ตอนที่ 2 ติดตามได้ที่
http://ppantip.com/topic/34888701 สะพายเป้บุกเวียดนามใต้ "ด่าหลัต > มุยเน่ > ไซง่อน" ใครๆก็ไปได้ Easy Easy : ) #2 จะเป็นตอนที่พูดถึงมุยเน่ และโฮจิมินห์ ครับผม
ถ้าพูดถึงประเทศเวียดนาม ที่คนไทยนิยมไปเที่ยว ก็คงหนีไม่พ้น ที่จะไป ... >>
-
ตอนเหนือ : Hanoi เพื่อไปสัมผัสอากาศหนาวช่วงฤดูหนาว เพราะที่นั่นเองหิมะตกด้วย หรือจะไปช่วงกันยายนชม นาขันบันได อันเรื่องลือชาถึงความงาม
-
ตอนใต้ : เมืองหลวงHo Chi Minh หรือในชื่อเดิมคือ “ไซง่อน” โดยนักท่องเที่ยวมักจะเดินทางไป ดาลัท มุยเน่ รวมเป็นทริป ท่องเที่ยวราวๆ 4-5 วัน ซึ่งจะได้พบแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลายมากๆ เพราะว่า มีทะเล ทะเลทราย น้ำตก ไปจนถึง วัฒนธรรม ต่างๆด้วย
แต่ที่เวียดนามก็ยังมีสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจมากกว่านี้อีก เช่น Son Doong Cave ที่ได้ชื่อว่าเป็นถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย และยังถูกสำรวจไม่ครบทั้ง 100% อีกตะหาก น่าสนใจสุดๆ ไปเลย แต่ตอนนี้ยังไม่มีปัญญาไป แหะๆ
และวันนี้ผมจะพาไปเที่ยว โฮจิมินห์-ดาลัท-มุยเน่ ด้วยกันครับ
การเดินทางเราจะไปด้วยเครื่องบินกันครับ โดยผมจะยกมาเที่ยวบินมาโชว์ ซัก 3 สายการบินหลักๆ ที่นิยมกันนะ เพื่อให้เพื่อน ๆ วางแผนการเดินทางไปด้วยกันกับครับ
*ภาพโดย มือถือ iPhone 4s ของผมเอง
1.
AirAsia ขึ้นเครื่องที่สนามบิน ดอนเมือง ปลายทาง โฮจิมินห์ จะบินวันละ 3 เที่ยวบินคือ
- ขาไป(DMK) 7:45 ถึง(SGN)9:15 ขากลับ(SGN)9:45 ถึง(DMK) 11:15
- ขาไป(DMK) 16:00 ถึง(SGN)17:30 ขากลับ(SGN)18:00 ถึง(DMK) 19:25
- ขาไป(DMK) 19:35 ถึง(SGN)21:05 ขากลับ(SGN)21:30 ถึง(DMK) 23:05
2.
NokAir ขึ้นเครื่องที่สนามบิน ดอนเมือง ปลายทาง โฮจิมินห์ จะบินวันละ 2 เที่ยวบินคือ
- ขาไป(DMK) 7:35 ถึง(SGN)9:05 ขากลับ(SGN)9:50 ถึง(DMK) 11:20
- ขาไป(DMK) 19:30 ถึง(SGN)21:00 ขากลับ(SGN)21:45 ถึง(DMK) 23:15
3.
