จากคอลัมน์ เปิดฟ้าส่องโลก โดย คุณนิติ นวรัตน์ กล่าวไว้ดังนี้
เวียดนามเริ่มต้านค้าปลีกไทย
อาทิตย์ จันทร์ และอังคาร สามวันที่ผ่านมา รายการ Good Morning ASEAN ของคลื่นวิทยุ FM 100.5 MHz อสมท ใช้ อ.เกษมสันต์ วีระกุลและพ่อผมบรรยายในการเดินทางไปศึกษาดูงานเวียดนามของ บจม.พีทีที โกลบอล กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ ปตท.
นอกจากจะฟังบรรยายบนรถในระหว่างการเดินทางแล้ว คณะยังได้ฟังบรรยายสรุปจากท่านพรรณพิมล สุวรรณพงศ์ กงสุลใหญ่ นครโฮจิมินห์ และผู้จัดการธนาคารกรุงเทพ เวียดนาม และได้ศึกษาดูงานที่โรงงานศรีไทยซุปเปอร์แวร์ +ฟังบรรยายประสบการณ์การลงทุนในเวียดนามมากกว่า 10 ปี ของคุณสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ บจก.ศรีไทยซุปเปอร์แวร์+ฟังบรรยายสรุปและเยี่ยมชมอมตะซิตี้เบียนหัว ที่จังหวัดด่งนาย ฯลฯ
35 ชีวิตที่ไปเวียดนามครั้งนี้ เป็นนักบริหารระดับกลางและสูงผู้ทำงานในบริษัทที่มีมูลค่าการค้าเกิน 5 แสนล้านบาท/ปี+ นักวิเคราะห์ที่สัมผัสประเทศรุ่งเรืองและตกต่ำกว่า 100 ประเทศนานกว่า 20 ปี เมื่อคนทั้งสองกลุ่มได้ฟังข้อมูลจากข้าราชการในพื้นที่และจากคนไทยผู้มีประสบการณ์การลงทุนจริง ก็ได้เห็นโอกาสและข้อกำจัดของการลงทุนในเวียดนาม
กระแสคนเวียดนามในปัจจุบัน กำลังตื่นเรื่องค้าปลีกไทยจะไปครอบงำตลาดและวิถีชีวิตคนเวียดนาม ในบทวิเคราะห์และข่าวคราวตามหน้าหนังสือพิมพ์เวียดนามในห้วงนี้ จึงมีเรื่องโจมตีค้าปลีกจากไทยเยอะ ใครจะเข้าไปลงทุนในเวียดนามคงต้องโลว์โปรไฟล์หน่อยครับ ต้องไปเรียบๆ เงียบๆ ใครไปตีปี๊บ ทำข่าวใหญ่โต จะถูกต่อต้าน เมื่อคนทั่วไปต่อต้านแล้ว ผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีอำนาจก็จะไม่กล้าหยิบปากกาลงนามอนุมัติ การลงทุนของท่านก็จะไม่เกิด
เราเริ่มลงทุนในเวียดนามเมื่อ พ.ศ.2533 ถึงตอนนี้ คนไทยก็ลงทุนในเวียดนามแล้ว 371 โครงการ ทุนจดทะเบียนรวม 6.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นอันดับ 10 จากนักลงทุนต่างชาติทั้งหมด ร้อยละ 80 ของการลงทุนไทยอยู่ในอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูป ส่วนการค้าขายระหว่างไทยกับเวียดนามยังอยู่ที่ประมาณ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งตอนนี้มีความมุ่งหวังตั้งใจว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า จะต้องขยายให้ได้ถึง 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เศรษฐกิจเวียดนามจะบูมจากทวิภาคีและพหุภาคีที่เวียดนามมีกับประเทศสำคัญมากถึง 55 ประเทศ เช่น FTA กับเกาหลีใต้ และกับรัสเซีย และที่ทำให้บูมจริงๆ ก็น่าจะเป็น TPP (ลงนาม 5 ต.ค. 58) และ FTA กับสหภาพยุโรป 28 ประเทศ (ลงนาม 2 ธ.ค.58)
สินค้าไทยได้รับความนิยมมากในเวียดนาม อันนี้ก็อาจจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้ผลิตสินค้าท้องถิ่นและชาติอื่นที่ลงทุนและส่งสินค้าขายในเวียดนามโจมตีไทย เรื่องนี้ ผมว่าคนไทยต้องทำ Corporate Social Responsibility หรือ CSR แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของเวียดนามอย่างต่อเนื่องจริงจังครับ
