สวัสดีครับ กระทู้นี้ก็จะขอรีวิวประสบการณ์จากการบุกบั่นข้ามไปเชียร์ทีมรักชาลเก้ 04 ถึงขอบสนาม ณ เมืองเกลเซ่นเคียเช่น (Gelsenkirchen) ประเทศเยอรมัน ก่อนอื่นก็ต้องบอกว่าทุกคนที่ไปเที่ยวเยอรมัน ก็คงจะเน้นไปเที่ยวเมืองดังๆ เช่น เบอร์ลิน มิวนิค แฟรงค์เฟิร์ต แต่คงไม่มีใครคิดที่จะเที่ยวเมืองนี้ ซึ่งจริงๆก็ถูกต้องแล้ว เพราะเมืองนี้ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรที่น่าดึงดูดใจเลย แฟนบอลบุนเดสลีก้าในไทยส่วนใหญ่ก็เป็นแฟนบาเยิร์นและดอร์ทมุนด์กันไปเสียหมด (มีทีมอื่นบ้างประปราย เช่น ชาลเก้ เลเวอร์คูเซ่น เบรเมน....) ส่วนผมเองการไปเยือนเวลตินส์อารีน่า (Veltins Areana หรือ Areana Auf Schalke) ก็ถือเป็นความฝันอย่างหนึ่งในชีวิตอย่างหนึ่ง
ข้อมูลคร่าวๆของเกลเซ่นเคียเช่น ก็เป็นเมืองอุตสาหกรรมถ่านหินในแคว้นรูห์ (Ruhr) รัฐ North Rhine-Westphalia ค่อนไปทางภาคตะวันตกของเยอรมัน เมืองที่เป็นที่รู้จักในละแวกก็อย่างเช่น ดอร์ทมุนด์ โคโลญจน์ ดุสเซลดอร์ฟ เป็นต้น ถ้าท่านใดอยากทราบข้อมูลเกี่ยวกับทีมชาลเก้มากขึ้น ก็สามารถอ่านประวัติคร่าวๆ ได้ที่
http://ppantip.com/topic/32648096 ซึ่งเป็นกระทู้ที่บอกเล่าความเป็นอริร่วมแคว้นรูห์อย่างเข้มข้นระหว่างชาลเก้และดอร์ทมุนด์ หรือ ท่านใดสนใจพบปะพูดคุยผ่านทาง FB ก็ตามลิงค์นี้
https://www.facebook.com/fcschalke04thailand ไม่เสียเวลาก็เริ่มกันเลย...
ปล. รูปภาพอาจจะดูดิบๆสักหน่อยนะครับ เพราะ ใช้กล้องคอมแพคขนาดกะทัดรัดถ่าย ไม่ได้เป็นมือโปรถ่ายรูป ผลงานที่ได้เลยไม่ได้ความสวยงามสักเท่าไหร่ คิดเสียว่าดูรูปภาพประกอบผ่านๆเเล้วกันนะครับ
1. การเดินทาง : ตามที่บอกไปว่าเกลเซ่นเคียร์เช่นไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่ แต่เมืองใกล้ๆที่น่าสนใจที่สุด คือ อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ (ไม่ใช่แยกพระราม 9 นะครับ) เกลเซ่นฯ ห่างจากอัมสเตอรดัม ประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น อาจจะดูว่านาน แต่ถ้าท่านใดเคยนั่งรถไฟยุโรป ก็จะรู้ว่า 2 ชั่วโมงไม่ได้นานอย่างที่คิด เพราะความเร็วและความสะดวกสบายของรถไฟ นั่งๆนอนๆอ่านๆ สักพักก็ถึงแล้ว ผมเดินทางโดย DB Bahn (ICE) โดยขึ้นจากสถานี Amsterdam Central แวะเปลี่ยนรถไฟที่เมือง Oberhausen จากนั้นก็เข้าสู่เกลเซ่นฯ (ค่าโดยสารไป-กลับ 53 ยูโร : 2,000 บ.) แต่ถ้าหากใครจะไปเที่ยวเมืองอื่นต่อก็ตามสะดวกครับ
