บุ๋ม รัญญา เผยรู้สึกตื่นเต้นมากำกับละครให้ช่อง 7 เป็นเรื่องแรก บอกเป็นเพราะเรื่อง
#อีพริ้งคนเริงเมือง เลยทำให้ตัดสินใจมากำกับ เปรยตนอยากเล่นเรื่องนี้นานแล้ว เคารพการตัดสินใจของผู้ใหญ่ช่อง 3 หากจะไม่ให้กลับไปทำงานด้วยอีก ยอมรับกังวลในเรื่องนี้เหมือนตนเองหนีโรงเรียนมา โต้โดนทุ่มเงินเยอะเลยข้ามช่องมา บอกไม่ได้มองที่เงิน แต่อยากช่วย นีโน่กับหนิง ปณิตา เท่านั้น...
มาร่วมงานกับช่อง 7 เป็นเรื่องแรกในฐานะผู้กำกับละคร สำหรับ บุ๋ม รัญญา ศิยานนท์ ทำเอาหลายคนสงสัยพอสมควรว่า แล้วกับทางช่อง 3 จะว่ายังไง ซึ่งบุ๋มก็เล่าให้ฟังว่า
มากำกับให้ช่อง 7 เรื่องแรกเป็นยังไงบ้าง?
"ตื่นเต้นแล้วก็กดดัน เพราะเป็นที่ใหม่ จริงๆ ไม่มีแพลนในชีวิตเลยว่าจะต้องมากำกับละครให้กับช่อง 7 คิดว่าน่าจะอยู่ช่อง 3 ตลอด แต่หนิงกับโน่เราสนิทกันมาก ตอนแรกตัดสินใจอยู่นานมากว่าจะเอายังไงดี แต่ปรึกษาคุณแม่ท่านก็แนะนำว่าทำไมต้องคิดว่าเป็นช่องไหน ถ้าอยากมาก็มา ไม่เป็นไรหรอก มันคือการทำงาน เขาก็ต้องรู้ ชีวิตเราต้องดำเนินไปนะ อีกคนก็คือพี่ไก่ วรายุฑ เขาก็บอกให้ไปทำเลย"
ตัดสินใจนานไหม?
"หนิงกับโน่โทรหาตั้งแต่เดือน พ.ค.ปีที่แล้ว เพิ่งจะมาตัดสินใจจริงๆ คือปลายๆ ต.ค. หลังวันเกิด"
อะไรเป็นจุดที่เราอยากจะมากำกับเรื่องนี้?
"เพราะเป็นพริ้งนี่แหละค่ะ จริงๆ คือเราอยากเล่นเองมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ตอนที่พี่อูมเล่นตอนที่เรายังเด็ก แต่คือชอบตัวละคร พอโตขึ้นมาเขาจะทำอีกเวอร์ชั่นก็รู้สึกอยากเล่น แต่ทำไมไม่มีใครมาติดต่อเรา จนวันนี้อายุเราเลยวัยที่จะเล่นแล้ว พอหนิงกับทางช่อง 7 อนุมัติละครเรื่องนี้ก็เอาเลย ถือเป็นการสานฝันตัวเอง คือเราอยากเห็นพริ้งในแบบที่เราฝัน เราจะถ่ายทอดเขาออกมาแบบไหน"
เวอร์ชั่นนี้พริ้งจะเป็นแบบไหน?
"พริ้งจะมีความเป็นมนุษย์ที่ใช้ความรู้สึกในการดำเนินชีวิต ไม่มีเหตุผล จนอารมณ์ทำร้ายชีวิตเขา ซึ่งคล้ายๆ กับชีวิตจริงของเราที่อารมณ์ในการดำเนินชีวิต ทำลายชีวิตตัวเองในหลายๆ จุด เสียใจนะแต่ก็ไม่รู้สึกเสียดายกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะมันทำให้เราเป็นแบบนี้ในทางที่ดีขึ้น ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นหรือผลของการกระทำของเรามันทำให้เราปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น ก็อยากจะถ่ายทอดตรงนี้ลงไปในตัวพริ้งด้วย"
ความแซ่บล่ะ?
