เป็นที่ฮือฮาขึ้นมาทันทีหลังจากที่วานนี้ (10 มีนาคม) มีประกาศผลสอบการคัดเลือกแพทย์ของกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) แล้วมีคนบันเทิงได้รับการคัดเลือกถึง 2 คน หนึ่งคือ ฟรัง-นรีกุล เกตุประภากร จากซีรี่ส์ดัง “ฮอร์โมน 3 เดอะ ไฟนอล ซีซั่น” ที่สอบติดคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่วนอีกหนึ่ง คือ มิณทร์ ยงสุวิมล นักร้องหนุ่มจากค่ายกามิกาเซ่ที่สอบติดคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
โดยรายหลังนั้นทำเอาหลายคนประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะมิณทร์เพิ่งจะเรียนอยู่ชั้น ม.5 ที่ ICS (International Community School ) ซึ่งหนุ่มวัย 16 ย่าง 17 ปีก็ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “ดีใจมากครับ เป็นนาทีที่มีค่ากับผมมากทันทีที่รู้ว่าคะแนนผ่านแล้ว ที่ผ่านมาผมเรียนหนัก อ่านหนังสือเยอะมาก ทำแบบฝึกหัดเก็งข้อสอบ ฝึกทำเวิร์กชีตที่อาจารย์ให้มาทุกวัน พร้อมกับเรียนพิเศษ ซึ่งเวลาทั้งหมดผมทุ่มให้สิ่งนี้หมด พอผลออกมาแบบนี้ หายเหนื่อยเลยครับ”
“ผมมีความฝันอยากเป็นหมอมานานแล้ว ด้วยความที่ตอนเด็กๆ เห็นคุณตา คุณยายเข้าโรงพยาบาลบ่อยมาก เลยคิดว่าถ้าโตขึ้นเราเลยอยากมีความรู้และสามารถดูแลคนในครอบครัวที่เรารักได้ และที่สำคัญเวลาที่ผมไปหาหมอ ภาพที่ผมเห็นเวลาที่คนไข้ขอบคุณคุณหมอ มันเป็นความรู้สึกจากใจจริงๆ ของคนไข้ เป็นสายตาที่ผมอยากได้แบบนั้นบ้าง การได้ช่วยชีวิตคน การได้รักษาคน มันช่วยให้จิตใจผมรู้สึกได้ถึงความเป็นเพื่อนมนุษย์มากขึ้น การต่อลมหายใจ ต่อชีวิตคน มันมีความหมายครับ” มิณทร์กล่าว
พร้อมกับบอกด้วยว่า หลังจากนี้จะต้องเตรียมตัวเข้าสัมภาษณ์ในวันที่ 14-17 มีนาคม รวมถึงทดสอบด้านจิตวิทยาและตรวจร่างกายเป็นลำดับต่อไป
ที่มา
msn.com
เล็กพริกขี้หนู! ‘มิณทร์ กามิฯ’ เผยแรงบันดาลใจสอบติดแพทย์ กสพท. ในวัย 16ปี
โดยรายหลังนั้นทำเอาหลายคนประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะมิณทร์เพิ่งจะเรียนอยู่ชั้น ม.5 ที่ ICS (International Community School ) ซึ่งหนุ่มวัย 16 ย่าง 17 ปีก็ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “ดีใจมากครับ เป็นนาทีที่มีค่ากับผมมากทันทีที่รู้ว่าคะแนนผ่านแล้ว ที่ผ่านมาผมเรียนหนัก อ่านหนังสือเยอะมาก ทำแบบฝึกหัดเก็งข้อสอบ ฝึกทำเวิร์กชีตที่อาจารย์ให้มาทุกวัน พร้อมกับเรียนพิเศษ ซึ่งเวลาทั้งหมดผมทุ่มให้สิ่งนี้หมด พอผลออกมาแบบนี้ หายเหนื่อยเลยครับ”
“ผมมีความฝันอยากเป็นหมอมานานแล้ว ด้วยความที่ตอนเด็กๆ เห็นคุณตา คุณยายเข้าโรงพยาบาลบ่อยมาก เลยคิดว่าถ้าโตขึ้นเราเลยอยากมีความรู้และสามารถดูแลคนในครอบครัวที่เรารักได้ และที่สำคัญเวลาที่ผมไปหาหมอ ภาพที่ผมเห็นเวลาที่คนไข้ขอบคุณคุณหมอ มันเป็นความรู้สึกจากใจจริงๆ ของคนไข้ เป็นสายตาที่ผมอยากได้แบบนั้นบ้าง การได้ช่วยชีวิตคน การได้รักษาคน มันช่วยให้จิตใจผมรู้สึกได้ถึงความเป็นเพื่อนมนุษย์มากขึ้น การต่อลมหายใจ ต่อชีวิตคน มันมีความหมายครับ” มิณทร์กล่าว
พร้อมกับบอกด้วยว่า หลังจากนี้จะต้องเตรียมตัวเข้าสัมภาษณ์ในวันที่ 14-17 มีนาคม รวมถึงทดสอบด้านจิตวิทยาและตรวจร่างกายเป็นลำดับต่อไป
ที่มา msn.com