[CR] << ตระเวนกิน ทั่วถิ่นไทย ... เนื้อสะเต๊ะบังพงษ์ @ สนามบินน้ำ >>

   สมัยก่อน  ตอนที่ยังมีสนามหลวงอยู่  ถึงฤดูนี้  ใกล้เดือนเมษายน  จะมีลมพัดมาตามธรรมชาติ  ที่เรียกกันว่า “ ลมว่าว ” มาตรงเวลาทุกปี  และสถานที่สุดฮิตในสมัยนั้น  ไม่พ้นสนามหลวง  ที่เป็นเหมือนแหล่งพบปะ มีกิจกรรม มีการละเล่นกลางแจ้งกันสนุก  มีของอร่อย ๆ จากหลายแหล่งมารวมตัวกัน
   ของกินสนุก ๆ ในสมัยก่อนมีเยอะนะครับ  วันก่อน  มีคนถามว่า  ทำไมโรตีสายไหมที่อยุธยา  ถึงใช้แป้งปอเปี๊ยะล่ะ  ทำไมไม่ใช่แป้งโรตีตามชื่อ เรื่องนี้มีที่มานะ  คืองี้  จากการที่คุณพ่อเล่าให้ฟังนะครับ
   สมัยก่อน  ชาวอยุธยา จะเดินทางโดยรถไฟมาขายของกันที่กรุงเทพฯกันมาก  โดยส่วนใหญ่ เป็นพี่น้องชาวมุสลิม  ก็จะนำข้าวหม้อ แกงหม้อ นั่นนิด นี่หน่อย ใส่หาบ ใส่ตะกร้ากระเดียดเอวมาขายกันที่สนามหลวงเป็นหลัก  ทั้งข้าวหมกไก่ ข้าวหมกแพะ ยำสลัด ( สลัดแขก ) เนื้อสะเต๊ะ และโรตี สายไหมและตังเมหลอด
   โรตีสายไหม / ตังเมหลอดที่บังหาบมาขาย  จะเป็นแป้งโรตีทอดมานุ่ม ๆ หนึบ ๆ  พอมีคนสั่ง  ก็จะดึงแป้งโรตีมาสองแผ่น เรียงกัน หยิบสายไหมมาใส่ให้เต็มแผ่น แล้วม้วนเป็นเส้นกลมสอดในกระดาษซับมัน ส่งให้เรา  ในราคา 2 อัน สลึงเดียว  ส่วนตังเมหลอดที่ตอนนี้หายสาบสูญไปแล้วนั้น  ก็ทำแบบเดียวกัน ราคาเดียวกันครับ
โรตีสายไหมที่เราเคยกินสมัยสนามหลวง เค้ามีแป้งให้เลือก ทั้งแบบแป้งปอเปี๊ยะและแบบแป้งโรตีทอดจริงๆ ถึงเรียกกันว่า โรตีสายไหม ที่หายไปแบบจะสาบสูญจะเป็น ตังเมหลอด ที่ห่อแป้งโรตี อร่อยเหลือใจ  พอบังมีแป้งให้เลือก ทั้งปอเปี๊ยะทั้งแป้งโรตี แต่แป้งโรตีมันขั้นตอนยุ่งยากกว่ามากเรื่องกว่าแป้งปอเปี๊ยะ ที่หมักก้อนเดียว ดึงกันได้ทั้งวัน ก็เลยเลิกทำแป้งโรตี ทำแป้งปอเปี๊ยะอย่างเดียว นานเข้าคนลืมครับ บังหลายคนที่ทำ บ้านอยู่กุฎีอยุธยา. นั่งรถไฟมาขายโรตีสายไหมในกรุงเทพฯ แก่ตัวเข้าก็เลยทำขายที่บ้าน ขายหน้าบ้านย่านสุเหร่าแนวเดียวกับโรงพยาบาลอยุธยา ขายดีขึ้นมา เพราะมีการตัดถนนมากมายสาย บางใหญ่- บางปะอิน แยกเป็นสามแยก ที่มาออกอยุธยาได้ รถมาออกทางนี้เยอะ เลยแวะซื้อเป็นของฝากกันจนดัง … ชายกางพาท่านออกทะเลอีกแล้วววว
   ของอร่อย ที่ชายกางชอบมาก ๆ ก็คือ  เนื้อสะเต๊ะครับ มีเจ้าประจำที่มองเห็นปั๊บจะจำได้ทันที  เพราะบังจะมาเป็นกลุ่ม  ในกลุ่มก็จะมีอาหารมุสลิมขายกันตั้งแต่ข้าวหมกไก่  ก๋วยเตี๋ยวแกง ยำสลัด มะตะบะ โรตีจิ้มแกง โรตีสายไหมและเนื้อสะเต๊ะ  ที่จะปิ้งบนเตาและตะแกรงทองเหลืองขัดเงาวับ  เวลาปิ้งพรมกะทิหยดลงไฟดังฉ่า ๆ ควันลอยหอมฟุ้ง  เรียกน้ำย่อยกันน่าดู
    เนื้อสะเต๊ะ สนนราคาจานละ 3 – 5 บาท ถ้าจานละ  3 บาทก็จะมี 12 ไม้  จานละ 5 บาทก็จะมี 20 ไม้  เพราะไม้ละสลึงเดียวครับ  พอสั่งปุ๊บ  บังก็จะนับไม้  เรียงบนเตา เริ่มพรมน้ำกะทิใส่เนื้อไปเรื่อย ๆ จนสุกพอดี ๆ หอมฉุย  ใส่จานสังกะสีเล็ก ๆ แล้ววางมาในถาด ที่จัดชุดน้ำจิ้มเป็นน้ำพริกข้น ๆ หวานนำ หอมเครื่องเทศฉุย ๆ ส่วนอีกจานน้อย ๆ เป็นอาจาดแก้เลี่ยน
   กินกันได้ กินกันดี  กินไป  ดูว่าวไป  ยิ่งวันไหนมีการแข่งขัน “ ป่านคม ” ด้วยแล้ว  จะสนุกมาก  ถึงขั้นวางเงินเดิมพันกันก็มี  ระหว่างจุฬากับปักเป้า  แต่ที่มันส์สุด ๆ ต้องปักเป้ากับปักเป้าด้วยกันเองครับ  โฉบกันที เสียงมันเร้าใจมาก  ...  ออกทะเลนอกเรื่องอีกแล้ว
   สมัยนี้  จะหาเนื้อสะเต๊ะดี  ๆ อร่อย ๆ นั้นยากเอาการ  ส่วนใหญ่ที่เจอ  จะอยู่ตามร้านอาหารมุสลิมบ้าง ตามร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อบ้าง  จะหาร้านแบบเนื้อสะเต๊ะเพียว ๆ นั้นยากนัก  แต่ถ้าไม่คิดอะไรนัก  เนื้อสะเต๊ะอร่อย ๆ ที่ชายกางได้เจอมา  ยังยกให้เนื้อสะเต๊ะของร้านฮับเซาะห์ อิสลาม พุทธมณฑล สาย 1.  ยังครองแชมป์ที่ 1. อยู่นะครับ

