คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ก็ยังไม่ชัดนะว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
คู่กรณีไดัรับบาดเจ็บแขนหัก ก็หนักเอาการ
ถ้าตำรวจเห็นว่าเราผิดฐานประมาททำให้เขาได้รับบาดเจ็บ ตำรวจก็น่าจะตั้งข้อหาในฐานความผิดนี้ และเปรียบเทียบปรับเราด้วย
แต่นี้ผ่านไปตั้ง3เดือนก็ยังไม่มีอะไร ไม่บันทึกประจำวันด้วย ก็แปลกอยู่
อย่างไรก็ตอบตามเท่าที่ว่ามา (แต่ถ้าตำรวจทำควาเห็นในบันทึกประจำวันไว้เป็นอย่างอื่น ก้ต้องพิจารณาใหม่นะ)
ก็คือ ตำรวจคงเห็นว่าเราไม่ได้ประมาท แต่เป็นความประมาทของคู่กรณีเอง เขาจึงไม่ตั้งข้อหาฝ่ายนั้น
เราเองก็เสียทรัพย์เนื่องจา่กการประมาทของคู่กรณี แต่ความผิดฐานประมาททำให้เสียทรัพย์นั้น ไม่มี ตำรวจจึงไม่ตั้งข้อหา
ส่วนความผิดตามพรบ.จราจรทางบกที่มีโทษปรับนั้น ตำรวจจะใช้ดุลพินิจไม่ปรับก็ได้ ซึ่งทำได้ตามอำนาจหน้าที่ตำรวจ
เมื่อเราไม่ได้เป็นฝ่ายประมาท เขาจะเรียกร้องอะไรจากเราไม่ได้เลย
ที่เราช่วยเหลือไปนั้น เป็นการช่วยเหลือตามมนุษยธรรม ในฐานะเพื่อมนุษย์ ก็เป็นจำนวนที่เพียงพอแล้ว
ยังจะมาเรียกร้องอีก ก็เกินไปอยู่
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าความผิดฐานประมาททำให้เสียทรัพย์ไม่มี แต่ก็ยังเป็นการละเมิดอยู่ดี
แปลว่า คู่กรณีประมาททำให้รถยนต์เราเสียหาย ซึ่งเป็นละเมิด เขาต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
นั่นคือ เราเสียอีกที่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายที่เกิดกับรถเรา
จะทำอย่างไร....
1.จ่ายตามเขาเรียกร้อง ก็จบเรื่อง หรือ
2.ไม่ต้องทำอะไร เพียงอธิบายให้เขารับทราบและไม่ต้องจ่าย อยากได้ให้ฟ้องเอา ภาพถ่ายความเสียหายก็มี ตำรวจก็ไม่บันทึกประจำวัน จึงไม่มีหลักฐานที่ว่าเราประมาท หรือ
3.เราเรียกค่าเสียหายค่าซ่อมรถ ค่าขาดประโยชน์ ฯลฯ ถ้าไม่จ่าย ก็ฟ้องเอา ใช้หลักฐานจากภาพถ่ายตำรวจนั่นละ และเอาตำรวจไปเบิกความด้วย
วัดใจกันไปเลย
คู่กรณีไดัรับบาดเจ็บแขนหัก ก็หนักเอาการ
ถ้าตำรวจเห็นว่าเราผิดฐานประมาททำให้เขาได้รับบาดเจ็บ ตำรวจก็น่าจะตั้งข้อหาในฐานความผิดนี้ และเปรียบเทียบปรับเราด้วย
แต่นี้ผ่านไปตั้ง3เดือนก็ยังไม่มีอะไร ไม่บันทึกประจำวันด้วย ก็แปลกอยู่
อย่างไรก็ตอบตามเท่าที่ว่ามา (แต่ถ้าตำรวจทำควาเห็นในบันทึกประจำวันไว้เป็นอย่างอื่น ก้ต้องพิจารณาใหม่นะ)
ก็คือ ตำรวจคงเห็นว่าเราไม่ได้ประมาท แต่เป็นความประมาทของคู่กรณีเอง เขาจึงไม่ตั้งข้อหาฝ่ายนั้น
เราเองก็เสียทรัพย์เนื่องจา่กการประมาทของคู่กรณี แต่ความผิดฐานประมาททำให้เสียทรัพย์นั้น ไม่มี ตำรวจจึงไม่ตั้งข้อหา
ส่วนความผิดตามพรบ.จราจรทางบกที่มีโทษปรับนั้น ตำรวจจะใช้ดุลพินิจไม่ปรับก็ได้ ซึ่งทำได้ตามอำนาจหน้าที่ตำรวจ
เมื่อเราไม่ได้เป็นฝ่ายประมาท เขาจะเรียกร้องอะไรจากเราไม่ได้เลย
ที่เราช่วยเหลือไปนั้น เป็นการช่วยเหลือตามมนุษยธรรม ในฐานะเพื่อมนุษย์ ก็เป็นจำนวนที่เพียงพอแล้ว
ยังจะมาเรียกร้องอีก ก็เกินไปอยู่
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าความผิดฐานประมาททำให้เสียทรัพย์ไม่มี แต่ก็ยังเป็นการละเมิดอยู่ดี
แปลว่า คู่กรณีประมาททำให้รถยนต์เราเสียหาย ซึ่งเป็นละเมิด เขาต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
นั่นคือ เราเสียอีกที่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายที่เกิดกับรถเรา
จะทำอย่างไร....
