แชร์ประสบการณ์การเสริมจมูกค่ะ (การเตรียมตัวก่อนและหลัง)

สวัสดีค่ะ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มาตั้งกระทู้ถามเกี่ยวกับเรื่องเสริมจมูก  ในที่สุดได้ไปทำมาแล้วค่ะ
เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์การเตรียมตัวเผื่อมีเพื่อนๆคนไหนสนใจค่ะ

ขอเกริ่นก่อนว่า เราไปทำมาเมื่อวันศุกร์ที่ 26 กพ. ตอนบ่ายค่ะ ที่คลินิกแถวอารีย์ คุณหมอที่เสริมให้เป็นคุณหมอประจำที่รพ. รามาฯ (จริงๆคุณหมอเป็นเพื่อนสมัยประถมค่ะ)

ด้วยความที่เรากลัวบวมและช้ำมาก เพระาเราขาวและเป็นจ้ำง่ายเวลาโดนกระแทก เราเลยพยายามหาจากเว็บไซด์ต่างๆ ว่าต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง ก็ได้มาประมาณนี้ค่ะ

ของกินนะคะ
1. ยาจีนเพื่ยนจือหวัง 2 เม็ด (ราคาเม็ดละ 2800 บาท) แบ่งเป็นแคปซูลได้ 12 เม็ด
2. ยาจีนหยุนหนานไป๋เหยา สีเขียว (2 กล่อง) + ยาจีนเหล่งเอี้ยง 1 ชุด (รวม 900 หรือ 1000 บาท นี่ล่ะค่ะ จำราคาไม่ได้)
3. สมุนไพรแคปซูลใบบัวบก
4. น้ำมะพร้าว 100% แบบขวด (ไว้ดื่มแก้บวม ไม่รู้ช่วยได้มั๊ย เค้าว่าดีก็ว่าตามเค้า 555)
5. โจ๊กซอง มาม่าซอง  (ไม่ได้กินเลย ไม่รู้ซื้อมาทำไม งงตัวเอง)


เนื่องด้วยเราเป็นพวกพารานอยด์ค่ะ เลยเหมายาจีนมาหลายขนาน จริงๆคนขายบอกว่าเพื่ยนจือหวังอันเดียวก็พอแล้ว ราคามันก็บอกอยู่ว่าสรรพคุณมันแรง แต่เราก็ยังบ้าซื้อยาข้อที่ 2+3 เพิ่ม เพราะยาข้อที่ 2+ 3 เรากินก่อนทำค่ะ

วิธีทานยาสำหรับเรานะคะ
1. เราทานหยุนหนานไป๋เหยาแคปซูลสีเหลืองครั้งละ 2 เม็ด หลังอาหาร เช้า/กลางวัน/เย็น ตั้งแต่วันพุธ - ศุกร์
2. ทานแคปซูลใบบัวบกคู่กับข้อ 1
3. ก่อนทำ 1 ชม. เรากินหยุนหนานไป๋เหยาเม็ดเล็ก และ อีก 1 เม็ดหลังทำภายในหนึ่งชม. ง่ายๆ คือเม็ดแรกกินก่อนเข้าคลินิก อีกเม็ดก็กินปุ๊บหลังลงจากเตียงมานั่งเมาธ์กับหมอค่ะ
4. วันศกุร์เช้าเราต้มเหล่งเอี๊ยงดื่มค่ะ และกลับมาต้มอีกรอบตอนดึก
ปล. เราอ่านรีวิว เห็นว่าห้ามกินหยุนหนานกับของเย็น ช่วงสามวันก่อนทำเราเลยไม่กินน้ำเย็นเลย น้ำมะพร้าวก็ไม่เย็นค่ะ
5. เพื่ยนจื่อหวัง เราเริ่มกินตั้งแต่เช้าวันเสาร์ค่ะ กินก่อนอาหาร เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน

