แนะนำตัวก่อน ชื่อ " เมเปิ้ล " จ้า สิ่งที่จะมาพูดในวันนี้คือเรื่องเกี่ยวกับ ...
++ เน็ตโทรศัพท์เบื้องต้น ++
++ เจาะลึกข้อมูล iPhone ++
ข้อมูลเสริม
++ เน็ตบ้าน ADSL
vs FTTx & FTTh
vs FTTb
vs DOCSIS ++
เรื่องแรก
สาเหตุที่เน็ตเราช้า ?
1. " ปริมาณ GPRS / 2G / 3G / 4G " ที่ใช้ได้ในแพ็คเกจต่างๆ !
ที่เมย์เคยเห็นหลายๆคนพูดกันก็จะประมาณว่า เน็ตเราไวนะตั้ง 4GB เน็ตเราช้าแพคเกจเราน้อย 500MB
แต่ความจริงมันมีอยู่ว่า ...
ในการให้ปริมาณเน็ตที่ทางเครือข่ายโฆษณา จะให้มาเป็นจำนวน " FUP " หรือเรียกอีกอย่างว่า Fair Usage Policy
ซึ่งเป็นปริมาณการดาวน์โหลด หรือ ขนาดของไฟล์ ที่เราจะสามารถดาวน์โหลดมันลงมาในเครื่องของเราได้
" ในความเร็วสูงสุด ณ จุดที่เราใช้งานอยู่ "
ซึ่งนั่นมีความหมายว่า จะมีเน็ต 4GB หรือ 500MB ก็สามารถมีความเร็วที่เท่ากันได้ ถ้ายังไม่เกิน " FUP "
ซึ่งแน่นอนว่า 500MB จะหมดก่อนทำให้เรารู้สึกว่าเน็ตเราจะต้องช้ากว่าเจ้า 4GB ตลอดเวลา
แต่ถ้าเน็ต 4GB เกิน FUP ไปแล้วแต่ 500MBเพิ่งตัดรอบบิลไป เมื่อทดสอบ 500MB กินขาดค่ะ ^_^
ถ้ายังไม่เข้าใจ ลองมาอ่านตัวอย่างกัน ^_^
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขณะนี้มีคำสั่งให้ยกเลิกการใช้คำว่า " Unlimited " กับแพ๊คเกจต่างๆในกรณีมี FUP แล้ว
กำลังแก้ไขข้อมูลให้เป็นปัจจุบันพร้อมตัวอย่างแบบปัจจุบัน
2. พื้นที่ที่เราใช้บริการยังมีระดับสัญญานที่อ่อน หรือ พื้นที่นั้นอับสัญญาน
ความหมายคือถึงแม้เราจะสมัครแพ๊คเกจใหม่ หรือ เพิ่งตัดรอบบิลไป
แต่ถ้าหากพื้นที่ที่เราใช้งานอยู่ มีสัญญานอ่อน ก็จะทำให้ความเร็วนั้นน้อยลง
3. พื้นที่บริเวณที่ใช้งานมีการใช้งานหนาแน่น เกิดการแย่งแบนวิธในบริเวณนั้น
แน่นอนว่า ณ จุดๆนึงทางเครือข่ายคงไม่วางเสาสัญญานไว้เป็นจำนวนมาก นั่นหมายความว่า
เราจะต้องแย่งแบนวิธจากทุกคนที่ใช้เครือข่ายเดียวกับเราในบริเวณนั้น
แล้วยิ่งการเดินทางของสัญญานเป็นไปได้อย่างลำบาก เช่น มีสิ่งกัดขวาง
ยิ่งทำให้ความเร็วเราลดช้าลงไปอีก
-------------------------------------------------------------------
เรื่องที่สอง " ทำไมเน็ตเราเกิน FUP ไวจัง ห้ะะะ !! "
เมื่อเราเข้าใจ FUP แล้ว เราก็จะเกิดวามสงสัยว่าไอเจ้าโทรศัพท์เนี่ย ในหนึ่งวัน
มันได้ไปดาวน์โหลดข้อมูลจำนวนมหาศาลอะไรขนาดที่แพ๊คเกจที่เราว่ามันพอดีแล้ว
ด๊านนนนน " เกิน FUP สะงั้น ! " ไปลุยหาสาเหตุกัน
1. อัพเดทแอพลิเคชั่น
ในแต่ละวันมักจะมีแอพในเครื่องเราเข้ามาให้อัพเดทเป็นประจำ ซึ่งการอัพเดทแอพนั้น
ส่วนตัวก็แนะนำว่าควรอัพเดทให้เป็นปัจจุบันเสมอ เพื่อความปลอดภัย และ การใช้งานที่ดีขึ้น
