ก่อนอื่นขอแนะนำก่อนนะครับว่า จขกท.อายุ 22 ย่าง 23 ปี. สูง 172 เซนติเมตร หนัก 90 กิโลกรัม
ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ก่อนมีอาการเริ่มควบคุมน้ำหนักโดยการลดอาหาร และออกกำลังกายบ้าง
เข้าเรื่องเลยนะครับ เมื่อปรพมาณวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา ในตอนเช้า จขกท. ถ่ายเหลว ประกอบกับคืนก่อนหน้ามีอาการแปลกๆ เพราะทำเรื่องตื่นเต้นมา รู้สึกว่าหัวใจมันเต้นแปลกๆ
วันที่ 4 เลยมีอาการเหมือนเครียด วิตกกังวล ตอนเช้าวิตกจนคลื่นไส้และอาเจียนแต่ออกมาไมมากนัก เป็นน้ำๆ
ตอนบ่ายก็นอนพัก ตื่นขึ้นมาก็ปกติแต่ยังวิงเวียนและรู้สคกเบื่ออาหาร อย่างที่บอกคือก่อนหน้าเริ่มลดอาหารเพื่อควบคุมน้พหนักแล้ว
วันเสาร์ อา(ทิตย์ดลับมาอยู่กับคุณแม่ อาการก็ค่อนข้างเป็นปกติ หยุดถ่ายเหลวแต่ยังมีคลื่นไส้บ้างเล็กน้อย
อาการเริ่มกลับมาเป็นอีกในช่วงวันที่ 6 ที่เป็นวันอาทิตย์ กลับมาที่มหาลัยก่อนสอบมิดเทอม วโดยมีคื่นไส้ อาเจียนอีก้ล็กน้อย
วันจันทร์เลยตัดสินใจไปหาหมอ พบว่ามีความดันโลหิตค่อนข้างสูง
แต่เมื่อได้พักแล้วก็ลดลง แต่ก็ยังถือว่าสูงอยู่ หมอก็ยังไม่ได้ว่าอะไร มองว่าการมา รพ ครั้งเดียวบอกไม่ได้ว่าเป็นความดันโลหิตสูง อาจเป็นเพราะมีความเครียเจากการสอบกลางภาค หมอเลยให้ยาลดกรดกับแก้อาเจียนมา พร้อมกับนัดให้มาตรวจอีกในวันที่14
ระหว่างนี้จขกท.ก็กินยาตามที่หมอสั่งไป แต่ในใจก็เริ่มวิตกกังวลกับสิ่งที่ตัวเองเป็น บางทีก็มีพะอืดพะอมบ้าง แต่ก็ควบคุมไม่ให้อาเจียนได้
ระหว่างนี้ก็ไม่ค่อยมีอะไร พอวันจันทร์ที่ 14 มาตรสจทวัดความดันกับชีพจร พอว่าชีพจรค่อนข้างเร็ว และความดันค่อนข้างสูง
(ประมาณ 160 พักแล้วเหลือ 150 กว่า) วัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจก็พบว่าค่อนข้างแรง ผลตรวจเลือดพบว่าไขมัน น้ำตาล หรืออื่นๆปกติ ยกเว้นตับที่มีเอนไซม์ค่อนข้างสูง หมอบอกว่ามีอาการใจสั่นเล็กน้อย แม้ว่าจะไม่ได้ดื่มชาหรือดาแฟมานานแล้วก็ตาม รวมถึงน้ำอัดลมด้วย หมอนัดอีกทีในวันรุ่งขึ้นให้ไปเจาะเลือดอีกครั้งพร้อมกับพบหมอคนอื่น
ในช่วงที่กลับมาวันที่ 14 จขกท.คิดถึงคำพูดของหมอแล้วก็เริ่มวิตก อาการจากเดิมที่ไม่สั่นหรืออะไรก็เปลี่ยนมาสั่น เล็กน้อย เพื่ออาหารแต่พยายามกิน ช่วงวันที่ 14 15 นอนหับยากมาด ที่น่าแปลกคือช่วงยี้นอนดึกแค่ไหนก็ตื่นช่วง 7 โมงเช้าตลอด
วันที่ 15 ไปหาหมออีกครั้ง พี่ะยาบาลเห็นเหนื่อยๆ (ทั้งที่ก็ไม่ได้รู้สึกเกหนื่อยอะไรมาก). ก็เลยแปะเปเป็นด่วนให้คุณหมอตรวจ คุณหมอใให้ไปวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจอีกที ปรากฎว่าครี้งนี้ คลื่นลเลง แต่คุณหมอบอกว่าไม่อยู่เกณฑ์อันตราย ผลตรวจเลือดครั้งทีา 2 ทุกอย่างรวมทั้งไทรอยด์ปกติ เอนไซม์ตับที่ยังสูงก็เริ่มลดลง