อยากบอกเพื่อนๆว่า ซื้อตามกำลังทรัพย์นะคะ หลายคนก็บอกว่าหยุนหนาน+เหล่งเอี๊ยงก็เพียงพอแล้ว เพราะ เพื่ยนจื่อหวังแพงมากกกกกกและต้องซื้อร้านที่ไว้ใจได้เท่านั้น หาซื้อยากอ่ะค่ะ

ของใช้นะคะ
1. เจลล้างหน้าเราพาริล + สำลี
2. เจลลดบวมเราพาริล (ไม่รู้ซื้อมาทำไม ทาไปครั้งเดียวแล้วไม่ได้ใช้อีกเลย)
3. มาร์คหน้ากาก (ไม่ได้ใช้เช่นกัน เนื่องจากแทบไม่บวมช้ำเลย -*-)
4. สำลีม้วนก้าน ไว้เช็ดจมูกค่ะ
5. น้ำเกลือ
6. หมอนหนุนคอ (อันนี้สำคัญมากกกกก ก ไก่ล้านตัว)
7. เจลประคบเย็น 3 เอ็ม (แนะนำ ไซส์ S สะดวกกว่า ไซส์เอ็มมือไม้อ่อนขึ้นมา ร่วงโดนจมูก มีกรี๊ดค่ะ และอย่างเคย ด้วยความนอยด์ ซื้อ เจลเย็นไซส์ s มา 3 อัน และ M อีก 2 อัน เพื่อนบอกแกบ้าไปแล้ว)


สำหรับเจลเย็น เราประคบ 48 ชม. แรก ซึ่งเราทำเสร็จวันศุกร์ตอนเกือบ 4 โมงเย็น ถึงห้องหลังเอ้อละเอยก็ประมาณสามทุ่ม เราก็เริ่มประคบตอนนั้นค่ะ ประคบ20นาที แล้วพัก 20 นาที นอนเมื่อไหร่ก็หยุดประคบ  พอวันอาทิตย์ตอนเย็น เราก็หยุดประคบค่ะ สำคัญคือ อย่าประคบตรงจมูกตรงๆ นะคะ  จมูกเราเปราะบางมากค่ะ ประคบตรงตา ใต้ตา หน้าผากนะคะ

น่าจะไม่ตกหล่นนะคะ ข้าวของที่เตรียมไว้ก็ประมาณนี้ค่ะ

ขอเล่าประสบการณ์นะคะ ก่อนทำก็นัดเจอเพื่อนค่ะ บอกนางว่าเราไม่มีทรงที่ต้องการนะคะ อยากได้ธรรมชาติและเอาที่มันเอื้อกับข้อจำกัดของเรา เพราะเนื้อจมูกเราน้อย และหน้าเรากลมมากกก

คืนก่อนทำก็สวดมนต์ใหญ่ค่ะ เพื่อความสบายใจ วันที่มาทำ เพื่อนก็ให้กินยาคลายเครียดค่ะ เพื่อให้เจ็บน้อยลงตอนฉีดยาชา
ก็อย่างที่หลายๆคนที่เคยทำบอกนะคะ มันเจ็บสุดตอนฉีดยาชาค่ะ หลายเข็มเลยอ่ะ 4 เข็มได้มั้ง ตรงจมูก

เรากินยาคลายเครียดไปสักพักก็ยังไม่ง่วง จนเพื่อนบ่นว่าเมื่อไหร่แกจะหลับสักทีวะ ไม่หลับชั้นจะทำแล้วนะ นางรอสักพักเห็นยังตาใสอยู่นางเลยจับฉีดยาเลยค่ะ เราเริ่มชาปากตั้งแต่ตอนฉีดยาชาปลายจมูกค่ะ พอนางฉีดยาที่สันจมูกน้ำตาไหลพรากๆ เจ็บมากกกก แล้วจากนั้นเราก็หลับค่ะ ตื่นมาอีกทีตอนเพื่อนใส่ซิลิโคลนเข้าไป ไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะ รู้ว่ามีอะไรยัดเข้ามา แต่ไม่เจ็บ นอนฟังเค้าคุยกัน เพื่อนอยากได้โด่งกว่านี้ แต่จมูกเราใสมากเลย นางเลยเอาซิลิโคลนออกมาแก้ แล้วใส่ใหม่ ก็เข้าๆ ออกๆ พักนึง แล้วนางก็เย็บแผล