ซึ่ง ! การจะได้มันมาเราก็ต้องเอาปริมาณเน็ตที่มีอยู่น้อยนิดไปแลกมันมา
วิธีการแก้ไข :
- ในแพ๊คเกจที่มี Wifi ส่วนใหญ่จะให้เป็นไม่จำกัด ซึ่ง Wifi ในโปรโมชั่นส่วนใหญ่
จะใช้ได้ไม่จำกัดจริงๆ คือ ไม่มีติด FUP ! เราสามารถใช้ Wifi เหล่านั้นอัพเดท
เจ้าแอพลิเคชันอภิมหาใหญ่ยักษ์ได้
2. เน็ตไวเกินไปก็เกิดปัญหาได้นะ
บางแอพลิเคชั่น เช่น Facebook จะมีการเปิดวีดีโอที่เราเลื่อนผ่านโดยอัตโนมัติ
ซึ่งถ้าเน็ตเราไว ตัววีดีโอก็จะโหลดมาเร็วเราก็จะเสียข้อมูลดาต้าไปแล้วจำนวนหนึ่ง
ทั้งๆที่คลิปนั้นๆ เราไม่ได้สนใจจะไปดูมันแม้แต่น้อยยย !!
วิธีการแก้ไข : ทำการปิดได้ในตั้งค่านะคะ (
https://www.facebook.com/help/1406493312950827 )
หรือ
บางแอพลิเคชั่นจะมีระบบปรับความคมชัดอัตโนมัติในการเล่นวีดีโอ (วัดจากความเร็วเน็ต)
ซึ่งนั่นหมายความว่า ... เน็ตเร็วท่านก็จะได้ดู HD ชัดทะลุจอ(เย้ยยย) ซึ่งมันก็ต้อง
เอาจำนวนเน็ตอันน้อยนิดไปแลกภาพที่คมชัดมา (เปลืองชัดๆ!)
วิธีการแก้ไข : ทำการปิดได้ในตั้งค่านะคะ (
https://support.google.com/youtube/answer/91449?hl=th )
3. ใช้โทรศัพท์มาต่อคอมพ์สะเพลินนน
การที่เราเอาโทรศัพท์มาต่อกับคอมพิวเตอร์ ในคอมพิวเตอร์นั้น จะมีปริมาณการใช้
ข้อมูลดาต้า ค่อนข้างมาก ทั้งคุณภาพของภาพที่ถูกดาวน์โหลดเข้ามา
และ เว็ปบน Desktop ส่วนใหญ่ก็จะมีขนาดที่ต้องโหลดมาใหญ่กว่าบน Mobile อยู่แล้ว
เพราะฉะนั้น เน็ตเราก็หมดไวไงจ้ะ
วิธีก่ารแก้ไข : ถ้านานๆใช้ทีก็ยังโอเคจ้า แต่ถ้าใช้ประจำสมัครเน็ตบ้านจะคุ้มกว่านะ
4. การที่เราอนุญาตให้ แอพลิเคชันสามารถรีเฟรชตัวเองได้ในแบลคกราวน์
แอพลิเคชั่นบางตัวเช่น Facebook จะต้องทำการ รีเฟรช ตัวเองอยู่เสมอ ถึงแม้จะ
ทำงานอยู่เบื้องหลังก็ตาม เพราะข้อมูลของนาง " ต้องเป็นปัจจุบัน "
นั่นหมายความว่าทุกครั้งที่นางรีเฟรชตัวเอง เน็ตเราก็จะรั่วไปเพื่อตรวจสอบ
ว่ามีการเคลื่อนไหวอะไรบ้างไหมใน fb แล้วแจ้งเตือนให้เราได้ทราบ
เรื่องที่สาม " ดูยังไง เน็ตเราคือสัญญานอะไร ? "
สำหรับเครือข่ายที่เปิดให้บริการ 4G ไปแล้ว ซึ่งตอนนี้ก็น่าจะครบทั้ง 3 ค่ายใหญ่ยักษ์
ทั้ง แดง ฟ้า และ เขียว ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเมื่อมี 4G ให้ใช้เราก็จะสามารถเลือกได้
ว่าเราจะใช้สัญญานอะไรในการรับส่งข้อมูล Voice / Data ในเครื่องของเรา
ชี้ชัดตรงนี้เลยว่า ! สัญญานของเราจะบ่งบอกอยู่ด้านบนของจอ จะแสดงเป็น 4G 3G E หรือ GPRS
นั่นคือสัญญานที่เราได้รับในขณะนั้น ถึงแม้ในเครื่องเราจะมีปุ่มเปิด 4G ไม่ได้หมายความว่า
เราจะได้รับสัญญาน 4G เพราะถ้าคลื่นไม่มี มันก็ไร้ความหมาย ...