คุณหมอให้ทำการอัลตร้าซาวด์ตับและไต รวมทังนัดมาพบอีกวันที่ 21 ครั้งนี่คุณหมอให้ยาความดันมาด้วย (วัดล่าสุเ (157/86)
ซึ่ง จขกท.กินไปเล็ครั้งเดียว ตอนเย็นโทรไปหาคุณแม่ คุณแม่บอกว่าให้ใช้วิธีคุมอาหารกับออกกำลังไปก่อน (คุณแม่มีความดันเหมือนกัน)
วันต่อๆมาทุกครั้งที่คิดเรื่องอาการจะเกิดอาการสั่นๆที่ทอ วันอังคารสั่นจนปวดแขนซ้าย
ต่อมาค่อยๆทุเลาลง นอนหลับได้ง่ายขึ้น แต่ถ้ามีเสียงดัง (เมทเล่นเกมคุยแชทเสียงดัง). ก็จะสะดุ้งรู้สึกหวิวๆในท้องจนไม่กล้าหลับอีก แต่กผ็หลับได้ด้วยดี
ล่าสุด จขกท.ยังสั่นเล็กน้อย แต่ไม่เคยมีอาการหน้าใืดหรืเป็นลม ออกกำลังกายได้ อ่านหนังสือไหว
บางทีที่รู้สึกมีอาการอยากให้เขาพาไป นอน รพ ให้ รู้แล้วรู้รอด แต่คิดว่าตราบใดที่ยังเดินหรือพูดได้เขาคงไม่เห็นว่าหนัก เยหายไป แต่วักพักก็เป็นอีก เป็นๆหายๆ
และอาการจะหายไปถ้าหากมีอะไรเบนความสนใจ หรือได้คุยกับคนอื่นๆ
อยากทราบว่าอาการเหล่านี้เป็น panic. หรือโรคอะไรครับ จขกท.วิตกมา ก กลัวว่าจู่ๆหัวใจจะวายหรือหลับแล้วไม่อยู่ดี 4 ใกล้จบทยังไม่ได้บวชหรือทำให้พ่อแม่ภูมอใจเลย กลัวมาก วันจันทร์ที่จะถึงก็ต้องไปตรวจอีก (ลืมบอกไปว่าตับที่เอนไซม์สูงแล้วลดนั้นตรวจแล้วไม่มีเชื้ออะไร หมอบอกไขมันอาจพอก และจะมีกาคตรวจไต ซึ่ง จขกทผ.ดูปัสสาวะก็ยังปกติ). ทุกครั่งที่คิดเรื่องน่าตื้นตันใจจะรู้สึกหวิวแปลกๆ ขนลุกด้วย
รบกวนช่วยตอบด้วยครับ ขอบคุณครับ
อาการแบบนี้ถือว่าเป็น panic หรือโรคอะไรครับ และมีทางแก้อย่างไร
ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ก่อนมีอาการเริ่มควบคุมน้ำหนักโดยการลดอาหาร และออกกำลังกายบ้าง
เข้าเรื่องเลยนะครับ เมื่อปรพมาณวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา ในตอนเช้า จขกท. ถ่ายเหลว ประกอบกับคืนก่อนหน้ามีอาการแปลกๆ เพราะทำเรื่องตื่นเต้นมา รู้สึกว่าหัวใจมันเต้นแปลกๆ
วันที่ 4 เลยมีอาการเหมือนเครียด วิตกกังวล ตอนเช้าวิตกจนคลื่นไส้และอาเจียนแต่ออกมาไมมากนัก เป็นน้ำๆ
ตอนบ่ายก็นอนพัก ตื่นขึ้นมาก็ปกติแต่ยังวิงเวียนและรู้สคกเบื่ออาหาร อย่างที่บอกคือก่อนหน้าเริ่มลดอาหารเพื่อควบคุมน้พหนักแล้ว
วันเสาร์ อา(ทิตย์ดลับมาอยู่กับคุณแม่ อาการก็ค่อนข้างเป็นปกติ หยุดถ่ายเหลวแต่ยังมีคลื่นไส้บ้างเล็กน้อย
อาการเริ่มกลับมาเป็นอีกในช่วงวันที่ 6 ที่เป็นวันอาทิตย์ กลับมาที่มหาลัยก่อนสอบมิดเทอม วโดยมีคื่นไส้ อาเจียนอีก้ล็กน้อย
วันจันทร์เลยตัดสินใจไปหาหมอ พบว่ามีความดันโลหิตค่อนข้างสูง
แต่เมื่อได้พักแล้วก็ลดลง แต่ก็ยังถือว่าสูงอยู่ หมอก็ยังไม่ได้ว่าอะไร มองว่าการมา รพ ครั้งเดียวบอกไม่ได้ว่าเป็นความดันโลหิตสูง อาจเป็นเพราะมีความเครียเจากการสอบกลางภาค หมอเลยให้ยาลดกรดกับแก้อาเจียนมา พร้อมกับนัดให้มาตรวจอีกในวันที่14
