แฟนบอก ได้รับการ์ดงานแต่งงานจากน้องนักศึกษาที่มาฝึกงานด้วย โดยได้นัดกันไปกินเลี้ยงกัน (ทั้งนี้แฟนขออนุญาตเราแล้ว)
น้องคนนั้นเป็นผู้หญิงนะคะ
พอแฟนกลับมา นี่คือบทสนทนา คร่าวๆค่ะ
เรา : นี่สนิทกันหรอกะน้อง
แฟน : สนิทสิตอนมันมาฝึกงานอ่า
เรา : มาฝึกกี่ปี
แฟน : 3เดือน ฝึกเสร็จก็กลับไปเรียนต่อ แต่ตอนฝึกทำคนละแผนกนะ แต่น้องนั่งข้างๆเลยสนิทกัน มีไรคุยกันตลอด
เรา : แค่3เดือน นี่ซี้กันขนาดนั้นเลย (แอบ งง)
แฟน : อ่อ น้องมันชวนตัวเองไปงานด้วยนะ แต่เค้า งง ว่ะ มันไม่รู้ว่าเค้าเลิกกะแฟนเก่าไปแล้ว มันพึ่งรู้วันนี้นี่เอง ว่าเลิกกะแฟนเก่า และมีแฟนใหม่แล้ว
เรา : ไม่ได้เป็นเพื่อนกันในเฟชหรอ?? ถึงไม่รู้ (เราคบกะแฟนได้ 3เดือน แฟนถึงตั้งสถานะคบกันในเฟช และเวลาไปเที่ยว ไปกิน เราก็จะมีภาพถ่ายไปด้วยกันเรื่อยมา แต่ไม่เคยโพสหวานเลี่ยนหากันนะคะ จนตอนนี้ คบกันครบ 1ปี 6เดือน ถ้าน้องไม่รู้ นั่นแสดงว่า น้องไม่ได้เป็นเพื่อนในเฟชแน่ๆเลย)
แฟน : เป็นสิ เป็นเพื่อนในเฟชนี่ล่ะ
------------------------------------------------------
จบบทสนทนาค่ะ เราขี้เกียจถามต่อ เพราะเพียงแค่นี้เราก็รู้ล่ะ คงไม่ไปงานแต่ง ก็ให้แฟนไปคนเดียวจบ ไม่ได้งอนที่คนเชิญไม่ทราบว่าเราคือแฟนใหม่ที่คบกันมา1ปีกับ6เดือน แต่เราคิดว่า แฟนเราคงไม่ได้อยู่ใน เมมโมรี่ รึ เป็นบุคคลที่มีความสำคัญกับเขามากขนาดนั้น เพราะถ้าเรารักใคร่เป็นพี่น้องกับใครสักคน สนิทชิดเชื้อกัน ทำไมจะไม่รู้ว่าเลิกกับแฟนแล้ว มีแฟนใหม่มาปีกว่าแล้ว เพราะเพื่อนคนอื่นๆเขาก็ทราบกันหมดแล้ว
ประเด็นคือ แฟนเรางอนที่เราไม่ยอมไปด้วย เราแกล้งพูดว่า ถ้าอยากให้ไป กล้าออกค่าแต่งหน้า ทำผม ค่าชุดป่ะล่ะ นางบอกได้เลยจะให้
เราเลยบอกว่า ไม่คิดว่าเงิน2,000บ.นี่ เอาไปซื้อของให้เราที่มันใช้ประโยชน์ได้ ไม่ดีกว่าหรอ??? จุดเริ่มต้น ความตึงเครียดมันก็เริ่มจากตรงนี้ค่ะ
------------------------------------------------------
เพื่อนๆว่า ยังไงกันบ้างค่ะ เรา งก เรา เยอะ ไปรึป่าว รึเราควรง้อแฟนเรา รึ เราควรอยู่เฉยๆ แล้วเราจำเป็นมั้ยต้องไปงานแต่ง เราผิด รึ ถูก
คือในความคิดของเรา ถ้าไม่ได้สำคัญมาก เราก็จะผ่านๆไป เอาแค่คนสำคัญต่อตัวเอง และคนที่คิดว่างานแต่งเราๆจะต้องเชิญเขาแน่ๆ ไรงี้
และเราเคยเจอ คนประเภทนึงค่ะแต่งงาน เขาไปจดรายชื่อพนักงานในบริษัทเดียวกันลิสมาทั้งจังหวัด แล้วส่งไปเชิญ ทั้งที่บางคนไม่สนิทชิดเชื้อ
อารมณ์กะเอาปริมาณซอง ว่างั้น เราเลยรู้สึกฝังใจ กับคนประเภทนี้มาก ก็ไม่รู้อ่านะ เขาอาจจะไม่เป็นแบบนี้ก็ได้ แต่เราก็ห้ามความคิดเราไม่ได้
--------------
ข้อมูลเพิ่มเติมนะคะ แฟนเราเงินเดือนสามหมื่นกว่าๆ หนี้ผ่อนบ้านอีกหมื่นกว่า ตอนนี้เก็บเงินเพื่อแต่งงานของเราอยู่ ส่วนเราเงินเดือนสองหมื่นต้นๆ
มีหนี้ผ่อนเกือบๆหมื่น นี่ก็เก็บเงินงานแต่งตัวเองเหมือนกัน คือเราช่วยๆแชร์ๆกันอ่าค่ะ
เมื่อแฟนได้รับ การ์ดเชิญแต่งงาน
น้องคนนั้นเป็นผู้หญิงนะคะ
พอแฟนกลับมา นี่คือบทสนทนา คร่าวๆค่ะ
เรา : นี่สนิทกันหรอกะน้อง
แฟน : สนิทสิตอนมันมาฝึกงานอ่า
เรา : มาฝึกกี่ปี
แฟน : 3เดือน ฝึกเสร็จก็กลับไปเรียนต่อ แต่ตอนฝึกทำคนละแผนกนะ แต่น้องนั่งข้างๆเลยสนิทกัน มีไรคุยกันตลอด
เรา : แค่3เดือน นี่ซี้กันขนาดนั้นเลย (แอบ งง)
แฟน : อ่อ น้องมันชวนตัวเองไปงานด้วยนะ แต่เค้า งง ว่ะ มันไม่รู้ว่าเค้าเลิกกะแฟนเก่าไปแล้ว มันพึ่งรู้วันนี้นี่เอง ว่าเลิกกะแฟนเก่า และมีแฟนใหม่แล้ว
เรา : ไม่ได้เป็นเพื่อนกันในเฟชหรอ?? ถึงไม่รู้ (เราคบกะแฟนได้ 3เดือน แฟนถึงตั้งสถานะคบกันในเฟช และเวลาไปเที่ยว ไปกิน เราก็จะมีภาพถ่ายไปด้วยกันเรื่อยมา แต่ไม่เคยโพสหวานเลี่ยนหากันนะคะ จนตอนนี้ คบกันครบ 1ปี 6เดือน ถ้าน้องไม่รู้ นั่นแสดงว่า น้องไม่ได้เป็นเพื่อนในเฟชแน่ๆเลย)
แฟน : เป็นสิ เป็นเพื่อนในเฟชนี่ล่ะ
------------------------------------------------------
จบบทสนทนาค่ะ เราขี้เกียจถามต่อ เพราะเพียงแค่นี้เราก็รู้ล่ะ คงไม่ไปงานแต่ง ก็ให้แฟนไปคนเดียวจบ ไม่ได้งอนที่คนเชิญไม่ทราบว่าเราคือแฟนใหม่ที่คบกันมา1ปีกับ6เดือน แต่เราคิดว่า แฟนเราคงไม่ได้อยู่ใน เมมโมรี่ รึ เป็นบุคคลที่มีความสำคัญกับเขามากขนาดนั้น เพราะถ้าเรารักใคร่เป็นพี่น้องกับใครสักคน สนิทชิดเชื้อกัน ทำไมจะไม่รู้ว่าเลิกกับแฟนแล้ว มีแฟนใหม่มาปีกว่าแล้ว เพราะเพื่อนคนอื่นๆเขาก็ทราบกันหมดแล้ว
ประเด็นคือ แฟนเรางอนที่เราไม่ยอมไปด้วย เราแกล้งพูดว่า ถ้าอยากให้ไป กล้าออกค่าแต่งหน้า ทำผม ค่าชุดป่ะล่ะ นางบอกได้เลยจะให้
เราเลยบอกว่า ไม่คิดว่าเงิน2,000บ.นี่ เอาไปซื้อของให้เราที่มันใช้ประโยชน์ได้ ไม่ดีกว่าหรอ??? จุดเริ่มต้น ความตึงเครียดมันก็เริ่มจากตรงนี้ค่ะ
------------------------------------------------------
เพื่อนๆว่า ยังไงกันบ้างค่ะ เรา งก เรา เยอะ ไปรึป่าว รึเราควรง้อแฟนเรา รึ เราควรอยู่เฉยๆ แล้วเราจำเป็นมั้ยต้องไปงานแต่ง เราผิด รึ ถูก
คือในความคิดของเรา ถ้าไม่ได้สำคัญมาก เราก็จะผ่านๆไป เอาแค่คนสำคัญต่อตัวเอง และคนที่คิดว่างานแต่งเราๆจะต้องเชิญเขาแน่ๆ ไรงี้
และเราเคยเจอ คนประเภทนึงค่ะแต่งงาน เขาไปจดรายชื่อพนักงานในบริษัทเดียวกันลิสมาทั้งจังหวัด แล้วส่งไปเชิญ ทั้งที่บางคนไม่สนิทชิดเชื้อ
อารมณ์กะเอาปริมาณซอง ว่างั้น เราเลยรู้สึกฝังใจ กับคนประเภทนี้มาก ก็ไม่รู้อ่านะ เขาอาจจะไม่เป็นแบบนี้ก็ได้ แต่เราก็ห้ามความคิดเราไม่ได้
--------------
ข้อมูลเพิ่มเติมนะคะ แฟนเราเงินเดือนสามหมื่นกว่าๆ หนี้ผ่อนบ้านอีกหมื่นกว่า ตอนนี้เก็บเงินเพื่อแต่งงานของเราอยู่ ส่วนเราเงินเดือนสองหมื่นต้นๆ
มีหนี้ผ่อนเกือบๆหมื่น นี่ก็เก็บเงินงานแต่งตัวเองเหมือนกัน คือเราช่วยๆแชร์ๆกันอ่าค่ะ