"ต้องเจอกันคนละครึ่งกับจักจั่น ตัวเขาเองก็กดดัน เราเองก็กดดัน เพราะจริงๆ กระแสว่าจั่นไม่ใช่พริ้ง ไม่เซ็กซ์ ไม่เอ็กซ์ ไม่อึ๋ม ก็มีเข้ามาเยอะ แต่ของแบบนี้มันดึงจากอินเนอร์ได้ เราเชื่อว่าจั่นเป็นนักแสดงที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจและมีความสามารถ"
พอรู้ว่าเป็นจั่นเล่นรู้สึกยังไงบ้าง?
"ก็นิ่งเหมือนกันนะ คือเราไม่เคยสัมผัสกับนักแสดงของทางช่อง 7 เลย แต่มันก็ทำให้เรารู้ว่าเราจะมาทางนี้ได้ไหม บางทีเราก็จะชินอยู่กับวิถีเดิมๆ ที่เราเคยเป็น คราวนี้เราอาจจะต้องโยนให้แรงกว่าที่ผ่านมา หรืออาจจะโดนปะทะแรงขึ้นเราเองก็ต้องตั้ง อาจจะต้องเจอกันคนละครึ่งทาง บอกเลยว่างานนี้ไม่ง่าย (หัวเราะ)"
ได้คุยกับจั่นบ้างหรือยัง?
"คุยแล้ว มีโอกาสได้รีดทรูกันไปบ้างแล้ว"
ความแซ่บเขายอมเราขนาดไหน?
"เชื่อว่าจั่นทำได้ วันที่รีดทรูรู้สึกได้เลยว่าเขาตั้งใจมาก ดูจากคลิปที่หนิงเอาลง เราได้ยินแค่เสียงยังต้องเงยหน้าขึ้นมาดู ขนลุกเลยค่ะ"
รับมือกับกระแสต่างๆ ยังไง?
"อยากให้รอดูมากกว่า เพราะเราเองไม่ได้อ่านกระแสเลย มันกดดัน มีแต่คนมาเล่าให้ฟัง ส่งลิงก์มาให้ดู แต่เลือกที่จะไม่อ่าน เพราะเราจิตอ่อน คือมันเครียดไปหมดทุกอย่าง อาจจะเป็นเพราะเราอยู่ในที่เดิมๆ เห็นอะไรชัดเจนมาตั้งแต่ต้น แต่พอกระโดออกมาที่ใหม่มันเหมือนการเริ่มต้นใหม่หมดเลย ในเวลาที่คนมั่นใจว่าทำเราได้ เราเจ๋ง แต่ตัวเรากลับไปไม่เป็น ตื่นเต้นไปหมด มองหน้านักแสดงแล้วก็คิดว่าจะบอกเขายังไงดี เขาจะฟังเรา เข้าใจเราไหม ตื่นเต้นไปพร้อมๆ กับนักแสดง"
ต้องปรับยังไงบ้าง?
"คุยกับหนิง กับแม่ กับพี่ๆ ทางธรรม เพราะรู้สึกว่าจับตัวเองไม่อยู่ เป็นคนขี้กังวล ถ้าตั้งใจจะเอาอะไรแล้วต้องเอาให้ได้ จนกลายเป็นความกดดันตัวเองและไปพาลคนอื่น ต้องควบคุมอารมณ์ในการทำงาน เพราะเราเป็นคนใจใจ คือไม่ใช่ว่าจะให้นักแสดงทุกคนมาเรียนกับเรา แต่เรานี่แหละที่ต้องเรียนรู้จากนักแสดงทุกคน มีได้มาเจอ มาคุย มาดูจังหวะจะโคนกัน เวลาทำงานจะได้ไม่ต้องปรับกันเยอะ"
นอกจากตัวพริ้งแล้วตัวผู้ชายในเรื่องก็ค่อนข้างเป็นกระแสที่พูดถึงเยอะ?
