. . . .ข อ เ ก ริ่ น สั ก นิ ด. . . .
Review นี้ผมตัดมาแค่บางช่วงบางตอนของทริปตะลุยโตเกียว (8 วัน 7 คืน) นะครับ ซึ่งเป็น 2 วัน 1 คืน ที่ได้ไปเที่ยวเมือง Kawaguchiko โดยจองที่พักเรียวกัง Shuhoukaku Kogetsu ที่ต้องตัดเป็นตอนๆเพราะทำทั้งหมดไม่ไหว รูปเยอะมว๊ากกกกกกก แต่จะพยายามทยอยๆทำเรื่อยๆน้า.... ยังไงฝากติดตามด้วยนะครับ ^^
ผมขอแบ่งทริป "Lake Kawaguchiko - - MT. Fuji - - Shuhoukaku Kogetsu" เป็น 2 ตอนนะครับ
(ตอนที่..1) (ตอนที่..2)
ตอนที่..1
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
พูดถึงเมืองเที่ยวรอบๆโตเกียวแล้ว หลายๆคนคงนึกถึง Kawaguchiko เพราะไปง่ายและไม่ไกลนักจากโตเกียว แถมได้เห็นวิวสวยๆจากฟูจิซังแบบเต็มๆ ผมเดินทางไปช่วงกลางเดือนธันวา ซึ่งตอนนั้นอากาศแปรปรวนมาก เดี๋ยวบางวันก็ร้อน(เสื้อตัวเดียวหนาหน่อย+กางเกงยีนส์ขายาวเอาอยู่) หรือเดี๋ยวบางวันก็หนาวมากสุดๆ ยิ่งวันที่มีลมแรงๆนะ บรื๋ยยยย ยังไงก็เช็คพยากรณ์ล่วงหน้าก็ดีนะครับ(ของญี่ปุ่นเค้าเชื่อถือได้เลยแหละ) จะได้รับมือถูก เที่ยวอย่างสนุก.. มาเข้าเรื่องกันดีกว่าา
วั น แ ร ก : มุ่ ง ห น้ า สู่ K a w a g u c h i k o ! !
เช้าวันนี้ อากาศดี๊ดี เย็นสบาย ฟ้าใส.. ผมนั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานี Shinjuku เพื่อจะมาขึ้นรถบัสไป Kawaguchiko กันครับ เช้าๆแบบนี้ก็จะเห็นคนญี่ปุ่นเดินจั้มเอาจั้มเอา สงสัยรีบไปทำงานกัน สังเกตจะเห็นคนญี่ปุ่นใส่แต่ชุดสีดำ(เพราะอะไรใครทราบบ้าง ทำไมเค้าชอบใส่สีดำกัน?) ส่วนใบไม้สีเหลืองก็ยังพอมีให้เห็นบ้าง
จากสถานีออกทาง West exit เดินมาเรื่อยๆ ก็จะเจอกับตึก Yodobashi ใหญ่ๆเลยครับ แสดงว่ามาถูกทางแล้ว เพราะตำแหน่งที่ขึ้นรถบัสก็อยู่ตรงข้ามตึกนี้แหละครับ เป็นรถบัสของบริษัท Keio
เห็นมะตึกอยู่ตรงข้ามกันเลย หาไม่ยาก
เข้ามาด้านในตึกก็จะเป็นเค้าเตอร์ซื้อตั๋ว จะมาซื้อที่นี่ก็ได้ หรือจะจองตั๋วออนไลน์มาก่อนแล้วค่อยมาจ่ายเงินที่นี่ก็ได้ ผมจองออนไลน์มาแล้วจากเว็ปนี้
http://highway-buses.jp/ ก็แค่ปริ้นท์ใบที่เราจองมาแล้วมายื่นหน้าเค้าเตอร์ จ่ายเงิน แล้วเค้าก็จะให้ตั๋วจริงมาครับ
ได้ตั๋วแล้วก็รอเวลารถออกตามที่เราจองมาครับ ในตึกมีจัดที่นั่งชั้นใต้ดิน ไว้สำหรับนั่งรอนะครับ ถ้าใครไม่อยากออกไปเผชิญความหนาวด้านนอก แต่ผมไม่.. ออกไปเดินถ่ายรุปเล่นดีกว่า
