สวัสดีครับ กระทู้นี้ผมดองมาปีครึ่งพอดิบพอดี เป็นทริปเช่ารถขับครั้งแรกในชีวิต สนุกครับ กังวลด้วยว่าจะขับไหวไหม จะหลงทางไหม แต่ก็อยากจะลองสักครั้ง ที่สำคัญคือมันประหยัดมาก (จุดนี้แหละที่อยากเน้น
) ดังนั้นถ้าใครไปกับเพื่อนหลายๆคนและอยากลดคชจ. ลองพิจารณาการเช่ารถขับเป็นอีกทางเลือกนึงนะครับ
ข้อดีก็อย่างที่บอก
1.
ประหยัด คือ ถ้าไปหลายๆประเทศ 14 วัน ค่ารถไฟ Global pass ต่อคน ~25,xxx บาท
แต่ถ้าเช่ารถ ผมหาได้ที่ 25,xxx/คัน + ค่าน้ำมัน5 พัน + ค่ารับรถคืนรถคนละประเทศ 300euro = 42k บ. (ไป5 คน .. ตกคนละ 8,400 บ.)
2.
ตารางเที่ยวยืดหยุ่นได้ ไม่ต้องรอรอบรถไฟ เมืองเล็กๆบางเมืองรถไฟไปไม่ถึงอีก
แต่ข้อเสียก็มีนะ
1.
หิ้วกระเป๋าใบใหญ่ไม่ได้ เพราะท้ายรถมันจุไม่พอ ถ้าเช่ารถที่มีขนาดใหญ่ขึ้น/รถแวน ราคาก็เขยิบขึ้นไปอีก แนะนำว่าลองหาที่เหมาะสมกับสไตล์การเที่ยวของเรา ตย.ผมจองรถ vw tiguan ไว้ ซึ่งพอนั่งกัน 5 คน กระเป๋าเลยหิ้วไปได้แค่คนละ 20-24" ใบเล็กเท่าไปพัทยาเลย
2.
คนขับอาจเหนื่อย ถ้าอึดก็ไม่เป็นไรครับ แต่ให้ดีก็ควรผลัดกันหลายๆคน .. อย่างที่รู้ว่ากฏจราจรบ้านเค้าเคร่งครัด ต้องระวังเรื่อง speed limit (ยกเว้น autobann ที่เยอรมัน ขับสนุกมากกกกก) มีสติเรื่องถนนสลับเลนซ้ายขวากับบ้านเรา หรือดึกๆอยากเบียร์แต่วันพรุ่งนี้ถึงคิวต้องขับรถ ก็ดื่มได้ไม่เต็มที่
แผนเที่ยวตามนี้ ..
Day1: BKK - Zurich – Freiburg - Colmar
Day2: Colmar – Riquewihr - Heidelberg
Day3: Heidelberg – Rothenberg - Nuremberg
Day4: Nuremberg - Munich
Day5: Munich – Salzburg - Hallstatt
Day6: Hallstatt – Innsbruck
Day7: Innsbruck - Fussen
Day8: Fussen - Zurich
Day9: Zurich – Lucerne - Zurich
Day10: Zurich - Thun - Bern - Moscow
Day11: Moscow – Bkk
ก่อนเดินทาง ไปทำใบขับขี่สากลที่ขนส่งใกล้บ้านท่าน .. เตรียมหลักฐานให้พร้อม สำเนาใบขับขี่ สำเนาพาสปอร์ต รูปถ่าย สำเนาบชช จ่ายเงิน 500 บาท 10 นาทีก็เสร็จแล้วครับ รวดเร็วมากมาย
วันเดินทาง ผมถึงซูริคสามทุ่ม และเนื่องจากไปคนละสายการบินกับเพื่อน ทำให้ต้องรอที่สนามบินอีก 9 ชั่วโมงครับ สนามบินก็ไม่เปิด 24 ชั่วโมงแบบบ้านเราด้วยสิ แต่ไม่ต้องห่วง อ่าน tripadvisor มาแล้ว บอกให้ไปนอนในสตาร์บัคได้ แถมที่นี่ยังติดอันดับสนามบินที่เหมาะกับนอนค้างข้ามคืน (ใครมาจัดอันดับให้เนี่ย)