"ใช่ค่ะ อย่าว่าแต่คนอื่นที่เขาพูดถึงกระแส ตัวเราเองก็จิตตกเหมือนกัน แต่พอมานั่งนึกถึงวันแรกที่เราทำงานใหม่ๆ มันก็ไม่มีใครรับเราหรอก ทำไมเราถึงไม่เปิดใจ พอนึกตรงนี้ได้ เราก็หลุดจากนั้น คิดว่าเมื่อตัดสินใจทำแล้วต้องทำให้ดีที่สุด ใช้ใจเต็มๆ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง ไม่เป็นไร เราตั้งใจทุ่มสุดชีวิตแล้ว"
เท่าที่เจอเบื้องต้นนักแสดงแต่ละคนเป็นยังไงบ้าง?
"อยากเขกหัวตัวเอง เราชอบกลัวไปก่อน แต่พอเห็นนักแสดง มองตาทุกคน มองเวลาที่เขาแต่งหน้าแต่งตัวสวมวิญญาณตัวละครแล้วรู้สึกว่าเขาตั้งใจมาก จนรู้สึกว่าทำไมเราไม่ตั้งใจไปกับเขา บางทีในทุกๆ งานหลายๆ อย่างก็สอนตัวเราเองด้วย บางทีเราคิดว่าเราจะไปให้ความรู้ให้ประสบการณ์คนอื่น กลายเป็นว่าเราต้องไปเรียนรู้จากตัวนักแสดง"
เรื่องนี้เรียกได้ว่ายากทุกอย่าง?
"จริงๆ ทุกเรื่องยาก ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เราเป็นคนอย่างนี้ พอเริ่มต้นอะไรก็จะคิดว่างานยากอีกแล้ว ทั้งที่จริงๆ เรายากไปเองหรือเปล่า"
ข้ามจากช่อง 3 มากำกับให้ช่อง 7 ได้คุยกับคุณสมรักษ์ไหม?
"ไม่ได้คุย คุยกับพี่ไก่แค่คนเดียว ถ้าคุยกับทางฝ่ายบริหารก็คิดว่าคงไม่ได้มา เหมือนต้องหนีโรงเรียนมา"
แต่ก็เหมือนมีกระแสว่าถ้ามาทำให้ช่อง 7 จะกลับไปทำให้ช่อง 3 ไม่ได้?
"อันนี้ก็แล้วแต่ให้ผู้ใหญ่พิจารณาดีกว่า เราเป็นคนทำงาน เราโอเคนะถ้าผู้ใหญ่พิจารณาแล้วว่าถ้ามาอยู่ช่องนี้แล้วไม่ได้กลับไปทำให้ช่อง 3 แล้วนะ เราก็เคารพการตัดสินใจของผู้ใหญ่ แรกๆ ยอมรับว่ากังวล เพราะช่อง 3 ก็เป็นช่องที่ทำให้เราเกิด แต่ชีวิตเราก็ต้องก้าวต่อไป เราไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่เราก็เป็นคนเบื้องหลังตัวเล็กๆ
เราก็ปรึกษาพี่ไก่เหมือนกันนะว่าถ้ามานี่แล้วผู้ใหญ่ทางช่อง 3 ไม่แฮปปี้จะทำยังไง แรกๆ พี่ไก่ก็ลังเลว่ามันจะดีหรอ ดูจะข้ามช่องไปไหม แต่เราก็คิดว่าไม่หรอก "
หรือเป็นเพราะพี่โน่กับพี่หนิงทุ่มเงินเยอะ?
"ว้าว ไม่มี เอามาจากไหน ให้เขามาซื้อพี่สิ ไม่เห็นจะมีตังค์เลยคู่นี้ มาด้วยใจ มากับเพื่อน ไม่ได้เงินมากขึ้นเลย โดยส่วนตัวเราไม่ได้เป็นคนทำงานเพื่อเงิน"
มีการเซ็นสัญญาอะไรไหม?