เรื่องที่สี่ " iPhone 7 - 7s - 8 - 8s จะมีหน้าจอ 3มิติ มีขาเดินมาหาได้ "
เคยเดินไปไหนก็แล้วแต่ แล้วได้ยินประโยคเหล่านี้ไหม ?
" แกๆดู iPhone 7 ดิ สวยมากอยากได้ "
" แกๆ iPhone 7 ออกอีกแล้ว ฉันเพิ่งซื้อ iPhone 6s ไปเองนะ "
" เห้ยยย iPhone 7 มันเดินมาหาเราได้ด้วยเว้ย "
" โหหห iPhone 7 มันมีจอ 3มิติ ดูดิ โคตรเจ๋ง "
ไม่ว่าโปรเจ็คอะไรก็ตามที่เป็นความลับ แน่นอนว่าถ้าบริษัทเก็บมันไว้ไม่ดีพอ
ข้อมูลมันก็จะรั่วไหลออกมา แต่! ถ้าบริษัทเจ้าของผลงาน ไม่ได้ออกมายืนยัน
นั่นหมายความว่า มันจะ จริง .. หรือ ไม่จริง จะ True หรือ จะ False นั่นไม่มีใครรู้ได้เลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้โดยส่วนใหญ่ iPhone จะเปิดตัวในช่วงเดือนกันยายน และ กว่าจะเข้าประเทศไทย
ก็จะเป็นประเทศกลุ่มที่ 3 หรือ 4 ไปจนกระทั่ง กลุ่มที่ 5 นั่นก็คือ ปลายๆเดือนตุลาคม
เพราะฉะนั้นโดยปกติ iPhone ก็จะมาแค่ปีละ 1 ครั้งไม่ว่าจะมีกี่รุ่น ก็จะเปิดตัวพร้อมกัน
ในช่วงของเดือนกันยายน เช่น iPhone 5s และ iPhone 5c หรือ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus
โดยส่วนใหญ่ข่าวในเว็ปที่เชื่อถือได้จะพาดหัวข่าว " ลือ! " " คาด! " นั่นแสดงว่า
จะจริงหรือไม่จริงก็ได้นะจ้ะ
เรื่องที่ห้า " iPhone หิ้ว และ iPhone ศูนย์ไทย "
iPhone หิ้ว คือ ?
- โดยปกติแล้วเนื่องจากการผลิตไอโฟนนั้นมีข้อจำกัดในหลายๆปัจจัยทำให้
เครื่องไม่เพียงพอในการจำหน่ายพร้อมกัน " ทั่วโลก " จึงทำให้ต้องมีการแบ่ง
กลุ่มประเทศที่ได้รับเครื่องไปจำหน่ายอย่างเป็นทางการ (เครื่องศูนย์)
เมื่อเริ่มเปิดขายทางร้านตู้ต่างๆก็จะทำการหิ้ว iPhone จากต่างประเทศ เข้ามา
และ ชาร์จราคาสูงขึ้นเกือบเท่าตัว (และมากขึ้นไปอีกสำหรับสีใหม่ หรือ สีที่คนต้องการ)
แต่ แต่ แต่ ... เมื่อประเทศไทยได้เปิดขายอย่างเป็นทางการ ราคามันจะกลับกัน
ราคาเครื่องหิ้วจะ " ถูกกว่า " ศูนย์ไทย
iPhone ศูนย์ไทย คือ ?