คุณพี่จราจรที่คอยโบกรถให้เรา ถ้ามองเลยคุณพี่ละเดินตรงไปจะมี Mc Donald, ร้านราเมง เปิดอยู่ ถ้าหิวก็แวะกินที่นี่ได้นะครับ
เดินไป เดินมา เข้าเซเว่น เลยไปเจอไอศครีมที่เห็นหลายๆคนรีวิวว่าอร่อย ก็เลยลองจัดดูบ้าง รสชาดหวานๆเค็มๆเหมือนกินชีสเค้ก ก็อร่อยดีนะ (หนาวก็หนาว ยังจะกินไอติม -*-)
เดินเล่นได้สักพักก็ถึงเวลา รถมาแล้วววว! ตรงเวลาเป้ะๆ ตอนนั้นของผมที่จองไว้รอบ 09:10 เราก็มายืนรอที่ป้ายซักประมาณ 9 โมง เพื่อเค้าจะได้โหลดกระเป๋าเราใส่ใต้ท้องรถนะครับ
ออกเดินทางโลดดดด ใช้เวลาจาก Shinjuku ไปยัง Kawaguchiko station ประมาณ 2 ชั่วโมง ลงที่สถานีปลายทางเลย เพราะฉะนั้นหลับได้ ไม่ต้องกลัวหลงครับ ส่วนใครที่อยากแวะสวนสนุก Fuji Q Highland ก็ลงก่อน Kawaguchiko 1 สถานีครับ รถจะแวะเข้าไปจอดหน้าทางเข้าสวนสนุกเลย
พอขึ้นรถมาสักพัก ก็ตั้งใจอยากดูวิวข้างทางอะนะ แต่ไม่ไหวตื่นเช้าขอหลับสักงีบละกัน ZzzzZz..z..Z..zz....z
หลับได้งีบใหญ่ๆ ตื่นมาก็ เอ้ะ!! ถึงสวนสนุก Fuji Q แล้วววว เร็วเว่อร์
สักพักเราก็จะเริ่มมองเห็น ภูเขาไฟฟูจิ แล้วครับ แต่วันนี้น่าเสียดาย มีหมู่มวลเมฆลอยระร่อง คอยปกปิดความสวยงามของนางอยู่
จวนถึงแล้ว Kawaguchiko station
ในที่สุดก็มาถึง Kawagichiko Station ตอนนั้น 11:10 ใช้เวลาเดินทาง 2 ชม. พอดิบพอดีเลย ด้านในสถานีก็จะเป็นสถานีรถไฟด้วย มีทั้งร้านอาหาร ห้องน้ำ และที่จำหน่ายตั๋ว Sight seeing bus หรือเรียกว่า Retro bus สำหรับนั่งชมเมืองของที่นี่ครับ
ตั๋วท่องเที่ยวจะมีแบบเดียว คือ 2 day pass สำหรับผู้ใหญ่ 1200Y และเด็ก 600Y
ซึ่งไปได้ทั้ง 2 เส้นทางนะครับ คือ Lake Saiko กับ Lake Kawaguchiko
รายละเอียด Retro bus เส้นทางการเดินทาง รอบเวลา ยังไงลองไปศึกษาดูเพิ่มเติมได้ที่เว็ปนี้นะครับ >>> http://bus-en.fujikyu.co.jp/heritage-tour/detail/id/1/
พอได้บัตร Retro bus เสร็จแล้วปุ๊ป ผมก็นึกขึ้นได้ "เห้ยจำได้ว่าตอนนั่งรถมา ฟูจิซังเขินอายนี่หว่า" เนื่องด้วยวันนั้นสภาพอากาศไม่ค่อยอำนวย ฟ้าไม่เปิดครับ ซึ่งผมคิดไปคิดมาแล้วว่า ถ้าเรานั่งกระเช้าขึ้นไปดูวิว ก็คงไม่สวยแน่ๆ ละงั้นเวลาเหลือตั้งเยอะ (ตอนนั้นประมาณ 11:30) ทำไรดีละ.. ก็เลยปิ๊งไอเดีย ณ เดี๋ยวนั้นเลย เอาว่ะ! ไปเล่น Fuji Q ก็ได้ เพราะเห็นตอนมาดูท่าทางคนไม่เยอะ เล่นเฉพาะอันเด็ดๆ ก็คงใช้เวลาไม่นาน..