"ไม่มีค่ะ ไม่ได้เซ็น จริงๆ กับช่อง 3 ก็ไม่ได้เซ็น ทำงานทุกอย่างด้วยใจ ทำงานตามที่อยากทำ ขนาดงานที่ตัวเองอยากทำยังกดดันตัวเองเลย ถ้าทำงานที่โดนบังคับให้ทำสงสัยคงต้องเป็นบ้า"
ตอนนี้มีกำกับกี่เรื่อง?
"เรื่องเดียวค่ะ ก่อนหน้านี้มีขอเป็นเจ้าสาวสักครั้งให้ชื่นใจ กับเจ้าบ้านเจ้าเรือนที่มันขี่กันอยู่ ทำให้เรารู้ว่าไม่สามารถกำกับ 2 เรื่องพร้อมกันได้"
การทำงานล่ะ ช่อง 3 กับช่อง 7 ค่อนข้างจะแตกต่างกัน?
"ยังไม่ได้เริ่มเลย แต่หนิงกับโน่เขาค่อนข้างที่จะโปรไวด์สิ่งที่เราคุ้นเคยให้ เราจะได้ไม่รู้สึกกดดันมาก เราเองก็ไม่ได้รู้สึกว่าวิธีการทำงานมันแตกต่างกัน มันอยู่ที่ทีมงานและวิธีการตีความของเรา และทีมผู้จัดที่จะไปด้วยกันมากกว่า"
มีข้อตกลงอะไรกันหรือเปล่า?
"ไม่มี แค่รู้นิสัยกันก็พอ เราไม่ได้เยอะ ขอแค่ให้เกียรติกันในการทำงาน แต่ละฝ่ายมีหน้าที่ของตัวเอง อย่าไปข้ามไลน์กัน พี่ถือเรื่องหน้าที่และการให้เกียรติเป็นสำคัญ"
เปิดกล้องเมื่อไหร่? "19 มี.ค.นี้ นี่เลตแล้วนะ จริงๆ ตั้งใจจะเปิดตั้งแต่กลาง ก.พ. แล้ว"
บุ๋ม รัญญา กดดันทำละครช่อง 7 น้อมรับหากช่อง 3 ไม่ให้กลับไป
มาร่วมงานกับช่อง 7 เป็นเรื่องแรกในฐานะผู้กำกับละคร สำหรับ บุ๋ม รัญญา ศิยานนท์ ทำเอาหลายคนสงสัยพอสมควรว่า แล้วกับทางช่อง 3 จะว่ายังไง ซึ่งบุ๋มก็เล่าให้ฟังว่า
มากำกับให้ช่อง 7 เรื่องแรกเป็นยังไงบ้าง?
"ตื่นเต้นแล้วก็กดดัน เพราะเป็นที่ใหม่ จริงๆ ไม่มีแพลนในชีวิตเลยว่าจะต้องมากำกับละครให้กับช่อง 7 คิดว่าน่าจะอยู่ช่อง 3 ตลอด แต่หนิงกับโน่เราสนิทกันมาก ตอนแรกตัดสินใจอยู่นานมากว่าจะเอายังไงดี แต่ปรึกษาคุณแม่ท่านก็แนะนำว่าทำไมต้องคิดว่าเป็นช่องไหน ถ้าอยากมาก็มา ไม่เป็นไรหรอก มันคือการทำงาน เขาก็ต้องรู้ ชีวิตเราต้องดำเนินไปนะ อีกคนก็คือพี่ไก่ วรายุฑ เขาก็บอกให้ไปทำเลย"
ตัดสินใจนานไหม?