- เมื่อถึงเวลาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ทางผู้ให้บริการ(เครือข่าย) ที่มีสิทธิ์ในการ
รับเครื่องจาก Apple จะเปิดจอง Pre-Order ก่อนประมาณ 1-2 สัปดาห์ก่อนวันจำหน่ายจริง
และ ทาง Apple Online Store จะเปิดขาย(ที่ผ่านมาไม่มี Pre-Order) ในวันจำหน่ายจริง
ซึ่งราคาแต่ละที่อาจจะไม่เท่ากัน ต้องติดตามกันเองในปีนั้นๆ
เรื่องที่หก " iPhone หิ้ว กับ iPhone ศูนย์ไทย อะไรดีกว่ากัน "
ว่าในเรื่องของคุณภาพ iPhone ทุกเครื่องจาก Apple ได้ผ่านการตรวจสอบแล้ว
เพราะฉะนั้นในเรื่องของคุณภาพ ไม่ต้องกังวล
ปัญหามีอยู่ว่า ...
ประกันของไอโฟนนั้น Apple ให้สิทธิ์เคลมหรือรับการดูแลเฉพาะประเทศที่ซื้อมา
ซึ่งนั่นหมายความว่าซื้อจากประเทศไหนก็ต้องเคลมที่ประเทศนั้น
สรุป = ถ้าหากว่ามีเงินพอ ไม่เดือดร้อน และ สามารถที่จะยอมรับความเสี่ยง
ในการเกิดปัญหาได้ สามารถซื้อเครื่องหิ้วได้ (ได้ใช้ก่อนประมาณ 1-2 เดือน)
แต่ถ้าหากอยากได้เครื่องที่ราคาไทย และ สามารถเคลมเครื่องได้ที่ประเทศไทย
ก็ต้องรอ ซึ่งในแต่ละปี กำหนดวันจำหน่ายในไทยจะไม่เหมือนกัน
อยู่ในช่วง ตุลาคม-พฤศจิกายน จ้า
เรื่องที่เจ็ด " iPhone ศูนย์ไทย สีใหม่ๆ สีฮอตๆ แพงกว่าจริงหรอ ? "
เมื่อราคาเครื่องหิ้วนั้น สีใหม่มักจะแพงกว่าเสมอ ทำให้คนส่วนใหญ่คิดไปเองว่า
เครื่องศูนย์ก็ต้องแพงกว่า แต่ความเป็นจริงแล้ว ตอบชัดๆได้เลยว่า
iPhone ศูนย์ไทยรุ่นล่าสุดในแต่ละปี จะใช้ ความจุ และ ขนาดหน้าจอ
เป็นตัวกำหนดราคาไม่เกี่ยวกับ " สี " นะจ้ะ
เรื่องที่แปด " เครื่องพร้อมแพ๊คเกจ และ เครื่องเปล่า "
**เครื่องพร้อมแพ๊คเกจนั้นจะมีให้เลือกเฉพาะซื้อกับผู้ให้บริการ 3 เครือข่ายในไทย
ส่วน เครื่องเปล่านั้นจะมีทั้งผู้บริการเครือข่าย และ Apple Online Store**
- เครื่องพร้อมแพ๊คเกจคือเครื่องที่ราคาถูกกว่าเครื่องเปล่า ประมาณ 2-3000 บาท
แต่ต้องแลกด้วยการติดสัญญาใช้บริการเครือข่าย ตามโปรโมชั่นขั้นต่ำที่กำหนดหรือมากกว่า
(ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดในแต่ละปี)
- เครื่องเปล่าคือเครื่องที่มีราคาแพงกว่าเครื่องพร้อมแพ๊คเกจ แต่!
