ขอบอกไว้ก่อนเลยครับ ว่ากระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่ผมโพสท์ในพันธุ์ทิพย์
ขอเริ่มเล่าที่มาที่ไปก่อนนะครับ
คือ..... ผมต้องการจะทำเรื่องกู้ซื้อบ้านให้ทันโปรโมชั่นของรัฐบาลที่ลดอัตราค่าจดจำนองเหลือ 0.01%
เลยเป็นแรงผลักดันสำคัญให้ผมรีบไปทำสัญญากับโครงการบ้านแห่งหนึ่ง
สิ่งที่ตามมาคือ ผมต้องยื่นเอกสารเกี่ยวกับรายได้ของผม
ปัญหาก็คือ ลำพังเงินเดือนของผมยังไงก้กู้ไม่ผ่าน
แต่เผอิญว่าผมมีกิจการที่ผมได้หุ้นกับเพื่อนของผมไว้
ซึ่งก็มีผลประกอบการค่อนข้างดี (รายรับประมาณหลักแสนต่อเดือนครับ)
ผมก็เลยอยากจะเอาธุรกิจตัวนี้ยื่นประกอบด้วย
แต่....... อุปสรรคสำคัญก็คือ ธุรกิจที่ผมทำกับเพื่อนดันเป็นธุรกิจที่เช่าพื้นที่ในห้างเซ็นทรัล(ขอสงวนชื่อสาขาครับ)ในการประกอบกิจการ
ซึ่งเพื่อนผมเป็นผู้ทำสัญญากับเซ็นทรัลแต่เพียงผู้เดียว (ตอนนั้นไม่ได้คิดถึงเรื่องจะกู้แบงค์นี่หว่า)
ผมเป็นเพียงหุ้นส่วนเท่านั้นเอง ทะเบียนการค้าก็ยังไม่ได้จด
ดังนั้นเวลาผมอ้างธุรกิจตัวนี้ให้ธนาคารที่จะปล่อยสินเชื่อ จึงมีปัญหามาก
โดยธนาคารอ้างว่า ผมไม่มี Reference ซึ่งผมก็ยอมรับครับว่าที่ผ่านมาไม่ต้องการให้ปรากฎชื่อตัวเองในระบบธุรกิจ เพื่อเหตุผลทางภาษี
ซึ่งหารู้ไม่ว่า ผมเสียโอกาสอะไรอีกหลายๆ เลยในชีวิต
กลับมาเข้าเรื่องต่อครับ
หลังจากที่ธนาคารบอกกับผมแบบนั้น ผมจึงถามธนาคารต่อว่า แล้วจะให้ผมทำอย่างจึงจะเป็นการการันตีรายได้ของผมประกอบการขอสินเชื่อ
ธนาคารจึงบอกว่า ให้ผมทำสัญญาอีกฉบับระหว่างผมกับเพื่อนผม(คนที่ทำสัญญากับห้างฯ) โดยใช้ลักษณะ "สัญญาเช่าช่วง"
ผมก็เลยเอาสัญญาของร้านผมที่เพื่อนผมทำสัญญากับห้างฯ มาศึกษา จึงพบว่ามันเป็น "สัญญาให้บริการพื้นที่" ไม่ใช่สัญญาเช่าพื้นที่แต่อย่างใด
ทั้งหมดทั้งมวลจึงกลับมาสู่คำถามว่า
1.ผมจะทำสัญญาเช่าช่วงต่อจากเพื่อนผม เพื่อนำไปยื่นขอสินเชื่อธนาคาร ได้หรือไม่
2.หากทำไม่ได้ มีแนวทางอื่นๆ พอจะแนะนำอย่างไรบ้างครับ
(เอาในเรื่องการทำเอกสารในแนวทางอื่นนะครับ อย่าเพิ่งแนะนำให้ผมเลิกกู้ซื้อบ้าน หรือไปกู้ซื้อบ้านหลังอื่นนะครับ)
ขอบคุณมากครับ
ปล.1 บทเรียนจากกรณีนี้ ทำให้ผมรู้ว่า การเสียภาษีนอกจากเป็นการช่วยประเทศชาติในฐานะประชาชนชาวไทยที่ดีแล้ว
ภาษีที่เราเสียไป ยังเป็นตัวช่วยยืนยันที่มาที่ไปของเงินได้เราที่ทุกภาคส่วนยอมรับอย่างแพร่หลาย
รายได้อื่นๆ ที่เราได้รับนอกจากรายได้ตามที่ระบุในรายการภาษี หรือรายได้ที่มีเอกสารยืนยันอย่างชัดเจน
แม้จะมีตัวเงินจริง แต่สถาบันการเงินไม่รับฟังเท่าไหร่ครับ
ดังนั้นต่อไปใครจะทำธุรกิจอะไร หากเป็นไปได้ก็ควรจะแสดงความตัวตนของคุณด้วยนะครับ
เสียภาษีไม่กี่บาท แต่คุณได้เครดิตดีๆ เยอะเลยครับ (อย่าทำเหมือนผม)
ปล.2 จากบทเรียนนี้ ทำให้ผมเห็นความสำคัญของภาษีมากๆ ช่วงนี้อยู่ในช่วงยื่นแบบรายการภาษี อย่าลืมยื่นกันนะครับ
เช่าช่วงพื้นที่ในห้างสรรพสินค้า ทำได้มั๊ยครับ?