"หนิงกับโน่โทรหาตั้งแต่เดือน พ.ค.ปีที่แล้ว เพิ่งจะมาตัดสินใจจริงๆ คือปลายๆ ต.ค. หลังวันเกิด"
อะไรเป็นจุดที่เราอยากจะมากำกับเรื่องนี้?
"เพราะเป็นพริ้งนี่แหละค่ะ จริงๆ คือเราอยากเล่นเองมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ตอนที่พี่อูมเล่นตอนที่เรายังเด็ก แต่คือชอบตัวละคร พอโตขึ้นมาเขาจะทำอีกเวอร์ชั่นก็รู้สึกอยากเล่น แต่ทำไมไม่มีใครมาติดต่อเรา จนวันนี้อายุเราเลยวัยที่จะเล่นแล้ว พอหนิงกับทางช่อง 7 อนุมัติละครเรื่องนี้ก็เอาเลย ถือเป็นการสานฝันตัวเอง คือเราอยากเห็นพริ้งในแบบที่เราฝัน เราจะถ่ายทอดเขาออกมาแบบไหน"
เวอร์ชั่นนี้พริ้งจะเป็นแบบไหน?
"พริ้งจะมีความเป็นมนุษย์ที่ใช้ความรู้สึกในการดำเนินชีวิต ไม่มีเหตุผล จนอารมณ์ทำร้ายชีวิตเขา ซึ่งคล้ายๆ กับชีวิตจริงของเราที่อารมณ์ในการดำเนินชีวิต ทำลายชีวิตตัวเองในหลายๆ จุด เสียใจนะแต่ก็ไม่รู้สึกเสียดายกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะมันทำให้เราเป็นแบบนี้ในทางที่ดีขึ้น ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นหรือผลของการกระทำของเรามันทำให้เราปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น ก็อยากจะถ่ายทอดตรงนี้ลงไปในตัวพริ้งด้วย"
ความแซ่บล่ะ?
"ต้องเจอกันคนละครึ่งกับจักจั่น ตัวเขาเองก็กดดัน เราเองก็กดดัน เพราะจริงๆ กระแสว่าจั่นไม่ใช่พริ้ง ไม่เซ็กซ์ ไม่เอ็กซ์ ไม่อึ๋ม ก็มีเข้ามาเยอะ แต่ของแบบนี้มันดึงจากอินเนอร์ได้ เราเชื่อว่าจั่นเป็นนักแสดงที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจและมีความสามารถ"
พอรู้ว่าเป็นจั่นเล่นรู้สึกยังไงบ้าง?
"ก็นิ่งเหมือนกันนะ คือเราไม่เคยสัมผัสกับนักแสดงของทางช่อง 7 เลย แต่มันก็ทำให้เรารู้ว่าเราจะมาทางนี้ได้ไหม บางทีเราก็จะชินอยู่กับวิถีเดิมๆ ที่เราเคยเป็น คราวนี้เราอาจจะต้องโยนให้แรงกว่าที่ผ่านมา หรืออาจจะโดนปะทะแรงขึ้นเราเองก็ต้องตั้ง อาจจะต้องเจอกันคนละครึ่งทาง บอกเลยว่างานนี้ไม่ง่าย (หัวเราะ)"
ได้คุยกับจั่นบ้างหรือยัง?
"คุยแล้ว มีโอกาสได้รีดทรูกันไปบ้างแล้ว"
ความแซ่บเขายอมเราขนาดไหน?
"เชื่อว่าจั่นทำได้ วันที่รีดทรูรู้สึกได้เลยว่าเขาตั้งใจมาก ดูจากคลิปที่หนิงเอาลง เราได้ยินแค่เสียงยังต้องเงยหน้าขึ้นมาดู ขนลุกเลยค่ะ"
รับมือกับกระแสต่างๆ ยังไง?