ไปลุยสวนสนุกฟูจิคิวกันเล้ยยย >>>
"4 เครื่องเล่นสุดฮิต..ที่ต้องพิชิตสักครั้งในชีวิต ณ Fuji-Q Highland"
กลับมาจาก Fuji-Q ก็มาขึ้น Retro bus ที่สถานี Kawaguchiko เหมือนเดิมครับ ในรูปเป็นสายสีเขียวไป Lake Saiko นะครับ ส่วนที่เราจะไปคือสายสีแดงลืมถ่ายมาครับ 55+ เพราะตอนนั้นจำได้ว่าปวดหัวทรมานมาก จากเครื่องเล่นไม่มีอารมณ์อยากถ่ายใดๆทั้งสิ้น
ไป Check In - Shuhoukaku Kogetsu กันดีกว่าครับ จาก Kawaguchiko Station ก็ขึ้น Red line มาลงที่สถานีเบอร์ 19 เรียวกังของเราก็จะตั้งอยู่ตรงป้ายนี้เลย
เดินมาประมาณ 3 ก้าว อ้าวเจอแล้วววว เรียวกัง Shuhoukaku Kogetsu
เป็นคนไทยก็ต้องถ่ายป้ายสิครับ รอไร!
เข้าไปด้านใน ก็จะมีพนักงานมาต้อนรับอย่างดีครับ ดีจนผมก็เกรงใจเขา ไม่กล้าหยุดถ่ายรูปบรรยากาศภายในเรียวกัง ได้แต่เดินตามพนักงานมาเรื่อยๆ จนถึงห้อง พอเปิดประตูไปปุ๊ป วิวที่อยู่ตรงหน้า กับความรู้สึกแรก "โหหหหหหหหหห" มันช่างยิ่งใหญ่ไรเช่นนี้ท่านฟูจิซัง
พอตั้งสติได้ ก็เลยรีบถ่ายรูปห้อง มาให้ดูกันครับ (ก่อนห้องจะรกไปมากกว่านี้) ตอนแรกก็งงๆ ไหนอะ นอนไหน ไหนที่นอน ไม่เห็นฟูกสักผืน ก็เลยถามพนักงาน เค้าก็ตอบแบบภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ แต่ก็พยายามพูดสุดๆ จนเข้าใจว่า อ่ออออ เดี๋ยวเค้าจะมีเสริฟอาหารเย็นก่อน พอทานไรเสร็จเค้าถึงจะมีที่นอนมาปูให้ครับ
สักพัก พนักงานก็จะออกไปและกลับเข้ามาพร้อมกับ ชุดน้ำชา ผมเรียกว่ามันเป็น Welcome drink ของที่นี่ละกันนะ ในเซ็ทก็จะมี น้ำชาเขียวอร่อยหอมๆ, โมจิชาเขียวใส่ถั่วแดงให้ 2 ชิ้น ผมไม่ชอบอะ มันเละๆเหนียวๆ อึ๋ยย และก็อีกอันไม่รู้อะไร แต่เหมือนจะเป็นมะเขือดองรึเปล่า ไม่แน่ใจ ไม่ได้ลองทาน
จิบชาไป ดูวิวฟูจิไปเพลินๆ ทำให้อาการมึนหัวจะอ้วก (ไม่สิ อ้วกไปแล้วทีนึง ตอนอยู่สวนสนุก) ก็ค่อยๆดีขึ้น ดูจากผมผมแล้ว รู้เลยผ่านอะไรมาบ้าง หยิกฟูไม่เป็นทรงเลยย 55+ ละถ้ามองออกไปหน้าต่าง จะเห็นท้องฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว ทั้งๆที่ตอนนั้นผมจำได้ว่าเพิ่งจะ 4 โมงกว่าๆเองอ่ะ (นี่อะ ข้อเสียของหน้าหนาว มืดไวมากกกก ทำให้เวลาเที่ยวของผมน้อยลง ฮืออ)
จาก Welcome drink จบไป Starter ก็เข้ามาแทนที่ครับ พอเห็นอาหารชุดแรก ก็ถึงกับงงครับ เฮ้ย!อะไรเยอะแยะ วะเนี่ย จะกินไรก่อน ทำไรก่อนดีละเนี่ย ชาบูก็มี ซุปกาก็มี แถมมีลูกพลับบนใบไม้แห้งด้วย แต่ขอบอกว่าไม่ต้องกลัวครับ พนักงานจะแนะนำเราเป็นอย่างดี ว่าควรทานอะไรก่อน อะไรหลัง เราก็ทำตาม step ไปครับ
ชาบูที่นี่ ผมว่าอร่อยดีนะ โดยเฉพาะน้ำจิ้มมัน แต่เสียดายให้หมูน้อยไปหน่อย
ลูกพลับ อันนี้ก็อร่อยใช้ได้เลยนะ กรอบๆ หวาน หอม แถมการจัดจานนี่ ดูดี๊ดูดี
แล้วก็จะมี สาเก ให้คนละถ้วยครับ ไว้ทานคู่กับ strater ของเรา
ยังไม่ทันกิน starter หมด (สงสัยมัวแต่ถ่ายรูป) ก็มีกำลังเสริมมาครับ ทะแด้นนนน!
