London Has Fallen : ชีวิตของประธานาธิบดีถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด!

สวัสดีค่ะทุกคน หลังจากเคลียร์ภารกิจอันวุ่นวายของตัวเองเสร็จ เราก็ได้เวลาไปดูหนังที่อยากดูมาตั้งแต่เทรลเลอร์ยังไม่ออก นั่นก็คือ London Has Fallen นั่นเอง ด้วยความที่ชอบมาตั้งแต่ The Olympus Has Fallen แล้ว แถมนักแสดงนำก็ยังเป็นชุดเดิม(ที่กรี๊ดกร๊าดเป็นการส่วนตัว) ก็เลยคิดว่ายังไงเรื่องนี้ก็ไม่พลาดแน่ๆ แม้กระแสตอบรับจะค่อนข้างต่างกันไปสองขั้วคือมีทั้งชอบไปเลยหรือไม่ก็ให้คะแนนต่ำกว่ามาตรฐาน ส่วนตัวเราคิดเห็นยังไงขอแชร์ไว้ในกระทู้นี้นะคะ ใครยังไม่ได้ดู ข้อความข้างล่างต่อจากนี้ไปนี้มีสปอล์ยนะ : )

เริ่มแรกตอนเปิดเรื่อง เราว่าดูเอื่อยๆ จนแอบคิดไปว่าจะเดินเรื่องเนือยแบบนี้จนจบไหมหนอ ตอนที่ไมค์กำลังเขียนจดหมายลาออกนี่เราแบบ.. ยอมรับว่าอินและรู้สึกอึดอัดตามไปด้วยนิดหน่อย เราเข้าใจนะ ความรู้สึกที่อยากทำให้คนข้างหลังสบายใจ ทำให้ครอบครัวไม่ต้องมานั่งเป็นห่วง งานที่พระเอกทำมันเสี่ยงอันตรายมาก ไมค์รู้ถึงข้อนั้นดี พอเขามีลูกเขาจึงอยากจะให้เวลากับครอบครัวเต็มที่ อยากจะทำหน้าที่พ่อที่ดีให้เหมือนกับตอนที่เขาทำงานให้ชาติ แต่ในใจเรานี่ร้อง โนว โนวว Don't do that, Darling. The president actually need you นะ 5555 อยู่ๆก็อาลัยอาวรณ์ไมค์แทนท่านประธานาธิบดีซะงั้น

แต่หนังก็ให้เรานั่งเฉยๆได้ไม่เกินสิบนาที เพราะหลังจากนั้นมหากาพย์ความบู๊ก็เริ่มขึ้น(และพระเจ้า เขาไม่ให้เราได้หยุดพักหายใจอีกเลย!) ระเบิดถี่มากๆๆๆ กระพริบตาแป๊บเดียวระเบิดอีกแล้ว ตรงนี้คอหนังแอคชั่นน่าจะชอบกันนะคะ ถ้าจะติก็คงเหมือนคนอื่นๆเรื่อง CG นี่แหละ ฉากเล็กๆน้อยๆยังไม่เท่าไหร่เพราะความต่อเนื่องของเนื้อหาและความลุ้นระทึกแบบนอนสต๊อปก็พอจะดึงความสนใจออกไปได้ แต่มันก็มีฉากใหญ่ๆบางฉากที่ทีมงานไม่น่าจะปล่อยผ่าน ยิ่งในช่วงระเบิดทั่วกรุงลอนดอน ถ้าทำได้เนียนกว่านี้คาดว่าจะทำให้คนดูอินกับความพังพินาศและอื่มเอมกับเอฟเฟ็กต์สวยๆได้มากกว่าที่เป็นอยู่แน่นอน