"อยากให้รอดูมากกว่า เพราะเราเองไม่ได้อ่านกระแสเลย มันกดดัน มีแต่คนมาเล่าให้ฟัง ส่งลิงก์มาให้ดู แต่เลือกที่จะไม่อ่าน เพราะเราจิตอ่อน คือมันเครียดไปหมดทุกอย่าง อาจจะเป็นเพราะเราอยู่ในที่เดิมๆ เห็นอะไรชัดเจนมาตั้งแต่ต้น แต่พอกระโดออกมาที่ใหม่มันเหมือนการเริ่มต้นใหม่หมดเลย ในเวลาที่คนมั่นใจว่าทำเราได้ เราเจ๋ง แต่ตัวเรากลับไปไม่เป็น ตื่นเต้นไปหมด มองหน้านักแสดงแล้วก็คิดว่าจะบอกเขายังไงดี เขาจะฟังเรา เข้าใจเราไหม ตื่นเต้นไปพร้อมๆ กับนักแสดง"
ต้องปรับยังไงบ้าง?
"คุยกับหนิง กับแม่ กับพี่ๆ ทางธรรม เพราะรู้สึกว่าจับตัวเองไม่อยู่ เป็นคนขี้กังวล ถ้าตั้งใจจะเอาอะไรแล้วต้องเอาให้ได้ จนกลายเป็นความกดดันตัวเองและไปพาลคนอื่น ต้องควบคุมอารมณ์ในการทำงาน เพราะเราเป็นคนใจใจ คือไม่ใช่ว่าจะให้นักแสดงทุกคนมาเรียนกับเรา แต่เรานี่แหละที่ต้องเรียนรู้จากนักแสดงทุกคน มีได้มาเจอ มาคุย มาดูจังหวะจะโคนกัน เวลาทำงานจะได้ไม่ต้องปรับกันเยอะ"
นอกจากตัวพริ้งแล้วตัวผู้ชายในเรื่องก็ค่อนข้างเป็นกระแสที่พูดถึงเยอะ?
"ใช่ค่ะ อย่าว่าแต่คนอื่นที่เขาพูดถึงกระแส ตัวเราเองก็จิตตกเหมือนกัน แต่พอมานั่งนึกถึงวันแรกที่เราทำงานใหม่ๆ มันก็ไม่มีใครรับเราหรอก ทำไมเราถึงไม่เปิดใจ พอนึกตรงนี้ได้ เราก็หลุดจากนั้น คิดว่าเมื่อตัดสินใจทำแล้วต้องทำให้ดีที่สุด ใช้ใจเต็มๆ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง ไม่เป็นไร เราตั้งใจทุ่มสุดชีวิตแล้ว"
เท่าที่เจอเบื้องต้นนักแสดงแต่ละคนเป็นยังไงบ้าง?
"อยากเขกหัวตัวเอง เราชอบกลัวไปก่อน แต่พอเห็นนักแสดง มองตาทุกคน มองเวลาที่เขาแต่งหน้าแต่งตัวสวมวิญญาณตัวละครแล้วรู้สึกว่าเขาตั้งใจมาก จนรู้สึกว่าทำไมเราไม่ตั้งใจไปกับเขา บางทีในทุกๆ งานหลายๆ อย่างก็สอนตัวเราเองด้วย บางทีเราคิดว่าเราจะไปให้ความรู้ให้ประสบการณ์คนอื่น กลายเป็นว่าเราต้องไปเรียนรู้จากตัวนักแสดง"
เรื่องนี้เรียกได้ว่ายากทุกอย่าง?
"จริงๆ ทุกเรื่องยาก ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เราเป็นคนอย่างนี้ พอเริ่มต้นอะไรก็จะคิดว่างานยากอีกแล้ว ทั้งที่จริงๆ เรายากไปเองหรือเปล่า"
ข้ามจากช่อง 3 มากำกับให้ช่อง 7 ได้คุยกับคุณสมรักษ์ไหม?
