"เสมือนท้องฟ้าวิปริตแปรปรวนทันใด ... Angkor"
   เปรี้ยงปร้างสว่างไสวอันตรายไปทุกที่ อังกอร์
เสียงเพลงนี้ ผมได้ยินมาตั้งแต่สมัยเด็ก แต่ไม่นึกเลยว่าจะได้ไปเยือน ณ ดินแดนมรดกโลกทางวัฒนธรรม แห่งนี้ เมืองเสียมเรียบ เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ต่างมาสัมผัสวัฒนธรรม สถาปัตยกรรมที่อลังการสมคำร่ำลือ

    การเขียนบล็อก/กระทู้นี้ขึ้นมา ความจริงไม่อยากจะเขียนเท่าไหร่ เพราะถือว่าก็มีคนอื่นเขียนไว้เยอะอย่างละเอียดแล้ว แต่เราได้รับแรงบันดาลใจจากเพื่อนร่วมงาน ที่เชียร์ให้ลองเขียนดูสิ จึงเกิดเป็นกระทู้นี้ขึ้นมา ทุกถ้อยคำที่เขียน มันมาจากใจจริงๆล่ะ

        
      ย้อนกลับไป เมื่อวันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมา ผมเอง ก็มองหาที่ท่องเที่ยวใหม่ๆอีกตามเคย หลังจากที่ได้ตะลุยเดี่ยวเที่ยวฮ่องกง มาแล้ว เมื่อวันที่ 20-23 มกราคม 2559 ที่ผ่านมา ยังไม่ทันจะหายเหนื่อยดี อยากจะบอกว่าทริปนั้นสนุกมากจริงๆ วันนั้น นั่งเปิดปฏิทินดู อ้อ มีวันหยุดยาวมาฆบูชา เสาร์-อาทิตย์-จันทร์ ตอนแรกนึกอยากจะไป KL (Kuala Lumpur : Malaysia) ความฝันคือ อยากจะเที่ยวเก็บประสบการณ์ แถบ AEC ให้ครบก่อน แต่ไหงเป็นงั้น ได้คุยกับพี่ที่รู้จักกันตอนไปออกทริปที่เวียดนาม เขาก็เชียร์ให้เราไปกัมพูชาดู ในที่สุดพี่ก็บิ๊วท์ผมสำเร็จจนได้นะครับ ทำให้จู่ๆ ผมก็คิดถึงเพื่อนร่วมทางทุกคน เลยนั่งตั้งสเตตัสขณะนั่งฟังเพลงอยู่บนรถเมล์สาย 69 ค่ำวันนั้นว่า
                "ไอดอลของการเดินทาง ก็คือ ตัวผมเองแหละครับ ระหว่างเดินทาง ผมชอบมองออกไปนอกหน้าต่าง และเพลงของพี่สุชาติก็แวบขึ้นมาในหัว มีความสุขดีนะ คิดถึงบรรยากาศเดินทางทุกครั้ง เพื่อนร่วมเดินทางทุกคน จนหลายคนบอกว่าเดินทางบ่อยจัง เพราะ การเดินทางคือการเรียนรู้ ครับ เรียนรู้ที่จะกางกระดาษแผนที่เอง แล้วยังเดินหลงทางเอง สนุกดี แต่ในที่สุดมันก็นำพาไปสู่จุดหมายได้ครับ
และผมก็ยังคิดที่จะเดินทางเรื่อยๆ ตามเวลา โอกาส และทรัพย์ที่หาได้ด้วยตัวผมเอง ขอให้ทุกคนที่รักการเดินทาง จงทำให้บรรลุเป้าหมายต่อไปครับ"

     ผมเคยตั้งแง่และกลัวการไปกัมพูชามาก ว่ามีข่าวคราวอะไร ความไม่ค่อยปลอดภัยอะไรประมาณนี้ แต่ก็ยังชั่งใจอยู่ระหว่าง KL กับเสียมเรียบ จนในที่สุด ก็ตัดสินใจได้อย่างทันท่วงที ศึกษาหาข้อมูลจากกระทู้ห้องบลูนี่ล่ะ google บ้าง ขอไปแบบสะดวกสบายที่สุด และประหยัดที่สุด จึงเลือกบริการของรถโดยสารระหว่างประเทศ (ต้นทางกรุงเทพฯ : หมอชิตใหม่ ปลายทาง เสียมราฐ : กัมพูชา) ด้วยราคา 750 บาท พอจะใกล้วันเดินทางพรุ่งนี้แล้ว ชะแว้บไปแลกเงินร้านสีส้มชั้นใต้ดินเซ็นทรัล ลาดพร้าว สักหน่อย ขอแลก 110 $ ได้เรท 100$ = 35.7  10 $ = 35.6 และปัจจุบัน วันที่เขียน เหลือ 100 $ = 35.42
10 $ = 35.32 เป็นบังเอิญจริงๆเลยว่า วันที่ไปเที่ยว ค่าเงินมักแพงตลอดเวลา
                อธิบายความมาก็เยอะแล้ว เราเริ่มต้นออกเดินทางกันเลยดีกว่า   

