สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
วันนี้เป็น "วันพ่อ" สำหรับผม
พึ่งไปทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลหาคุณพ่อในวันครบรอบวันเกิดท่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับพ่อไม่ค่อยจะราบรื่นเลย อดีตระหว่างท่านกับผมแม้จะขมขื่นอยู่บ้าง แต่มองอีกในแง่หนึ่ง ท่านเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตผมแกร่งขึ้นมาได้ ที่สำคัญท่านเป็น "พ่อ" คนเดียวของผมที่ไม่มีคนอื่นมาทดแทนได้เลย การได้มาเป็น "พ่อ" แล้ว ทำให้ผมตระหนักถึงภาระความเป็นพ่อมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ผมเริ่มรักพ่อมากขึ้นๆ แม้ดูออกจะสายไป
พ่อผมเป็นคนเก่งที่สุดในหมู่บ้านครับ สมัยเด็กๆ เรียนประถมเด็กผู้ชายมักจะอวดสรรพคุณพ่อข่มกันเสมอๆ จำได้ว่า ผู้ชายในหมู่บ้านจำนวนมากมักจะเรียกพ่อว่า "หัวหน้า" เพราะพ่อเคยเป็นทหารรับจ้างให้อเมริกันช่วงสงครามเวียดนาม ท่านขับรถได้เกือบทุกประเภทโดยมีทหารจีไอสอนให้ เมื่อสมัยห้าสิบปีก่อนถ้าใครขับเป็นถือว่าเก่งมาก ยิ่งคนในบ้านนอกแล้วถือว่าสุดยอด....ในชั้นเรียนแค่ผมข่มเพื่อนๆ ในห้องเรียนว่าพ่อกรูเป็น "หัวหน้า" นะโว้ย.....เด็กๆ คนอื่นก็จะหยุดคุยโวอวดสรรพคุณพ่อตัวเองทันที 5555
พ่อสอนผมหลายอย่าง โดยเฉพาะการต่อสู้และอดทน ที่ผมประทับใจโดยไม่มีวันลืมเลยก็คือพ่อสอนผมทำไม้บรรทัดจากไม้ไผ่......มันไม่ได้ซับซ้อนอะไรหรอก ตอนผมขึ้นประถมสามต้องเรียนการทำสมุดบัญชี ซึ่งต้องใช้ไม้บรรทัดตีตารางบัญชี นักเรียนหลายคนไม่มีเงินซื้อไม้บรรทัด เย็นวันนั้น พ่อคว้าพร้าได้แล้วจูงแขนผมเข้าป่าไปตัดไม้ไผ่ แล้วเหลาส่วนที่กว้างให้แบนเรียบเป็นเส้นตรงได้ขนาดเท่าไม้บรรทัด และนั่นแหละเป็นไม้บรรทัดไม้แรกที่ผมใช้ขีดเส้นตรงในสมุด เพื่อนๆ นักเรียนเห็นก็บอกให้พ่อตัวเองทำตาม เกือบครึ่งห้อง...นักเรียนใช้ไม้บรรทัดไม้ไผ่กัน พ่อบอกว่า....บางทีเราต้องใช้สิ่งแวดล้อมให้เกิดประโยชน์ ไม่ใช่เอะอะอะไรก็ซื้อๆๆๆ
บ้านหลังเดิมที่พวกเราอยู่เป็นบ้านไม้หลังเล็กๆ ที่มีพี่ชายห้าคนและพี่สาวอีกสามคนอาศัยอยู่ ไม่มีห้องนอน ไม่มีห้องอะไรเป็นบ้านโล่งๆ ใครจะเลือกนอนมุมไหนก็เลือกนอนตามสบาย จนปี 2518 สงครามเวียดนามจบลงไป รัฐบาลขับไล่อเมริกันออกจากประเทศไทย ฐานทัพอเมริกันที่อุดรฯ ก็ต้องถูกรื้อ พ่อ ผมและพี่ชายเหมารถไปหาเก็บเศษไม้และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ฐานทัพอเมริกันพร้อมกับชาวอุดรฯ หลายคน พวกเราได้ไม้อัดมาจำนวนมาก ไม้ สังกะสี ลวดนาม ฯลฯ นั่นแหละ....พ่อผมได้ใช้ไม้ต่อเติมบ้านใหญ่ขึ้นอีก กั้นห้องได้สองห้อง หลังคาสังกะสีที่รั่วก็ถือปูด้วยแผ่นใหม่ made in America
ผมจำได้ดีเลยว่าตอนไปรื้อฐานทัพอเมริกันที่บ้านโนนสูง ต้องถอนตะปูเป็นร้อยเป็นพันดอกแข่งกับคนอื่นๆ ที่ไปรื้อเพื่อเอาไม้และฝาผนนังอื่นๆ ผมไปเหยียบตะปูจนเป็นบาดทะยักเลย
เล่าทรงจำเก่าๆ ให้ฟังใน "วันพ่อ" ของผมครับ