Thai Airways ขึ้นเครื่องที่สนามบิน สุวรรณภูมิ ปลายทาง โฮจิมินห์ จะบินวันละ 2 เที่ยวบินคือ
- ขาไป(DMK) 7:45 ถึง(SGN)9:15 ขากลับ(SGN)10:05 ถึง(DMK) 11:30
- ขาไป(DMK) 18:25 ถึง(SGN)19:55 ขากลับ(SGN)20:55 ถึง(DMK) 22:20
ก็ประมาณนี้ เลือกเอาตามความสะดวกของแต่ละคนได้เลยครับ ส่วนราคา ตั๋วนั้นก็ขึ้นอยู๋กับ promotion ของแต่ละสายการบิน อันนี้ไม่สามารถระบุให้ได้จริงๆครับ แต่มีไกด์ดีๆที่ทางเว็บ
http://www.skyscanner.co.th/ ได้เผยข้อมูลเด็ด "ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการจองตั๋วเครื่องบิน" มาดังนี้ครับ
ใครลองไปเที่ยวไหน ก็ลองเอาไปใช้ดูได้ผลยังไงก็เอามาบอกเล่ากันบ้างนะครับ
(
Credit : skyscanner http://www.skyscanner.co.th/bttb/best-time-to-book-th )
==================================================================================
รู้ก่อนไป :
เงินๆ ทองๆ : ที่เวียดนามจะใช้เงินสกุล d (ด่ง) เป็นหลัก แต่ไปเที่ยวด้วยตัวเอง ผมก็ได้หาข้อมูลก่อนไปเองบ้าง หลายๆคนมักบอกว่าใช้เงิน บาท หรือเงินดอลล่า ก็ได้ ซึ่งอันนี้จากที่ไปประสบพบเจอมาผมอยากจะแนะนำว่า แลกเป็นเงิน d ไปเลย และติด ดอลล่า นิดหน่อยก็พอ มันสะดวกกว่าเวลาเดินจับจ่ายซื้อของทั่วๆไป ส่วนเงินดอลล่าจะได้ใช้แบบง่ายๆก็ตอนซื้อทัวร์ต่างๆ ซะมากกว่า
*ภาพจาก Google image
อัตตราแลกเปลี่ยน 10,000 d เท่ากับ 15-16 บาทจะแกว่งอยู่ประมาณนี้ ที่นั่นจะใช้ ธนบัตร เป็นหลัก มีราคาตั้งแต่ 1,000 ด่ง 2,000 ด่ง 5,000 ด่ง 10,000 ด่ง 20,000 ด่ง 50,000 ด่ง 100,000 ด่ง 200,000 ด่ง และ 500,000 ด่ง ส่วนเหรียญ ก็มี แต่ไม่เห็นใช้กันนะครับ และแบงค์ 500,000 ด่ง ก็ไม่เห็นเหมือนกัน
ระบบจราจร : เขาจะวิ่งเลนขวากัน ซึ่งตรงข้ามกับบ้านเรา ที่ต้อง “มองซ้าย มองขวา” ก่อนข้ามถนน ไปที่นั่นเราต้อง ”มองขวา มองซ้าย” ก่อนข้ามถนนนะครับ ที่เวียดนาม นิยมใช้มอเตอร์ไซด์โคตรๆ ต่างกับบ้านเราโดยสิ้นเชิง และตอนข้ามถนนนะครับ ใจต้องกล้านิดนึง ถ้าคิดว่าจะข้ามแล้วเดินไปเลยอย่างหยุด เดี๋ยวรถมันหลบเราเอง ตื่นเต้นพิลึกเลยหล่ะ