ทุกครั้งที่ไปเวียดนาม เรามักจะได้ยินเรื่องที่ไทยส่งทหาร 2,423 นาย ไปช่วยอเมริการบและเป็นฐานทัพให้เครื่องบิน B-52 เอาระเบิดไปฆ่าผู้คนในสงครามเวียดนาม ซึ่งดูเหมือนว่าผู้คนเวียดนามจะลืมไปแล้ว แต่ในความเป็นจริงไม่ลืมครับ ผมขอมองโลกในแง่ร้ายหน่อยว่า ถ้าเรื่องนี้ถูกปั่นขึ้นมาในอนาคตจนปะทุ ก็อาจทำให้วัยรุ่นเป็นร้อยคนขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนทำร้ายคนไทยและเผาโรงงานไทย อย่างที่ทำกับจีนเมื่อ 2 ปีที่แล้วนี่ ก็ได้
เราต้องเร่งนำประวัติศาสตร์สงครามเวียดนามกับฝรั่งเศสออกมาพิมพ์เป็นภาษาเวียดนามเยอะๆ สร้างเป็นภาพยนตร์ก็ได้ เพราะในการกอบกู้เอกราชจากฝรั่งเศสนั้น ประเทศสยามช่วยขบวนการกู้ชาติเวียดนามอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู แต่ไม่มีการเปิดเผยกัน
ผมเชื่อว่านักประวัติศาสตร์ที่เรียนจากเวียดนามและรัสเซียมีข้อมูลเรื่องนี้ มีชื่อสถานที่และตัวละครครบ
น่าจะมีสถานศึกษาใดสักแห่งทำหน้าที่เป็นคลังประวัติศาสตร์ เพื่อนำประวัติศาสตร์มาใช้ประโยชน์สร้างความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
https://www.thairath.co.th/content/585487
เรื่องที่เค้าจะเอาเรื่องในอดีตมาปั่นจนคนของเค้ามาทำร้ายและเผาโรงงานเหมือนที่ทำกับจีน นี่มันมีโอกาสเกิดขึ้นจริงเหรอคะ อ่านแล้วรู้สึกแปลกๆ
คิดเห็นอย่างไรกับบทความนี้คะ เวียดนาม
เวียดนามเริ่มต้านค้าปลีกไทย
อาทิตย์ จันทร์ และอังคาร สามวันที่ผ่านมา รายการ Good Morning ASEAN ของคลื่นวิทยุ FM 100.5 MHz อสมท ใช้ อ.เกษมสันต์ วีระกุลและพ่อผมบรรยายในการเดินทางไปศึกษาดูงานเวียดนามของ บจม.พีทีที โกลบอล กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ ปตท.
นอกจากจะฟังบรรยายบนรถในระหว่างการเดินทางแล้ว คณะยังได้ฟังบรรยายสรุปจากท่านพรรณพิมล สุวรรณพงศ์ กงสุลใหญ่ นครโฮจิมินห์ และผู้จัดการธนาคารกรุงเทพ เวียดนาม และได้ศึกษาดูงานที่โรงงานศรีไทยซุปเปอร์แวร์ +ฟังบรรยายประสบการณ์การลงทุนในเวียดนามมากกว่า 10 ปี ของคุณสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ บจก.ศรีไทยซุปเปอร์แวร์+ฟังบรรยายสรุปและเยี่ยมชมอมตะซิตี้เบียนหัว ที่จังหวัดด่งนาย ฯลฯ
35 ชีวิตที่ไปเวียดนามครั้งนี้ เป็นนักบริหารระดับกลางและสูงผู้ทำงานในบริษัทที่มีมูลค่าการค้าเกิน 5 แสนล้านบาท/ปี+ นักวิเคราะห์ที่สัมผัสประเทศรุ่งเรืองและตกต่ำกว่า 100 ประเทศนานกว่า 20 ปี เมื่อคนทั้งสองกลุ่มได้ฟังข้อมูลจากข้าราชการในพื้นที่และจากคนไทยผู้มีประสบการณ์การลงทุนจริง ก็ได้เห็นโอกาสและข้อกำจัดของการลงทุนในเวียดนาม