เราจะไม่ต้องเซ็นสัญญาใช้บริการเครือข่ายนั้นๆ
สรุป = เครื่องพร้อมแพ๊คเกจเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นลูกค้าของเครือข่ายนั้นอยู่แล้ว
หรือต้องการที่จะย้ายมาใช้บริการเครือข่ายนั้นอยู่แล้ว โดยได้เลือกแพ๊คเกจ
ที่มีราคามากกว่าหรือเท่ากับข้อกำหนด ไว้อยู่แล้ว [ จึงจะถือว่าคุ้ม ! ]
เครื่องเปล่าเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่อง โดยไม่ติดสัญญา หรือ ผู้ที่อยากจะใช้
แพ๊คเกจในราคาที่ต่ำกว่าข้อกำหนดของเครื่องพร้อมแพ๊คเกจ
#3 มีข้อมูลที่เหลืออยู่ในนั้นนะจ้ะ
เรื่องที่ยังค้างอยู่จะพยายามพิมพ์ให้อ่านกันเร็วๆนี้ทุกเรื่องจะต้องครบ
ต้องแจ่มแจ้ง ! สงสัยอะไรเพิ่มเติม หรือ ข้อมูลผิดพลาดแจ้งได้เลย
" ใช้โทรศัพท์เป็นที่แท้จริง " หยุด! หลายความเชื่อผิดๆในหลายๆเรื่อง
++ เน็ตโทรศัพท์เบื้องต้น ++
++ เจาะลึกข้อมูล iPhone ++
ข้อมูลเสริม
++ เน็ตบ้าน ADSL vs FTTx & FTTh vs FTTb vs DOCSIS ++
เรื่องแรก สาเหตุที่เน็ตเราช้า ?
1. " ปริมาณ GPRS / 2G / 3G / 4G " ที่ใช้ได้ในแพ็คเกจต่างๆ !
ที่เมย์เคยเห็นหลายๆคนพูดกันก็จะประมาณว่า เน็ตเราไวนะตั้ง 4GB เน็ตเราช้าแพคเกจเราน้อย 500MB
แต่ความจริงมันมีอยู่ว่า ...
ในการให้ปริมาณเน็ตที่ทางเครือข่ายโฆษณา จะให้มาเป็นจำนวน " FUP " หรือเรียกอีกอย่างว่า Fair Usage Policy
ซึ่งเป็นปริมาณการดาวน์โหลด หรือ ขนาดของไฟล์ ที่เราจะสามารถดาวน์โหลดมันลงมาในเครื่องของเราได้
" ในความเร็วสูงสุด ณ จุดที่เราใช้งานอยู่ "
ซึ่งนั่นมีความหมายว่า จะมีเน็ต 4GB หรือ 500MB ก็สามารถมีความเร็วที่เท่ากันได้ ถ้ายังไม่เกิน " FUP "
ซึ่งแน่นอนว่า 500MB จะหมดก่อนทำให้เรารู้สึกว่าเน็ตเราจะต้องช้ากว่าเจ้า 4GB ตลอดเวลา
แต่ถ้าเน็ต 4GB เกิน FUP ไปแล้วแต่ 500MBเพิ่งตัดรอบบิลไป เมื่อทดสอบ 500MB กินขาดค่ะ ^_^
ถ้ายังไม่เข้าใจ ลองมาอ่านตัวอย่างกัน ^_^
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2. พื้นที่ที่เราใช้บริการยังมีระดับสัญญานที่อ่อน หรือ พื้นที่นั้นอับสัญญาน
ความหมายคือถึงแม้เราจะสมัครแพ๊คเกจใหม่ หรือ เพิ่งตัดรอบบิลไป
แต่ถ้าหากพื้นที่ที่เราใช้งานอยู่ มีสัญญานอ่อน ก็จะทำให้ความเร็วนั้นน้อยลง
3. พื้นที่บริเวณที่ใช้งานมีการใช้งานหนาแน่น เกิดการแย่งแบนวิธในบริเวณนั้น
แน่นอนว่า ณ จุดๆนึงทางเครือข่ายคงไม่วางเสาสัญญานไว้เป็นจำนวนมาก นั่นหมายความว่า
เราจะต้องแย่งแบนวิธจากทุกคนที่ใช้เครือข่ายเดียวกับเราในบริเวณนั้น
แล้วยิ่งการเดินทางของสัญญานเป็นไปได้อย่างลำบาก เช่น มีสิ่งกัดขวาง
ยิ่งทำให้ความเร็วเราลดช้าลงไปอีก
-------------------------------------------------------------------
เรื่องที่สอง " ทำไมเน็ตเราเกิน FUP ไวจัง ห้ะะะ !! "
เมื่อเราเข้าใจ FUP แล้ว เราก็จะเกิดวามสงสัยว่าไอเจ้าโทรศัพท์เนี่ย ในหนึ่งวัน
มันได้ไปดาวน์โหลดข้อมูลจำนวนมหาศาลอะไรขนาดที่แพ๊คเกจที่เราว่ามันพอดีแล้ว
