สวัสดีและทักทายเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกท่านครับ คือเรามีฉายาว่า(คิซุยะ อัพเปอร์) ฉายานี้ได้คุณป้ารหัส(คนญี่ปุ่น) ตอนเรียนมหาลัยนางตั้งให้ ก็เลยปลื้มมากและเอามาตั้งทั้งชื่อ FB IG Line ทุกอย่างที่มีชื่อในโลก Social คือตั้งชื่อนี้หมด เรามี hastag เป็นของตัวเองด้วยนะ #ขอรับครับเหมียว #kubmeow ส่วนตัวเป็นคนชอบแมว ว่างๆก็เข้าไปทักทายกันด้วยนะขอรับครับเหมียว
เข้าเรื่องเลยต้องบอกก่อนว่าเป็นคนที่มีปัญหาเรื่องหน้าอ้วนมากถึงมากที่สุด เมื่อก่อนตอนไม่มีแอ็บแต่งรูปถ่ายรูปออกมานี้ก็ต้องมีมุมข้าง ถ่ายจากมุมสูง ถ่ายอยู่มุมเดียวแล้วนั้นแหละ ยิ่งตอนที่เราอ้วนขึ้นนอกจากน้ำหนักจะขึ้นแล้วหน้านี้บานมากกกก บานยิ่งกว่าทุ่งทานตะวันลพบุรี แก้มนี้ย้อยลงมากยิ่งกว่ารูปเด็กบนขวดซีอิ้วตราเด็กสมบูรณ์



คนอื่นคงจะคิดว่าหน้าบานก็ไปฉีด Botox หรือ Meso Fat เซ่... แต่เห้ยคือบางทีค่าฉีดมานก็ไม่ใช้น้อยๆแล้วผลมานก็อยู่ได้ไม่ได้ถาวรหรือคงทนป่ะว่ะ แถมต้องเอาหน้าไปจิ้มเข็มทุก 3 หรือ 6 เดือนครั้งด้วย คือเป็นคนที่ไม่ค่อยถูกกับกับเข็มฉีดยามากเท่าไหร่ อยากทำอะไรที่ทำครั้งเดียวแล้วเห็นผลยาวหรือตลอดไปเลยได้ยิ่งดี ก็เลยลองเล่นเน็ตหาวิธีทุกอย่างที่เขาเคลมว่าทำให้หน้าเรียว ทำให้แก้มลด ไม่ว่าจะกินยาลดหรือใช้ไม้นวดหน้าก็ผ่านมาหมดล่ะ กินจนตับไตจะพัง แต่ทำไงก็ไม่มีวี่แววว่าจะหายหน้าบานและแก้มใหญ่
วันหนึ่งก็ไปสะดุดเข้ากับเว็บหนึ่ง การตัดไขมันกระพุ้งแก้ม มีทั้งรีวิวและวิดิโอให้ดู พอได้ดูแล้วก็รู้สึก เห้ย...! แต่บอกตรงๆว่าชอบผลลับมากๆเพราะเขาเคลมว่าเป็นการย้าย Fat ส่วนเกินออกจากแก้มของเราและทำให้หน้าเป็น วีเชป ได้ด้วยที่สำคัญเห็นผล ถาวร !!!!! ประจวบเหมาะพอดิบพอดีมีเพื่อนรุ่นพี่ไปทำมา ก็เลยไปถามรายละเอียดทั้งหมดว่าคืออะไรยังไง (นางเล่าเยอะมาก ) ฟังจบก็ตัดสินใจเลยว่าต้องทำและทำที่เดียวกันเลยดีกว่า

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ก่อนตัดไขมันกระพุ้งแก้มก็ล้างหน้าแปรงฟันก่อนเลย พอถึงห้องตรวจคุณหมอก็จะประเมินหนังหน้าของเราก่อนว่าแก้มเรานั้นมีลักษณะอย่างไร และข้อสรุปที่ได้จากคุณหมอคือ **แก้มซ้ายของเราใหญ่กว่าแก้มขวาต้องทำเอาไขมันออกเยอะกว่าเพื่อให้แก้มทั้งสองข้างเท่ากัน**
คุณพระ!..... เราเองก็ไม่เคยสังเกตตัวเองเหมือนกันว่าเป็นคนแก้มไม่เท่ากัน แทบช็อค!! เข้าใจว่าหน้าเท่ากันมาตลอด 20 กว่าปีคิดว่าตัดสินใจถูกแล้วล่ะที่ตัดไขมันกระพุ้งแก้ม ตอนคุณหมอลงมีดนี่ไม่เจ็บเลยเพราะฉีดยาชาให้ตอนแรกจนตัดและเย็บแผลเสร็จ บอกเลยว่าไม่รู้สึกเจ็บหรืออะไรเลย ใช้เวลาไม่นาน แค่ 30 – 40 นาทีเอง จากนั้นก็ฝืนคืนชีพมาพร้อมใบหน้าที่ดูแก้มเล็กลงและดูเท่ากันเลยนะไม่ได้คิดไปเอง คุณหมอก็ให้ดูไขมันที่เอาออกมา อุต๊ะ.... ก็รู้สึกตกใจนิดนึงแต่ก็ไม่วายขอถ่ายรูปคู่กับคุณหมอ



พอหลังจากตัดกระพุ้งแก้มได้ 1 วัน ความกังวลกลัวว่ามันจะเจ็บ กลัวบวม กลัวกินข้าวไม่ได้ ก็ไม่เกิดขึ้นเลยครับพูดง่ายๆว่าใช้ชีวิตกินข้าวปกติ แต่ก็ไม่ได้กินอะไรที่แบบฮาทคอมากอย่าง ไก่ทอด ส้มตำ เอ็นหมู คือแรกๆกินอาหารไม่เผ็ดหรืออะไรนิ่มๆถนอมปากและแผลในปากบ้างเรา ก็เลยไปกิน บุฟเฟ่อาหารญี่ปุ่นเลยจ้า ประมานว่ากินปลาดิบแบบไม่เกรงใจแผลตัวเอง แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่กินยารักษาแผลนะเราก็กินตามปกติที่หมอจ่ายให้มาและก็หมั่นประคบเย็นบ้างเพื่อลดอาการบวมที่เกิดขึ้นซึ่งจะบวมช่วงวันที่ 2 -3 เท่านั้นนิดเดียว แต่หลังจากนั้นก็บอกเลยว่า happy และใช้ชีวิตตามปกติสุขแบบสุดๆ