อีกอย่างที่หลายๆคนติงมาเรื่องความหลวมของบทหรือความโม้ของเรื่องจนหลุดพื้นฐานความเป็นจริง(อารมณ์แบบพระเอกน่าจะไปเล่น Die Hard อะไรประมาณนี้) เราไม่ได้คิดว่ามันแย่ขนาดนั้น โดยรวมเนื้อเรื่องโอเคนะคะ โดยเฉพาะช่วงกลางๆที่ยิ่งกันรัวๆ ระเบิดกันจนไม่คิดถึงสวัสดิภาพคนดู เราว่าตรงนี้ดีเลย ลุ้นจนตัวเกร็ง มันดูแอคชั่นแบบต่อๆๆกันไปหมด คิดว่าทำได้สนุกกว่าโอลิมปัสด้วยซ้ำไป โดยเฉพาะช่วงที่บีบหัวใจมากๆคือตอนท่านประธานาธิบดีถูกจับตัวไปแล้ว อัชเชอร์(ที่รักของเรา)โดนทำร้ายจนต้องบอกว่าพอแล้วได้ไหม ไม่เอาแล้ว ไม่อยากให้เขาเจ็บเลย TT (แต่เพื่อนเราบอกว่าอัชเชอร์แกปากดีเองนะ ซึ่งเราก็ว่าจริงค่ะ 555 ตอนโดนจับไปยังจะพูดท้าทายเขาอีก) แต่ว่าถ้าเทียบกับภาคที่แล้ว เราชอบประเด็นที่ภาคที่แล้วนำเสนอมากกว่า มันดูมีข้อความบางอย่างที่ซ้อนไว้ในเนื้อเรื่องมากกว่า ประจวบกับที่ตอนนั้นมีข่าวความขัดแย้งที่น่านน้ำเกาหลีใต้ ซึ่งเกาหลีเหนือบอกให้อเมริกาถอนกองเรือที่7ออกพอดี มันเลยเป็นอะไรที่ลงตัวมากๆ ดูไปก็คิดไป เอ๊ะ! นี่มันเกี่ยวข้องกับสถาณการณ์จริงหรือเปล่า? เป็นpropagandaอะไรไหมนะ 55 รวมถึงความขัดแย้งในองค์กร ปมต่างๆที่นำเสนอได้ดี นอกจากนั้นบทของตัวแสดงตัวอื่นๆก็เป็นส่วนประกอบที่ทำให้หนังน่าสนใจมาก ต่างกับภาคนี้ที่ตัวละครสมทบถูกลดบทบาทลง เน้นไปที่การเอาชีวิตรอดของสองนักแสดงนำอย่างไมค์และประธานาธิบดีอัชเชอร์มากยิ่งขึ้น แต่เราว่ามันก็ไม่ได้แย่นะคะ ถึงชั้นเชิงของหนังจะดูลดลง แต่เพราะการโฟกัสไปที่การหนีตายและการอารักขาสุดชีวิตของไมค์นี่แหละที่เสริมให้บทแอคชั่นสนุกลุ้นระทึกมากกว่าเดิม  

London Has Fallen ยังคงเป็นหนังแอคชั่นภาคต่อที่เราชอบ โดยเฉพาะในการเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์และรีแอคระหว่างกันของสองตัวละครหลัก (Aron Echeartก็เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าเขาชอบตัวละครอัชเชอร์เพราะความเป็นมนุษย์และความemotionalที่มีเช่นกัน) อัชเชอร์เป็นประธานาธิบดีที่อ่อนไหวแต่ก็แน่วแน่และเด็ดขาดไปในคราวเดียวกัน ตอนที่เขาเศร้าแล้วพูดว่าคนบริสุทธิ์ต้องมาตายเพราะผมเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ และอยากให้ไมค์ฆ่าเขาก่อนที่เขาจะถูกใช้เป็นเครื่องมือในโฆษณาชวนเชื่อของผู้ก่อการร้าย มันทำให้เราเห็นความมีมนุษยธรรมของผู้ชายคนนี้มากๆ มีไม่กี่คนหรอกที่จะยอมทำแบบนี้ทั้งที่เคยเป็นคนถูกปกป้องมาตลอดชีวิตและใครๆก็รู้ดีว่าชีวิตของผู้นำสำคัญที่สุด ผู้นำหลายๆคนเลือกที่จะมีชีวิตรอดต่อไป ใครจะตายไปกี่คนก็ช่าง แต่ฉันต้องรอด แต่กับเบนจามิน อัชเชอร์ เขาไม่ได้อยากเอาร่างของคนบริสุทธิ์เป็นเกราะกันกระสุน ความคิดแบบนี้ทำให้เรานับถือตัวละครนี้มาก แอบคิดไปว่าถ้ามีคนอย่างงี้อยู่ในโลกความจริงๆเยอะๆก็คงจะดี อีกฉากนึงที่ชอบมากคือตอนที่เขาโดนจับตัวไปแล้วผู้ก่อการร้ายให้สั่งเสียก่อนจะโดนฆ่า เราก็รออยู่ว่าเขาจะพูดอะไร พอพูดว่าตัวเองจะปกครองอเมริกาอย่างดี ให้สมเกียรติ บลาๆๆ เรานี่ โอ้โหหห standing ovation เลยค่ะ 555 บทตรงนี้เขียนดีนะ ประทับใจเลย มันเหมือนการประกาศชัยชนะไม่ใช่การบอกลา เหมือนกับว่าเขาจะไม่มีวันยอมแพ้และจะต้องรอดกลับไปให้ได้