"ไม่ได้คุย คุยกับพี่ไก่แค่คนเดียว ถ้าคุยกับทางฝ่ายบริหารก็คิดว่าคงไม่ได้มา เหมือนต้องหนีโรงเรียนมา"
แต่ก็เหมือนมีกระแสว่าถ้ามาทำให้ช่อง 7 จะกลับไปทำให้ช่อง 3 ไม่ได้?
"อันนี้ก็แล้วแต่ให้ผู้ใหญ่พิจารณาดีกว่า เราเป็นคนทำงาน เราโอเคนะถ้าผู้ใหญ่พิจารณาแล้วว่าถ้ามาอยู่ช่องนี้แล้วไม่ได้กลับไปทำให้ช่อง 3 แล้วนะ เราก็เคารพการตัดสินใจของผู้ใหญ่ แรกๆ ยอมรับว่ากังวล เพราะช่อง 3 ก็เป็นช่องที่ทำให้เราเกิด แต่ชีวิตเราก็ต้องก้าวต่อไป เราไม่ได้รู้สึกว่าจะต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่เราก็เป็นคนเบื้องหลังตัวเล็กๆ เราก็ปรึกษาพี่ไก่เหมือนกันนะว่าถ้ามานี่แล้วผู้ใหญ่ทางช่อง 3 ไม่แฮปปี้จะทำยังไง แรกๆ พี่ไก่ก็ลังเลว่ามันจะดีหรอ ดูจะข้ามช่องไปไหม แต่เราก็คิดว่าไม่หรอก "
หรือเป็นเพราะพี่โน่กับพี่หนิงทุ่มเงินเยอะ?
"ว้าว ไม่มี เอามาจากไหน ให้เขามาซื้อพี่สิ ไม่เห็นจะมีตังค์เลยคู่นี้ มาด้วยใจ มากับเพื่อน ไม่ได้เงินมากขึ้นเลย โดยส่วนตัวเราไม่ได้เป็นคนทำงานเพื่อเงิน"
มีการเซ็นสัญญาอะไรไหม?
"ไม่มีค่ะ ไม่ได้เซ็น จริงๆ กับช่อง 3 ก็ไม่ได้เซ็น ทำงานทุกอย่างด้วยใจ ทำงานตามที่อยากทำ ขนาดงานที่ตัวเองอยากทำยังกดดันตัวเองเลย ถ้าทำงานที่โดนบังคับให้ทำสงสัยคงต้องเป็นบ้า"
ตอนนี้มีกำกับกี่เรื่อง?
"เรื่องเดียวค่ะ ก่อนหน้านี้มีขอเป็นเจ้าสาวสักครั้งให้ชื่นใจ กับเจ้าบ้านเจ้าเรือนที่มันขี่กันอยู่ ทำให้เรารู้ว่าไม่สามารถกำกับ 2 เรื่องพร้อมกันได้"
การทำงานล่ะ ช่อง 3 กับช่อง 7 ค่อนข้างจะแตกต่างกัน?
"ยังไม่ได้เริ่มเลย แต่หนิงกับโน่เขาค่อนข้างที่จะโปรไวด์สิ่งที่เราคุ้นเคยให้ เราจะได้ไม่รู้สึกกดดันมาก เราเองก็ไม่ได้รู้สึกว่าวิธีการทำงานมันแตกต่างกัน มันอยู่ที่ทีมงานและวิธีการตีความของเรา และทีมผู้จัดที่จะไปด้วยกันมากกว่า"
มีข้อตกลงอะไรกันหรือเปล่า?
"ไม่มี แค่รู้นิสัยกันก็พอ เราไม่ได้เยอะ ขอแค่ให้เกียรติกันในการทำงาน แต่ละฝ่ายมีหน้าที่ของตัวเอง อย่าไปข้ามไลน์กัน พี่ถือเรื่องหน้าที่และการให้เกียรติเป็นสำคัญ"
เปิดกล้องเมื่อไหร่? "19 มี.ค.นี้ นี่เลตแล้วนะ จริงๆ ตั้งใจจะเปิดตั้งแต่กลาง ก.พ. แล้ว"