กระแสคนเวียดนามในปัจจุบัน กำลังตื่นเรื่องค้าปลีกไทยจะไปครอบงำตลาดและวิถีชีวิตคนเวียดนาม ในบทวิเคราะห์และข่าวคราวตามหน้าหนังสือพิมพ์เวียดนามในห้วงนี้ จึงมีเรื่องโจมตีค้าปลีกจากไทยเยอะ ใครจะเข้าไปลงทุนในเวียดนามคงต้องโลว์โปรไฟล์หน่อยครับ ต้องไปเรียบๆ เงียบๆ ใครไปตีปี๊บ ทำข่าวใหญ่โต จะถูกต่อต้าน เมื่อคนทั่วไปต่อต้านแล้ว ผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีอำนาจก็จะไม่กล้าหยิบปากกาลงนามอนุมัติ การลงทุนของท่านก็จะไม่เกิด
เราเริ่มลงทุนในเวียดนามเมื่อ พ.ศ.2533 ถึงตอนนี้ คนไทยก็ลงทุนในเวียดนามแล้ว 371 โครงการ ทุนจดทะเบียนรวม 6.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นอันดับ 10 จากนักลงทุนต่างชาติทั้งหมด ร้อยละ 80 ของการลงทุนไทยอยู่ในอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูป ส่วนการค้าขายระหว่างไทยกับเวียดนามยังอยู่ที่ประมาณ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งตอนนี้มีความมุ่งหวังตั้งใจว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า จะต้องขยายให้ได้ถึง 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เศรษฐกิจเวียดนามจะบูมจากทวิภาคีและพหุภาคีที่เวียดนามมีกับประเทศสำคัญมากถึง 55 ประเทศ เช่น FTA กับเกาหลีใต้ และกับรัสเซีย และที่ทำให้บูมจริงๆ ก็น่าจะเป็น TPP (ลงนาม 5 ต.ค. 58) และ FTA กับสหภาพยุโรป 28 ประเทศ (ลงนาม 2 ธ.ค.58)
สินค้าไทยได้รับความนิยมมากในเวียดนาม อันนี้ก็อาจจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้ผลิตสินค้าท้องถิ่นและชาติอื่นที่ลงทุนและส่งสินค้าขายในเวียดนามโจมตีไทย เรื่องนี้ ผมว่าคนไทยต้องทำ Corporate Social Responsibility หรือ CSR แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมของเวียดนามอย่างต่อเนื่องจริงจังครับ
ทุกครั้งที่ไปเวียดนาม เรามักจะได้ยินเรื่องที่ไทยส่งทหาร 2,423 นาย ไปช่วยอเมริการบและเป็นฐานทัพให้เครื่องบิน B-52 เอาระเบิดไปฆ่าผู้คนในสงครามเวียดนาม ซึ่งดูเหมือนว่าผู้คนเวียดนามจะลืมไปแล้ว แต่ในความเป็นจริงไม่ลืมครับ ผมขอมองโลกในแง่ร้ายหน่อยว่า ถ้าเรื่องนี้ถูกปั่นขึ้นมาในอนาคตจนปะทุ ก็อาจทำให้วัยรุ่นเป็นร้อยคนขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนทำร้ายคนไทยและเผาโรงงานไทย อย่างที่ทำกับจีนเมื่อ 2 ปีที่แล้วนี่ ก็ได้
เราต้องเร่งนำประวัติศาสตร์สงครามเวียดนามกับฝรั่งเศสออกมาพิมพ์เป็นภาษาเวียดนามเยอะๆ สร้างเป็นภาพยนตร์ก็ได้ เพราะในการกอบกู้เอกราชจากฝรั่งเศสนั้น ประเทศสยามช่วยขบวนการกู้ชาติเวียดนามอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู แต่ไม่มีการเปิดเผยกัน
ผมเชื่อว่านักประวัติศาสตร์ที่เรียนจากเวียดนามและรัสเซียมีข้อมูลเรื่องนี้ มีชื่อสถานที่และตัวละครครบ
น่าจะมีสถานศึกษาใดสักแห่งทำหน้าที่เป็นคลังประวัติศาสตร์ เพื่อนำประวัติศาสตร์มาใช้ประโยชน์สร้างความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
https://www.thairath.co.th/content/585487
เรื่องที่เค้าจะเอาเรื่องในอดีตมาปั่นจนคนของเค้ามาทำร้ายและเผาโรงงานเหมือนที่ทำกับจีน นี่มันมีโอกาสเกิดขึ้นจริงเหรอคะ อ่านแล้วรู้สึกแปลกๆ