สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
แบงก์ชาติเคยสอนผมว่า การมีบัตรหลายใบ แบงก์จะถือว่าคุณมีหนี้เยอะ
แม้คุณจะไม่ได้ใช้ หรือใช้แล้วจ่ายตรง แบงก์ก็ถือว่า คุณมีโอกาสก่อหนี้สูง
แต่เผอิญความรู้นี้บ้านเราไม่มีการสอนในที่สาธารณะ
งุบงิบไว้ไม่พอ ยังหลอกลวงล้างสมองคนไทย ให้เชื่ออีกว่า "มีบัตรเยอะๆแล้วดี"
ถ้าระบบ Credit scoring ของสากลถูกนำมาใช้กับเครดิตบูโรบ้านเรา
คุณต้องปิดบัตรที่ไม่ได้ใช้ให้หมดเลยครับ เหลือแค่ 2 ใบที่
1. ประวัติส่งตรงและเต็มวงเงินที่สุด (Payment history มีผลต่อคะแนนเครดิตถึง 35% ของคะแนนรวม)
2. ถือบัตรมายาวนานสุด (Length of history มีผลต่อคะแนนเครดิตถึง 15% ของคะแนนรวม)
3. ใช้จ่ายไม่เกิน 30% ของวงเงิน (Utilization มีผลต่อคะแนนเครดิตถึง 30% ของคะแนนรวม)
ศัพท์ในวงเล็บคือศัพท์จริงๆที่ระบบคะแนนเครดิตทั่วโลกยึดถือเป็นเกณฑ์ในการให้คะแนนกันครับ
การใช้จ่ายห้ามเกิน 30% ของวงเงินนี่สำคัญมากครับ
คนไทยถูกหลอกให้เชื่อว่า "รูดเต็มจ่ายเต็ม = เครดิตดี"
จริงๆไม่ใช่เลยสักนิด!
ถ้าใช้เต็มวงเงินบัตรทุกเดือน แม้จะจ่ายเต็มตลอดคะแนนเครดิตก็ต่ำลงครับ
เพราะตามหลักวิธีคิดคะแนนเครดิตสกอร์แล้ว จะถือว่าคุณเป็นลูกหนี้ที่ใช้จ่ายมือเติบ
หากวันใดรายได้คุณลดลงคุณจะมีปัญหาแน่นอน
และพวกมีบัตรหลายใบมาก แม้วันนี้ไม่ได้ใช้ วันหน้าเกิดเจอปัญหารายได้หมุนไม่ทัน
คุณจะมีโอกาสก่อหนี้มากกว่าคนอื่นครับ
นี่คือหลักเกณฑ์ที่ระบบคะแนนเครดิตและแบงก์ทั่วโลกเขาคิดกัน
แต่ตอนนี้ระบบคะแนนเครดิตมีใช้กันเฉพาะในแวดวงแบงก์
ไม่ได้ใช้แพร่หลายต่อสาธารณะแบบโชว์คะแนนเครดิตให้เห็นๆ
จขกท.ก็เลือกยกเลิกบัตรบางตัวไป เหลือไว้ประมาณ 4 ก็พอครับ
โดยเก็บบัตรตามที่บอกครับ คือประวัติหนี้สวยสุด และถือมานานสุด
ปล. จ่ายบัตรตรงแต่จ่ายขั้นต่ำนี่ถือว่าประวัติแย่มากครับ
คือได้คะแนน payment history 35% แต่เสียคะแนนสาหัสข้อ "Utilization" 30% (เพราะจำนวนหนี้ค้างเยอะ )
มาเพิ่มว่า แล้วคะแนนเครดิตจะนำมาใช้กับบูโรบ้านเราเมื่อไหร่
คำตอบคือ แบงก์ใช้มานานแล้วครับแต่ไม่ได้บอกเรา
แต่คะแนนเครดิตสกอร์แบบที่ประชาชนเจ้าของข้อมูลขอดูได้
บูโรบอกผมว่ายังไม่มีเร็วๆนี้ครับ ต้องรอกม.ผ่านก่อน
แม้คุณจะไม่ได้ใช้ หรือใช้แล้วจ่ายตรง แบงก์ก็ถือว่า คุณมีโอกาสก่อหนี้สูง
แต่เผอิญความรู้นี้บ้านเราไม่มีการสอนในที่สาธารณะ
งุบงิบไว้ไม่พอ ยังหลอกลวงล้างสมองคนไทย ให้เชื่ออีกว่า "มีบัตรเยอะๆแล้วดี"
ถ้าระบบ Credit scoring ของสากลถูกนำมาใช้กับเครดิตบูโรบ้านเรา
คุณต้องปิดบัตรที่ไม่ได้ใช้ให้หมดเลยครับ เหลือแค่ 2 ใบที่
1. ประวัติส่งตรงและเต็มวงเงินที่สุด (Payment history มีผลต่อคะแนนเครดิตถึง 35% ของคะแนนรวม)
2. ถือบัตรมายาวนานสุด (Length of history มีผลต่อคะแนนเครดิตถึง 15% ของคะแนนรวม)
3. ใช้จ่ายไม่เกิน 30% ของวงเงิน (Utilization มีผลต่อคะแนนเครดิตถึง 30% ของคะแนนรวม)
ศัพท์ในวงเล็บคือศัพท์จริงๆที่ระบบคะแนนเครดิตทั่วโลกยึดถือเป็นเกณฑ์ในการให้คะแนนกันครับ
การใช้จ่ายห้ามเกิน 30% ของวงเงินนี่สำคัญมากครับ
คนไทยถูกหลอกให้เชื่อว่า "รูดเต็มจ่ายเต็ม = เครดิตดี"
จริงๆไม่ใช่เลยสักนิด!