ภาพจากหน้าสถานี Amsterdam Central
ถึงสักที Gelsenkirchen Hbf
2. ที่พักและการใช้ชีวิต : ผมใช้บริการของ AirBnB เข้าพักในบ้านหลังหนึ่ง เดินห่างจากสนามประมาณ 15 นาที (แต่คนไทยเดินประมาณ 25 นาที ด้วยเพราะช่วงก้าวขาที่สั้นเเละความถี่ในการซอยเท้า) เข้าไปในเขตสงบเงียบห่างจากถนนใหญ่ เจ้าของบ้านชื่อ Mr.Gunter เป็นคุณครูหนุ่มใหญ่วัยดึก อาศัยคนเดียวในบ้าน แกบอกว่าไม่รู้ว่าห้องที่เหลือทำอะไรดี เลยปล่อยห้องให้ AirBnB รับนักท่องเที่ยว ความประเสริฐอย่างหนึ่งของ AirBnB คือ ราคาไม่ได้แพงมาก สะดวกสบาย และเป็นส่วนตัว ตอนเที่ยวอัมสเตอร์ดัม ผมนอนโฮสเทล ต้องบอกว่านรกแตกมากๆ เพราะ พบว่ามีคนแอบมาค้นกระเป๋า, เสียงกรน100เดซิเบลจากเพื่อนร่วมห้อง เเถมยังมานั่งยำกัญชาในห้องอีกต่างหาก ดังนั้น คืนที่เกลเซ่นฯ จึงเป็นคืนที่สะดวกสบายอย่างที่สุด น้ำอุ่น ไวไฟ ผลไม้รับรอง และตัวเจ้าของบ้านก็มีไมตรีจิตและจัดเตรียมห้องรับผมเป็นอย่างดี แถมไม่กำหนดเวลา Check Out ที่ตายตัว แค่บอกว่าไอต้องออกไปทำงานตอน 7 โมงเช้า ยูตื่นกี่โมง ออกกี่โมง ก็แล้วยูเลย แล้วก็หย่อนกุญแจไว้ในตู้ไปรษณีย์ล่ะกัน ที่พักผมให้ 10 คะแนนเต็ม (ราคาที่พัก 26 ปอนด์ : 1,300 บ.)
แต่เนื่องจากผมไปวันอาทิตย์ ร้านค้าต่างๆ ปิดเงียบกันหมด คนก็ไม่ค่อยออกไปไหนมาไหน ยกเว้นช่วงเย็นที่เริ่มครึกครื้นเพราะออกมาดูบอลกัน เลยไม่ได้เห็นสภาพความเป็นไปเท่าไหร่ หลังจากดูบอลเสร็จ หาอะไรกินแถวที่พักไม่ได้เลย (Gunter เสนอตัวว่าจะทำอาหารให้กิน แต่ผมเกรงใจ) เลยออกไปเดินดุ่มๆ จนกระทั่งไปเจอร้านอาหารอิตาเลียน เลยเข้าไปจัดสปาเก็ตตี้ 1 จาน บริกรสาวด๊อยช์ก็เข้ามาทักทาย คุยกันไปคุยกันมา เขาก็แปลกใจพอสมควรว่าทำไมยูถ่อร่างมาเพื่อดูชาลเก้อย่างเดียวเนี่ยอ่ะนะ ?? แล้วก็เรียกบริกร พ่อครัว มาที่โต๊ะ เพื่อสัมภาษณ์เหตุผลว่าทำไมถึงชอบ? ก็เลยตอบไปว่า นักฟุตบอลจากบุนเดสลีก้าคนแรกที่ไอจำชื่อได้ คือ “โอลาฟ โธน (Olaf Thon)” ก็เลยติดตามมาตั้งแต่นั้น ทางนั้นก็ตอบกลับมาว่า “ยูมากินร้านไอ ยูมาถูกทางแล้วแหละ เพราะโธนมักจะมาทานอาหารอิตาเลียนที่นี่บ่อยๆ ส่วนโต๊ะที่ยูนั่ง โธนก็เคยนั่งมาก่อนเช่นกัน...” (ราคาอาหาร 20 ยูโร : 800 บ.)