Internet ควรซื้อที่สนามบินเลย การท่องเที่ยวด้วยตัวเองนั้น Internet สำคัญมากๆ ป้องกันการหลงทางได้ดีมากๆอีกด้วย ส่วนเครือข่ายที่มีก็ mobifone, vinaphone, viettel, Beeline และ VNMobile (เยอะเชียว) แต่ผมว่าไม่ต้องใส่ใจกับมันมากนัก ให้เดินออกไปหาบริเวณทางออกเลยมีให้เลือกเยอะเลย จะเป็น shop ชื่อ mobifone หรือ vinaphoneเป็นต้นที่นิยมใช้กัน ก็ Viettel ครับ ส่วน Sim rate จะมีหลายราคา ตั้งแต่ราวๆ 140,000 d – 390,000 d ดังนี้
Packet Inter. call Domestic call Internet
390K d 50 mins 83 min 1.5 GB High speed (ส่วนเกินจะ Drop speed เหมือนบ้านเรา)
290K d 22 mins 83 min 1.5 GB High speed (ส่วนเกินจะ Drop speed เหมือนบ้านเรา)
190K d 8 mins 63 min 600 MB High speed (ส่วนเกินจะ Drop speed เหมือนบ้านเรา)
190K d 26 mins 83 min No
140K d 13 mins 32 min No
โดยซิมเหล่านี้จะมีอายุการใช้งาน 30 วัน ส่วนผมแนะนำที่ 290K d (ราว 460 บาท) ถ้ามาหลายๆ วัน และ 190K d (ราว 300 บาท) สำหรับมาเที่ยว 4-5 วัน ข้อควรระวัง อย่าเผลอเล่น YouTube จนหมดก่อนนะครับ ไม่งั้นอืดดดด ... เลยทีเดียว
Google Map Application ที่จำเป็นมากๆ ถึงมากที่สุดคือ ช่วยป้องกันการหลงได้ดี และช่วยค้นหาเส้นทางเดินเที่ยวได้ด้วย
*ภาพจาก Google image
Google Translate Application อันนี้ก็ควรมีคิดไว้ในเครื่อง เพราะเมื่อเราเดินทางออกไปชนบทหน่อย คนที่นั้นจะพูดภาษาอังกฤษกันไม่ได้แล้ว จะสื่อสารลำบากมากทีเดียว เทคนิดการสื่อสารโดยใช้ Google Translate ก็ง่ายๆ แล้วก็พิมพ์ภาษาไทยลงไป แล้วแปลงเป็นภาษาเวียดนามให้เขาอ่านเลย แล้วเมื่อเขาตอบเรากลับมา ก็ให้พูดใส่ Smart phone เรา ช้าๆ แล้วก็แปลเป็นภาษาไทย เท่านี้เราก็พอจะเดาได้ ทำให้พอสื่อสารกันได้บ้าง ยิ่งใช่ร่วมกันภาษามือ ก็จะดีกว่าสื่อสารกันไม่ได้เลย
*ภาพจาก Google image
Power bank นี้ห้ามขาดเลย เพราะเวลาใช้ Google map บนสมาร์ทโฟน มันจะเปิด Navigation ด้วยทำให้แบตหมดไว ถ้าปล่อยให้เครื่องดับ แล้วดันอยู่ในจุดแปลกๆ หล่ะก็แย่แน่ๆ เลยครับ เพราะคนเวียดนาม ถ้าออกนอกโฮจิมินห์ ไปแล้วนี้ สื่อสารลำบากมาก คนที่นั่นพูดอังกฤษ กันไม่ค่อยจะได้ซะด้วย
*ภาพจาก Google image
*
แนะนำการค้นหาที่พัก: ส่วนตัวผมจะไม่แนะนำแบบเจาะจงว่าควรพักโรงแรมไหน นะครับ จะแนะนำว่าให้หาที่พักโซนไหนเท่านั้น ครับ ...
