ช่างบ้านเราคนไทยไม่ห่วงชีวิตตัวเองและทำงาน กากๆ ให้ลูกค้า ??

ผมเอง คุ้นเคยกับงานช่างตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ ผมรับรู้เรื่องราวและยุคสมัยในวงการช่าง บ้านเรามาพอสมควร  ผมไม่เคยพูดเรื่องนี้กับใครครับ  จะมาเล่าเรื่องนี้ครั้งแรกในมุมมองผมครับ
ผมรู้สึกอนาถใจ  ปนสังเวช จริงๆ ครับ  กับคนที่ทำงานด้านช่าง (ในทุกแขนงของวิศวะกรรม)  เรียกตัวเองว่าช่าง แต่ไม่ทำตัวเป็นช่างที่ดี ต่อตนเองและลูกค้า
- รองเท้าแตะ จะเห็นได้ตามอู่ ไซส์งานก่อสร้าง ซะมาก การใส่รองเท้าหุ้มส้นมาทำงานนี่ลำบากขนาดนั้นเลยหรือ  ป้องได้มากเลยนะ

- แว่นตา   ไม่ใส่  ในงานเชื่อม เจียรนัย   ช่างบางคน ใช้วิธีปิดตาหรือมือข้างหนึงถือแล้วใช้อีกมือป้องเอา  เฮ้ย แว่นตากรองแสงราคา 2-300 ไม่คิดจะริหากันหรือไงเนี่ย ไม่ได้แพงมากเลยนะพื้นๆเลย แว่นใสกันสะเก็ด ก็ราคาถูกมากกกก

-  ใช้เครื่องมือผิดประเภท  เอาประแจเลื่อนมาทุบ ตะปู  เอาประแจไปงัดยาง  ใช้หัวไขควงตอกลิ่ม ใช้สิ่วไปเซาะเหล็ก เอากระดาษทรายขัดไม้มาขัดเหล็ก  
ใช้เหล็กไปสกัดปูนแทนที่จะใช้ สกัดจริงๆ  ใช้ไฟแช็คจุดหัวเชื่อม  เอาค้อนเหล็กทุบวัสดุอ่อน บอบบาง  ฯลฯ  ถ้าผมเป็นนายจ้างละ จะตบให้หัวทิ่มเลย  มักง่ายเกินไป

- วางของมั่วเกะกะ  ร้านซ่อมบางที่มักง่ายวางเครื่องมือ บนพื้นเกะกะมั่วไปหมด ผนังมี ไม่แขวนไม่ใส่ตู้ บางทีผมนึกว่ารื้อร้าน เครื่องมือสุมไว้ปนกัน ของมีคมเอารวมกับประแจ ที่น่ากุมขมับ คือ เอาเวอร์เนียวางบนพื้นซีเมน เอาเครื่องมือวัดกองรวมกับเครื่องมืออื่น นั่นหละฮะ   แล้วจะหาความเที่ยงตรงของเครื่องมือได้อีกมั้ย...

- ประมาท ไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำ มันโง่มาก  >> ใช้หัวตัดแก๊สตัดถัง200 ลิตร โดยไม่ระบายอากาศและถ่ายของเหลวออก   ถ้าไฟย้อนเข้าถังออกซิเจน มีสิทธ์ตาย
เหมือนกัน บางคนนี่ก็ไม่คิดจะหาความรู้เลย  ถังออกซิเจน จำต้องมี ตัวกันไฟย้อนกันถังระเบิด (รุนแรงมากหลายเคส)  แต่ที่ผมเห็น มีน้อยมาก
วางถังนอน   ไม่มีโซ่คล้องถัง  เชื่อมถังที่มีน้ำมันอยู่   ใช้สายเปลือยเสียบปลั๊ก  ใช้มือดันไม้เข้าเครื่องเลื่อย ( มือขาดมาเยอะแล้ว )  ใช้เครื่องเจียร์สวิทช์ปิดไม่ดี ไม่ใส่การ์ดป้องกัน   คานที่เอาไว้คล้องรอก เป็นเหล็กท่อบางๆ ( นี่น่ากลัว ) ปีนเสาไฟไม่มีสลิง  ไม่ใช้อุปกรณ์กันไฟเวลาทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้า ยิ่งไฟฟ้าแรงสูง บางคน เกงยีน รองเท้าแตะ  ดีหน่อยมีถุงมือและหมวกเท่านั้น!!