ในส่วนของไมค์ ก็ไม่มีอะไรจะพูดมากนอกจากเฮียเก่งเกินไปแล้วค่ะ 55 เราชอบตรงความบ้าบอและไม่ฟังใครของไมค์นี่แหละ คือถ้าฟังคนอื่นคงช่วยอัชเชอร์ไม่ได้อ่ะนะ เป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์อ่ะ หล่อ เก่ง ปากร้าย แล้วก็กวนติงมาก 555 ตอนที่ที่อัชเชอร์ถามว่าถ้านายไม่กลับมาฉันจะทำยังไง? ตาไมค์ตอบสั้นๆ ท่านก็ซวยไงครับ โอ๊ยยย มุกนี้ฮากันทั้งโรง ที่สำคัญเขาทำให้เราเริ่มจะเข้าใจขึ้นมานิดหน่อยแล้วล่ะว่าการทำงานโดยเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อปกป้องคนอื่นมันเป็นยังไง แต่ก่อนเราไม่เคยรู้ คนคนนึงจะรักชีวิตคนอื่นได้มากกว่าตัวเองด้วยเหรอ อะไรทำให้เขาตายแทนกันได้ทั้งที่ไม่ใช่พ่อแม่พี่น้อง ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกัน แต่ตอนนี้เราพอจะเข้าใจแล้วว่าความหมายของคำว่าหน่วยอารักขา ความหมายของคำว่าบอดี้การ์ดมันเป็นยังไง.. ชีวิตของเจ้านายถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดจริงๆ..


พูดแล้วก็เหมือนจะยาว เล่าสามวันก็อาจจะยังไม่จบ 55 เอาเป็นว่าเราค่อนข้างชอบฟีลลิ่งของภาคนี้นะคะ แม่ว่าบทและประเด็นต่างๆของภาคที่แล้วดูจะแน่นกว่า จริงๆมีอีกหลายฉากที่ชอบ เช่นฉากของลินน์(คือไม่นึกเลยว่าเธอจะจบแบบนี้ TT เธอเป็นผู้หญิงที่เก่งและจริงใจมากๆคนนึงเลย) ฉากฮ.นาวิกที่2พลีชีพ หรือจะเป็นฉากที่ตัวเอกสองคนวิ่งตามกันดุ๊กดิ๊กผจญภัยใจกลางลอนดอน หรือตอนที่ท่านประธานาธิบดีโดนจับแล้วเรียกแต่ไมค์ๆๆๆ คือมันดูเป็นหนังแอคชั่นที่ไม่แข็งที่อ เป็นหนังแอคชั้นที่มีความemotionalรวมเอาไว้อยู่ตลอดเวลา (และตอนสุดท้ายที่ไมค์ตัดสินใจdeleteจดหมายลาออกทิ้ง อยากจะกรี๊ดดังๆแล้วโผเข้ากอดด้วยความรัก พร้อมกับบอกว่า You did the right thing, Mike. The president still need you no matter what ค่ะ 5555)


นี่ก็เป็นความเห็นส่วนหนึ่งจากเรา ถ้าถามว่าคนที่ยังไม่ด้ไปดู ลังเลที่จะไป ควรไปไหม เราว่าถ้าคุณชอบหนังแอคชั่นมันส์ๆ ระเบิดต่อกันจนแทบลืมหายใจ เราว่าไม่เสียหายอะไรเลยค่ะที่จะไปดู แต่ถ้าคาดหวังCGที่สมจริง บทที่แน่นมากจนหาข้อจับผิดไม่ได้ หรือต้องการอะไรที่base onความจริงมากๆ อันนี้ก็ต้องเผื่อใจไว้หน่อยว่าอาจจะไม่ตรงตามที่คิดไว้นะคะ ส่วนคนที่ไปดูมาแล้ว มีอะไรก็ร่วมพูดคุยกันได้เลยค่ะ ชอบตรงไหน ไม่ชอบตรงไหร ประทับใจอะไร หรือมีอะไรที่เราตกหล่นไปแล้วคุณอยากเพิ่มเติม มาแชร์กันได้เลยค่า

สำหรับวันนี้ ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ : ))
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่