ครูทราย เป็นครูที่มีอยู่จริง แต่ขาดกำลังใจและถอยไปเยอะ เหตุผล คือ การขาดความร่วมมือจากองค์กร และผู้ปกครองแบบจริงจัง ปัญหาอุปสรรค มันเยอะวุ่นวายกว่าในโลกของละคร

แต่ครูทราย โชคดีที่มี คนระดับท่านรอง เข้ามาให้ความช่วยเหลือร่วมมือแบบจริงจัง ซึ่งในชีวิตจริง แทบจะไม่มีเลย

ผู้หญิงแบบครูทราย เป็นผู้หญิงอบอุ่น อ่อนโยน ฉลาด มีเหตุผล เป็นผู้หญิงที่มองอะไรแล้วจะมองหลายมุม จึงไม่น่าแปลกใจที่ตอนท้าย เด็กๆเริ่มเปิดใจไว้ครูทราย และติดครูทราย

ต่างจาก ท่านรอง ที่เติบโตมากับครอบครัวที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบครูทราย แต่ดีตรงต่างที่พ่อแม่เข้าใจที่จะเลี้ยงให้ดี และให้ความร่วมมือกัน ท่านรองจึงดูขี้เหงา และลึกๆแล้วขาดความอบอุ่น หลายครั้งท่านรองเผลอแสดงออกในมุมนั้น พอรู้ตัวก็จะเก็บอาการทันที เพราะรู้ว่าทรายอ่านออก
ท่านรองเผลอ เพราะผู้หญิงแบบทราย
เผลอบ่อยด้วย

สิ่งที่ทำให้ ท่านรองและทรายอยากทำให้เด็กๆเป้าหมายเหมือนกัน แต่เหตุผลต่างกัน ตรงที่

ทรายมี ทุกอย่างจากความเข้าใจความรัก ความอบอุ่น กำลังใจทุกอย่างที่ได้รับจากครอบครัว เลยอยากแบ่งปัน ความสุขนั้น

ส่วนท่านรอง ขาดที่ดูเหมือนเล็กน้อยแต่ที่จริงในมุมตัวเองอาจจะมองว่าเยอะ และไม่อยากให้คนอื่นขาดเหมือนตัวเอง เลยพร้อมที่จะมอบและแบ่งปันให้

ขาดยังไง จากที่บอกว่าสนิทกับพ่อมากกว่า
คุยกับแม่น้อยคำ เรื่องโครงการแม่ไม่ให้กำลังใจแล้วยังไม่สนับสนุนอีก ทั้งที่ลูกตัวเองก็ผ่านเรื่องนั้นมา

ครูใหญ่ เฮ้อ มีอยู่ มีอยู่จริงในหลายๆองค์กร ไม่รู้จะพูดยังไง เพราะถ้าคิดถึงแต่ตัวเองคนอื่นก็ไม่สำคัญ

ผู้ปกครองเด็กๆ ในเรื่อง จะมีช่วงเข้าใจ
รับรู้ ใส่ใจ เลยสามารถแก้ปัญหาผ่านไปได้ในที่สุด แต่ในชีวิตจริง จะมีประเภท ยังไงก็ ไม่ยอมรับรู้ ไม่สนใจ ไม่ให้ความร่วมมือ กว่าจะเข้าใจ
หรือไม่มีทางที่จะเข้าใจ มันก็สายกลายเป็นแผลลึกให้เด็กๆไปแล้ว แม้เด็กๆจะโตขึ้น
มีวุฒิภาวะเพิ่ม แต่จะมีช่วงควบคุมตัวเองไม่ได้ อารมณ์ชั่ววูบ ขาดสติ จะติดกับตัวเอง ปลดแบบไร้เหตุผล เหมือนที่เห็นผู้ใหญ่หลายคนเป็นปัญหาสังคมอยู่ทุกวันนี้

พ่อแม่แบบไหน ที่คุณเป็น ที่ควรจะเป็น

เราไม่ชอบพ่อแบบหวาย เป็นเราหนีไปอยู่กับแม่แล้ว เเต่เพราะหวายรักพ่อมาก
คุณบอกลูกว่า คุณถูกเลี้ยงมาแบบนั้น แล้วคุณมีความสุขมั้ย ถ้าไม่ทำไมถึงทำแบบนั้นกับลูกน่าจะเข้าใจ

เราไม่ชอบแม่ที่น่ารำคาญแบบแม่โชกุน
อะไร ที่คิดจะให้ลูกอยู่ในกรอบ จนดูเหมือนล็อกประตูปิดตาย

เราขอใช้คำว่าเกลียดกับ แม่ แบบตังเม
ลูกไม่รู้ว่าคุณเจออะไร เเต่เป็นเเม่ที่ดูไม่สนใจลูกมากที่สุดล่ะ อย่างที่ครูทรายบอกไม่ใช่ปล่อยว่างแต่หนีปัญหา ไม่ใส่ใจด้วยซ้ำ

แม่มินนี่ สนใจแค่สิ่งที่จะกอบโกยเพื่ออนาคต แล้วปัจจุบันของลูกล่ะ ขาดช่วงวัยที่เขาควรจะอยู่ ขโมยเวลาสำคัญพัฒนาการตามวัยไปนานแค่ไหน

แม่ของน้องปิ๊กปิ๊ก คนนี้ไรสาระที่สุดล่ะ
ไม่มีเวลาให้ลูก แต่มีเวลาทำเรื่องไร้สาระ
ดูละครน้ำเน่าตบตี ตามราวีสามีที่เลิกกันแล้ว

และถามว่า ถ้าเป็นครูทราย เด็กคนไหนที่เหนื่อยใจมากที่สุด น่าจะเป็นโชกุน กับปิ๊กปิ๊ก สองคนแกล้งเนียน เปิดใจ

(ด้านล่าง สำหรับคนบางประเภท)

ส่วนพวกเฮตเตอร์คอมเม้น จิตไม่ปกติ
ทั้งหลาย ที่ตามน้ำ ไม่ว่าเรื่องอะไรของใคร
มองตัวเองน่ะ อาการหนักกว่าเคสข้างบนด้วยซ้ำ มีความสุขเหรอที่เอาชีวิตไปผูกกับความริษยาคนอื่น ถ้าฉลาดหน่อย ก็ไม่ควรพิมพ์อะไรที่บ่งบอกพฤติกรรมแย่ๆของตัวเอง เพราะมันบอกได้ว่าคุณโตมายัง มีพ่อแม่แบบไหน ถูกเลี้ยงมายังไง มันดูไม่น่าสงสาร แต่ดูน่าอนาจและสมเพช