ปล. ปกติผมก็หาซื้อฟาสฟู้ด เคบับ เบอร์เกอร์ เต็มที่ไม่เกิน 5 ยูโร แต่วันอาทิตย์ตอนดึกหากินไม่ได้เลย จำใจทานของแพงโดยไม่มีทางเลือก
สภาพบ้านของ คุณ Gunter เเกขับรถไปรับผมถึงสถานีรถไฟ ประทับใจยิ่ง
ทุกอย่างคุณ Gunter จัดเตรียมไว้เเล้ว
เห็นสภาพห้องนอนเเล้ว ช่างต่างจากการนอนโฮสเทลลิบลับ เเถมราคายังเท่ากันอีกด้วย
3. การซื้อตั๋วและที่นั่ง : สามารถซื้อผ่านเวปไซต์ของสโมสรได้เลย หากตั๋วเต็ม ตั๋วหมด ก็จะมีตั๋วมือสองที่ขายโดยสมาชิกที่ผ่านการรับรองจากสโมสร หรือหาจากเว็บขายตั๋วอื่นๆก็ได้ครับ ส่วนวิธีของผม คือ รบกวนให้ทางคุณ Gunter ช่วยซื้อให้ก่อน แล้วเราก็จ่ายคืนทีหลังตอนเข้าพัก แกบอกว่านักท่องเที่ยวมาเมืองนี้จุดประสงค์ คือ มาดูชาลเก้เป็นหลัก เช่น คนญี่ปุ่นตามมาดู อัตสึโตะ อูจิดะ สุดท้ายแกก็จัดการเรื่องตั๋วให้ทั้งหมด แถมเลือกที่นั่งให้หน้าสุดเลย ถึงขนาดว่ามาดูไฮไลท์ย้อนหลังยังเห็นตัวเองในจอเลย แมตช์ที่ผมเข้าชม คือ Schalke VS Stuttgart ส่วนที่นั่งของผมอยู่ฝั่งด้านทิศใต้ (SudKurve) ใกล้ๆกับฝั่งกอชเชียร์ทีมเยือน แต่ถ้ามีโอกาสครั้งหน้าจะไปเยือนฝั่งทิศเหนือ (Nordkurve) ซึ่งเป็นพื้นที่ตั๋วยืน เเต่แพงกว่าตั๋วนั่งเเละเชียร์กันสนุกมากๆ (ราคาตั๋วเข้าชมประมาณ 45ยูโร: 1,800 บ.)
[Schalke04-ชาลเก้04] Review เยือน Veltins Arena
ข้อมูลคร่าวๆของเกลเซ่นเคียเช่น ก็เป็นเมืองอุตสาหกรรมถ่านหินในแคว้นรูห์ (Ruhr) รัฐ North Rhine-Westphalia ค่อนไปทางภาคตะวันตกของเยอรมัน เมืองที่เป็นที่รู้จักในละแวกก็อย่างเช่น ดอร์ทมุนด์ โคโลญจน์ ดุสเซลดอร์ฟ เป็นต้น ถ้าท่านใดอยากทราบข้อมูลเกี่ยวกับทีมชาลเก้มากขึ้น ก็สามารถอ่านประวัติคร่าวๆ ได้ที่ http://ppantip.com/topic/32648096 ซึ่งเป็นกระทู้ที่บอกเล่าความเป็นอริร่วมแคว้นรูห์อย่างเข้มข้นระหว่างชาลเก้และดอร์ทมุนด์ หรือ ท่านใดสนใจพบปะพูดคุยผ่านทาง FB ก็ตามลิงค์นี้ https://www.facebook.com/fcschalke04thailand ไม่เสียเวลาก็เริ่มกันเลย...