ผมแนะนำว่าจองที่พักก่อนเข้าพัก ดีกว่า Walk-in ผมให้เหตุผลแบบนี้ครับ การจองห้องพักนั้น สามารถทำได้ในเวลาว่างๆ มีเวลาอ่านคำวิจารณ์โรงแรมต่างๆ จากลูกค้าท่านอื่นๆ และเห็นทีละมากๆ และร็ด้วยว่าอยู่ตรงไหนโดยแค่คลิกแสดงแผนที่ ส่วน walk-in ผมมองว่า มีโอกาศเจอเพชรในตม อาจจะได้โรงแรมราคาถูก ย่อมเยาว์ และดึ เพราะเราไปเห็นโรงแรมเป็นๆ ก่อนเข้าพัก แต่มันก็แลกมาด้วยการเดินหา การพูดคุยกับพนักงานต้อนรับเพื่อถามห้องว่าง ราคา มันทำให้ผมรู้สึกว่าผมอาจจะต้องเสียเวลากับมันมาก เกินไปได้ ผมจึงไม่ใช่วิธีนี้
ต้องจองล่วงหน้ากี่วัน: ที่เวียดนามมีที่พักเยอะมากๆ แทบไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้ายาวๆ เลย นอกเสียจากว่าท่านจะไปโรงแรมที่มัน Popular จริงๆ ประมาณ “ฉันจะนอนที่นี่เท่านั้น” ถ้าจะขอแค่ให้มีที่นอน จองก่อนเข้าพัก 24 ชั่วโมง ยังเหลือเฟือเลยครับ
จองยังไง: ก็ 2 Websites ยักษ์ใหญ่แห่งวงการจองห้องพักครับ Agoda.com
และ Booking.com
โดยส่วนตัวผมใช่ Booking.com ซะมากกว่า เพราะว่าราคาที่โชว์ในเว็บจะเป็นราคา Net เลย รวม Vat และ service charge ไว้เรียบร้อยแล้ว และ Interface ของเว็บมันเป็นมิตรกับผมมากว่า แถมส่วนมากมีแบบจองแล้วจ่ายทีหลังเยอะด้วยครับ ส่วน Agoda ไม่ถนัดมือเท่าไหร และไม่ชอบการแสดงราคาแบบไม่รวม Vat บางที่อยากรู้ราคา Net ต้องกดจองไปให้เกือบๆ สุด ถึงจะรู้ราคา และ Interface ของเว็บ ไม่เข้ามือเท่า Booking ครับ
* แต่ผมก็ไม่ละเลยที่จะเปรียบเทียบราคาของทั้งสองเว็บ ทั้ง Agoda.com และ Booking.com นะครับ เพราะบางสถานที่ Booking.com แพงกว่า ทำให้หันไปใช้ Agoda ในบางครั้ง แหะๆ
ทีนี้ ผมจะมาแนะทำการเดินทางแบบ 5 วัน 4 คืนด้วยตัวเองสำหรับมือใหม่ Backpacker ตะลุยเวียดนามใต้ โย่ว ลุยยยย
[CR] สะพายเป้บุกเวียดนามใต้ "ด่าหลัต > มุยเน่ > ไซง่อน" ใครๆก็ไปได้ Easy Easy :)
ตอนที่ 2 ติดตามได้ที่ http://ppantip.com/topic/34888701 สะพายเป้บุกเวียดนามใต้ "ด่าหลัต > มุยเน่ > ไซง่อน" ใครๆก็ไปได้ Easy Easy : ) #2 จะเป็นตอนที่พูดถึงมุยเน่ และโฮจิมินห์ ครับผม
ถ้าพูดถึงประเทศเวียดนาม ที่คนไทยนิยมไปเที่ยว ก็คงหนีไม่พ้น ที่จะไป ... >>
- ตอนเหนือ : Hanoi เพื่อไปสัมผัสอากาศหนาวช่วงฤดูหนาว เพราะที่นั่นเองหิมะตกด้วย หรือจะไปช่วงกันยายนชม นาขันบันได อันเรื่องลือชาถึงความงาม
- ตอนใต้ : เมืองหลวงHo Chi Minh หรือในชื่อเดิมคือ “ไซง่อน” โดยนักท่องเที่ยวมักจะเดินทางไป ดาลัท มุยเน่ รวมเป็นทริป ท่องเที่ยวราวๆ 4-5 วัน ซึ่งจะได้พบแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลายมากๆ เพราะว่า มีทะเล ทะเลทราย น้ำตก ไปจนถึง วัฒนธรรม ต่างๆด้วย
