อกับ ผญ. ที่เรียนพิเศษอยู่พักนึ่งแล้วจากนั้นก็เลิกคุยก่ะเธอคนนั้น) จนเวลาผ่านไปใกล้จะจบเทอม 1 ของ ม. 6 ก็มีกิจกรรมโรงเรียนให้เราได้ทำร่วมกันกับแฟนและเพื่อนๆ แล้วเราก็กลับมาคุยกันอีกครั้ง ตอนนั้นเหมือนแฟนผมจะถามด้วยมั้งว่า เลิกคุยกับ ผญ. ที่เรียนพิเศษแล้วหรอ ถึงมาคุยก่ะเธอได้ ผมนี่สตั้นไปพักนึ่ง แล้วก็ตอบว่า “ใช่” แล้วเธอบอกว่า จริงๆ แล้ว เค้าไม่ได้ว่าไรหรอกนะ เพราะว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย เธออยากคบใครมันคือสิทธิ์ของเธอ แต่เพื่อนมันเป็นห่วงความรู้สึกของแฟนผมมากกว่า เลยพูดแทนแฟนผมออกไปอย่างงั้น ตอนนั้นผมนี่บอกตรง หน้าชา 555+ เริ่มรู้สึกว่า เฮ้ย ผญ. คนนี้ไม่ธรรมดา(นี่มันนางเอกชัดๆ) เริ่มรู้สึกว่าหรือเธอคนนี้จะคือคนที่ใช่สำหรับเรา เริ่มคิดทบทวนกลับไปว่า ที่ผ่านมาผมคิดยังไงกันแน่กับเธอ แต่ก็ยัง ยังไม่ได้คิดจะคบกันเป็นแฟน แล้วก็ปิดเทอม 1 ของ ม. 6 15 วันมั้ง ช่วงปิดเทอมนี้ก็ได้รู้จักกับ ผญ. อีกคน (แหนะไอ้นี่ ไม่เข็ด เอาอีกแล้วนะ กี่คนละเนี่ย =.=) ได้คุยกันพักนึ่ง แค่ไม่กี่วัน ได้เทคแคร์อยู่พักนึ่ง ก็รู้สึกว่าไม่ใช่ ก็ไม้เดิมเลยครับ เลิกคุยเฉยๆ (บักเลวว) พอเปิดเทอมมาเทอม 2 ม. 6 ช่วงนี้เป็นช่วงที่ทุกคนมุ่งมั่นหาที่เรียนต่อ และเป็นช่วงที่ผมคิดมากกับแฟนผมคนนี้ว่า ต่อไปผมจะไม่ได้เจอกับเธอแล้วหรอเนี่ย ยิ่งคิดทบทวนกลับไปตอนนั้นก็ยิ่งรู้เสียใจว่าที่ผ่านมาทำไมไม่ทำดีกับเธอให้มากกว่านี้ อาจเป็นเพราะช่วงนี้ผมเริ่มรู้สึกหลงรักเธอขึ้นมาจริงๆ แล้วก็ได้ แต่ช่วงนี้ก็ยังปากแข็งอยู่นะ ไม่ขอกันเป็นแฟน (นี่....บักปอปเอ้ย) ช่วงปลายเทอม 2 ม. 6 ผมสอบโควต้าวิศวะฯ ได้ ของ ม. ที่ราบสูงแห่งหนึ่ง ทำให้ผมไม่ค่อยสนใจแอดมิดชั่นละ (ตอนนั้นผมแอดมิดชั่นรุ่นแรก เพื่อนผมลุ้นคะแนนเหนื่อย ชิหาย คะแนนออก 3 รอบไม่เคยเท่ากันสักรอบ 555+) แต่ผมชิวผมได้โควต้าละ ไม่คิดไรมาก 555+ ช่วงเทอม 2 ม. 6 (ก่อนเข้ามหาลัย)
ก็แค่อยากเล่า [อาจเป็นอุทาหรณ์หรือข้อคิดสำหรับใครหลายๆ คนนะครับ]
ตอนนี้ผมอายุ 28 ปี (แก่ไปมั้ย 555+) ทำงานเป็นช่างเทคนิค บริษัทน้ำมันเอกชนแห่งหนึ่งครับ
