[SR] เที่ยวฮิปๆ รอบเมืองพัทยา"ไปกับ New Attrage Smart eco car (2016)

สวัสดีทุกท่านนะครับ มีวันว่าง 2 วันที่ไม่ใช่วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ เลยถือโอกาสเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปเที่ยวพักผ่อน

ส่วนตัวถ้าเลือกได้ ชอบไปเที่ยวช่วงที่คนไม่เยอะครับ (ปกติก็เลือกไม่ค่อยได้ ) พอถึงเวลาเลือกได้ เลยเลือกจะไปเที่ยวที่ไม่ไกลจากกรุงเทพ ซึ่งก็คือพัทยานั่นเอง


ก่อนไปหาข้อมูลใน Google ว่ามีที่ไหนน่าสนใจและน่าไป สรุปคือไปเที่ยวที่ Mimosa Pattaya, The Sky Gallery แล้วก็ Silverlake Vineyard ครับ
พาหนะในการเดินทางของเราครั้งนี้คือ New Attrage Smart eco car MY16 รุ่นGLS-LTDที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน  DOHC MIVEC 1.2 ลิตร 78 แรงม้า พร้อมดีไซน์ใหม่ที่ดู Sport และ Smart มากขึ้น กระจังหน้าโครเมียมรมดำมาคู่กันกับล้อสีเงินรมดำ พร้อมชุดไฟตกแต่งแบบ LED บริเวณกันชนหน้า ห้องโดยสารภายในก็ตกแต่งใหม่แบบ Piano Black ให้ความรู้สึกหรูหราดูดีกว่ารุ่นก่อนหน้านี้

ครั้งแรกที่ได้เห็นจากภายนอกก็รู้สึกว่า เออ...สวยดีแฮะ ไม่ได้ดูเป็นรถกระป๋องคันเล็กๆ เหมือนที่เคยคิดเอาไว้ และขอสารภาพตรงๆ ว่าไม่ผมเคยขับรถ Eco car ออกต่างจังหวัดเลยครับ ขับรถไปเที่ยวพัทยาครั้งนี้จึงถือเป็นโอกาสที่ได้สัมผัสและทดสอบ New Attrage MY16 นี้ไปด้วยในตัวเลยแล้วกัน









เราเริ่มเดินทางโดยใช้ระบบ Navigator ที่ให้มาพร้อมกับรถในรุ่นนี้ นำทางจากบ้านที่ปทุมธานี ซึ่งปกติจะใช้ Appในมือถือเสียมากกว่า แต่ปัญหาที่ตามมาคือแบตหมดไวมาก พอได้ลองใช้ Navigator ที่ติดมาให้ในรถก็ทำให้หมดกังวลในเรื่องนี้ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะใช้งานได้ดีขนาดไหน



พอได้ใช้งานจริงถึงได้รู้ว่าระบบ Navigator ของNew Attrage MY16 นี้ บอกเส้นทางได้อย่างละเอียด แม่นยำ สถานที่ระหว่างทางที่ผ่าน บางช่วงที่ดูแล้วไม่มั่นใจว่าจะขับไปเข้าช่องไหนหรือเลนไหนก็จะมีภาพขึ้นมาเป็นแบบ 3 มิติให้เราเข้าใจได้ง่ายขึ้นด้วย แถมเมื่อถึงทางด่วนที่ต้องจ่ายเงิน จะมีเสียงเตือนบอกราคาค่าทางด่วนที่ต้องจ่ายให้เลยว่ากี่บาท เพื่อจะได้เตรียมเงินให้พร้อมด้วย





เราเดินทางกันที่ความเร็ว 80-100 km/hr. แต่พอถึงช่วง100-120 km/hr. ก็จะมีเสียงเตือนจาก Navigator ว่า "โปรดขับอย่างระมัดรวัง" ซึ่งความเร็วในย่านนี้จากที่สัมผัสมา ถ้าไม่มีกระแสลมแรงมากๆ เช่น บนที่สูงๆ อย่างโทลล์เวย์ New Attrage Smart eco car MY16 ทำได้ค่อนข้างดีในการเดินทาง แต่ตอนจะเข้าโค้งแรกๆ ก็มีแอบหวั่นๆ ใจบ้าง แต่ยังดีที่รถคันนี้มีตัวช่วยเพิ่ม คือ ระบบ ASC ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว และระบบ TCL ป้องกันการลื่นไถลก็ช่วยให้เราควบคุมรถผ่านโค้งมาได้อย่างมั่นใจมากขึ้น




