ถึงต้องตาย..ก็ไม่เปิด สัญญาลับ ! สยามสปอร์ต อ้อน ขอโอกาสเจรจาสมาคม อ้างขาดทุนมาตลอด

สยามสปอร์ต อ้อน ขอโอกาสเจรจาสมาคม อ้างขาดทุนมาตลอด  โยนมือที่ 3 ให้ข้อมูลเท็จนายกสมาคม แต่อุบเงียบสัญญาบริหารสิทธิประโยชน์ ที่สภากรรมการ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ มีความเห็นว่าควรจะถูกยกเลิก  
          

           หลังจากเกิดกรณีข่าวใหญ่ในวงการกีฬาประเทศไทย เมื่อ สมาคมฟุตบอล ฉีกสัญญาบริษัทสยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ล่าสุด เมื่อวันอังคารที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมา ณ สตูดิโอสยามสปอร์ต รามอินทรา 40 นาย อดิศัย วารินทร์ศิริกุล ประธานกรรมการ บริษัทสยามสปอร์ต ซินดิเคต จำกัด ( มหาชน ) ได้แถลงข่าวกรณีที่ทาง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลฯ จะยกเลิกสัญญาบริหารสิทธิประโยชน์กับบริษัทสยามสปอร์ตฯ เนื่องจากเป็นสัญญาที่ไม่เป็นธรรมกับสมาคม และเป็นสัญญาผูกขาดแต่เพียงผู้เดียว ไม่มีการกำหนดค่าตอบแทนให้แก่สมาคมนั้น

          นายอดิศัย วารินทร์ศิริกุล เปิดแถลงข่าวครั้งใหญ่ ย่านซอยนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม โดยอ้างว่า "เพราะเมื่อ 10 ปีก่อน สมาคมฟุตบอลฯ ได้ขอร้องให้บริษัทฯ ช่วยทำให้กีฬาฟุตบอล ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ซึ่งต้องล้มลุกคลุกคลานอยู่นานจนประสบความสำเร็จ และได้ทรูวิชั่นเข้ามาซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด และทำให้มูลค่าการตลาดเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งมีการตรวจสอบได้

          ส่วนกรณีไม่มีการกำหนดค่าตอบแทนให้สมาคมฯ ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะสมาคมฯ เป็นผู้แต่งตั้ง บริษัทสยามสปอร์ตฯ ให้ทำหน้าที่หารายได้ และรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด แม้ว่าค่าใช้จ่ายจะน้อยกว่ารายได้ที่ได้รับก็ตาม ซึ่งสมาคมฯ จะไม่แบกรับค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

          โดยรายละเอียดทั้งหมดได้กำหนดอยู่ในสัญญาที่บริษัทฯ ได้รับ นอกจากนี้กรณีที่สมาคมฯ ไม่มีอิสระในการบริหารงาน ทั้งที่สมาคมฯ ได้กำหนดฝ่ายที่ทำหน้าที่ต่างๆ 3 ฝ่ายด้วยกัน

          ได้แก่ สมาคมฟุตบอลฯ, บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก และ บริษัท สยามสปอร์ตฯ โดยมอบหมายให้ดูแลสิทธิประโยชน์ ซึ่งมีการแบ่งหน้าที่ชัดเจนและกรณีที่สี่ สมาคมฯ ไม่สามารถวางแผนงบประมาณด้วยตนเองนั้น ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากในแต่ละปีสมาคมฯจะทราบดีว่าจะได้รับเงินมาจากส่วนไหนบ้าง ไม่ว่าจะเป็นจาก ฟีฟ่า, การหาสปอนเซอร์เข้าทีมชาติ หรือ ส่วนแบ่งจากการบริหารสิทธิประโยชน์

          "ไม่ต้องการตอบโต้ใดๆ กับสมาคมฟุตบอลฯ เพราะเคารพในมติสภากรรมการ และยังหวังจะเข้าไปพูดคุยกับสมาคมฯ อีกครั้งเพราะยังไม่มีจดหมายแจ้งยกเลิกสัญญากับบริษัทฯ แต่เราอยากให้รักษาสัญญาของสปอนเซอร์ที่ให้การสนับสนุน อาทิ ทรูวิชั่น, ไทยเบฟ, โตโยต้า, ยามาฮ่า หรือ เอไอเอส ที่จะหมดสัญญาลงในปีนี้ มิเช่นนั้น อาจจะมีค่าเสียหายกว่า 765 ล้านบาท ถ้ายกเลิกสัญญากับสปอนเซอร์ก่อนกำหนด"

          โดยหลังจากที่ทางผู้บริหารสมาคมฟุตบอลชุดใหม่ของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วงเข้ามาบริหารงาน ทางสยามสปอร์ตฯ ได้ส่ง นายศรายุทธ มหวลีรัตน์ เป็นตัวแทนเข้าไปร่วมประชุมชี้แจงรายละเอียดการบริหารงานสิทธิประโยชน์กับสมาคม ทั้งรายรับ รายจ่าย พร้อมเอกสารสัญญาที่ทำไว้กับสมาคมฟุตบอลอย่างชัดเจนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ปี 2557 จะเห็นได้ชัดว่าสยามสปอร์ตฯ ต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายจำนวนไม่น้อย

          กระทั่งช่วง 2-3 ปีนี้เองที่เกิดกระแสฟุตบอลไทยคึกคัก สร้างมูลค่าให้กับวงการฟุตบอลอย่างมหาศาล แฟนบอลแห่เข้าชมจำนวนมาก ก่อให้เกิดรายได้ในทุกส่วน ลิขสิทธิ์จากการบริหารสิทธิประโยชน์ ที่มีผู้ซื้อสิทธิ์การถ่ายทอดสดมีมูลค่าสูงขึ้นทุกปี และมีการนำไปแบ่งจ่ายให้กับแต่ละสโมสรจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในทุกลีกตามที่เป็นข่าว"

          ทั้งนี้เราจะเจรจากับผู้บริหารชุดใหม่ดูอีกครั้ง เพราะเชื่อว่ายังไม่ได้ศึกษาผลงานที่ผ่านมาของสยามสปอร์ต แต่อาจจะมีบางคนที่เจตนาไม่ดีรายงานข้อมูลเท็จให้ พล.ต.อ.สมยศ ทราบ เพราะต้องการให้เกิดความแตกแยก แต่ถึงกระนั้นหากมีการยกเลิกสัญญากับบริษัทฯจริง เราก็ยังคงเดินหน้าสนับสนุนกีฬาชนิดอื่นต่อไป เพราะสยามสปอร์ตต้องทำงานภายใต้วงการกีฬาไทยอยู่แล้ว นายอดิศัย กล่าว"


          ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตุว่า การแถลงข่าวดังกล่าวของบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคต จำกัด (มหาชน) ไม่มีการนำเอาสัญญามาเปิดเผยต่อสาธารณชนเพื่อให้สังคมรับรู้ในประเด็นต่างๆ

credit 1morenews.com
ปล.ถ้ามีข่าวอะไรจะอัพเดทให้ตลอดนะครับโปรดปั่นจักรยานในการอ่าน คับ ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่