เจ้าของกระทู้กับลูกได้มาอยู่ที่ออสเตรเลียค่ะ มีโอกาสได้ใช้ห้องสมุดอยู่สองที่ เพราะที่แรกใกล้ที่บ้าน ส่วนอีกที่นึงใกล้ที่เรียนค่ะ เป็นคนละเมืองกันนะค๊ะดังนั้นกฏระเบียบจะไม่เหมือนกัน ซึ่งทั้งสองที่มีรายละเอียดแตกต่างกันบ้างนิดหน่อย เห็นว่าระบบห้องสมุดที่นี่ดีมากๆและส่งเสริมให้เด็กเข้าถึงการอ่านได้เป็นอย่างดีเลยอยากจะมาเล่าให้เพื่อนๆฟังดู
1.ห้องสมุดที่นี่จะจัดกิจกรรมตลอด ทุกอาทิตย์จะมีการอ่านหนังสือในเด็กๆฟัง(เด็กเล็กๆก็ไปพร้อมกับผู้ปกครอง), มีกิจกรรมประเภทสอนคอมพิวเตอร์หรือไอแพดหลักสูตรต่างๆให้ทั้งเด็กจนถึงผู้สูงอายุ, สอนต่อเลโก้ก็มี, กิจกรรมวิทยาศาสตร์ต่างๆ โดยเฉพาะช่วงเด็กปิดเทอม (ที่นี้จะมี4เทอม เทอม1-3ปิดครั้งละ2อาทิตย์ เทอมที่4ปิด4อาทิตย์) จะมีกิจกรรมพิเศษต่างๆมากกว่าช่วงปกติ
2.ห้องสมุดที่นี้ยืมได้มากสุด 40 เล่มต่อหนึ่งบัตรสมาชิกค่ะ เจ้าของกระทู้เคยยืมได้เกินกว่านี้ด้วยเพราะว่าได้คืนบางส่วนแล้วแต่มันยังไม่เข้าระบบ ก็เลยไปบอกเจ้าหน้าที่เค้าเลยทำเรื่องยืมเพิ่มให้ได้เกินเป็น 44 เล่ม ยืมแต่ละครั้งได้ครั้งละ 4 อาทิตย์ สามารถยืมต่อได้จนถึง 8 อาทิตย์ โดยกดปุ่มยืมต่อได้ที่เครื่องในห้องสมุด หรือกดยืมต่อเองตอนผ่านระบบออนไลน์ก็ได้ค่ะ ห้องสมุดอีกที่นึงยืมครั้งแรกได้ 2 อาทิตย์ แต่ก็สามารถยืมต่อได้จนถึง 8 อาทิตย์เช่นกัน ทั้งนี้ในข้อแม้ว่าไม่มีคนจองหนังสือต่อนะค๊ะ ถ้ามีคนจองเราก็ไม่สามารถยืมต่อได้ค่ะ
3. ห้องสมุดที่แรกถ้าจองหนังสือแต่ละเล่มคิดค่าจองเล่มละ $0.80 ค่ะ แต่ที่ที่สองไม่คิดค่าจองเลย และที่เจ๋งมากคือในเขตเมืองที่สองมีห้องสมุดอยู่ 7 ที่ เจ้าของกระทู้สะดวกที่ logan west เพราะใกล้ที่เรียน ก็สามารถกดจองแล้วเลือกว่าจะไปรับที่ห้องสมุดสาขา logan west ได้เลย เมื่อหนังสือที่จองได้คิวแล้วเค้าจะส่งจดหมายหรืออีเมล์แล้วแต่เราระบุไปมากบอกค่ะ
4. เจ้าของกระทู้เคยยืมหนังสือแล้วเพื่อนยืมไปให้ลูกเค้าอ่าน ปรากฎว่าวันครบกำหนดคืนลูกเค้าป่วยเลยไม่ได้มาเรียน และไม่สามารถกดยืมหนังสือต่อได้แล้วเพราะมีคนจองพอดี เจ้าของกระทู้เลยไปติดต่อเจ้าหน้าที่ๆบอกไม่เป็นไร พอถามค่าใช้จ่ายที่คืนเกินกำหนด เค้าบอกเค้าไม่เคยคิดค่าปรับคืนหนังสือเกินกำหนดค่ะ