ปล. รูปภาพอาจจะดูดิบๆสักหน่อยนะครับ เพราะ ใช้กล้องคอมแพคขนาดกะทัดรัดถ่าย ไม่ได้เป็นมือโปรถ่ายรูป ผลงานที่ได้เลยไม่ได้ความสวยงามสักเท่าไหร่ คิดเสียว่าดูรูปภาพประกอบผ่านๆเเล้วกันนะครับ
1. การเดินทาง : ตามที่บอกไปว่าเกลเซ่นเคียร์เช่นไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่ แต่เมืองใกล้ๆที่น่าสนใจที่สุด คือ อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ (ไม่ใช่แยกพระราม 9 นะครับ) เกลเซ่นฯ ห่างจากอัมสเตอรดัม ประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น อาจจะดูว่านาน แต่ถ้าท่านใดเคยนั่งรถไฟยุโรป ก็จะรู้ว่า 2 ชั่วโมงไม่ได้นานอย่างที่คิด เพราะความเร็วและความสะดวกสบายของรถไฟ นั่งๆนอนๆอ่านๆ สักพักก็ถึงแล้ว ผมเดินทางโดย DB Bahn (ICE) โดยขึ้นจากสถานี Amsterdam Central แวะเปลี่ยนรถไฟที่เมือง Oberhausen จากนั้นก็เข้าสู่เกลเซ่นฯ (ค่าโดยสารไป-กลับ 53 ยูโร : 2,000 บ.) แต่ถ้าหากใครจะไปเที่ยวเมืองอื่นต่อก็ตามสะดวกครับ
ภาพจากหน้าสถานี Amsterdam Central
ถึงสักที Gelsenkirchen Hbf
2. ที่พักและการใช้ชีวิต : ผมใช้บริการของ AirBnB เข้าพักในบ้านหลังหนึ่ง เดินห่างจากสนามประมาณ 15 นาที (แต่คนไทยเดินประมาณ 25 นาที ด้วยเพราะช่วงก้าวขาที่สั้นเเละความถี่ในการซอยเท้า) เข้าไปในเขตสงบเงียบห่างจากถนนใหญ่ เจ้าของบ้านชื่อ Mr.Gunter เป็นคุณครูหนุ่มใหญ่วัยดึก อาศัยคนเดียวในบ้าน แกบอกว่าไม่รู้ว่าห้องที่เหลือทำอะไรดี เลยปล่อยห้องให้ AirBnB รับนักท่องเที่ยว ความประเสริฐอย่างหนึ่งของ AirBnB คือ ราคาไม่ได้แพงมาก สะดวกสบาย และเป็นส่วนตัว ตอนเที่ยวอัมสเตอร์ดัม ผมนอนโฮสเทล ต้องบอกว่านรกแตกมากๆ เพราะ พบว่ามีคนแอบมาค้นกระเป๋า, เสียงกรน100เดซิเบลจากเพื่อนร่วมห้อง เเถมยังมานั่งยำกัญชาในห้องอีกต่างหาก ดังนั้น คืนที่เกลเซ่นฯ จึงเป็นคืนที่สะดวกสบายอย่างที่สุด น้ำอุ่น ไวไฟ ผลไม้รับรอง และตัวเจ้าของบ้านก็มีไมตรีจิตและจัดเตรียมห้องรับผมเป็นอย่างดี แถมไม่กำหนดเวลา Check Out ที่ตายตัว แค่บอกว่าไอต้องออกไปทำงานตอน 7 โมงเช้า ยูตื่นกี่โมง ออกกี่โมง ก็แล้วยูเลย แล้วก็หย่อนกุญแจไว้ในตู้ไปรษณีย์ล่ะกัน ที่พักผมให้ 10 คะแนนเต็ม (ราคาที่พัก 26 ปอนด์ : 1,300 บ.)