ผมคบกับแฟนมา 9 ปี 9 เดือน กับอีก 5 วัน (เริ่มนับจากวันที่ตกลงเป็นแฟนกันนะ) แล้วเราก็เลิกกันในวันเกิดของเธอที่ผ่านมาไม่นานนี้
เธอคนนี้เป็น ผญ คนแรกที่ผมคบจริงจังและเป็นคนเดียวที่ผมรักเรื่อยมา ความรักของเราค่อนข้างจะราบรื่นเรื่อยมา จนเมื่อไม่นานมานี้ผมเริ่มประสบปัญหาทางการงานและการเงิน และทำให้พฤติกรรมและอารมณ์ของผมเปลี่ยนไป
ที่ว่าราบรื่นหมายความว่า พ่อแม่ของผมและเธอไม่ได้กีดกันความรักของเรา เรารักกันพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายต่างรับรู้ พ่อแม่ของเธอก็ชอบผมนะ (ถ้าผมไม่มโนไปเอง 555+)
เริ่มเรื่องเลยละกันครับ ย้อนกลับไปสมัย ม.ปลาย
เราสองคนเป็นเด็กต่างจังหวัดครับ เป็นเพื่อนร่วมห้องสมัย ม.ต้นตอนปลาย และตลอดทั้ง ม.ปลาย คือผมย้ายเข้ามาอยู่ รร. นี้ตอน ม. 3 ตอนนั้นยังไม่ได้ชอบกัน เป็นแค่เพื่อนร่วมห้องกันเฉยๆ และพอขึ้น ม. ปลาย ด้วยจำนวนห้อง ม. ปลาย รร. ผมมีน้อย (มีแค่ 2 ห้องเอง) พอขึ้น ม. ปลายก็ยังได้อยู่ห้องเดียวกันอีกทำให้เวลามีกิจกรรมอะไรก็มักได้ทำร่วมกันเสมอ เธอเป็น ผญ. ธรรมดาๆ คนนึ่งที่ผมก็ไม่คิดเหมือนกันว่าผมจะรักเธอได้จนถึงทุกวันนี้ (คือเป็นเรื่องปกติมั้ยครับที่ ผช. จะชอบ ผญ. สวย 555+) คือตอนนั้นเธอก็ไม่ได้สวยอะไร ออกเจ้าเนื้ออวบๆ นิด ไว้ผมบ๊อบตามระเบียบ รร. หน้ากลมสไตล์เด็ก ม.ปลาย คิดแล้วก็ขำทรงผม นักเรียน ญ แต่ก่อนนะ 555+ โทษทีนะครับ แค่แซวขำๆ แต่ทุกวันนี้เธอสวยกว่าแต่ก่อนมาก อาจเป็นเพราะอายุและวุฒิภาวะความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ผมรู้สึกภูมิใจในตัวเธอทุกครั้งที่มีคนทักว่าผมได้แฟนสวยนะ อิจฉาจังรักกันนานขนาดนี้ และผมก็ภูมิใจทุกครั้งที่ได้เล่าประสบการณ์ความรักของเราให้คนอื่นฟัง(คือประมาณมีคนมาถามนะว่าทำไมถึงรักกันได้นาน ไม่ใช่ว่าไปเที่ยวเล่าให้คนอื่นฟังนะครับ อันนั้นก็ดูโอ้อวดสรรพคุณเกินไป 555+) กลับมาๆ สมัย ม. ปลาย ช่วงนั้นเป็นช่วงที่สนุกกับเพื่อนมากๆ ก็คงเป็นปกติมั้ง ม. ปลายนี้ เป็นความทรงจำที่ดีมากที่สุดสำหรับช่วงชีวิตการศึกษา แต่ก็มีกังวลเรื่องเรียนนิดๆ ว่าจบแล้วจะเรียนต่อที่ไหน แต่ก็ติดเพื่อนมากกว่า 555+ ส่วนเรื่องเรียนก็สนใจเฉพาะบางวิชา 555+ (น้องๆ อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะครับ) ผมชอบคณิตศาสตร์กับฟิสิกส์ ตอนนั้นจำได้ว่าไปลงเรียนพิเศษสองตัวนี้โดยเฉพาะตลอดทั้ง ม. ปลาย เลย เพื่อนๆ มักขอผมลอกการบ้านสองวิชานี้ และมีบางครั้งถึงกับทำข้อสอบในห้องเรียนให้เพื่อนเลยก็มี (น้องๆ อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะครับ)
ก่อนผมจะรัก ผญ. คนนี้ ใช่ว่าจะไม่เคยคุย ผญ. คนไหนนะครับ ตอน ม.4 ก่อนปิดเทอม ผมรู้สึกชอบ ผญ. คนนึ่งก็เป็นเพื่อนร่วมห้องเหมือนกันนี่แหละครับ ช่วงปิดเทอมก็คุยกันทางโทรศัพท์ เจอกันบางนิดหน่อย แต่ทุกๆ ปิดเทอมส่วนใหญ่ผมจะกลับบ้านต่างจังหวัดไปหาแม่ครับ อยู่กับแม่ ช่วยงานที่บ้านแม่ ทำไร่ ทำนาครับ (ลืมบอก พ่อผมรับราชการอยู่อีกจังหวัดนึ่งครับ ส่วนแม่ผมดูแลตากับยายอีกจังหวัดนึ่งซึ่งเป็นจังหวัดติดกัน ขับรถไม่นานประมาณชั่วโมงนึ่งถึง ผมและพ่อจะกลับไปหาแม่ทุกเย็นวันศุกร์และกลับมาเรียนและทำงานทุกเย็นวันอาทิตย์ เป็นอย่างงี้ซะส่วนใหญ่) กับ ผญ. คนนี้คุยได้สักพักรู้สึกว่าไม่ใช่แล้วผมก็เงียบไป แล้วก็เลิกกัน จนทุกวันนี้ผมคิดว่าเธอคนนั้นก็คงยังไม่รู้ว่า ผมเป็นอะไร ถ้าเธอได้เข้ามาอ่าน อยากว่าเรา “เราขอโทษนะ” แม้เรื่องมันจะผ่านมานานแล้วก็ตาม (ฟังดูเลวเนาะ ผมยอมรับครับ และนี่แหละครับคือข้อเสียของผม) เปิดเทอมมา ม. 5 ผมก็มองหน้าเธอไม่ติดตามระเบียบเพราะรู้สึกผิด T_T แล้วเวลาก็ผ่านไป ช่วง ม. 5 เป็นช่วงที่คิดเรื่องเรียนมากขึ้น เรียนพิเศษมากขึ้น แต่ก็ยังแบ่งเวลาเล่นได้เท่าเดิม 555+ ช่วงนี้เป็นช่วงที่กิจกรรมเริ่มเยอะขึ้นทั้งงานไหว้ครู กีฬาสี งานโรงเรียน และอื่นๆ ทำให้ผมและแฟนได้ทำกิจกรรมร่วมกันมากขึ้น มีคอนเนคชั่นกันมากขึ้นทั้งเพื่อนและคนรอบข้างต่างเป็นใจผมไม่รู้ว่าตอนนั้นมันวางแผนกันหรือป่าวนะครับ 555+ แต่ก็ยังไม่ได้รู้สึกว่าชอบกันหรอกครับ แต่รู้สึกว่าคุยกันแล้วสนุก คุยกันรู้เรื่อง ตอนนั้นโทรศัทพ์ค่าย AIS มั้ง ที่มีโปร 5 วิ ไม่เสียตัง มีใครทันบ้าง 555+ ฟังดูโคตรแก่เลยเหนอะ เชื่อไม่ว่า 5 วิ คุยกันเป็น ชม. สอง ชม. 555+ พักหลังไม่ไหวละ ตัดสินใจเติมโปร ชม.