ระหว่างนี้จขกท.ก็กินยาตามที่หมอสั่งไป แต่ในใจก็เริ่มวิตกกังวลกับสิ่งที่ตัวเองเป็น บางทีก็มีพะอืดพะอมบ้าง แต่ก็ควบคุมไม่ให้อาเจียนได้
ระหว่างนี้ก็ไม่ค่อยมีอะไร พอวันจันทร์ที่ 14 มาตรสจทวัดความดันกับชีพจร พอว่าชีพจรค่อนข้างเร็ว และความดันค่อนข้างสูง
(ประมาณ 160 พักแล้วเหลือ 150 กว่า) วัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจก็พบว่าค่อนข้างแรง ผลตรวจเลือดพบว่าไขมัน น้ำตาล หรืออื่นๆปกติ ยกเว้นตับที่มีเอนไซม์ค่อนข้างสูง หมอบอกว่ามีอาการใจสั่นเล็กน้อย แม้ว่าจะไม่ได้ดื่มชาหรือดาแฟมานานแล้วก็ตาม รวมถึงน้ำอัดลมด้วย หมอนัดอีกทีในวันรุ่งขึ้นให้ไปเจาะเลือดอีกครั้งพร้อมกับพบหมอคนอื่น
ในช่วงที่กลับมาวันที่ 14 จขกท.คิดถึงคำพูดของหมอแล้วก็เริ่มวิตก อาการจากเดิมที่ไม่สั่นหรืออะไรก็เปลี่ยนมาสั่น เล็กน้อย เพื่ออาหารแต่พยายามกิน ช่วงวันที่ 14 15 นอนหับยากมาด ที่น่าแปลกคือช่วงยี้นอนดึกแค่ไหนก็ตื่นช่วง 7 โมงเช้าตลอด
วันที่ 15 ไปหาหมออีกครั้ง พี่ะยาบาลเห็นเหนื่อยๆ (ทั้งที่ก็ไม่ได้รู้สึกเกหนื่อยอะไรมาก). ก็เลยแปะเปเป็นด่วนให้คุณหมอตรวจ คุณหมอใให้ไปวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจอีกที ปรากฎว่าครี้งนี้ คลื่นลเลง แต่คุณหมอบอกว่าไม่อยู่เกณฑ์อันตราย ผลตรวจเลือดครั้งทีา 2 ทุกอย่างรวมทั้งไทรอยด์ปกติ เอนไซม์ตับที่ยังสูงก็เริ่มลดลง
คุณหมอให้ทำการอัลตร้าซาวด์ตับและไต รวมทังนัดมาพบอีกวันที่ 21 ครั้งนี่คุณหมอให้ยาความดันมาด้วย (วัดล่าสุเ (157/86)
ซึ่ง จขกท.กินไปเล็ครั้งเดียว ตอนเย็นโทรไปหาคุณแม่ คุณแม่บอกว่าให้ใช้วิธีคุมอาหารกับออกกำลังไปก่อน (คุณแม่มีความดันเหมือนกัน)
วันต่อๆมาทุกครั้งที่คิดเรื่องอาการจะเกิดอาการสั่นๆที่ทอ วันอังคารสั่นจนปวดแขนซ้าย
ต่อมาค่อยๆทุเลาลง นอนหลับได้ง่ายขึ้น แต่ถ้ามีเสียงดัง (เมทเล่นเกมคุยแชทเสียงดัง). ก็จะสะดุ้งรู้สึกหวิวๆในท้องจนไม่กล้าหลับอีก แต่กผ็หลับได้ด้วยดี
ล่าสุด จขกท.ยังสั่นเล็กน้อย แต่ไม่เคยมีอาการหน้าใืดหรืเป็นลม ออกกำลังกายได้ อ่านหนังสือไหว
บางทีที่รู้สึกมีอาการอยากให้เขาพาไป นอน รพ ให้ รู้แล้วรู้รอด แต่คิดว่าตราบใดที่ยังเดินหรือพูดได้เขาคงไม่เห็นว่าหนัก เยหายไป แต่วักพักก็เป็นอีก เป็นๆหายๆ
และอาการจะหายไปถ้าหากมีอะไรเบนความสนใจ หรือได้คุยกับคนอื่นๆ
อยากทราบว่าอาการเหล่านี้เป็น panic. หรือโรคอะไรครับ จขกท.วิตกมา ก กลัวว่าจู่ๆหัวใจจะวายหรือหลับแล้วไม่อยู่ดี 4 ใกล้จบทยังไม่ได้บวชหรือทำให้พ่อแม่ภูมอใจเลย กลัวมาก วันจันทร์ที่จะถึงก็ต้องไปตรวจอีก (ลืมบอกไปว่าตับที่เอนไซม์สูงแล้วลดนั้นตรวจแล้วไม่มีเชื้ออะไร หมอบอกไขมันอาจพอก และจะมีกาคตรวจไต ซึ่ง จขกทผ.ดูปัสสาวะก็ยังปกติ). ทุกครั่งที่คิดเรื่องน่าตื้นตันใจจะรู้สึกหวิวแปลกๆ ขนลุกด้วย
รบกวนช่วยตอบด้วยครับ ขอบคุณครับ