แต่ที่เวียดนามก็ยังมีสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจมากกว่านี้อีก เช่น Son Doong Cave ที่ได้ชื่อว่าเป็นถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย และยังถูกสำรวจไม่ครบทั้ง 100% อีกตะหาก น่าสนใจสุดๆ ไปเลย แต่ตอนนี้ยังไม่มีปัญญาไป แหะๆ
และวันนี้ผมจะพาไปเที่ยว โฮจิมินห์-ดาลัท-มุยเน่ ด้วยกันครับ
การเดินทางเราจะไปด้วยเครื่องบินกันครับ โดยผมจะยกมาเที่ยวบินมาโชว์ ซัก 3 สายการบินหลักๆ ที่นิยมกันนะ เพื่อให้เพื่อน ๆ วางแผนการเดินทางไปด้วยกันกับครับ
*ภาพโดย มือถือ iPhone 4s ของผมเอง
1. AirAsia ขึ้นเครื่องที่สนามบิน ดอนเมือง ปลายทาง โฮจิมินห์ จะบินวันละ 3 เที่ยวบินคือ
- ขาไป(DMK) 7:45 ถึง(SGN)9:15 ขากลับ(SGN)9:45 ถึง(DMK) 11:15
- ขาไป(DMK) 16:00 ถึง(SGN)17:30 ขากลับ(SGN)18:00 ถึง(DMK) 19:25
- ขาไป(DMK) 19:35 ถึง(SGN)21:05 ขากลับ(SGN)21:30 ถึง(DMK) 23:05
2. NokAir ขึ้นเครื่องที่สนามบิน ดอนเมือง ปลายทาง โฮจิมินห์ จะบินวันละ 2 เที่ยวบินคือ
- ขาไป(DMK) 7:35 ถึง(SGN)9:05 ขากลับ(SGN)9:50 ถึง(DMK) 11:20
- ขาไป(DMK) 19:30 ถึง(SGN)21:00 ขากลับ(SGN)21:45 ถึง(DMK) 23:15
3. Thai Airways ขึ้นเครื่องที่สนามบิน สุวรรณภูมิ ปลายทาง โฮจิมินห์ จะบินวันละ 2 เที่ยวบินคือ
- ขาไป(DMK) 7:45 ถึง(SGN)9:15 ขากลับ(SGN)10:05 ถึง(DMK) 11:30
- ขาไป(DMK) 18:25 ถึง(SGN)19:55 ขากลับ(SGN)20:55 ถึง(DMK) 22:20
ก็ประมาณนี้ เลือกเอาตามความสะดวกของแต่ละคนได้เลยครับ ส่วนราคา ตั๋วนั้นก็ขึ้นอยู๋กับ promotion ของแต่ละสายการบิน อันนี้ไม่สามารถระบุให้ได้จริงๆครับ แต่มีไกด์ดีๆที่ทางเว็บ http://www.skyscanner.co.th/ ได้เผยข้อมูลเด็ด "ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการจองตั๋วเครื่องบิน" มาดังนี้ครับ
ใครลองไปเที่ยวไหน ก็ลองเอาไปใช้ดูได้ผลยังไงก็เอามาบอกเล่ากันบ้างนะครับ
(Credit : skyscanner http://www.skyscanner.co.th/bttb/best-time-to-book-th )
==================================================================================
รู้ก่อนไป :
เงินๆ ทองๆ : ที่เวียดนามจะใช้เงินสกุล d (ด่ง) เป็นหลัก แต่ไปเที่ยวด้วยตัวเอง ผมก็ได้หาข้อมูลก่อนไปเองบ้าง หลายๆคนมักบอกว่าใช้เงิน บาท หรือเงินดอลล่า ก็ได้ ซึ่งอันนี้จากที่ไปประสบพบเจอมาผมอยากจะแนะนำว่า แลกเป็นเงิน d ไปเลย และติด ดอลล่า นิดหน่อยก็พอ มันสะดวกกว่าเวลาเดินจับจ่ายซื้อของทั่วๆไป ส่วนเงินดอลล่าจะได้ใช้แบบง่ายๆก็ตอนซื้อทัวร์ต่างๆ ซะมากกว่า
*ภาพจาก Google image
อัตตราแลกเปลี่ยน 10,000 d เท่ากับ 15-16 บาทจะแกว่งอยู่ประมาณนี้ ที่นั่นจะใช้ ธนบัตร เป็นหลัก มีราคาตั้งแต่ 1,000 ด่ง 2,000 ด่ง 5,000 ด่ง 10,000 ด่ง 20,000 ด่ง 50,000 ด่ง 100,000 ด่ง 200,000 ด่ง และ 500,000 ด่ง ส่วนเหรียญ ก็มี แต่ไม่เห็นใช้กันนะครับ และแบงค์ 500,000 ด่ง ก็ไม่เห็นเหมือนกัน