พี่สาวส่งรูปพ่อมาให้ผม เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา ผมไม่เห็นรูปนี้มานานเกือบสามสิบปีแล้ว จำได้ว่าพ่อปิดมันไว้ที่ผนังบ้านตั้งแต่ผมจำความได้ ภรรยาเห็นครั้งแรกก็ชมเปราะว่าพ่อผมหน้าตาดี ผมเองก็ตะลึงเหมือนกันนะ ท่านหล่อจริงๆ ด้วย เป็นภาพที่ถ่ายไว้คาดว่าคงจะประมาณปี 2503-2504 แถวๆ นี้แหละ เป็นช่วงพีคของท่านจริงๆ
ส่วนนี้เป็นช่วงพีคของผมเมื่อยี่สิบห้าปีก่อน.....พ่อผมทิ้งมรดกไว้ให้ ภาษาอังกฤษเขาบอกว่า Like father, like son "ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น" อิ อิ
พึ่งไปทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลหาคุณพ่อในวันครบรอบวันเกิดท่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับพ่อไม่ค่อยจะราบรื่นเลย อดีตระหว่างท่านกับผมแม้จะขมขื่นอยู่บ้าง แต่มองอีกในแง่หนึ่ง ท่านเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตผมแกร่งขึ้นมาได้ ที่สำคัญท่านเป็น "พ่อ" คนเดียวของผมที่ไม่มีคนอื่นมาทดแทนได้เลย การได้มาเป็น "พ่อ" แล้ว ทำให้ผมตระหนักถึงภาระความเป็นพ่อมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ผมเริ่มรักพ่อมากขึ้นๆ แม้ดูออกจะสายไป
พ่อผมเป็นคนเก่งที่สุดในหมู่บ้านครับ สมัยเด็กๆ เรียนประถมเด็กผู้ชายมักจะอวดสรรพคุณพ่อข่มกันเสมอๆ จำได้ว่า ผู้ชายในหมู่บ้านจำนวนมากมักจะเรียกพ่อว่า "หัวหน้า" เพราะพ่อเคยเป็นทหารรับจ้างให้อเมริกันช่วงสงครามเวียดนาม ท่านขับรถได้เกือบทุกประเภทโดยมีทหารจีไอสอนให้ เมื่อสมัยห้าสิบปีก่อนถ้าใครขับเป็นถือว่าเก่งมาก ยิ่งคนในบ้านนอกแล้วถือว่าสุดยอด....ในชั้นเรียนแค่ผมข่มเพื่อนๆ ในห้องเรียนว่าพ่อกรูเป็น "หัวหน้า" นะโว้ย.....เด็กๆ คนอื่นก็จะหยุดคุยโวอวดสรรพคุณพ่อตัวเองทันที 5555
พ่อสอนผมหลายอย่าง โดยเฉพาะการต่อสู้และอดทน ที่ผมประทับใจโดยไม่มีวันลืมเลยก็คือพ่อสอนผมทำไม้บรรทัดจากไม้ไผ่......มันไม่ได้ซับซ้อนอะไรหรอก ตอนผมขึ้นประถมสามต้องเรียนการทำสมุดบัญชี ซึ่งต้องใช้ไม้บรรทัดตีตารางบัญชี นักเรียนหลายคนไม่มีเงินซื้อไม้บรรทัด เย็นวันนั้น พ่อคว้าพร้าได้แล้วจูงแขนผมเข้าป่าไปตัดไม้ไผ่ แล้วเหลาส่วนที่กว้างให้แบนเรียบเป็นเส้นตรงได้ขนาดเท่าไม้บรรทัด และนั่นแหละเป็นไม้บรรทัดไม้แรกที่ผมใช้ขีดเส้นตรงในสมุด เพื่อนๆ นักเรียนเห็นก็บอกให้พ่อตัวเองทำตาม เกือบครึ่งห้อง...นักเรียนใช้ไม้บรรทัดไม้ไผ่กัน พ่อบอกว่า....บางทีเราต้องใช้สิ่งแวดล้อมให้เกิดประโยชน์ ไม่ใช่เอะอะอะไรก็ซื้อๆๆๆ
บ้านหลังเดิมที่พวกเราอยู่เป็นบ้านไม้หลังเล็กๆ ที่มีพี่ชายห้าคนและพี่สาวอีกสามคนอาศัยอยู่ ไม่มีห้องนอน ไม่มีห้องอะไรเป็นบ้านโล่งๆ ใครจะเลือกนอนมุมไหนก็เลือกนอนตามสบาย จนปี 2518 สงครามเวียดนามจบลงไป รัฐบาลขับไล่อเมริกันออกจากประเทศไทย ฐานทัพอเมริกันที่อุดรฯ ก็ต้องถูกรื้อ พ่อ ผมและพี่ชายเหมารถไปหาเก็บเศษไม้และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ฐานทัพอเมริกันพร้อมกับชาวอุดรฯ หลายคน พวกเราได้ไม้อัดมาจำนวนมาก ไม้ สังกะสี ลวดนาม ฯลฯ นั่นแหละ....พ่อผมได้ใช้ไม้ต่อเติมบ้านใหญ่ขึ้นอีก กั้นห้องได้สองห้อง หลังคาสังกะสีที่รั่วก็ถือปูด้วยแผ่นใหม่ made in America