ด๊านนนนน " เกิน FUP สะงั้น ! " ไปลุยหาสาเหตุกัน
1. อัพเดทแอพลิเคชั่น
ในแต่ละวันมักจะมีแอพในเครื่องเราเข้ามาให้อัพเดทเป็นประจำ ซึ่งการอัพเดทแอพนั้น
ส่วนตัวก็แนะนำว่าควรอัพเดทให้เป็นปัจจุบันเสมอ เพื่อความปลอดภัย และ การใช้งานที่ดีขึ้น
ซึ่ง ! การจะได้มันมาเราก็ต้องเอาปริมาณเน็ตที่มีอยู่น้อยนิดไปแลกมันมา
วิธีการแก้ไข :
- ในแพ๊คเกจที่มี Wifi ส่วนใหญ่จะให้เป็นไม่จำกัด ซึ่ง Wifi ในโปรโมชั่นส่วนใหญ่
จะใช้ได้ไม่จำกัดจริงๆ คือ ไม่มีติด FUP ! เราสามารถใช้ Wifi เหล่านั้นอัพเดท
เจ้าแอพลิเคชันอภิมหาใหญ่ยักษ์ได้
2. เน็ตไวเกินไปก็เกิดปัญหาได้นะ
บางแอพลิเคชั่น เช่น Facebook จะมีการเปิดวีดีโอที่เราเลื่อนผ่านโดยอัตโนมัติ
ซึ่งถ้าเน็ตเราไว ตัววีดีโอก็จะโหลดมาเร็วเราก็จะเสียข้อมูลดาต้าไปแล้วจำนวนหนึ่ง
ทั้งๆที่คลิปนั้นๆ เราไม่ได้สนใจจะไปดูมันแม้แต่น้อยยย !!
วิธีการแก้ไข : ทำการปิดได้ในตั้งค่านะคะ ( https://www.facebook.com/help/1406493312950827 )
หรือ
บางแอพลิเคชั่นจะมีระบบปรับความคมชัดอัตโนมัติในการเล่นวีดีโอ (วัดจากความเร็วเน็ต)
ซึ่งนั่นหมายความว่า ... เน็ตเร็วท่านก็จะได้ดู HD ชัดทะลุจอ(เย้ยยย) ซึ่งมันก็ต้อง
เอาจำนวนเน็ตอันน้อยนิดไปแลกภาพที่คมชัดมา (เปลืองชัดๆ!)
วิธีการแก้ไข : ทำการปิดได้ในตั้งค่านะคะ ( https://support.google.com/youtube/answer/91449?hl=th )
3. ใช้โทรศัพท์มาต่อคอมพ์สะเพลินนน
การที่เราเอาโทรศัพท์มาต่อกับคอมพิวเตอร์ ในคอมพิวเตอร์นั้น จะมีปริมาณการใช้
ข้อมูลดาต้า ค่อนข้างมาก ทั้งคุณภาพของภาพที่ถูกดาวน์โหลดเข้ามา
และ เว็ปบน Desktop ส่วนใหญ่ก็จะมีขนาดที่ต้องโหลดมาใหญ่กว่าบน Mobile อยู่แล้ว
เพราะฉะนั้น เน็ตเราก็หมดไวไงจ้ะ
วิธีก่ารแก้ไข : ถ้านานๆใช้ทีก็ยังโอเคจ้า แต่ถ้าใช้ประจำสมัครเน็ตบ้านจะคุ้มกว่านะ
4. การที่เราอนุญาตให้ แอพลิเคชันสามารถรีเฟรชตัวเองได้ในแบลคกราวน์
แอพลิเคชั่นบางตัวเช่น Facebook จะต้องทำการ รีเฟรช ตัวเองอยู่เสมอ ถึงแม้จะ
ทำงานอยู่เบื้องหลังก็ตาม เพราะข้อมูลของนาง " ต้องเป็นปัจจุบัน "
นั่นหมายความว่าทุกครั้งที่นางรีเฟรชตัวเอง เน็ตเราก็จะรั่วไปเพื่อตรวจสอบ
ว่ามีการเคลื่อนไหวอะไรบ้างไหมใน fb แล้วแจ้งเตือนให้เราได้ทราบ
เรื่องที่สาม " ดูยังไง เน็ตเราคือสัญญานอะไร ? "
สำหรับเครือข่ายที่เปิดให้บริการ 4G ไปแล้ว ซึ่งตอนนี้ก็น่าจะครบทั้ง 3 ค่ายใหญ่ยักษ์
ทั้ง แดง ฟ้า และ เขียว ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเมื่อมี 4G ให้ใช้เราก็จะสามารถเลือกได้
ว่าเราจะใช้สัญญานอะไรในการรับส่งข้อมูล Voice / Data ในเครื่องของเรา
ชี้ชัดตรงนี้เลยว่า ! สัญญานของเราจะบ่งบอกอยู่ด้านบนของจอ จะแสดงเป็น 4G 3G E หรือ GPRS
นั่นคือสัญญานที่เราได้รับในขณะนั้น ถึงแม้ในเครื่องเราจะมีปุ่มเปิด 4G ไม่ได้หมายความว่า
เราจะได้รับสัญญาน 4G เพราะถ้าคลื่นไม่มี มันก็ไร้ความหมาย ...