ระบบจราจร : เขาจะวิ่งเลนขวากัน ซึ่งตรงข้ามกับบ้านเรา ที่ต้อง “มองซ้าย มองขวา” ก่อนข้ามถนน ไปที่นั่นเราต้อง ”มองขวา มองซ้าย” ก่อนข้ามถนนนะครับ ที่เวียดนาม นิยมใช้มอเตอร์ไซด์โคตรๆ ต่างกับบ้านเราโดยสิ้นเชิง และตอนข้ามถนนนะครับ ใจต้องกล้านิดนึง ถ้าคิดว่าจะข้ามแล้วเดินไปเลยอย่างหยุด เดี๋ยวรถมันหลบเราเอง ตื่นเต้นพิลึกเลยหล่ะ
Internet ควรซื้อที่สนามบินเลย การท่องเที่ยวด้วยตัวเองนั้น Internet สำคัญมากๆ ป้องกันการหลงทางได้ดีมากๆอีกด้วย ส่วนเครือข่ายที่มีก็ mobifone, vinaphone, viettel, Beeline และ VNMobile (เยอะเชียว) แต่ผมว่าไม่ต้องใส่ใจกับมันมากนัก ให้เดินออกไปหาบริเวณทางออกเลยมีให้เลือกเยอะเลย จะเป็น shop ชื่อ mobifone หรือ vinaphoneเป็นต้นที่นิยมใช้กัน ก็ Viettel ครับ ส่วน Sim rate จะมีหลายราคา ตั้งแต่ราวๆ 140,000 d – 390,000 d ดังนี้
Packet Inter. call Domestic call Internet
390K d 50 mins 83 min 1.5 GB High speed (ส่วนเกินจะ Drop speed เหมือนบ้านเรา)
290K d 22 mins 83 min 1.5 GB High speed (ส่วนเกินจะ Drop speed เหมือนบ้านเรา)
190K d 8 mins 63 min 600 MB High speed (ส่วนเกินจะ Drop speed เหมือนบ้านเรา)
190K d 26 mins 83 min No
140K d 13 mins 32 min No
โดยซิมเหล่านี้จะมีอายุการใช้งาน 30 วัน ส่วนผมแนะนำที่ 290K d (ราว 460 บาท) ถ้ามาหลายๆ วัน และ 190K d (ราว 300 บาท) สำหรับมาเที่ยว 4-5 วัน ข้อควรระวัง อย่าเผลอเล่น YouTube จนหมดก่อนนะครับ ไม่งั้นอืดดดด ... เลยทีเดียว
Google Map Application ที่จำเป็นมากๆ ถึงมากที่สุดคือ ช่วยป้องกันการหลงได้ดี และช่วยค้นหาเส้นทางเดินเที่ยวได้ด้วย
*ภาพจาก Google image
Google Translate Application อันนี้ก็ควรมีคิดไว้ในเครื่อง เพราะเมื่อเราเดินทางออกไปชนบทหน่อย คนที่นั้นจะพูดภาษาอังกฤษกันไม่ได้แล้ว จะสื่อสารลำบากมากทีเดียว เทคนิดการสื่อสารโดยใช้ Google Translate ก็ง่ายๆ แล้วก็พิมพ์ภาษาไทยลงไป แล้วแปลงเป็นภาษาเวียดนามให้เขาอ่านเลย แล้วเมื่อเขาตอบเรากลับมา ก็ให้พูดใส่ Smart phone เรา ช้าๆ แล้วก็แปลเป็นภาษาไทย เท่านี้เราก็พอจะเดาได้ ทำให้พอสื่อสารกันได้บ้าง ยิ่งใช่ร่วมกันภาษามือ ก็จะดีกว่าสื่อสารกันไม่ได้เลย
*ภาพจาก Google image
Power bank นี้ห้ามขาดเลย เพราะเวลาใช้ Google map บนสมาร์ทโฟน มันจะเปิด Navigation ด้วยทำให้แบตหมดไว ถ้าปล่อยให้เครื่องดับ แล้วดันอยู่ในจุดแปลกๆ หล่ะก็แย่แน่ๆ เลยครับ เพราะคนเวียดนาม ถ้าออกนอกโฮจิมินห์ ไปแล้วนี้ สื่อสารลำบากมาก คนที่นั่นพูดอังกฤษ กันไม่ค่อยจะได้ซะด้วย
*ภาพจาก Google image
* แนะนำการค้นหาที่พัก: ส่วนตัวผมจะไม่แนะนำแบบเจาะจงว่าควรพักโรงแรมไหน นะครับ จะแนะนำว่าให้หาที่พักโซนไหนเท่านั้น ครับ ...