- ความชุ่ย นี่พีคสุดเพราะเกี่ยวข้องกับผู้ใช้บริการโดยตรง  หลายคนเคยเจอช่างกาก ช่างมั่ว   งานสร้างบ้าน หรือแม้แต่งานบิ้วอินท์  
ไม่ว่าจะเป็น ทำแบบขอไปที   ทำโดยไม่รู้ทึกทักเอาเอง แล้วเจ้ง  แกะรถลูกค้าแล้วเอาอะไหล่ชิ้นเล็กๆบอบบางวางไว้กับพื้น อันนี้ผมเคยเจอ ช่างกาก แกะคาร์บิวเรเตอร์รถ แล้วเอานมหนู วางกับพื้นซีเมนต์ดำๆที่เขลอะด้วยทรายและน้ำมันเครื่อง หืมมมมมมมมมมมมมม..

อุบัติเหตุจากเรื่องพวกนี้ จริงๆเกิดขึ้นทุกวันนะครับ  ทำไมช่างบ้านเราถึงมีทัศนคติแบบนี้ เมืองนอกฝรั่งบางคนมันใช้เครื่องมือดีๆ อุปกรณ์เซฟตี้ ดีและครบมาก บางคนไม่ได้เป็นช่างโดยตรง  ทำเป็นอดิเรก  backyard shop ฝรั่งหลายคนนี่มีเครื่องมือมากกว่าผู้รับเหมาบ้านเราบางคนเสียอีก คือเค้าให้ความสำคัญกับชีวิต มีค่ามาก เกิดมาครั้งเดียวจะเห็นได้จาก youtube ..
บางทีผมก็คิดนะราคาชีวิตบ้านเรามันถูก
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
จากประสบการณ์น่ะ ที่ทำงานมา เอาของจริงไม่ใช่หลักการ สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจสังคมต่างกัน ไทยกับฝรั่งไม่เหมือนกัน
     ช่างบ้านเราเขาไม่ได้เรียนมหาลัย ที่ทำงานจริง ๆ เห็นกันอยู่ในตลาดแรงงานจริง ๆ ไม่ใช่พวกเด็กช่างอาชีวะ ปวช ปวส น่ะ
เขามาจากต่างจังหวัด เรียนกันอย่างมาก ม.ต้น หรือไม่ถึงด้วยซ้ำ  เข้ามาทำมาหากิน มาอยู่กับญาติ ส่วนใหญ่มาจากอีสาน มาเป็นลูกมือให้ญาติพี้น้องที่เป็นช่างรับเหมามาทำงานกรุงเทพ มาช่วยทำงาน   เขาไม่ได้ไปเขารับการฝึกอบรบด้านช่างได้ใบอนุญาติอะไร ๆ จากหน่วยงานไหนหรอก  เขาก็ไม่รู้การทำงานตามมาตราฐานสากลว่าต้องเป็นยังไง ต้องใ่ส่แว่นตา ต้องใ่ส่หมวก ต้องใส่ถุงมือ ฯลฯ เขาไม่รู้ไง
แล้ววิชาช่างต่าง ๆ ก่อสร้างอะไร ๆ งานเชื่อม งานเหล็ก ก็เรียนจากญาิติฝึกสอนกันเอง เรียนไปทำไปตามประสบการณ์ จะให้เขาไปรู้วิชาวิทยาศาสตร์ของแก๊ส ความดัน สารเคมีอะไร ๆ ที่ไหนยังไงได้ ภาษาอังกฤษยังอ่านไม่ออกเลย ต้องบอกให้จำเอาว่าอันนี้ใช้ทำไอ้นั่นไอ้นี้ถ้าเป็นเครื้องมือที่มีภาษาอังกฤษ  ถ้าเขามีความรู้เ่ีรียนสูงเขาไม่มาเป็นช่างหรอก นี้เรื่องจริง ไ่ม่งั้นต้องไปหาช่างต่างด้าว พม่าหรือเขมร ลาว ก็ควบคุมยากไม่คุ้นเคยและที่สำคัญการฝึกงานช่างมันไม่ใช่ง่าย ๆ ด้วย เป็นงานทักษะฝีมือที่ใช้เวลา
พวกเด็กช่างอาชีวะ ปวช ปวส ไม่มาทำหรอก เพราะพวกนี้จะหาทางเรียนต่อปริญญาไปเป็นวิศวะ หรือไปทำงานดีกว่านี้
   และบ้านเราต้องทำงานตามมีตามเกิด มันเ็ป็นระบบโครงสร้างเลย จะไปด่าช่างอย่างเดียวไม่ถูก เขาก็อาจจะอยากทำอะไร ๆ แบบฝรั่ง
แต่ความจริง เงินจะกินจะใช้ยังไม่ค่อยพอ ตอนนี้ค่าแรงให้ 300 ก็ยังไม่พอกับค่าครองชีพเลย
   จะให้ไปหาซื้อแว่นตา ซื้อหมวก ซื้อรองเท้า ซื้อชุดใ่ส่ทำงานช่างต่าง ๆ โดยเฉพาะ ๆ ฯลฯ แบบฝรั่ง ราคาก็ไม่ถูก
ก็ไม่มีตัง ก็ต้องใส่รองเท้าแตะ ไม่ใส่หมวก พอนาน ๆ ไปก็เคยชิน ใช้ความเคยชินทำงานแทนกฎระเบัยบตาม ๆ กันมา