แต่เนื่องจากผมไปวันอาทิตย์ ร้านค้าต่างๆ ปิดเงียบกันหมด คนก็ไม่ค่อยออกไปไหนมาไหน ยกเว้นช่วงเย็นที่เริ่มครึกครื้นเพราะออกมาดูบอลกัน เลยไม่ได้เห็นสภาพความเป็นไปเท่าไหร่ หลังจากดูบอลเสร็จ หาอะไรกินแถวที่พักไม่ได้เลย (Gunter เสนอตัวว่าจะทำอาหารให้กิน แต่ผมเกรงใจ) เลยออกไปเดินดุ่มๆ จนกระทั่งไปเจอร้านอาหารอิตาเลียน เลยเข้าไปจัดสปาเก็ตตี้ 1 จาน บริกรสาวด๊อยช์ก็เข้ามาทักทาย คุยกันไปคุยกันมา เขาก็แปลกใจพอสมควรว่าทำไมยูถ่อร่างมาเพื่อดูชาลเก้อย่างเดียวเนี่ยอ่ะนะ ?? แล้วก็เรียกบริกร พ่อครัว มาที่โต๊ะ เพื่อสัมภาษณ์เหตุผลว่าทำไมถึงชอบ? ก็เลยตอบไปว่า นักฟุตบอลจากบุนเดสลีก้าคนแรกที่ไอจำชื่อได้ คือ “โอลาฟ โธน (Olaf Thon)” ก็เลยติดตามมาตั้งแต่นั้น ทางนั้นก็ตอบกลับมาว่า “ยูมากินร้านไอ ยูมาถูกทางแล้วแหละ เพราะโธนมักจะมาทานอาหารอิตาเลียนที่นี่บ่อยๆ ส่วนโต๊ะที่ยูนั่ง โธนก็เคยนั่งมาก่อนเช่นกัน...” (ราคาอาหาร 20 ยูโร : 800 บ.)
ปล. ปกติผมก็หาซื้อฟาสฟู้ด เคบับ เบอร์เกอร์ เต็มที่ไม่เกิน 5 ยูโร แต่วันอาทิตย์ตอนดึกหากินไม่ได้เลย จำใจทานของแพงโดยไม่มีทางเลือก
สภาพบ้านของ คุณ Gunter เเกขับรถไปรับผมถึงสถานีรถไฟ ประทับใจยิ่ง
ทุกอย่างคุณ Gunter จัดเตรียมไว้เเล้ว
เห็นสภาพห้องนอนเเล้ว ช่างต่างจากการนอนโฮสเทลลิบลับ เเถมราคายังเท่ากันอีกด้วย
3. การซื้อตั๋วและที่นั่ง : สามารถซื้อผ่านเวปไซต์ของสโมสรได้เลย หากตั๋วเต็ม ตั๋วหมด ก็จะมีตั๋วมือสองที่ขายโดยสมาชิกที่ผ่านการรับรองจากสโมสร หรือหาจากเว็บขายตั๋วอื่นๆก็ได้ครับ ส่วนวิธีของผม คือ รบกวนให้ทางคุณ Gunter ช่วยซื้อให้ก่อน แล้วเราก็จ่ายคืนทีหลังตอนเข้าพัก แกบอกว่านักท่องเที่ยวมาเมืองนี้จุดประสงค์ คือ มาดูชาลเก้เป็นหลัก เช่น คนญี่ปุ่นตามมาดู อัตสึโตะ อูจิดะ สุดท้ายแกก็จัดการเรื่องตั๋วให้ทั้งหมด แถมเลือกที่นั่งให้หน้าสุดเลย ถึงขนาดว่ามาดูไฮไลท์ย้อนหลังยังเห็นตัวเองในจอเลย แมตช์ที่ผมเข้าชม คือ Schalke VS Stuttgart ส่วนที่นั่งของผมอยู่ฝั่งด้านทิศใต้ (SudKurve) ใกล้ๆกับฝั่งกอชเชียร์ทีมเยือน แต่ถ้ามีโอกาสครั้งหน้าจะไปเยือนฝั่งทิศเหนือ (Nordkurve) ซึ่งเป็นพื้นที่ตั๋วยืน เเต่แพงกว่าตั๋วนั่งเเละเชียร์กันสนุกมากๆ (ราคาตั๋วเข้าชมประมาณ 45ยูโร: 1,800 บ.)