เวลาในการทานเหมือนทางเรียวกัง จะกะเวลามาแล้ว เพราะพอไฟชาบูมอดลง ไฟที่ต้มซุปกาดับ พนักงานก็จะเข้ามาถามประมาณว่าพร้อมสำหรับอาหารชุดต่อไปหรือยัง ห๊ะ!! มีอีก ใช่ครับที่ผ่านมามันก็แค่ออเดิร์ฟ.. มาแล้ว main course ของเรา มีข้าว ซุป ละก็กับข้าวอีก 2 อย่าง
อันนี้เป็น หมูสามชั้น แซลม่อนดิบ วางบนแอปเปิ้ลที่น่าจะนึ่งมา เอ่อะ.. ละกินกับข้าวเนี่ยนะ
อีกอันนึงเป็น แซลม่อนที่ทำสุกแล้ว วางบนซอสครีมขาว
ตบท้ายด้วยของหวาน คล้าย panna cotta
[CR] Lake Kawaguchiko - - MT. Fuji - - Shuhoukaku Kogetsu (ตอนที่..1)
Review นี้ผมตัดมาแค่บางช่วงบางตอนของทริปตะลุยโตเกียว (8 วัน 7 คืน) นะครับ ซึ่งเป็น 2 วัน 1 คืน ที่ได้ไปเที่ยวเมือง Kawaguchiko โดยจองที่พักเรียวกัง Shuhoukaku Kogetsu ที่ต้องตัดเป็นตอนๆเพราะทำทั้งหมดไม่ไหว รูปเยอะมว๊ากกกกกกก แต่จะพยายามทยอยๆทำเรื่อยๆน้า.... ยังไงฝากติดตามด้วยนะครับ ^^
(ตอนที่..1) (ตอนที่..2)
พูดถึงเมืองเที่ยวรอบๆโตเกียวแล้ว หลายๆคนคงนึกถึง Kawaguchiko เพราะไปง่ายและไม่ไกลนักจากโตเกียว แถมได้เห็นวิวสวยๆจากฟูจิซังแบบเต็มๆ ผมเดินทางไปช่วงกลางเดือนธันวา ซึ่งตอนนั้นอากาศแปรปรวนมาก เดี๋ยวบางวันก็ร้อน(เสื้อตัวเดียวหนาหน่อย+กางเกงยีนส์ขายาวเอาอยู่) หรือเดี๋ยวบางวันก็หนาวมากสุดๆ ยิ่งวันที่มีลมแรงๆนะ บรื๋ยยยย ยังไงก็เช็คพยากรณ์ล่วงหน้าก็ดีนะครับ(ของญี่ปุ่นเค้าเชื่อถือได้เลยแหละ) จะได้รับมือถูก เที่ยวอย่างสนุก.. มาเข้าเรื่องกันดีกว่าา
วั น แ ร ก : มุ่ ง ห น้ า สู่ K a w a g u c h i k o ! !