ตอนที่ต้องการเร่งแซงคันอื่น ระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ก็ช่วยให้ตอบสนองการสั่งงานได้ทันใจมากครับ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะน้ำหนักและขนาดของรถ มั่นใจว่าถึงช่วงเร่งแซงก็เร่งได้ปลอดภัยดีไม่มีปัญหาอะไร

แถมยังมีระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์อัจฉริยะ INVEC III ช่วยวิเคราะห์จดจำลักษณะการขับขี่ แล้วนำไปประมวลผลในการเปลี่ยนเกียร์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการขับขี่ตามสไตล์ของแต่ละคนอีกต่างหาก


ระหว่างทำความเร็วในการเดินทาง มีหลายครั้งที่ต้องเบรคชะลอความเร็วและเบรคแบบกระทันหัน ระบบป้องกันล้อล็อคขณะเบรก ABS และระบบเสริมแรงเบรก BA ของรถคันนี้ ก็ช่วยให้หยุดรถได้อย่างทันใจแบบปลอดภัยหายห่วงเลยครับ
เรายังคงเดินทางต่อไป ด้วยการเลี่ยงเส้นทางจราจรที่ติดขัดในเมืองพัทยาผมว่า New Attrage MY16 นี้ ขับได้คล่องตัวดี ซอกแซกตามตรอกซอกซอยเล็กๆ ได้ง่ายดี ไม่มีปัญหาครับ




จนในที่สุดเราก็มาถึง Mimosa Pattaya แหล่งช้อปปิ้งที่จำลองบรรยากาศของเมืองโกลมาร์ประเทศฝรั่งเศส เมืองที่ได้ชื่อว่าโรแมนติคติด1ใน10ของโลก



อย่างที่เกริ่นไว้ตอนแรกว่าเราเลือกที่จะไปช่วงวันธรรมดา พอมาถึงเลยไม่เจอผู้คนมากมาย
ที่นี่หลักๆ เป็นแหล่งช้อปปิ้งครับ เหมาะสำหรับถ่ายรูป และรับประทานอาหาร ด้านในมีโชว์ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชม ตอนไปถึงเป็นช่วงเวลาเย็นแล้ว แถมเริ่มหิวเลยไม่ได้อยู่ที่นี่กันนานอย่างที่ตั้งใจไว้ในตอนแรก






เอ๊ะ...หิวแล้วทำไมไม่หาอะไรกินที่ Mimosa Pattaya ล่ะ คำตอบคือ เราตั้งใจจะไปร้านThe Sky Galleryกันครับ ซึ่งร้านนี้เหมาะเป็นอย่างมากสำหรับการรับประทานอาหารชมพระอาทิตย์ตก ถือเป็นสถานที่หนึ่งที่โรแมนติคมากๆ ในพัทยา

ร้าน The Sky Gallery ห่างจาก Mimosa ประมาณ 6 กิโลเมตร เราฝ่าการจราจรที่ติดขัดในเมืองพัทยาอย่างเลี่ยงไม่ได้ และต้องขับขึ้นไปบนเส้นทางเขาบริเวณพระตำหนัก ก็จะถึงร้านThe Sky Gallery

ช่วงที่ต้องขับรถขึ้นเขา เจ้า New Attrage MY16 ตัวนี้ ก็ยังทำหน้าที่ได้ดีมี ระบบ HSAซึ่งเป็นระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชันช่วยในเรื่องการสตาร์ทรถที่จอดบนเนินสูงได้ดี และเมื่อลองปรับมาใช้เกียร์ L ก็ช่วยให้รถสามารถเดินทางบนถนนที่มีความชันได้ง่ายขึ้น ไม่ได้ทำให้มีรู้สึกว่า รถ Eco car คันนี้ จะขึ้นเขาไม่ไหวเลยแม้แต่น้อย







โชคยังดีที่ตอนเราไปถึงร้านยังมีโต๊ะว่าง และที่จอดที่เหลืออยู่นิดเดียวก็ไม่ได้สร้างปัญหาในการจอดให้กับเราแต่อย่างไร เพราะหลังจากนั้นไม่นานนักทุกโต๊ะก็เต็มไปด้วยผู้คนที่มานั่งรับประทานอาหารชมพระอาทิตย์ตก ด้วยความที่ดูแล้วว่าอาหารที่สั่งคงได้ช้าเพราะคนเยอะ เลยสั่งอาหารมาแค่ 2อย่าง คือ ทอณินญ่าอบชีส และซี่โครงหมูซอสบาบีคิวกับมันบด






บรรยากาศของที่นี่ทำให้รู้สึกว่า คุ้มค่ามากสำหรับการใช้เวลาในวันหยุดพักผ่อนกับครอบครัว ราคาอาหารไม่แพงมากนักและรสชาติก็อร่อย

