สุริยุปราคาเต็มดวง (Total Solar Eclipes) ในความทรงจำ

จากการที่เช้าวันที่ 9 มีนาคม 2559 จะเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาเต็มดวงขึ้น ซึ่งพื้นที่คราสเต็มดวงเกิดในประเทศอินโดนีเซีย สำหรับประเทศไทยเห็นได้บางส่วน มากที่สุดก็ภาคใต้ กรุงเทพฯ ก็เห็นได้ 40 กว่าเปอร์เซ็นต์  มันทำให้ผมหลับตานึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ในช่วงสายๆ วันอันอากาศสดชื่น ปลอดโปร่ง ของวันที่ 24 ตุลาคม 2538 มีเด็กชายคนหนึ่งขณะนั้นอยู่ในช่วงปิดเทอม ยืนแช่น้ำอยู่บริเวณถนนหน้าบ้านหันหน้าไปทางแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยู่ทางทิศตะวันออก  ปีนั้นเป็นปีน้ำท่วมใหญ่ในเขตพื้นที่ลุ่มภาคกลาง  พยุหะคีรี นครสวรรค์ บ้านผมก็ท่วมไปครึ่งบ้าน ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดว่ามันเป็นปรากฏการณ์ที่มีสาระสำคัญอะไรมากนัก มีการรณรงค์การดูสุริยุปราคาอย่างถูกวิธี ออกสกู๊ปข่าวเป็นเดือนๆ ยังจำได้ดี  ซึ่งถ้าพลาดในครั้งนี้ (คือในครั้งนั้น) จะต้องรออีก 75 ปี ซึ่งในตอนนั้นผมจะมีอายุ 90 ปีแล้ว และยังต้องตะบันไปดูถึงที่หว้ากอ ประจวบคีรีขันธ์อีกด้วย  เริ่มต้นการดูด้วยการเตรียมความพร้อมอุปกรณ์กับบรรดาผองเพื่อนโดยนำกระจกใสเอาไปรมกับขี้ใต้ ให้เขม่าควันดำจับเป็นน้ำมัน เลอะมือ เลอะหน้าเต็มไปหมด สนุกสนานกันไป จากสัมผัสแรกที่เริ่มขึ้นก็ยังความตื่นเต้นมาให้พวกเรากระโดดโลดเต้นอย่างสำราญใจ  พอการเกิดคลาสผ่านพ้น 50 เปอร์เซ็นต์หรือครึ่งดวงไปแล้ว ท้องฟ้าเริ่มสลัวลงตามลำดับ และก็เริ่มมืดลงเรื่อยๆ  มันมืดลงจนน่าอัศจรรย์ใจ นี่มันเวลา 10 โมงเช้ากว่าๆแล้วนะ  บรรยากาศมันช่างน่าหลงใหลอย่างบอกไม่ถูก คือมันไม่ใช่ความมืดในยามใกล้โพล้เพล้ หรือในยามค่อนแจ้งในตอนเช้าอย่างที่เราคุ้นชินในทุกๆวัน   ขณะนั้นจากสายตาที่มองผ่านกระจก รมดำ มองตรงไปยังดวงอาทิตย์ เห็นเสี้ยวแสงสว่างบางๆ ส่องพราวอยู่ บรรยากาศก็มืดเริ่มมืดครึ้ม ลมพัดเย็นสบาย พยายามสังเกตุดูนก หรือค้างคาว ที่เขาว่าจะบินกลับรัง ก็มองไม่เห็น มันคงตกใจหรือเปล่าไม่รู้  ยังไม่ทันหายสงสัย อยู่ๆ เหมือนเราอยู่ในห้องที่มีแสงสว่างสลัวๆ แล้วมีคนดับไฟ พรึบ........... พอแสงรอบตัวดับลง ผมละสายตาออกจากกระจก แล้วมองตรงไปยังตำแหน่งดวงตะวันที่ถูกพระจันทร์บดบังอยู่เบื้องหน้า แสงบาดตาสุดท้ายก่อนที่จะสามารถมองได้อย่างสบายตานั้น  คือปรากฏการณ์แหวนเพชร (ลูกปัดของเบลีย์ผมมองไม่ทัน) มันสวยงามมากผมทันเห็นหัวแหวน ฉายแสงวาบวาว แล้วหายไปเหลือแต่ขอบแสงสว่างโคโลน่าของดวงอาทิตย์ ขนลุกพราวไปทั้งตัว  เสียงพลุ ประทัด ระเบิด สนั่นไปทั่ว ตัวเองก็ แหกปาก ตะโกน โหวกแหวก โวยวาย กับเพื่อนเหมือนคนบ้า ไม่ใช่จะไล่ราหูให้รีบคลายดังความเชื่อนะ แต่มันบ้าพลังอะไรไม่รู้ เหตุการณ์นั้นผ่านไปประมาณนาทีเศษๆ  ก็เริ่มเห็นหัวแหวน ฉายแสงวาบอีกครั้ง แต่เป็นฝั่งตรงข้ามกับเมื่อสักครู่ ผมกับเพื่อนแหกปากหนักกว่าเดิมอีก อยากจะบอกพระอาทิตย์ว่าให้ค้างฉากนี้ไว้นานๆๆๆ ผมมองจนตาเนื้อทนไม่ได้เพราะมันสว่างเกินไป  แต่ความทรงจำในวันนั้นมันตราตรึงมาถึงทุกวันนี้ ซึ่งพรุ่งนี้ (9 มีนาคม 2559) ความทรงจำเก่าๆ คงจะกลับคืนมา ถึงแม้มันจะผ่านมา 20 ปีแล้ว ผมยังจำไม่ลืมเลือน แม้ว่าสุริยุปราคาจะเกิดแทบทุกปี แต่ก็ใช่ว่าจะเต็มดวงเสมอไป (ปรากฏการณ์แหวนเพชรจะเกิดกับสุริยุปราคาเต็มดวงเท่านั้น) ครั้งต่อไปเต็มดวง ปี 2017 เกิดที่อเมริกา และจะมาเกิดแถวแปซิฟิคอีก ปี 2023 จะตามไปดูอีกคงยาก  แต่ก็ยังพอมีสุริปราคาประเภทอื่นๆให้ดูได้ ปี 2019 ผมเตรียมตัวไว้แต่บัดเดี๋ยวนี้แล้วครับ เจอกัน วันที่ 26 ธันวาคม 2019 สุริยุปราคาวงแหวน ที่สิงคโปร์...........แล้วเจอกัน

ขอบคุณ ข้อมูล http://www.timeanddate.com
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่