เช้าวันนี้ อากาศดี๊ดี เย็นสบาย ฟ้าใส.. ผมนั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานี Shinjuku เพื่อจะมาขึ้นรถบัสไป Kawaguchiko กันครับ เช้าๆแบบนี้ก็จะเห็นคนญี่ปุ่นเดินจั้มเอาจั้มเอา สงสัยรีบไปทำงานกัน สังเกตจะเห็นคนญี่ปุ่นใส่แต่ชุดสีดำ(เพราะอะไรใครทราบบ้าง ทำไมเค้าชอบใส่สีดำกัน?) ส่วนใบไม้สีเหลืองก็ยังพอมีให้เห็นบ้าง
จากสถานีออกทาง West exit เดินมาเรื่อยๆ ก็จะเจอกับตึก Yodobashi ใหญ่ๆเลยครับ แสดงว่ามาถูกทางแล้ว เพราะตำแหน่งที่ขึ้นรถบัสก็อยู่ตรงข้ามตึกนี้แหละครับ เป็นรถบัสของบริษัท Keio
เห็นมะตึกอยู่ตรงข้ามกันเลย หาไม่ยาก
เข้ามาด้านในตึกก็จะเป็นเค้าเตอร์ซื้อตั๋ว จะมาซื้อที่นี่ก็ได้ หรือจะจองตั๋วออนไลน์มาก่อนแล้วค่อยมาจ่ายเงินที่นี่ก็ได้ ผมจองออนไลน์มาแล้วจากเว็ปนี้ http://highway-buses.jp/ ก็แค่ปริ้นท์ใบที่เราจองมาแล้วมายื่นหน้าเค้าเตอร์ จ่ายเงิน แล้วเค้าก็จะให้ตั๋วจริงมาครับ
ได้ตั๋วแล้วก็รอเวลารถออกตามที่เราจองมาครับ ในตึกมีจัดที่นั่งชั้นใต้ดิน ไว้สำหรับนั่งรอนะครับ ถ้าใครไม่อยากออกไปเผชิญความหนาวด้านนอก แต่ผมไม่.. ออกไปเดินถ่ายรุปเล่นดีกว่า
คุณพี่จราจรที่คอยโบกรถให้เรา ถ้ามองเลยคุณพี่ละเดินตรงไปจะมี Mc Donald, ร้านราเมง เปิดอยู่ ถ้าหิวก็แวะกินที่นี่ได้นะครับ
เดินไป เดินมา เข้าเซเว่น เลยไปเจอไอศครีมที่เห็นหลายๆคนรีวิวว่าอร่อย ก็เลยลองจัดดูบ้าง รสชาดหวานๆเค็มๆเหมือนกินชีสเค้ก ก็อร่อยดีนะ (หนาวก็หนาว ยังจะกินไอติม -*-)
เดินเล่นได้สักพักก็ถึงเวลา รถมาแล้วววว! ตรงเวลาเป้ะๆ ตอนนั้นของผมที่จองไว้รอบ 09:10 เราก็มายืนรอที่ป้ายซักประมาณ 9 โมง เพื่อเค้าจะได้โหลดกระเป๋าเราใส่ใต้ท้องรถนะครับ
ออกเดินทางโลดดดด ใช้เวลาจาก Shinjuku ไปยัง Kawaguchiko station ประมาณ 2 ชั่วโมง ลงที่สถานีปลายทางเลย เพราะฉะนั้นหลับได้ ไม่ต้องกลัวหลงครับ ส่วนใครที่อยากแวะสวนสนุก Fuji Q Highland ก็ลงก่อน Kawaguchiko 1 สถานีครับ รถจะแวะเข้าไปจอดหน้าทางเข้าสวนสนุกเลย
พอขึ้นรถมาสักพัก ก็ตั้งใจอยากดูวิวข้างทางอะนะ แต่ไม่ไหวตื่นเช้าขอหลับสักงีบละกัน ZzzzZz..z..Z..zz....z
หลับได้งีบใหญ่ๆ ตื่นมาก็ เอ้ะ!! ถึงสวนสนุก Fuji Q แล้วววว เร็วเว่อร์
สักพักเราก็จะเริ่มมองเห็น ภูเขาไฟฟูจิ แล้วครับ แต่วันนี้น่าเสียดาย มีหมู่มวลเมฆลอยระร่อง คอยปกปิดความสวยงามของนางอยู่
จวนถึงแล้ว Kawaguchiko station
ในที่สุดก็มาถึง Kawagichiko Station ตอนนั้น 11:10 ใช้เวลาเดินทาง 2 ชม. พอดิบพอดีเลย ด้านในสถานีก็จะเป็นสถานีรถไฟด้วย มีทั้งร้านอาหาร ห้องน้ำ และที่จำหน่ายตั๋ว Sight seeing bus หรือเรียกว่า Retro bus สำหรับนั่งชมเมืองของที่นี่ครับ
ตั๋วท่องเที่ยวจะมีแบบเดียว คือ 2 day pass สำหรับผู้ใหญ่ 1200Y และเด็ก 600Y
ซึ่งไปได้ทั้ง 2 เส้นทางนะครับ คือ Lake Saiko กับ Lake Kawaguchiko
รายละเอียด Retro bus เส้นทางการเดินทาง รอบเวลา ยังไงลองไปศึกษาดูเพิ่มเติมได้ที่เว็ปนี้นะครับ >>> http://bus-en.fujikyu.co.jp/heritage-tour/detail/id/1/
พอได้บัตร Retro bus เสร็จแล้วปุ๊ป ผมก็นึกขึ้นได้ "เห้ยจำได้ว่าตอนนั่งรถมา ฟูจิซังเขินอายนี่หว่า" เนื่องด้วยวันนั้นสภาพอากาศไม่ค่อยอำนวย ฟ้าไม่เปิดครับ ซึ่งผมคิดไปคิดมาแล้วว่า ถ้าเรานั่งกระเช้าขึ้นไปดูวิว ก็คงไม่สวยแน่ๆ ละงั้นเวลาเหลือตั้งเยอะ (ตอนนั้นประมาณ 11:30) ทำไรดีละ.. ก็เลยปิ๊งไอเดีย ณ เดี๋ยวนั้นเลย เอาว่ะ! ไปเล่น Fuji Q ก็ได้ เพราะเห็นตอนมาดูท่าทางคนไม่เยอะ เล่นเฉพาะอันเด็ดๆ ก็คงใช้เวลาไม่นาน..
ไปลุยสวนสนุกฟูจิคิวกันเล้ยยย >>> "4 เครื่องเล่นสุดฮิต..ที่ต้องพิชิตสักครั้งในชีวิต ณ Fuji-Q Highland"
กลับมาจาก Fuji-Q ก็มาขึ้น Retro bus ที่สถานี Kawaguchiko เหมือนเดิมครับ ในรูปเป็นสายสีเขียวไป Lake Saiko นะครับ ส่วนที่เราจะไปคือสายสีแดงลืมถ่ายมาครับ 55+ เพราะตอนนั้นจำได้ว่าปวดหัวทรมานมาก จากเครื่องเล่นไม่มีอารมณ์อยากถ่ายใดๆทั้งสิ้น
ไป Check In - Shuhoukaku Kogetsu กันดีกว่าครับ จาก Kawaguchiko Station ก็ขึ้น Red line มาลงที่สถานีเบอร์ 19 เรียวกังของเราก็จะตั้งอยู่ตรงป้ายนี้เลย
เดินมาประมาณ 3 ก้าว อ้าวเจอแล้วววว เรียวกัง Shuhoukaku Kogetsu
เป็นคนไทยก็ต้องถ่ายป้ายสิครับ รอไร!