ขอเริ่มเล่าที่มาที่ไปก่อนนะครับ
คือ..... ผมต้องการจะทำเรื่องกู้ซื้อบ้านให้ทันโปรโมชั่นของรัฐบาลที่ลดอัตราค่าจดจำนองเหลือ 0.01%
เลยเป็นแรงผลักดันสำคัญให้ผมรีบไปทำสัญญากับโครงการบ้านแห่งหนึ่ง
สิ่งที่ตามมาคือ ผมต้องยื่นเอกสารเกี่ยวกับรายได้ของผม
ปัญหาก็คือ ลำพังเงินเดือนของผมยังไงก้กู้ไม่ผ่าน
แต่เผอิญว่าผมมีกิจการที่ผมได้หุ้นกับเพื่อนของผมไว้
ซึ่งก็มีผลประกอบการค่อนข้างดี (รายรับประมาณหลักแสนต่อเดือนครับ)
ผมก็เลยอยากจะเอาธุรกิจตัวนี้ยื่นประกอบด้วย
แต่....... อุปสรรคสำคัญก็คือ ธุรกิจที่ผมทำกับเพื่อนดันเป็นธุรกิจที่เช่าพื้นที่ในห้างเซ็นทรัล(ขอสงวนชื่อสาขาครับ)ในการประกอบกิจการ
ซึ่งเพื่อนผมเป็นผู้ทำสัญญากับเซ็นทรัลแต่เพียงผู้เดียว (ตอนนั้นไม่ได้คิดถึงเรื่องจะกู้แบงค์นี่หว่า)
ผมเป็นเพียงหุ้นส่วนเท่านั้นเอง ทะเบียนการค้าก็ยังไม่ได้จด
ดังนั้นเวลาผมอ้างธุรกิจตัวนี้ให้ธนาคารที่จะปล่อยสินเชื่อ จึงมีปัญหามาก
โดยธนาคารอ้างว่า ผมไม่มี Reference ซึ่งผมก็ยอมรับครับว่าที่ผ่านมาไม่ต้องการให้ปรากฎชื่อตัวเองในระบบธุรกิจ เพื่อเหตุผลทางภาษี
ซึ่งหารู้ไม่ว่า ผมเสียโอกาสอะไรอีกหลายๆ เลยในชีวิต
กลับมาเข้าเรื่องต่อครับ
หลังจากที่ธนาคารบอกกับผมแบบนั้น ผมจึงถามธนาคารต่อว่า แล้วจะให้ผมทำอย่างจึงจะเป็นการการันตีรายได้ของผมประกอบการขอสินเชื่อ
ธนาคารจึงบอกว่า ให้ผมทำสัญญาอีกฉบับระหว่างผมกับเพื่อนผม(คนที่ทำสัญญากับห้างฯ) โดยใช้ลักษณะ "สัญญาเช่าช่วง"
ผมก็เลยเอาสัญญาของร้านผมที่เพื่อนผมทำสัญญากับห้างฯ มาศึกษา จึงพบว่ามันเป็น "สัญญาให้บริการพื้นที่" ไม่ใช่สัญญาเช่าพื้นที่แต่อย่างใด
ทั้งหมดทั้งมวลจึงกลับมาสู่คำถามว่า
1.ผมจะทำสัญญาเช่าช่วงต่อจากเพื่อนผม เพื่อนำไปยื่นขอสินเชื่อธนาคาร ได้หรือไม่
2.หากทำไม่ได้ มีแนวทางอื่นๆ พอจะแนะนำอย่างไรบ้างครับ
(เอาในเรื่องการทำเอกสารในแนวทางอื่นนะครับ อย่าเพิ่งแนะนำให้ผมเลิกกู้ซื้อบ้าน หรือไปกู้ซื้อบ้านหลังอื่นนะครับ)
ขอบคุณมากครับ
ปล.1 บทเรียนจากกรณีนี้ ทำให้ผมรู้ว่า การเสียภาษีนอกจากเป็นการช่วยประเทศชาติในฐานะประชาชนชาวไทยที่ดีแล้ว
ภาษีที่เราเสียไป ยังเป็นตัวช่วยยืนยันที่มาที่ไปของเงินได้เราที่ทุกภาคส่วนยอมรับอย่างแพร่หลาย
รายได้อื่นๆ ที่เราได้รับนอกจากรายได้ตามที่ระบุในรายการภาษี หรือรายได้ที่มีเอกสารยืนยันอย่างชัดเจน
แม้จะมีตัวเงินจริง แต่สถาบันการเงินไม่รับฟังเท่าไหร่ครับ
ดังนั้นต่อไปใครจะทำธุรกิจอะไร หากเป็นไปได้ก็ควรจะแสดงความตัวตนของคุณด้วยนะครับ
เสียภาษีไม่กี่บาท แต่คุณได้เครดิตดีๆ เยอะเลยครับ (อย่าทำเหมือนผม)
ปล.2 จากบทเรียนนี้ ทำให้ผมเห็นความสำคัญของภาษีมากๆ ช่วงนี้อยู่ในช่วงยื่นแบบรายการภาษี อย่าลืมยื่นกันนะครับ