5. มีหนนึงห้องสมุดที่ logan เปลี่ยนระบบคืนใหม่ โดยให้สแกนคืนทีละเล่มด้วยความที่ไม่รู้เลยคืนทีเดียวสิบเล่ม ปรากฎว่าระบบรับทราบว่าเราคืนแค่เล่มเดียว กว่าเราจะรู้ตัวผ่านไป1อาทิตย์ พอไปติดต่อเจ้าหน้าที่เค้าก็ช่วยค้นหาให้ได้มาอีก 8 เล่ม หาเล่มสุดท้ายไม่เจอ เค้าก็บอกให้เราพยายามไปหาที่บ้าน เราก็หาไม่เจอจนครบกำหนด 8 อาทิตย์แล้ว เลยไปบอกเค้าว่าเรายินดีจะเสียเงินค่าหนังสือหาย เจ้าหน้าที่ให้เราเขียนคำร้องโดยเค้าจะช่วยเราหาอีกอาทิตย์ละครั้งอยู่ 4 อาทิตย์ สุดท้ายเค้าหาเจอ ก็ส่งจดหมายมาขอโทษเรา
6. ที่นี่เด็กเริ่มเรียนเทียบเท่าชั้นอนุบาล 3 บ้านเรา นอกเหนือจากหนังสือที่ให้เด็กหัดอ่านทุกวันแล้ว ทุกอาทิตย์เด็กๆต้องเอา library bag ไปโรงเรียน โดยครูจะพาเด็กไปยืมหนังสือที่ห้องสมุดโรงเรียนโดยให้เด็กเลือกหนังสือเองด้วยค่ะ พออาทิตย์ต่อมาก็เอาหนังสือที่ยืมไปคืนแล้วยืมเล่มใหม่ต่อไปเรื่อยๆ
7. หนังสือของห้องสมุดเค้าจะติดเหมือนชิพไว้ที่หนังสือทุกเล่มค่ะ ดังนั้นถ้ามีคนที่ขโมยนี่ตอนโดนออกจากห้องสมุด จะมีเสียงร้องกับมีกล้องถ่ายรูปไว้ด้วยค่ะ
8. โรงเรียนจะมี book club ซึ่งร่วมกับสำนักพิมพ์ โดยเค้าจะจัดรายการหนังสือราคาพิเศษ โดยเด็กต้องซื้อผ่านโรงเรียนเท่านั้น ทุกยอดของการสั่งซื้อโรงเรียนก็จะได้เป็นหนังสือกลับมาให้ห้องสมุดของโรงเรียนค่ะ เรียกได้ว่าวินวินทั้งสองฝ่าย ผู้ปกครองก็ได้ซื้อหนังสือราคาถูกแถมโรงเรียนก็ได้หนังสือฟรี เทอมนึงจะมี book club อยู่ 2 ครั้งค่ะ
จะเห็นได้ว่าที่นี่ทำให้เด็กเข้าถึงการอ่านได้ง่ายมากๆ ช่วงปิดเทอมถ้าไปห้องสมุดโซนของเด็กนี่หนังสือแทบจะหายไปเลยค่ะ เพราะมีคนยืมไปอ่านกันเยอะมากๆ และในห้องสมุดก็มีคนเข้าใช้บริการตั้งแต่เด็กทารกจนถึงผู้สูงอายุเลยทีเดียว เจ้าของกระทู้ตอนอยู่ไทยก็ซื้อหนังสือให้ลูกอ่านไม่น้อยเหมือนกัน หนังสือเด็กเล่มนึงก็ไม่ใช่ถูกๆนะค๊ะ ไม่ใช่เด็กทุกคนที่พ่อแม่จะสามารถซื้อให้อ่านได้เรื่อยๆ จำได้ว่าตอนลูกอยู่ที่ไทยเดือนๆนึงหมดค่าหนังสือเป็นพันๆ เจ้าของกระทู้เชื่อว่าการอ่านหนังสือเป็นการเปิดโลกทัศน์และสร้างจินตนาการกับเด็ก ดังนั้นคงจะดีไม่น้อยถ้าบ้านเราสามารถทำให้เด็กเข้าถึงการอ่านได้มากขึ้นเหมือนที่นี่ ไว้ถ้ามีโอกาสจะมาเล่าถึงการเรียนระดับอนุบาลของที่นั้นว่าวันๆเด็กเค้าทำอะไรกันบ้างน