เข้าไปด้านใน ก็จะมีพนักงานมาต้อนรับอย่างดีครับ ดีจนผมก็เกรงใจเขา ไม่กล้าหยุดถ่ายรูปบรรยากาศภายในเรียวกัง ได้แต่เดินตามพนักงานมาเรื่อยๆ จนถึงห้อง พอเปิดประตูไปปุ๊ป วิวที่อยู่ตรงหน้า กับความรู้สึกแรก "โหหหหหหหหหห" มันช่างยิ่งใหญ่ไรเช่นนี้ท่านฟูจิซัง
พอตั้งสติได้ ก็เลยรีบถ่ายรูปห้อง มาให้ดูกันครับ (ก่อนห้องจะรกไปมากกว่านี้) ตอนแรกก็งงๆ ไหนอะ นอนไหน ไหนที่นอน ไม่เห็นฟูกสักผืน ก็เลยถามพนักงาน เค้าก็ตอบแบบภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ แต่ก็พยายามพูดสุดๆ จนเข้าใจว่า อ่ออออ เดี๋ยวเค้าจะมีเสริฟอาหารเย็นก่อน พอทานไรเสร็จเค้าถึงจะมีที่นอนมาปูให้ครับ
สักพัก พนักงานก็จะออกไปและกลับเข้ามาพร้อมกับ ชุดน้ำชา ผมเรียกว่ามันเป็น Welcome drink ของที่นี่ละกันนะ ในเซ็ทก็จะมี น้ำชาเขียวอร่อยหอมๆ, โมจิชาเขียวใส่ถั่วแดงให้ 2 ชิ้น ผมไม่ชอบอะ มันเละๆเหนียวๆ อึ๋ยย และก็อีกอันไม่รู้อะไร แต่เหมือนจะเป็นมะเขือดองรึเปล่า ไม่แน่ใจ ไม่ได้ลองทาน
จิบชาไป ดูวิวฟูจิไปเพลินๆ ทำให้อาการมึนหัวจะอ้วก (ไม่สิ อ้วกไปแล้วทีนึง ตอนอยู่สวนสนุก) ก็ค่อยๆดีขึ้น ดูจากผมผมแล้ว รู้เลยผ่านอะไรมาบ้าง หยิกฟูไม่เป็นทรงเลยย 55+ ละถ้ามองออกไปหน้าต่าง จะเห็นท้องฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว ทั้งๆที่ตอนนั้นผมจำได้ว่าเพิ่งจะ 4 โมงกว่าๆเองอ่ะ (นี่อะ ข้อเสียของหน้าหนาว มืดไวมากกกก ทำให้เวลาเที่ยวของผมน้อยลง ฮืออ)
จาก Welcome drink จบไป Starter ก็เข้ามาแทนที่ครับ พอเห็นอาหารชุดแรก ก็ถึงกับงงครับ เฮ้ย!อะไรเยอะแยะ วะเนี่ย จะกินไรก่อน ทำไรก่อนดีละเนี่ย ชาบูก็มี ซุปกาก็มี แถมมีลูกพลับบนใบไม้แห้งด้วย แต่ขอบอกว่าไม่ต้องกลัวครับ พนักงานจะแนะนำเราเป็นอย่างดี ว่าควรทานอะไรก่อน อะไรหลัง เราก็ทำตาม step ไปครับ
ชาบูที่นี่ ผมว่าอร่อยดีนะ โดยเฉพาะน้ำจิ้มมัน แต่เสียดายให้หมูน้อยไปหน่อย
ลูกพลับ อันนี้ก็อร่อยใช้ได้เลยนะ กรอบๆ หวาน หอม แถมการจัดจานนี่ ดูดี๊ดูดี
แล้วก็จะมี สาเก ให้คนละถ้วยครับ ไว้ทานคู่กับ strater ของเรา
ยังไม่ทันกิน starter หมด (สงสัยมัวแต่ถ่ายรูป) ก็มีกำลังเสริมมาครับ ทะแด้นนนน!
เวลาในการทานเหมือนทางเรียวกัง จะกะเวลามาแล้ว เพราะพอไฟชาบูมอดลง ไฟที่ต้มซุปกาดับ พนักงานก็จะเข้ามาถามประมาณว่าพร้อมสำหรับอาหารชุดต่อไปหรือยัง ห๊ะ!! มีอีก ใช่ครับที่ผ่านมามันก็แค่ออเดิร์ฟ.. มาแล้ว main course ของเรา มีข้าว ซุป ละก็กับข้าวอีก 2 อย่าง
อันนี้เป็น หมูสามชั้น แซลม่อนดิบ วางบนแอปเปิ้ลที่น่าจะนึ่งมา เอ่อะ.. ละกินกับข้าวเนี่ยนะ
อีกอันนึงเป็น แซลม่อนที่ทำสุกแล้ว วางบนซอสครีมขาว
ตบท้ายด้วยของหวาน คล้าย panna cotta
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น