เรื่องที่สี่ " iPhone 7 - 7s - 8 - 8s จะมีหน้าจอ 3มิติ มีขาเดินมาหาได้ "
เคยเดินไปไหนก็แล้วแต่ แล้วได้ยินประโยคเหล่านี้ไหม ?
" แกๆดู iPhone 7 ดิ สวยมากอยากได้ "
" แกๆ iPhone 7 ออกอีกแล้ว ฉันเพิ่งซื้อ iPhone 6s ไปเองนะ "
" เห้ยยย iPhone 7 มันเดินมาหาเราได้ด้วยเว้ย "
" โหหห iPhone 7 มันมีจอ 3มิติ ดูดิ โคตรเจ๋ง "
ไม่ว่าโปรเจ็คอะไรก็ตามที่เป็นความลับ แน่นอนว่าถ้าบริษัทเก็บมันไว้ไม่ดีพอ
ข้อมูลมันก็จะรั่วไหลออกมา แต่! ถ้าบริษัทเจ้าของผลงาน ไม่ได้ออกมายืนยัน
นั่นหมายความว่า มันจะ จริง .. หรือ ไม่จริง จะ True หรือ จะ False นั่นไม่มีใครรู้ได้เลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โดยส่วนใหญ่ข่าวในเว็ปที่เชื่อถือได้จะพาดหัวข่าว " ลือ! " " คาด! " นั่นแสดงว่า
จะจริงหรือไม่จริงก็ได้นะจ้ะ
เรื่องที่ห้า " iPhone หิ้ว และ iPhone ศูนย์ไทย "
iPhone หิ้ว คือ ?
- โดยปกติแล้วเนื่องจากการผลิตไอโฟนนั้นมีข้อจำกัดในหลายๆปัจจัยทำให้
เครื่องไม่เพียงพอในการจำหน่ายพร้อมกัน " ทั่วโลก " จึงทำให้ต้องมีการแบ่ง
กลุ่มประเทศที่ได้รับเครื่องไปจำหน่ายอย่างเป็นทางการ (เครื่องศูนย์)
เมื่อเริ่มเปิดขายทางร้านตู้ต่างๆก็จะทำการหิ้ว iPhone จากต่างประเทศ เข้ามา
และ ชาร์จราคาสูงขึ้นเกือบเท่าตัว (และมากขึ้นไปอีกสำหรับสีใหม่ หรือ สีที่คนต้องการ)
แต่ แต่ แต่ ... เมื่อประเทศไทยได้เปิดขายอย่างเป็นทางการ ราคามันจะกลับกัน
ราคาเครื่องหิ้วจะ " ถูกกว่า " ศูนย์ไทย
iPhone ศูนย์ไทย คือ ?
- เมื่อถึงเวลาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ทางผู้ให้บริการ(เครือข่าย) ที่มีสิทธิ์ในการ
รับเครื่องจาก Apple จะเปิดจอง Pre-Order ก่อนประมาณ 1-2 สัปดาห์ก่อนวันจำหน่ายจริง
และ ทาง Apple Online Store จะเปิดขาย(ที่ผ่านมาไม่มี Pre-Order) ในวันจำหน่ายจริง
ซึ่งราคาแต่ละที่อาจจะไม่เท่ากัน ต้องติดตามกันเองในปีนั้นๆ
เรื่องที่หก " iPhone หิ้ว กับ iPhone ศูนย์ไทย อะไรดีกว่ากัน "
ว่าในเรื่องของคุณภาพ iPhone ทุกเครื่องจาก Apple ได้ผ่านการตรวจสอบแล้ว
เพราะฉะนั้นในเรื่องของคุณภาพ ไม่ต้องกังวล
ปัญหามีอยู่ว่า ...