1.จ่ายตามเขาเรียกร้อง ก็จบเรื่อง หรือ
2.ไม่ต้องทำอะไร เพียงอธิบายให้เขารับทราบและไม่ต้องจ่าย อยากได้ให้ฟ้องเอา ภาพถ่ายความเสียหายก็มี ตำรวจก็ไม่บันทึกประจำวัน จึงไม่มีหลักฐานที่ว่าเราประมาท หรือ
3.เราเรียกค่าเสียหายค่าซ่อมรถ ค่าขาดประโยชน์ ฯลฯ ถ้าไม่จ่าย ก็ฟ้องเอา ใช้หลักฐานจากภาพถ่ายตำรวจนั่นละ และเอาตำรวจไปเบิกความด้วย
วัดใจกันไปเลย
แสดงความคิดเห็น
ขอสอบถามเหตุการณ์เรื่องอุบ้ติเหตุรถยนต์ รถเฉี่ยวกับมอเตอร์ไซต์มีบาดเจ็บเล็กน้อยครับ
เมื่อ 3 เดือนก่อน ผมได้มีอุบัติเหตุบนท้องถนนโดย รถยนต์ของผมและมอเตอร์ไซต์ได้เฉี่ยวกันโดยรถผมมีรอยเสียหายเล็กน้อย กระจกหน้าหาย ประตูบุบเล็กน้อย ส่วนมอเตอร์ไซต์อย่างที่รู้ครับ เค้าบางกว่าเรา เลยล้มกระเด็นเนื่องจากขับมาค่อนข้างเร็วครับ เพราะเป็นทางต่างจังหวัดที่รถสัญจรไม่ติดขัด ซึ่งพอเกิดเหตุ ทางผมก็ได้ติดตามทางคู่กรณีตลอดในวันนั้น คืออยู่ด้วยตลอด ติดตามไปโรงพยาบาลด้วย ซึ่งคู่กรณีมีบาดเจ็บที่เเขนเนื่องจากหัก ต้องผ่าตัดย่อยครับ
โดยผมก็ได้อยู่และจ่ายค่าพยาบาลทั้งหมดครับ ไม่ว่าจะเป็นค่าห้องพัก เเละค่าผ่าตัด (เนื่องจากทั้งผม และคู่กรณี รถขาด พรบ ทั้งคู่ครับ ยังไม่ได้ต่อ)
โดยผมได้จ่ายให้ก่อนโดยไม่ได้ถามถึงว่าใครผิดหรือถูก เพราะผมคิดว่าการรักษาพยาบาลสำคัญกว่า และเนื่องจากผมเข้าใจว่าคู่กรณีบาดเจ็บ แต่ผมไม่เป็นอะไรเนื่องจากอยู่ในรถ เลยค่อนข้างเห็นใจ เพราะเป็นอุบัติเหตุจริงๆที่ไม่มีใครอยากให้เกิด และผมพอมีเงินอยู่บ้างในตอนนั้น และช่วงที่คู่กรณีพักอยู่ที่โรงพยาบาลผมก็ได้ไปเยี่ยมอยู่ตลอด
หลังจากนั้นเรื่องเงียบหายไป 3 เดือนได้ อยู่ๆเค้าก็ติดต่อมาว่า ขอค่าชดเชยที่เค้าไม่สามารถไปทำงานได้ 3 เดือน และค่าซ่อมมอเตอไซต์ของเค้า และอาจมีค่าชดเชยอื่นๆอีก เช่นค่าเสียโอกาส อะไรทำนองนี้
ผมอยากรู้ว่าผมควรต้องทำอย่างไรครับ ขอบคุณสำหรับคำปรีกษาล่วงหน้าครับผม