ละ 2 3 5 บาท คุยกันเลย คุยกันจนผ่านไปสักพักมารู้ตัวอีกที นี่เราคุยกันมากขนาดนี้ตอนไหนว่ะเนี่ย แล้วก็ปิดเทอม ม. 5 ช่วงปิดเทอม ม. 5 นี้ ผมไม่ได้กลับบ้านหาแม่เพราะต้องเรียนพิเศษ เรียนวันละ 2-4 ชม. แล้วก็ได้เจอเห็น ผญ. คนนึ่งเป็นเพื่อนต่าง รร. ต่างจังหวัดมาเรียน ผมรู้สึกปิ้ง และอยากรู้จัก นับว่าเป็นการจีบ ผญ. แบบตรงๆ ครั้งแรกของผมเลยก็ว่าได้ 555+ เขาเป็น ผญ. มาจาก จ. ข้างเคียงมาเรียนพิเศษและเช่าหออยู่ จ. ผม ประมาณเดือนนึ่งมั้ง แว๊บแรกที่เห็น ผญ. คนนี้เธอดูโดดเด่นกว่าทุกคนในห้อง สูง ขาว สวย โอ้ สเปคชายหลายๆ คนเลยทีเดียว แล้วก็ลองจีบ เริ่มจีบยังไงตอนนั้นจำไม่ได้ แต่จำได้ว่าก่อนจะปิดคอร์สได้เทคแคร์อยู่พักนึ่ง ได้พาเขาไปในทีต่างๆ ของ จ. ผม ไปกินข้าว เดินเล่นสวนสุขภาพ ออกกำลังกาย เดินห้างน้อยๆ คือห้างในจังหวัดผมตอนนั้นมันเล็กมาก มี 4 ชั้น 4 คูหาใหญ่ๆ เพราะเจ้าของเป็นคนพื้นที่ ตอนช่วงเดินห้างนี้ก็พีคเหมือนกันนะ มีวันนึ่งขณะที่พา ผญ. คนนี้ไปเดิน ได้ไปจ๊ะเอ๋กับ แฟนผม(ตอนนั้นยังไม่ได้เป็นแฟนกันนะ เป็นช่วงที่คุยกัน จำได้ป่าว อิอิ) และเพื่อนของเธอก็เข้ามาเคลีย จำได้ว่าตอนนั้นผมโดนเพื่อนผมเรียกไปเคลียเหมือนเข้าห้องเย็นอ่ะ 555 บทสนทนาประมาณนี้
เพื่อน : ทำไมทำแบบนี้ แล้วคนที่ผมคุยอยู่(หมายถึงแฟนผมอะนะ) มันจะคิดยังไง
ผม : ............เงียบ (สไตล์เดิม พูดไม่ออก)
เพื่อน : จะเอาไงว่ามา(นั่นประโยคเด็ดสำหรับคนรักเพื่อนเลย 555+)
ผม : กูก็ไม่รู้ว่ะ กู้ก็ไม่รู้ใจตัวเองเหมือนกัน (นี่บักพระเอก ห่า ขั่วเอ้ย 555+ คำอุทานของคนภาคอีกสานนะครับ 555+)
จริงๆ ตอนนั้นจำไม่ได้ว่าผมพูดไรไปบ้าง แต่ก็กลับมาคิดนะว่า กูก็ยังไม่ได้เป็นแฟนนี่หว่า จะจีบใครก็คงไม่ผิดมั้ง (แต่ผิดที่ทำให้อีกฝ่ายคิดไปไกล อันนี้พึ่งมาคิดได้ตอนโตขึ้นมาอีกหน่อยนะ เด็กๆ ควรคิดให้รอบขอบนะ ก่อนจะคบใคร) หลังจากปิดคอร์สเรียนพิเศษ ผญ. คนนั้นก็กลับไปเรียนที่ จ. ของเธอตามปกติ แต่ผมก็คุยตามปกติ ผช. จีบ ผญ. แต่ด้วยระยะทางและเวลาทำให้เราห่างกันมากขึ้นจนผมเลิกติดต่อไปเอง (นั่นเลวอีกละ ป่าวหรอก ผมก็ยังติดต่อเหมือนเดิมแหละ แต่พักหลังเริ่มรู้สึกว่า ผญ คนนั้นเค้าไม่ค่อยสนใจผมเท่าไหร่ การสนทนาเริ่มฟังดูห่างเหิน ผมก็เลยหยุดติดต่อกับเธอ เล๊ว เลว เนาะ) ช่วงเปิดเทอมขึ้น ม. 6 ใหม่ๆ ผมก็เหมือนเดิม เหมือนตอน ม. 4 เลย 555 มองหน้าแฟนผมไม่ติดรู้สึกผิด ไม่กล้าพูด ไม่กล้าคุย ก็ปล่อยผ่านไปสักพักใหญ่ๆ (แต่เพราะตอนนั้นผมก็ยังติดต่อกับ ผญ. ที่เรียนพิเศษอยู่พักนึ่งแล้วจากนั้นก็เลิกคุยก่ะเธอคนนั้น) จนเวลาผ่านไปใกล้จะจบเทอม 1 ของ ม. 6 ก็มีกิจกรรมโรงเรียนให้เราได้ทำร่วมกันกับแฟนและเพื่อนๆ แล้วเราก็กลับมาคุยกันอีกครั้ง ตอนนั้นเหมือนแฟนผมจะถามด้วยมั้งว่า เลิกคุยกับ ผญ. ที่เรียนพิเศษแล้วหรอ ถึงมาคุยก่ะเธอได้ ผมนี่สตั้นไปพักนึ่ง แล้วก็ตอบว่า “ใช่” แล้วเธอบอกว่า จริงๆ แล้ว เค้าไม่ได้ว่าไรหรอกนะ เพราะว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย เธออยากคบใครมันคือสิทธิ์ของเธอ แต่เพื่อนมันเป็นห่วงความรู้สึกของแฟนผมมากกว่า เลยพูดแทนแฟนผมออกไปอย่างงั้น ตอนนั้นผมนี่บอกตรง หน้าชา 555+ เริ่มรู้สึกว่า เฮ้ย ผญ. คนนี้ไม่ธรรมดา(นี่มันนางเอกชัดๆ) เริ่มรู้สึกว่าหรือเธอคนนี้จะคือคนที่ใช่สำหรับเรา เริ่มคิดทบทวนกลับไปว่า ที่ผ่านมาผมคิดยังไงกันแน่กับเธอ แต่ก็ยัง ยังไม่ได้คิดจะคบกันเป็นแฟน แล้วก็ปิดเทอม 1 ของ ม. 6 15 วันมั้ง ช่วงปิดเทอมนี้ก็ได้รู้จักกับ ผญ. อีกคน (แหนะไอ้นี่ ไม่เข็ด เอาอีกแล้วนะ กี่คนละเนี่ย =.=) ได้คุยกันพักนึ่ง แค่ไม่กี่วัน ได้เทคแคร์อยู่พักนึ่ง ก็รู้สึกว่าไม่ใช่ ก็ไม้เดิมเลยครับ เลิกคุยเฉยๆ (บักเลวว) พอเปิดเทอมมาเทอม 2 ม. 6 ช่วงนี้เป็นช่วงที่ทุกคนมุ่งมั่นหาที่เรียนต่อ และเป็นช่วงที่ผมคิดมากกับแฟนผมคนนี้ว่า ต่อไปผมจะไม่ได้เจอกับเธอแล้วหรอเนี่ย ยิ่งคิดทบทวนกลับไปตอนนั้นก็ยิ่งรู้เสียใจว่าที่ผ่านมาทำไมไม่ทำดีกับเธอให้มากกว่านี้ อาจเป็นเพราะช่วงนี้ผมเริ่มรู้สึกหลงรักเธอขึ้นมาจริงๆ แล้วก็ได้ แต่ช่วงนี้ก็ยังปากแข็งอยู่นะ ไม่ขอกันเป็นแฟน (นี่....บักปอปเอ้ย) ช่วงปลายเทอม 2 ม. 6 ผมสอบโควต้าวิศวะฯ ได้ ของ ม. ที่ราบสูงแห่งหนึ่ง ทำให้ผมไม่ค่อยสนใจแอดมิดชั่นละ (ตอนนั้นผมแอดมิดชั่นรุ่นแรก เพื่อนผมลุ้นคะแนนเหนื่อย ชิหาย คะแนนออก 3 รอบไม่เคยเท่ากันสักรอบ 555+) แต่ผมชิวผมได้โควต้าละ ไม่คิดไรมาก 555+ ช่วงเทอม 2 ม. 6 (ก่อนเข้ามหาลัย)