ประกันของไอโฟนนั้น Apple ให้สิทธิ์เคลมหรือรับการดูแลเฉพาะประเทศที่ซื้อมา
ซึ่งนั่นหมายความว่าซื้อจากประเทศไหนก็ต้องเคลมที่ประเทศนั้น
สรุป = ถ้าหากว่ามีเงินพอ ไม่เดือดร้อน และ สามารถที่จะยอมรับความเสี่ยง
ในการเกิดปัญหาได้ สามารถซื้อเครื่องหิ้วได้ (ได้ใช้ก่อนประมาณ 1-2 เดือน)
แต่ถ้าหากอยากได้เครื่องที่ราคาไทย และ สามารถเคลมเครื่องได้ที่ประเทศไทย
ก็ต้องรอ ซึ่งในแต่ละปี กำหนดวันจำหน่ายในไทยจะไม่เหมือนกัน
อยู่ในช่วง ตุลาคม-พฤศจิกายน จ้า
เรื่องที่เจ็ด " iPhone ศูนย์ไทย สีใหม่ๆ สีฮอตๆ แพงกว่าจริงหรอ ? "
เมื่อราคาเครื่องหิ้วนั้น สีใหม่มักจะแพงกว่าเสมอ ทำให้คนส่วนใหญ่คิดไปเองว่า
เครื่องศูนย์ก็ต้องแพงกว่า แต่ความเป็นจริงแล้ว ตอบชัดๆได้เลยว่า
iPhone ศูนย์ไทยรุ่นล่าสุดในแต่ละปี จะใช้ ความจุ และ ขนาดหน้าจอ
เป็นตัวกำหนดราคาไม่เกี่ยวกับ " สี " นะจ้ะ
เรื่องที่แปด " เครื่องพร้อมแพ๊คเกจ และ เครื่องเปล่า "
**เครื่องพร้อมแพ๊คเกจนั้นจะมีให้เลือกเฉพาะซื้อกับผู้ให้บริการ 3 เครือข่ายในไทย
ส่วน เครื่องเปล่านั้นจะมีทั้งผู้บริการเครือข่าย และ Apple Online Store**
- เครื่องพร้อมแพ๊คเกจคือเครื่องที่ราคาถูกกว่าเครื่องเปล่า ประมาณ 2-3000 บาท
แต่ต้องแลกด้วยการติดสัญญาใช้บริการเครือข่าย ตามโปรโมชั่นขั้นต่ำที่กำหนดหรือมากกว่า
(ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดในแต่ละปี)
- เครื่องเปล่าคือเครื่องที่มีราคาแพงกว่าเครื่องพร้อมแพ๊คเกจ แต่!
เราจะไม่ต้องเซ็นสัญญาใช้บริการเครือข่ายนั้นๆ
สรุป = เครื่องพร้อมแพ๊คเกจเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นลูกค้าของเครือข่ายนั้นอยู่แล้ว
หรือต้องการที่จะย้ายมาใช้บริการเครือข่ายนั้นอยู่แล้ว โดยได้เลือกแพ๊คเกจ
ที่มีราคามากกว่าหรือเท่ากับข้อกำหนด ไว้อยู่แล้ว [ จึงจะถือว่าคุ้ม ! ]
เครื่องเปล่าเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่อง โดยไม่ติดสัญญา หรือ ผู้ที่อยากจะใช้
แพ๊คเกจในราคาที่ต่ำกว่าข้อกำหนดของเครื่องพร้อมแพ๊คเกจ
#3 มีข้อมูลที่เหลืออยู่ในนั้นนะจ้ะ
เรื่องที่ยังค้างอยู่จะพยายามพิมพ์ให้อ่านกันเร็วๆนี้ทุกเรื่องจะต้องครบ
ต้องแจ่มแจ้ง ! สงสัยอะไรเพิ่มเติม หรือ ข้อมูลผิดพลาดแจ้งได้เลย