เท้าความนิดนึงครับ  พอดีผมมีโอกาสได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก และเป็นการไปเที่ยวคนเดียว ก็มีเรื่องราวต่างๆมากมายที่พบเจอ แต่ประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม คือ การตามหากระเป๋าเดินทาง ที่ชินจุกุ ตั้งแต่ ทุ่มครึ่ง ยันห้าทุ่มครึ่ง 😒

      วันนั้นเป็นวันรองสุดท้ายที่อยู่ในญี่ปุ่น ผมเดินทางมาจาก Takayama โดยรถบัส แล้วมาลงที่ โตเกียว (ตอนแรกผมก็ไม่รู้หรอกนะครับว่ารถบัสจะมาตอนที่ชินจุกุ) ถึงชินจุกุประมาณ 1 ทุ่ม ลงรถบัสได้ก็มาเจอ Locker ใากกระเป๋า ก็เลยกะว่าถ้าเดินเที่ยวแล้วลากกระเป๋าไปด้วย คงลำบากน่าดู ฝากไว้ใน locker แล้วกัน แล้วค่อยกลับมาเอา. หลังจากนั้นก็เดินเที่ยวไปเรื่อยๆ เข้าซอยนู้น ออกซอยนี้ไปเรื่อย จนเริ่มรู้สึกว่า ตอนนี้เราอยู่ส่วนไหนของจินจุกุวะ เดี๋ยวหลง กลับไปเอากระเป๋าก่อนดีกว่า สุดท้ายก็หลงจริงๆครับ จำไม่ได้ว่า locker ที่ฝากกระเป๋าไว้มันอยู่ตรงไหน ตอนนั้นก็ยังไม่อะไรมาก ก็ค่อยๆ เดินหา หาไปเที่ยวไป จนเริ่มนานเข้าๆ ก็ยังไม่เจอกระเป๋าซักที. เริ่มใจไม่ดีแล้วครับ ฝนเจ้ากรรมก็ดันมาตกอะไรตอนนี้ แต่ก็ต้องเดินหาทั้งที่ฝนตกนั่นแหละครับ 🙄 เดินจนไม่รู้จะเดินไปไหนแล้วอ่ะครับ วนไปวนมาอยู่นั่น ไม่ไหวแล้ว ฝนก็ตก เปียกก็เปียก เลยต้องถามคนแถวนั้น จำไม่ได้ว่าถ้ามไปกี่คน แต่รู้ว่ามันเยอะมากๆ  ผมก็เอากุญแจ locker ให้ดู ซึ่งมันจะมีชื่อlocker อยู่  แต่ส่วนใหญ่เขาก็ไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน ระหว่างนั้น ก็ไลน์ถามคนญี่ปุ่นที่รู้จักกัน เขาก็ช่วยผมอย่างดีมาก เขาพิมพ์ภาษาญี่ปุ่น แล้วให้ผมไปให้เจ้าหน้าที่ หรือคนญี่ปุ่นอ่าน เขาหาเว็ปไซต์ที่รวบรวม locker ในย่านชินจุกุให้ผมดู แต่มันก็ไม่มี ระหว่างนั้นผมก็ถามคนแถวนั้นไปด้วย จนผมถามผู้ชายญี่ปุ่นคนนึง ตอนแรกไม่ค่อยกล้าถาม เพราะท่าทีเขาดูขรึมๆ มาก แต่พอเข้าไปถามเท่านั้นแหละ เขาให้ความช่วยเหลือผมดีมาก เขาเปิดเว็ปหาข้อมูลช่วยผม แต่ก็ยังไม่เจอ เขาเลยบอกให้ไปถามตำรวจ ผมก็ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน เขาเลยอาสาพาไป ทั้งๆที่ฝนก็ยังคงตกอยู่ปรอยๆ จนในที่สุดก็ถึงป้อมตำรวจ จากนั้นเขาก็ขอตัว