                                 20-22 February 2016  Siem Reap : Cambodia

  จองตั๋ว รถ บขส. ก่อนใครง่ายๆ แค่กด Call Center 1490 เนื่องจากเป็นวันหยุด กลัวรถจะเต็ม เพียงคุณโทรไปเจ้าหน้าที่รับสาย บอกความประสงค์จะไปยังปลายทางเสียมราฐ (เสียมเรียบ) บอกชื่อ-นามสกุล เบอร์โทร เลขที่ Passport และสามารถเลือกที่นั่งเองได้ และพนักงานจะบอก CODE รหัสในการชำระเงิน ไปจ่ายที่ COUNTER SERVICE ทุกสาขา ใน 7-11 ทั่วประเทศ รวมราคาที่ต้องจ่ายทั้งสิ้น
  แยกเป็น ค่ารถ เป็นแบบประเภท ม.1ข 1 ที่นั่ง ราคา 750 บาท ค่าดำเนินการจอง 18 บาท ค่าธรรมเนียม Counter Service 20 บาท รวม 788 บาท



ทั้งนี้ คุณสามารถนำใบเสร็จจาก Counter Service มาออกตั๋วที่ช่อง 22 ได้ ก่อนรถจะออก ภายใน 30 นาที

หมายเหตุ :  รอบรถล่าสุด ก.พ.2559 ในการไปยังเสียมเรียบนั้น มี 2 รอบ คือ รอบที่ 1 เวลา 08.30 น. รอบที่ 2 เวลา 09.00 น. รถออกที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 (จตุจักร) ชานชาลา 106



และการเดินทางของเรา ในวันนี้ เราออกเดินทางในเวลา 08.30 น. จากสถานีขนส่งหมอชิต 2 (จตุจักร) ได้ตรงเวลา เป็นรถไทย ประเภท ม.1ข จำนวน 38 ที่นั่ง  พนักงานขับรถพร้อมพาเราเดินทางไปยังจุดหมายปลายทาง และมีพนักงานบริการ ในชุด Uniform สีส้ม ดูแลอำนวยความสะดวกเราตลอดการเดินทาง รู้สึกว่าจะมีคนไทยอยู่ประมาณ 5-6 คน ในรอบนี้  นอกนั้นเป็นชาวต่างชาติซะทั้งหมด



จากกรุงเทพฯ (สถานีขนส่งหมอชิต2 จตุจักร) ใช้ทางด่วนพิเศษศรีรัช หรือทางด่วนขั้นที่ 2 ไปลงทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (กรุงเทพฯ-ชลบุรี) หรือ มอเตอร์เวย์ แล้วเลี้ยวซ้ายแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 314 (บางปะกง-ฉะเชิงเทรา) เลี้ยวขวาถนนเลี่ยงเมืองฉะเชิงเทรา หมายเลข 365 ตรงไปบรรจบกับทางหลวงหมายเลข 304 (ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี) ผ่านอำเภอบางคล้า อำเภอพนมสารคาม และเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 359 (สระแก้ว-เขาหินซ้อน) ที่แยกเขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม ผ่านจังหวัดปราจีนบุรี เข้าสู่จังหวัดสระแก้ว  ตรงไปบรรจบกับทางหลวงหมายเลข 33 (สุวรรณศร) เลี้ยวขวาผ่านอำเภอวัฒนานคร เข้าสู่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว และพร้อมที่จะเข้าสู่เขตแดนประเทศกัมพูชา

เราใช้เวลาจากกรุงเทพฯ 08.30 น. ถึงอำเภออรัญประเทศ เวลา 13.00 น. รวม 4 ชม. 30 นาที (เนื่องจากมีการจราจรติดขัดบนทางหลวงหมายเลข 314 ขาเข้าฉะเชิงเทรา เล็กน้อย) ระหว่างที่อยู่บนรถมีการแจกน้ำดื่ม 1 ขวด น้ำส้มดีโด้ 1 แก้ว และของว่างเป็นขนม ฟรีด้วย ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว เดินทางไปเรื่อยๆ รถจอดพักที่ปั๊ม ปตท.เขตจังหวัดสระแก้ว เข้าสู่เขตจังหวัดสระแก้ว วันที่ไปเป็นวันเสาร์ จึงเก็บค่าธรรมเนียมขาออกประเทศ และเข้าประเทศ 5 บาท พร้อมทั้งพนักงานจะนำแบบฟอร์มให้เรากรอกชื่อ-นามสกุล และเลขที่ Passport ด้วย หลังจากที่ถึงอรัญประเทศแล้ว รถจะจอดที่ขนส่งอรัญประเทศ เพื่อที่จะไปรับข้าวกล่อง EZY-GO มาแจกให้กับผู้โดยสาร เป็นอาหารมื้อกลางวัน