แต่พอถึงสตาบัคจริงๆ เหยย ... โดนโฮมเลสจองไปแหะ
เดินหาทำเลใหม่สักพัก เจอจุดที่ผดส.คนอื่น นอนกันอยู่สองสามคน มีจนท.เดินตรวจไปมา เออ .. น่าปลอดภัยดี ดูเขานอนกันสบายๆ อาจจะต่างคนก็คงต่างกลัวกันเอง สุดท้ายก็ผ่านคืนแรกไปได้ ไม่มีปัญหาอะไร .. เมื่อเพื่อนมาถึงก็ตรงไปรับรถที่สนามบิน แล้วขับไปเยอรมันทันที
เมืองแรกที่แวะคือ Freiburg (ไฟรบวร์ก) เมืองที่ร้อนสุดในเยอรมัน (หน้าร้อนบางปีนี่แตะถึง 40c) ตั้งอยู่ในเขตป่าดำของเยอรมัน ฟังชื่อแล้วนึกถึงไอติม Black forest อ่ะ ไม่รู้ว่าที่มาจากแถวนี้หรือเปล่า
เดินเล่นสักพัก ขับรถข้ามไปฝรั่งเศส คืนนี้จะพักที่ Colmar ซึ่งเป็นเมืองที่น่ารักมากกกก ทำไมน่ารักได้ขนาดนี้ ตอนไปถึงค่อนข้างเย็นแล้ว คนจึงไม่เยอะเท่าไหร่
บ้านเมืองยังกะ Mock up สำหรับถ่ายหนัง
เมือง Colmar ก็ค่อนข้างใหญ่นะ เป็นเมืองหลักของแคว้นอัลซาส (Alsace) เหมาะกับการเกี่ยวก้อยเดินเล่น มุ้งมิ้งงุ้งงิ้ง
ในอดีต เยอรมันกับฝรั่งเศสทะเลาะแย่งพื้นที่แถวนี้กันอยู่บ่อยๆ ดังนั้นสไตล์บ้านเรือนก็จะเป็นลูกครึ่งปนๆกัน
จบวันแรก
(แก้ไขแผนเที่ยว)
[CR]เช่ารถขับ ป่าดำ ออสเตรีย สวิส .. มอสโคว
ข้อดีก็อย่างที่บอก
1.ประหยัด คือ ถ้าไปหลายๆประเทศ 14 วัน ค่ารถไฟ Global pass ต่อคน ~25,xxx บาท
แต่ถ้าเช่ารถ ผมหาได้ที่ 25,xxx/คัน + ค่าน้ำมัน5 พัน + ค่ารับรถคืนรถคนละประเทศ 300euro = 42k บ. (ไป5 คน .. ตกคนละ 8,400 บ.)
2.ตารางเที่ยวยืดหยุ่นได้ ไม่ต้องรอรอบรถไฟ เมืองเล็กๆบางเมืองรถไฟไปไม่ถึงอีก
แต่ข้อเสียก็มีนะ
1.หิ้วกระเป๋าใบใหญ่ไม่ได้ เพราะท้ายรถมันจุไม่พอ ถ้าเช่ารถที่มีขนาดใหญ่ขึ้น/รถแวน ราคาก็เขยิบขึ้นไปอีก แนะนำว่าลองหาที่เหมาะสมกับสไตล์การเที่ยวของเรา ตย.ผมจองรถ vw tiguan ไว้ ซึ่งพอนั่งกัน 5 คน กระเป๋าเลยหิ้วไปได้แค่คนละ 20-24" ใบเล็กเท่าไปพัทยาเลย
2.คนขับอาจเหนื่อย ถ้าอึดก็ไม่เป็นไรครับ แต่ให้ดีก็ควรผลัดกันหลายๆคน .. อย่างที่รู้ว่ากฏจราจรบ้านเค้าเคร่งครัด ต้องระวังเรื่อง speed limit (ยกเว้น autobann ที่เยอรมัน ขับสนุกมากกกกก) มีสติเรื่องถนนสลับเลนซ้ายขวากับบ้านเรา หรือดึกๆอยากเบียร์แต่วันพรุ่งนี้ถึงคิวต้องขับรถ ก็ดื่มได้ไม่เต็มที่
แผนเที่ยวตามนี้ ..