ถ้าใช้เต็มวงเงินบัตรทุกเดือน แม้จะจ่ายเต็มตลอดคะแนนเครดิตก็ต่ำลงครับ
เพราะตามหลักวิธีคิดคะแนนเครดิตสกอร์แล้ว จะถือว่าคุณเป็นลูกหนี้ที่ใช้จ่ายมือเติบ
หากวันใดรายได้คุณลดลงคุณจะมีปัญหาแน่นอน
และพวกมีบัตรหลายใบมาก แม้วันนี้ไม่ได้ใช้ วันหน้าเกิดเจอปัญหารายได้หมุนไม่ทัน
คุณจะมีโอกาสก่อหนี้มากกว่าคนอื่นครับ
นี่คือหลักเกณฑ์ที่ระบบคะแนนเครดิตและแบงก์ทั่วโลกเขาคิดกัน
แต่ตอนนี้ระบบคะแนนเครดิตมีใช้กันเฉพาะในแวดวงแบงก์
ไม่ได้ใช้แพร่หลายต่อสาธารณะแบบโชว์คะแนนเครดิตให้เห็นๆ
จขกท.ก็เลือกยกเลิกบัตรบางตัวไป เหลือไว้ประมาณ 4 ก็พอครับ
โดยเก็บบัตรตามที่บอกครับ คือประวัติหนี้สวยสุด และถือมานานสุด
ปล. จ่ายบัตรตรงแต่จ่ายขั้นต่ำนี่ถือว่าประวัติแย่มากครับ
คือได้คะแนน payment history 35% แต่เสียคะแนนสาหัสข้อ "Utilization" 30% (เพราะจำนวนหนี้ค้างเยอะ )
มาเพิ่มว่า แล้วคะแนนเครดิตจะนำมาใช้กับบูโรบ้านเราเมื่อไหร่
คำตอบคือ แบงก์ใช้มานานแล้วครับแต่ไม่ได้บอกเรา
แต่คะแนนเครดิตสกอร์แบบที่ประชาชนเจ้าของข้อมูลขอดูได้
บูโรบอกผมว่ายังไม่มีเร็วๆนี้ครับ ต้องรอกม.ผ่านก่อน
แสดงความคิดเห็น
มีบัตรเครดิตหลายใน ส่งผลกระทบกับประวัติการเงินเราอย่างไรบ้างครับ กรณีเราไม่ค่อยได้ใช้
เพราะค่าธรรมเนียม ไม่มีนะครับ มันจะกระทบอะไร กับเครดิตบูโร ไหม
จ่ายเต็มตลอดครับ
TMB So Smart = ใช้เป็นบัตรหลัก จ่ายอันนี้ตลอด
TMB So fast = วงเงินร่วม บัตรสวยดี ดำๆ
Kasikorn VISA Platinum = ไว้จอดรด Robinson
Kasikorn Mastercard Platinum = ข้อดีคือ หักค่าน้ำนครหลวง, ค่าไฟนครหลวง และค่าไฟภูมิภาค เป็นหนึ่งในบัตรที่รับ ๓ ที่เลย
KTC Visa Signature = ใช้ต่อประกันรถยนต์ ปีหนึ่ง ใช้ครั้งเดียว
KTC Mastercard World = ยังไม่มีแผนใช้งาน
SCB family plus สมัยเด็กน้อย ใช้เป็นบัตรหลัก เพราะได้เงินคืนตลอด หลังๆ ยิบย่อย เลยเลิก...
อย่างนี้ ควรปิดหรือ ปล่อยไปอย่างนี้ครับ เพราะไม่มีค่าธรรมเนียม หรือ เสียประวัติอะไรไหมครับ