มาเล่าเรื่องห้องสมุดของออสเตรเลียให้ฟังว่าทำไมเด็กที่นั้นถึงเข้าถึงการอ่านได้มากกว่าบ้านเราค่ะ
1.ห้องสมุดที่นี่จะจัดกิจกรรมตลอด ทุกอาทิตย์จะมีการอ่านหนังสือในเด็กๆฟัง(เด็กเล็กๆก็ไปพร้อมกับผู้ปกครอง), มีกิจกรรมประเภทสอนคอมพิวเตอร์หรือไอแพดหลักสูตรต่างๆให้ทั้งเด็กจนถึงผู้สูงอายุ, สอนต่อเลโก้ก็มี, กิจกรรมวิทยาศาสตร์ต่างๆ โดยเฉพาะช่วงเด็กปิดเทอม (ที่นี้จะมี4เทอม เทอม1-3ปิดครั้งละ2อาทิตย์ เทอมที่4ปิด4อาทิตย์) จะมีกิจกรรมพิเศษต่างๆมากกว่าช่วงปกติ
2.ห้องสมุดที่นี้ยืมได้มากสุด 40 เล่มต่อหนึ่งบัตรสมาชิกค่ะ เจ้าของกระทู้เคยยืมได้เกินกว่านี้ด้วยเพราะว่าได้คืนบางส่วนแล้วแต่มันยังไม่เข้าระบบ ก็เลยไปบอกเจ้าหน้าที่เค้าเลยทำเรื่องยืมเพิ่มให้ได้เกินเป็น 44 เล่ม ยืมแต่ละครั้งได้ครั้งละ 4 อาทิตย์ สามารถยืมต่อได้จนถึง 8 อาทิตย์ โดยกดปุ่มยืมต่อได้ที่เครื่องในห้องสมุด หรือกดยืมต่อเองตอนผ่านระบบออนไลน์ก็ได้ค่ะ ห้องสมุดอีกที่นึงยืมครั้งแรกได้ 2 อาทิตย์ แต่ก็สามารถยืมต่อได้จนถึง 8 อาทิตย์เช่นกัน ทั้งนี้ในข้อแม้ว่าไม่มีคนจองหนังสือต่อนะค๊ะ ถ้ามีคนจองเราก็ไม่สามารถยืมต่อได้ค่ะ
3. ห้องสมุดที่แรกถ้าจองหนังสือแต่ละเล่มคิดค่าจองเล่มละ $0.80 ค่ะ แต่ที่ที่สองไม่คิดค่าจองเลย และที่เจ๋งมากคือในเขตเมืองที่สองมีห้องสมุดอยู่ 7 ที่ เจ้าของกระทู้สะดวกที่ logan west เพราะใกล้ที่เรียน ก็สามารถกดจองแล้วเลือกว่าจะไปรับที่ห้องสมุดสาขา logan west ได้เลย เมื่อหนังสือที่จองได้คิวแล้วเค้าจะส่งจดหมายหรืออีเมล์แล้วแต่เราระบุไปมากบอกค่ะ
4. เจ้าของกระทู้เคยยืมหนังสือแล้วเพื่อนยืมไปให้ลูกเค้าอ่าน ปรากฎว่าวันครบกำหนดคืนลูกเค้าป่วยเลยไม่ได้มาเรียน และไม่สามารถกดยืมหนังสือต่อได้แล้วเพราะมีคนจองพอดี เจ้าของกระทู้เลยไปติดต่อเจ้าหน้าที่ๆบอกไม่เป็นไร พอถามค่าใช้จ่ายที่คืนเกินกำหนด เค้าบอกเค้าไม่เคยคิดค่าปรับคืนหนังสือเกินกำหนดค่ะ