Day1: BKK - Zurich – Freiburg - Colmar
Day2: Colmar – Riquewihr - Heidelberg
Day3: Heidelberg – Rothenberg - Nuremberg
Day4: Nuremberg - Munich
Day5: Munich – Salzburg - Hallstatt
Day6: Hallstatt – Innsbruck
Day7: Innsbruck - Fussen
Day8: Fussen - Zurich
Day9: Zurich – Lucerne - Zurich
Day10: Zurich - Thun - Bern - Moscow
Day11: Moscow – Bkk
ก่อนเดินทาง ไปทำใบขับขี่สากลที่ขนส่งใกล้บ้านท่าน .. เตรียมหลักฐานให้พร้อม สำเนาใบขับขี่ สำเนาพาสปอร์ต รูปถ่าย สำเนาบชช จ่ายเงิน 500 บาท 10 นาทีก็เสร็จแล้วครับ รวดเร็วมากมาย
วันเดินทาง ผมถึงซูริคสามทุ่ม และเนื่องจากไปคนละสายการบินกับเพื่อน ทำให้ต้องรอที่สนามบินอีก 9 ชั่วโมงครับ สนามบินก็ไม่เปิด 24 ชั่วโมงแบบบ้านเราด้วยสิ แต่ไม่ต้องห่วง อ่าน tripadvisor มาแล้ว บอกให้ไปนอนในสตาร์บัคได้ แถมที่นี่ยังติดอันดับสนามบินที่เหมาะกับนอนค้างข้ามคืน (ใครมาจัดอันดับให้เนี่ย)
แต่พอถึงสตาบัคจริงๆ เหยย ... โดนโฮมเลสจองไปแหะ
เดินหาทำเลใหม่สักพัก เจอจุดที่ผดส.คนอื่น นอนกันอยู่สองสามคน มีจนท.เดินตรวจไปมา เออ .. น่าปลอดภัยดี ดูเขานอนกันสบายๆ อาจจะต่างคนก็คงต่างกลัวกันเอง สุดท้ายก็ผ่านคืนแรกไปได้ ไม่มีปัญหาอะไร .. เมื่อเพื่อนมาถึงก็ตรงไปรับรถที่สนามบิน แล้วขับไปเยอรมันทันที
เมืองแรกที่แวะคือ Freiburg (ไฟรบวร์ก) เมืองที่ร้อนสุดในเยอรมัน (หน้าร้อนบางปีนี่แตะถึง 40c) ตั้งอยู่ในเขตป่าดำของเยอรมัน ฟังชื่อแล้วนึกถึงไอติม Black forest อ่ะ ไม่รู้ว่าที่มาจากแถวนี้หรือเปล่า
เดินเล่นสักพัก ขับรถข้ามไปฝรั่งเศส คืนนี้จะพักที่ Colmar ซึ่งเป็นเมืองที่น่ารักมากกกก ทำไมน่ารักได้ขนาดนี้ ตอนไปถึงค่อนข้างเย็นแล้ว คนจึงไม่เยอะเท่าไหร่
บ้านเมืองยังกะ Mock up สำหรับถ่ายหนัง
เมือง Colmar ก็ค่อนข้างใหญ่นะ เป็นเมืองหลักของแคว้นอัลซาส (Alsace) เหมาะกับการเกี่ยวก้อยเดินเล่น มุ้งมิ้งงุ้งงิ้ง
ในอดีต เยอรมันกับฝรั่งเศสทะเลาะแย่งพื้นที่แถวนี้กันอยู่บ่อยๆ ดังนั้นสไตล์บ้านเรือนก็จะเป็นลูกครึ่งปนๆกัน
จบวันแรก
(แก้ไขแผนเที่ยว)