http://ppantip.com/topic/33478371


   เมื่อหลายเดือนก่อน  เฮียเปา หรือ เฮียสกล  Sakol Preecharpanyakul  ที่เป็นเพื่อนกับชายกางใน FB ได้แนะนำร้านเนื้อสะเต๊ะเจ้านึง  ขายแต่เนื้อสะเต๊ะล้วน ๆ อย่างเดียว แถวสนามบินน้ำ  ชี้เป้าให้ไปชิม  จนชายกางวนเวียนไปหลายครั้ง  จนมั่นใจว่าของเค้าดีจริง  และควรนำมาบอกกัน
   บังพงษ์  เป็นเจ้าของตำรับเนื้อสะเต๊ะอร่อย ๆ เจ้านี้ครับ  ร้านนี้ เป็นรถเข็นมาจอดขายริมทางเท้าที่ทางการผ่อนผันแล้ว  ด้วยการจัดเป็นกลุ่มผู้ค้าย่านหน้าปากซอย ติวานนท์  54 กัน  บังพงษ์จะเป็นคนปิ้งสะเต๊ะ  โดยมีมะเป็นคนคอยจัดการเรื่องจานชาม ที่นั่งให้กับลุกค้าอย่างสามัคคี

    วันนี้  ลองตามชายกางมาชมร้านขายเนื้อสะเต๊ะอร่อย ๆ ร้านนึงย่านสนามบินน้ำ  ที่ชื่อว่า สะเต๊ะบังพงษ์กันดูนะครับ
ชื่อสินค้า:   เนื้อสะเต๊ะ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่