5. มีหนนึงห้องสมุดที่ logan เปลี่ยนระบบคืนใหม่ โดยให้สแกนคืนทีละเล่มด้วยความที่ไม่รู้เลยคืนทีเดียวสิบเล่ม ปรากฎว่าระบบรับทราบว่าเราคืนแค่เล่มเดียว กว่าเราจะรู้ตัวผ่านไป1อาทิตย์ พอไปติดต่อเจ้าหน้าที่เค้าก็ช่วยค้นหาให้ได้มาอีก 8 เล่ม หาเล่มสุดท้ายไม่เจอ เค้าก็บอกให้เราพยายามไปหาที่บ้าน เราก็หาไม่เจอจนครบกำหนด 8 อาทิตย์แล้ว เลยไปบอกเค้าว่าเรายินดีจะเสียเงินค่าหนังสือหาย เจ้าหน้าที่ให้เราเขียนคำร้องโดยเค้าจะช่วยเราหาอีกอาทิตย์ละครั้งอยู่ 4 อาทิตย์ สุดท้ายเค้าหาเจอ ก็ส่งจดหมายมาขอโทษเรา
6. ที่นี่เด็กเริ่มเรียนเทียบเท่าชั้นอนุบาล 3 บ้านเรา นอกเหนือจากหนังสือที่ให้เด็กหัดอ่านทุกวันแล้ว ทุกอาทิตย์เด็กๆต้องเอา library bag ไปโรงเรียน โดยครูจะพาเด็กไปยืมหนังสือที่ห้องสมุดโรงเรียนโดยให้เด็กเลือกหนังสือเองด้วยค่ะ พออาทิตย์ต่อมาก็เอาหนังสือที่ยืมไปคืนแล้วยืมเล่มใหม่ต่อไปเรื่อยๆ
7. หนังสือของห้องสมุดเค้าจะติดเหมือนชิพไว้ที่หนังสือทุกเล่มค่ะ ดังนั้นถ้ามีคนที่ขโมยนี่ตอนโดนออกจากห้องสมุด จะมีเสียงร้องกับมีกล้องถ่ายรูปไว้ด้วยค่ะ
8. โรงเรียนจะมี book club ซึ่งร่วมกับสำนักพิมพ์ โดยเค้าจะจัดรายการหนังสือราคาพิเศษ โดยเด็กต้องซื้อผ่านโรงเรียนเท่านั้น ทุกยอดของการสั่งซื้อโรงเรียนก็จะได้เป็นหนังสือกลับมาให้ห้องสมุดของโรงเรียนค่ะ เรียกได้ว่าวินวินทั้งสองฝ่าย ผู้ปกครองก็ได้ซื้อหนังสือราคาถูกแถมโรงเรียนก็ได้หนังสือฟรี เทอมนึงจะมี book club อยู่ 2 ครั้งค่ะ
จะเห็นได้ว่าที่นี่ทำให้เด็กเข้าถึงการอ่านได้ง่ายมากๆ ช่วงปิดเทอมถ้าไปห้องสมุดโซนของเด็กนี่หนังสือแทบจะหายไปเลยค่ะ เพราะมีคนยืมไปอ่านกันเยอะมากๆ และในห้องสมุดก็มีคนเข้าใช้บริการตั้งแต่เด็กทารกจนถึงผู้สูงอายุเลยทีเดียว เจ้าของกระทู้ตอนอยู่ไทยก็ซื้อหนังสือให้ลูกอ่านไม่น้อยเหมือนกัน หนังสือเด็กเล่มนึงก็ไม่ใช่ถูกๆนะค๊ะ ไม่ใช่เด็กทุกคนที่พ่อแม่จะสามารถซื้อให้อ่านได้เรื่อยๆ จำได้ว่าตอนลูกอยู่ที่ไทยเดือนๆนึงหมดค่าหนังสือเป็นพันๆ เจ้าของกระทู้เชื่อว่าการอ่านหนังสือเป็นการเปิดโลกทัศน์และสร้างจินตนาการกับเด็ก ดังนั้นคงจะดีไม่น้อยถ้าบ้านเราสามารถทำให้เด็กเข้าถึงการอ่านได้มากขึ้นเหมือนที่นี่ ไว้ถ้ามีโอกาสจะมาเล่าถึงการเรียนระดับอนุบาลของที่นั้นว่าวันๆเด็กเค้าทำอะไรกันบ้างน