            ก็ให้ตำรวจดู กุญแจ locker ที่ผมมี อธิบายไปว่า พอลงจากบัสปุ๊บ ก็เจอ locker เลย มันอยู่ติดถนน เขาก็เปิดนู่นเปิดนี่ แถมมาเปิดเว็ปไซต์ที่เพื่อนชาวญี่ปุ่นส่งมาให้ผมตอนแรก แล้วไล่จิ้มชี้ทีละอัน อันนี้ใช่ไหม อันนี้หล่ะใช่ไหม แล้วอันนี้ใช่ไหม โอ้ยยย มันไม่ใช่มันไม่มีในนี้ (คิดในใจ) ผมก็บอกไม่ใช่ทุกอันที่เขาชี้ สุดท้ายบอกให้ผม give up!!! มัน give up ไม่ได้ มันยังไม่เจอกระเป๋าเลยย. แล้วก็วาดรูปแผนที่อะไรให้ดูก็ไม่รู้. บอกให้เดินไปตรงนี้ ตรงนั้น เจอป้อมตำรวจอีกอันให้เลี้ยวทางนี้  โอเคผมก็ทำตาม แต่เดินไปเรื่อยไก็ไม่เจอป้อมตำรวจซักที บวกกับมันเริ่มออกห่างไปเรื่อยๆ เลยตัดสินใจเดินกลับดีกว่า. ตอนนั้นก็ สี่ทุ่มกว่าแล้ว  เอาจริงๆอยากร้องไห้มากตอนนั้น หิวก็หิว เมื่อยก็เมื่อย ฝนก็ตก โอ้ยยย นี่มันวันอะไรวะเนี่ยยยย  เอาวะ ลองสู้อีกซักตั้ง ก็ถามคนนู้นคนนี้ไปเรื่อย ก็มาเจอ ผู้ชายคนนึง คนนี้ยืนคุยกันเป็น 10 นาที มีเปิดแผนที่นู่นนี่นั่น ช่วยหาแบบจริงจรังมากกก เหมือนจะช่วยได้ แต่สุดท้ายก็ไม่ แถมโดนแอบจับเป้าไปสองที 😏 ท้อมากๆตอนนั้น แบตมือถือก็เหลือนิดเดียว pocket wifi แบตก็จะหมด กระเป๋าก็ยังหาไม่เจอ  เฮ้อออ ห้าทุ่มกว่าแล้ว หรือจะค่อยมาหาต่อพรุ่งนี้
จึงตัดสินใจเปิดแผนที่ดูว่าที่พักอยู่ตรงไหน ตอนแรกกะจะนั่ง taxi ไปแล้ว แต่เปิดแผนที่ดู เดินประมาณ 10 นาทีก็ถึง ก็เลยเดินไปเรื่อยๆ เดินวนไปวนมา (แผนที่ก็ดันมารวนอะไรตอนนั้น งงทิศไปหมดเลยไม่รู้ทิศไหนเป็นทิศไหน😭) เดินไปซักพัก เริ่มคุ้นๆ ตึก คุ้นๆถนน เห้ยยยยยย!!!! ในที่สุดผมก็เจอ Locker ที่ฝากกระเป๋าไว้ด้วยความบังเอิญ วินาทีนั้นแทบจะร้องไห้เลยครับ มันดีใจแบบบอกไม่ถูกจริงๆ เดินตามหามา 4-5 ชั่วโมงไม่เจอ กลับมาเจอเอาดื้อๆ  ใจนึงก็โกรธตัวเองที่ไม่รอบคอบ ไม่ถ่ายรูป locker หรือบริเวณใกล้เคียงไว้ โชคดีที่หาเจอ รีบกลับที่พักทันทีเลยครับ

    

🇯🇵🇯🇵🇯🇵เรื่องราวการเดินทางไปญี่ปุ่นของผมคนเดียวครั้งนี้ ผมเลยไปเล่าไว้ในเพจ Long teaw do di ผมลองทำดู เผื่อใครอยากไปเที่ยวคนเดียว มันไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพราะผมเองก็ไปแบบไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ และก็ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาก  ยังไงก็ลองแวะเข้ามาอ่านก่อนได้นะครับ อาจจะยังไม่ได้อัพอะไรมาก