ให้ 8/10 หนังแอคชั่นภาคต่อจาก Olympus Has Fallen (2013) ที่ไม่จำไปต้องดูแรกก่อนมาก่อน และไม่ควรจะเรียกว่าเป็นภาคต่อ เพราะเนื้อเรื่องไม่ต่อกันและตัวละครหลักปฏิบัติคนละภาระกิจหน้าที่ โดยภาค Olympus บอดี้การ์ดหนุ่ม Mike Banning (Gerard Butler) ทำการบุกไปช่วยประธานาธิบดีในทำเนียบขาว แต่สำหรับภาคนี้เหตุเกิดที่ลอนดอนค่ะ
ถ้าเปรียบ Olympus Has Fallen กับ White House Down ที่เนื้อเรื่องเหมือนกันมากแต่คนละฟีล ส่วนตัวจะชอบ White House Down มากกว่า เพราะดันได้ดู White House Down ก่อนและตลกกว่า แต่ถ้าเปรียบหนังฟีลเดียวกัน นักแสดงคนเดียวกัน อย่าง Olympus และ London แล้ว ส่วนตัวชอบ London มากกว่า เพราะเว่อร์น้อยกว่า มีความสมจริงมากขึ้น แต่ก็ยังคง concept ความเว่อร์เอาไว้อยู่
London Has Fallen ในช่วง 10 นาทีแรกที่ปูเรื่องนั้นจะค่อนข้างอืดหน่อยเมื่อเทียบกับจังหวะการดำเนินเรื่องหลังจากนั้น แต่เมื่อผ่าน 10 นาทีแรกไป ก็จะพบกับความสนุกและความมันส์ล้วนๆ เหมือนเวลาก่อถ่านก่อฝืน ที่อาจติดช้านิดนึง แต่เมื่อติดแล้ว คือร้อนอย่างต่อเนื่องเหลือเกิน
แม้ CG จะดูหลอกตาไปบ้าง แต่เมื่อเห็นตอนที่สถานที่สำคัญหลายๆแห่งในลอนดอนระเบิดตู้มต้ามกระจัดกระจาย ก็ให้ความรู้สึกที่สะใจดี (ในเชิงแอคชั่น) และเมื่อมีการยิงกันระห่ำ ระเบิดยับแบบต่อเนื่องนั้น ก็ทำให้ไม่สนใจเรื่อง CG ไปเลยทีเดียว เพราะมันมันส์จริงๆ อีกอย่างคือ Gerard Butler ยังคงเท่มากเหมือนเดิมค่ะ
ป.ล. นี่เป็นการให้คะแนนจากความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น ซึ่งแต่ละคนมีมุมมอง ความชอบ ความคิด ประสบการณ์ สิ่งที่เจอหรือรู้สึกในช่วงที่ดูหนังเรื่องนั้นๆต่างกัน เมื่อคุณไปดูแล้วคุณอาจจะชอบหรือไม่ชอบก็ได้ ไม่มีอะไรถูกหรือผิด ทุกคนไม่จำเป็นต้องมีความคิดเห็นเหมือนกันค่ะ
สามารถอ่าน Review หนังเรื่องอื่นๆได้ที่เพจ Movies Stalker ค่ะ
https://www.facebook.com/MoviesStalker
[CR] รีวิว London Has Fallen ชอบมากกว่า Olympus
ถ้าเปรียบ Olympus Has Fallen กับ White House Down ที่เนื้อเรื่องเหมือนกันมากแต่คนละฟีล ส่วนตัวจะชอบ White House Down มากกว่า เพราะดันได้ดู White House Down ก่อนและตลกกว่า แต่ถ้าเปรียบหนังฟีลเดียวกัน นักแสดงคนเดียวกัน อย่าง Olympus และ London แล้ว ส่วนตัวชอบ London มากกว่า เพราะเว่อร์น้อยกว่า มีความสมจริงมากขึ้น แต่ก็ยังคง concept ความเว่อร์เอาไว้อยู่
London Has Fallen ในช่วง 10 นาทีแรกที่ปูเรื่องนั้นจะค่อนข้างอืดหน่อยเมื่อเทียบกับจังหวะการดำเนินเรื่องหลังจากนั้น แต่เมื่อผ่าน 10 นาทีแรกไป ก็จะพบกับความสนุกและความมันส์ล้วนๆ เหมือนเวลาก่อถ่านก่อฝืน ที่อาจติดช้านิดนึง แต่เมื่อติดแล้ว คือร้อนอย่างต่อเนื่องเหลือเกิน
แม้ CG จะดูหลอกตาไปบ้าง แต่เมื่อเห็นตอนที่สถานที่สำคัญหลายๆแห่งในลอนดอนระเบิดตู้มต้ามกระจัดกระจาย ก็ให้ความรู้สึกที่สะใจดี (ในเชิงแอคชั่น) และเมื่อมีการยิงกันระห่ำ ระเบิดยับแบบต่อเนื่องนั้น ก็ทำให้ไม่สนใจเรื่อง CG ไปเลยทีเดียว เพราะมันมันส์จริงๆ อีกอย่างคือ Gerard Butler ยังคงเท่มากเหมือนเดิมค่ะ
ป.ล. นี่เป็นการให้คะแนนจากความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น ซึ่งแต่ละคนมีมุมมอง ความชอบ ความคิด ประสบการณ์ สิ่งที่เจอหรือรู้สึกในช่วงที่ดูหนังเรื่องนั้นๆต่างกัน เมื่อคุณไปดูแล้วคุณอาจจะชอบหรือไม่ชอบก็ได้ ไม่มีอะไรถูกหรือผิด ทุกคนไม่จำเป็นต้องมีความคิดเห็นเหมือนกันค่ะ
สามารถอ่าน Review หนังเรื่องอื่นๆได้ที่เพจ Movies Stalker ค่ะ https://www.facebook.com/MoviesStalker