   ถ้าไปรับงานทำให้บริษัทโรงงานญี่ปุ่นในไทยจะมีกฎเยอะแยะ เวลาช่างรับเหมาที่ไหนจะไปทำงาน ของญี่ปุ่นเขาจะบังคับให้ช่างผู้รับเหมาต้องเข้าอบรมก่อน 3 ชม. เรื่องต่าง ๆ บังคับให้ไปหาซื้อหมวกมา บังคับให้ใส่รองเท่าหุ้มข้อห้ามใส่แตะ บังคับแต่งตัวเรียบร้อยใส่เสื้อช่าง จะทำอะไรตรงไหนต้องแจ้งก่อน ก็ช่วยได้ส่วนหนึ่งเรื่องความปลอดภัยต่าง ๆ  ดังนั้นพอรู้ว่าจะไปทำงานให้ญี่ปุ่นเขาก็ปรับตัว ต้องหาเสื้อผ้า รองเท้ามาใส่ให้ดีก่อน ก็ทำได้แต่ต้องมีคนอบรบให้เพราะภาษาอังกฤษอ่านไม่ออก ก็ทำได้ ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้หรือไม่อยากทำ
   แต่ส่วนใหญ่เป็นบริษัทคนไทยที่ไม่กำหนดหรือไม่สนใจ บางทีคนจ้างงานนั่นแหละมีอำนาจมากในการบังคับกฎต่าง ๆ ถ้าเจ้าของงานไม่บังคับช่างก็ไม่ทำตามเพราะเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไรนอกจากงานช่างที่ต้องทำ
   จริง ๆ ตัวเจ้าของงาน ต่าง ๆ บริษัทจ่างงานต่าง ๆ นั่นควรมีจิตสำนึกหรือมีน้ำใจลงทุนซื้ออุปกรณ์ปลอดภัยต่าง ๆ ให้ช่างหรืออบรบก่อนทำงา จะไปโยนให้ช่างรับผิดชอบหมดก็ไม่ได้
ความคิดเห็นที่ 4
อยากจะตอบง่าย ๆ ว่าปัญหาช่างแรงงานบ้านเราน่ะ  คนเรียนไม่ได้ทำ คนทำไม่ได้เรียน  พูดจากประสบการณ์์ทำงานจริง ๆ
ต้องให้รัฐบาลมาดูแล  เราสร้างสายอาชีพอาชีวะมา แต่พวกเด็กอาชีวะไม่ทำหรอก พูดตรง ๆ
  มีำ่พ่อแม่คนไหนอยากส่งลูกเรียนเพื่อไปเป็นช่างก่อสร้าง ช่างไม้ ช่างเหล็ก ช่างอ๊อก เป็นช่างรับเหมา แบกปูนตากแดดตัวดำ ๆ ลำบาก ๆ ??? ไม่มีหรอก เด็กที่เรียนสายอาชีวะก็ไม่อยากทำด้วย อยากไปเป็นวิศะ อยากไปคุมงาน ก็ต้องหาแรงงานบ้านนอกตามมีตามเกิด หรือต่างด้าวไปเลยพูดไทยได้บ้างไม่ได้บ้าง อังกฤษก็ไม่ได้  อย่าไปเอาฝรั่งหรือที่เห็นเมืองนอกมาเปรียบเทัยบกับบ้านเราเลย ที่ว่าทำไมช่างฝรั่งเขาแต่งตัวดี ใส่หมวก ใส่แว่น ใ่ส่ชุดทำงานดูดี อุปกรณ์เครื่องมือครบชุดไปหมดมีทุกอย่าง มีความรู้ สภาพปัจจัยแวดล้อมมันคนล่ะเรื่อง

สรุป คนทำงานจริงไม่ได้เรียน คนเรียนจริงไม่ได้ทำงาน ก็เป็นปัญหานี้ไง
ความคิดเห็นที่ 3
เรากดค่าแรงเค้าต่ำกว่าที่ควรจะเป็นไปเยอะ เพียงเพราะเค้าไม่มีทางเลือกมากนัก
แล้วจะคาดหวังอะไรละครับ
บางคนหักคอเค้าสารพัดจะทำกัน เห็นแล้วก็ เหนื่อยใจ

พูดแล้วก็ต่ออีกนิด ถ้ารัฐเข้ามาช่วยเหลือเพิ่มเงินทุน เค้าจะมีศักยภาพอีกเยอะมากๆ
และเค้าเองก็จะปลอดภัยได้อีกเยอะเลย
แต่ก็นั่นแล่ะ หลายๆคนก็จะมองว่า รัฐทำให้คนเป็นหนี้ไปซะอีก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่