ผมแนะนำว่าจองที่พักก่อนเข้าพัก ดีกว่า Walk-in ผมให้เหตุผลแบบนี้ครับ การจองห้องพักนั้น สามารถทำได้ในเวลาว่างๆ มีเวลาอ่านคำวิจารณ์โรงแรมต่างๆ จากลูกค้าท่านอื่นๆ และเห็นทีละมากๆ และร็ด้วยว่าอยู่ตรงไหนโดยแค่คลิกแสดงแผนที่ ส่วน walk-in ผมมองว่า มีโอกาศเจอเพชรในตม อาจจะได้โรงแรมราคาถูก ย่อมเยาว์ และดึ เพราะเราไปเห็นโรงแรมเป็นๆ ก่อนเข้าพัก แต่มันก็แลกมาด้วยการเดินหา การพูดคุยกับพนักงานต้อนรับเพื่อถามห้องว่าง ราคา มันทำให้ผมรู้สึกว่าผมอาจจะต้องเสียเวลากับมันมาก เกินไปได้ ผมจึงไม่ใช่วิธีนี้
ต้องจองล่วงหน้ากี่วัน: ที่เวียดนามมีที่พักเยอะมากๆ แทบไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้ายาวๆ เลย นอกเสียจากว่าท่านจะไปโรงแรมที่มัน Popular จริงๆ ประมาณ “ฉันจะนอนที่นี่เท่านั้น” ถ้าจะขอแค่ให้มีที่นอน จองก่อนเข้าพัก 24 ชั่วโมง ยังเหลือเฟือเลยครับ
จองยังไง: ก็ 2 Websites ยักษ์ใหญ่แห่งวงการจองห้องพักครับ Agoda.com และ Booking.com โดยส่วนตัวผมใช่ Booking.com ซะมากกว่า เพราะว่าราคาที่โชว์ในเว็บจะเป็นราคา Net เลย รวม Vat และ service charge ไว้เรียบร้อยแล้ว และ Interface ของเว็บมันเป็นมิตรกับผมมากว่า แถมส่วนมากมีแบบจองแล้วจ่ายทีหลังเยอะด้วยครับ ส่วน Agoda ไม่ถนัดมือเท่าไหร และไม่ชอบการแสดงราคาแบบไม่รวม Vat บางที่อยากรู้ราคา Net ต้องกดจองไปให้เกือบๆ สุด ถึงจะรู้ราคา และ Interface ของเว็บ ไม่เข้ามือเท่า Booking ครับ
* แต่ผมก็ไม่ละเลยที่จะเปรียบเทียบราคาของทั้งสองเว็บ ทั้ง Agoda.com และ Booking.com นะครับ เพราะบางสถานที่ Booking.com แพงกว่า ทำให้หันไปใช้ Agoda ในบางครั้ง แหะๆ
ทีนี้ ผมจะมาแนะทำการเดินทางแบบ 5 วัน 4 คืนด้วยตัวเองสำหรับมือใหม่ Backpacker ตะลุยเวียดนามใต้ โย่ว ลุยยยย