ออกจากร้าน The Sky Gallery เรากลับเข้าที่พัก Blue mountain view ตรงซอยสุขุมวิท 85 โดย ที่ยังต้องฝ่าดงรถติด และเมื่อพูดถึงรถติด คงต้องพูดถึงระบบ FCM-LS ซึ่งเป็นระบบเตือนการชนด้านหน้าอัจฉริยะที่มีมาให้ใน New Attrage Smart eco car MY16 คันนี้ สมมติว่าเรากำลังขับรถอยู่ และรถคันที่อยู่ด้านหน้าเกิดหยุดกระทันหัน เมื่อระบบ FCM-LS ประเมินแล้วว่ามีโอกาสที่จะชนรถคันหน้า ระบบจะมีการเตือนและช่วยชะลอความเร็วรถอัตโนมัติ ถือว่าเป็นตัวช่วยเสริมในเรื่องของความปลอดภัยได้ดีมากเลยครับ นอกจากนี้ยังมีอีกระบบใหม่ที่มาพร้อมกับรถรุ่นนี้ คือ ระบบ RMS - Forward โดยระบบก็จะมีเสียงเตือนและตัดกำลังเครื่องยนต์อัตโนมัติในกรณีเผลอเหยียบคันเร่งผิดพลาด ทำให้ให้ผู้ขับขี่ได้สติและเปลี่ยนมาเหยียบแป้นเบรกได้ทัน ช่วยลดความเสียหายถ้ามีการเหยียบคันเร่งผิดพลาดด้อย่างดีเลยครับ แต่ผมก็ยังไม่กล้าทดสอบด้วยตัวเองนะครับ แต่มีไว้ก็ดีเผื่อมือใหม่หัดขับคนไหนขี้ตกใจเหยียบผิดๆถูกๆ เอาเป็นว่า ผมว่ามีไว้ดีกว่าไม่มีครับ






เช้าวันต่อมาจากข้อมูลตามระบบ Navigator ไร่องุ่น Silverlake อยู่ห่างจากที่พักของเรา 16 กม.ระหว่างเส้นทางไปไร่องุ่น Silverlake New Attrage Smart eco car MY16 ยังคงทำหน้าที่ในการพาเราเดินทางไปยังจุดหมายได้เป็นอย่างดี ตอบสนองทันใจ



เมื่อไปถึงจุดหมาย ถ้าจะมาเที่ยวที่นี่แนะนำให้มาช่วงเช้าๆ ที่แดดยังไม่ร้อนมาก นอกจากไร่องุ่นกับร้านอาหารแล้ว ด้านในก็มีโซนเครื่องเล่น โซน Adventure ต่างๆ นักท่องเที่ยวที่นี่มากกว่า 70% จะเป็นชาวต่างชาติเสียมากกว่า ซึ่งหลังจากที่เราไปถึงได้ไม่ถึง 1 ชั่วโมงก็เริ่มมีทัวร์ต่างชาติมาเที่ยวชม









เราใช้เวลาอยู่กันที่นี่นานกว่าที่อื่นๆ ที่ผ่านมา แล้วเราก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ กันในช่วงบ่ายๆ ขากลับออกมาแวะเขาชีจันทร์ซึ่งเลยจาก Silverlake มาไม่ไกล
ถือเป็นทริปหนึ่งที่สนุกมากๆ และเป็นครั้งแรกของการได้ขับ Eco car ออกต่างจังหวัดอย่างประทับใจในสมรรถนะมากครับ

จุดเด่นอีกเรื่องที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือ New Attrage Smart eco car MY16 นี้ ประหยัดน้ำมันมาก จากข้อมูลที่เห็นตามสื่อโฆษณา คือประมาณ 23.3 km/L ทำให้ทริปนี้ผมหมดค่าน้ำมันไปเพียง 700 บาท กับการเดินทางตลอดทริปที่มีออกนอกเส้นทางเปลี่ยนแผนกันอยู่ตลอดร่วมๆ400 กิโลเมตร โดยความเร็วในการเดินทางเฉลี่ยอยู่ที่100-120 km/hr. หรืออาจจะมากกว่า

แถมทราบมาว่า New Attrage Smart Eco Car MY16 นี้มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำสุดเพียง 99กรัม/กิโลเมตร ถือเป็นEco car ที่ต้องบอกว่า'จิ๋วแต่แจ๋ว' บนมาตรฐานเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ล้ำกว่ารถในกลุ่มเดียวกันจริงๆครับ
ชื่อสินค้า:   Mitsubishi Attrage
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่