และจะมีเจ้าหน้าที่ บขส.มาอธิบายถึงวิธีการผ่านแดนให้กับชาวต่างชาติให้ฟัง และพนักงานจะแจกบัตรห้อยคอ ว่าคุณเป็นผู้โดยสารของ บขส. เพื่อป้องกันความวุ่นวายจากคนฝั่งนู้นที่อาจจะมาทำให้เรารำคาญใจก็เป็นได้ ถือว่าเดินผ่านไปได้อย่างสบายใจจริงๆ  



13.15 น. ด่านพรมแดนบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว

จากนี้ไป เข้าสู่ขั้นตอนการข้ามประเทศแล้ว คนไทยอย่างเราก็ไม่มีอะไรมาก ผ่านขั้นตอนตลอดระยะทางกว่า 500 เมตร อย่างสบายใจ แต่ผมก็เดินไปแบบ กล้าๆกลัวๆเหมือนกันนะ



ข้ามมาได้แล้ว ให้เดินข้ามถนนไปฝั่งขวา เพื่อกรอกเอกสารใบขาเข้าประเทศ ใช้เวลาต่อคิวผ่านขั้นตอนไม่นาน แต่ขากลับนี่สิ จะเป็นอย่างไรต้องคอยดู



ผ่านมาอย่างง่ายดาย เจ้าหน้าที่ไม่ถามอะไร เราก็มาขึ้นรถที่จอดรออยู่ฝั่งตรงข้ามโรงแรมคาสิโนแห่งหนึ่ง รอจนกว่าผู้โดยสารชาวต่างชาติจะขึ้นมาครบถ้วน ในที่สุด รถก็ออกได้ในเวลาประมาณ 15.00 น. เพื่อที่จะไปยังจุดหมายปลายทางเมืองเสียมเรียบ
     
จากนี้ไปรถได้พาเราเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 5 และ 6 ของกัมพูชา ถือว่าเป็นถนนสองเลน สวนทางที่ผิวทางค่อนข้างดี สองข้างทางคล้ายกับประเทศไทยเลย เป็นทุ่งนาโล่งๆ ไม่เห็นแม้แต่ภูเขาทั้งสองฝั่ง นานๆจะเห็นที และผ่านละแวกชุมชนบ้าง















นั่งรถกึ่งหลับกึ่งตื่น ในใจก็คิดว่าแล้วเราจะหาทางกลับยังไงล่ะทีนี้ หาทางมาได้ แต่ยังหาทางกลับไม่ได้ ก็เลยได้ถามพนักงานขับรถเพื่อความสบายใจ เขาบอกว่าสามารถซื้อตั๋วกลับกรุงเทพฯ ได้เลยที่จุดจอดรถ ซึ่งสะดวกมากๆ เพราะจุดจอดรถอยู่ในเมืองพอดี และอยู่ใกล้โรงแรมที่ผมไปพักด้วย

17.30 น. Siem Reap , Cambodia
  
และแล้วการเดินทางมายังเสียมเรียบของเรา ก็ถือว่าเดินทางมาโดยสวัสดิภาพ และสะดวกสบาย คุ้มค่ามาก ถึงแม้จะใช้เวลานานไปนิด ตั้งแต่ 08.30 - 17.30 น. 9 ชม. รวมระยะทางประมาณทั้งหมด 400 กิโลเมตร ในการเดินทางมาครั้งนี้ ทันใดนั้นผมไม่รอช้า รีบลงไปติดต่อซื้อตั๋วกลับทันที เพื่อความสบายใจว่าจะมีรถกลับได้แล้ว เราซื้อที่บริษัท NATTAKAN ซึ่งเป็นบริษัทเจ้าเดียวในกัมพูชา ที่เป็นความร่วมมือระหว่างประเทศระหว่างไทย บริษัท บขส. กับ บริษัท NATTAKAN กัมพูชา ในการมีรถโดยสารระหว่างประเทศนี้เกิดขึ้น



ตั๋วขากลับกรุงเทพฯ ราคาแพงกว่าขามา อยู่พอสมควร ราคาอยู่ที่ 28 $ ซึ่งผมแลกเงินด้วยอัตราที่ดีที่สุด จากร้านแลกเงินชื่อดังอยู่ที่ 35.70
ซึ่งเทียบเป็นเงินไทย เท่ากับ 999.6 หรือ 1000 บาท เลยทีเดียว
และตั๋วที่ได้มา ไม่ต้องกลัวหาย เจ้าหน้าที่จัดการใส่ซองสีขาวให้อย่างดี



มีนามบัตรให้ด้วยนะครับ



   การเดินทาง One Day Trip ในวันพรุ่งนี้ ในเมืองมรดกโลก Siem Reap จะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น ติดตามตอนต่อไปครับ