ผมจำได้ดีเลยว่าตอนไปรื้อฐานทัพอเมริกันที่บ้านโนนสูง ต้องถอนตะปูเป็นร้อยเป็นพันดอกแข่งกับคนอื่นๆ ที่ไปรื้อเพื่อเอาไม้และฝาผนนังอื่นๆ ผมไปเหยียบตะปูจนเป็นบาดทะยักเลย
เล่าทรงจำเก่าๆ ให้ฟังใน "วันพ่อ" ของผมครับ
พี่สาวส่งรูปพ่อมาให้ผม เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา ผมไม่เห็นรูปนี้มานานเกือบสามสิบปีแล้ว จำได้ว่าพ่อปิดมันไว้ที่ผนังบ้านตั้งแต่ผมจำความได้ ภรรยาเห็นครั้งแรกก็ชมเปราะว่าพ่อผมหน้าตาดี ผมเองก็ตะลึงเหมือนกันนะ ท่านหล่อจริงๆ ด้วย เป็นภาพที่ถ่ายไว้คาดว่าคงจะประมาณปี 2503-2504 แถวๆ นี้แหละ เป็นช่วงพีคของท่านจริงๆ
ส่วนนี้เป็นช่วงพีคของผมเมื่อยี่สิบห้าปีก่อน.....พ่อผมทิ้งมรดกไว้ให้ ภาษาอังกฤษเขาบอกว่า Like father, like son "ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น" อิ อิ
แสดงความคิดเห็น
ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง มุมเสียงเพลง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม............มีแต่เสียง 5/3/2016
***สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องราชดำเนินทุกคน***
กระทู้นี้ เป็นมุมพักผ่อน มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม.........แต่มีเสียง...................
มีใครเกิดเดือนนี้บ้าง วันนี้มีดอกไม้ประจำเดือนมีนาคมมาฝากจ้า
คนเดือนนี้เป็นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหวง่าย ชอบเสียสละ เห็นอกเห็นใจผู้อื่น ชอบทำงานที่ละเอียดอ่อน บางคนอาจมีคุณลักษณะลึกลับ และมีใจฝักใฝ่ในหลักธรรมคำสอนเป็นการส่วนตัว
ดอกคาร์เนชั่นแดง
ดอกไม้ประจำเดือนเกิดของคุณ คือ"ดอกคาร์เนชั่นแดง" ซึ่งเป็นดอกไม้โปรดของศิลปิน เพราะเป็นดอกไม้แห่งความฝันอันลึกลับ เป็นแรงบันดาลใจที่ปรากฏเป็นงานเขียนภาพแนวสร้างสรรค์ ผู้ที่เกิดในเดือนนี้ส่วนใหญ่จึงมีบุคลิกเป็นไปในทางอาร์ท ศิลปิน ออกแนวเซอร์กันให้เห็นอย่างชัดเจน (บางแห่งให้คาร์เนชั่นเป็นดอกไม้ประจำเดือนมกราคม)
ดอกคาร์เนชั่น (Carnation) เป็นดอกไม้ประจำชาติของประเทศสเปน พบว่ามีการปลูกมายาวนานกว่า 2,000 ปี โดยสีดั้งเดิมของดอกไม้ชนิดนี้ คือ สีชมพู แต่ภายหลังสามารถเพาะปลูกสีแดง เหลืองปนขาว ม่วง และ เขียว หากย้อนกลับไปในสมัยกรีกและโรมันดอกคาร์เนชั่นถูกนำมาใช้สำหรับงานศิลปะและการตกแต่งมากมาย
ดอกคาร์เนชั่น คือ ดอกไม้แห่งความรัก หรือ ดอกไม้แห่งพระเจ้า และยังเป็นสัญลักษณ์แทนความรักของแม่ เนื่องจากจากเป็นสัญลักษณ์วันแม่ของชาวอเมริกัน นั่นคือวันอาทิตย์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคมของทุกๆ ปีนั่นเอง นอกจากนี้ยังเป็นดอกไม้ที่ได้รับความนิยมในการนำไปมอบเป็นของขวัญแทบจะทุกโอกาส เพราะในบางประเทศคาร์เนชั่นยังได้รับความนิยมมากกว่ากุหลาบเสียอีก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพสสิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลงจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น