ตอนลงจากเตียง เพื่อนเอากระจกให้ดู รู้สึกทึ่งๆตัวเองกับการกล้าทำศัลยกรรม แต่สภาพหน้าแย่มาก เพราะไม่ได้แต่งหน้า โทรมอ่ะ เพื่อนก็ถามว่าพอใจมั๊ย ชอบมั๊ย อะไรประมาณนี้

ตอนแรกกะจะกลับห้องเลย เพื่อนจะมาส่ง ปรากฏเดินออกมาจนเกือบถึงปากซอยก็ไม่มีแทกซี่ เลยกลับมาคลินิกนั่งเล่นคอมรอเวลา ดูโอ้เอ้มากเลยค่ะ

แล้วจะบอกว่าเราชิลกับอาหารการกินมากเลยค่ะ หมอก็ไม่ได้ห้ามด้วยนะคะ ตอนค่ำ เพื่อนกับอาจารย์เพื่อนมาส่ง แล้วแวะทานข้าวกัน เพื่อนยังตักกุ้งให้เราตั้งหลายตัวเลยค่ะ บอกกินเยอะๆ เดี๋ยวเหลือ 555

แล้วอาจารย์นางรู้ว่าเราชอบเบียร์ ก็สั่งเบียร์สิงห์มากินด้วยกันค่ะ ขวดนึง แบ่งกันสามคน เราตกใจมาก นึกว่าห้ามกิน อุตสาห์งดเบียร์ งดซีฟู๊ดก่อนทำ สามวัน ปรากฏว่าทำเสร็จไม่กี่ชม. จัดเบียร์พร้อมกุ้งเฉยเลย

ลืมบอกค่ะ เราทานกุ้ง หอย ปู ปลา ปลาร้า ปกติเลยค่ะ แต่แนะนำว่าอะไรที่ทำให้มีน้ำมูกให้งดก่อน เพราะเราสั่งน้ำมูกไม่ได้ และช่วงแรกๆเราไม่ค่อยอยากแตะต้องจมูก

คือเราไม่รู้เพราะสารพัดยาที่เราประโคมเข้าสู่ร่างกายรึเปล่านะคะ เราแทบไม่บวมเลยค่ะ
สเต็ปการบวมของเรานะคะ
วันศุกร์ ปลายจมูกบวมนิดนึง ข้างตาเขียวนิดๆ
วันเสาร์ ตาบวมเหมือนคนอดนอน ข้างตาเขียวนิดๆ เหมือนเดิม ใต้ตา เขียวจางๆออกเหลือง
วันอาทิตย์  ตอนเช้าตาไม่บวมแล้วค่ะ ข้างตาเขียวนิดๆ ออกเหลือง
วันจันทร์ ใต้ตาออกเหลืองจางๆ

เรากะลางานอาทิตย์นึง วันจันทร์บ่ายรู้สึกว่ามันไม่ได้สะพรึงอย่างที่กลัว เราเลยไปทำงานวันอังคาร ซึ่งตลอดทุกวันเราออกไปซื้อของนอกห้อง เราไม่ต้องใส่มาร์คเลยค่ะ ดูเผินๆมันปกติมาก แค่ทาแป้งฝุ่น  วันอังคารที่มาทำงานเราใช้คอนซีลเลอร์ใต้ตาเพราะมันเหลืองจางๆ

ที่ทำงานบางคนที่สนิทกันจะดูออกว่าเราไปทำจมูก เพราะเราเป็นคนไม่มีดั้งเลย มาอีกวัน มีสันแล้วจ้า แต่คนไม่สนิทก็จะไม่สังเกตเห็นค่ะ
บางคนที่รู้ว่าไปทำก็บอกว่าทำไมไม่เอาโด่งกว่านี้ แต่อย่างที่บอกว่าเราเนื้อจมูกน้อย ทำโด่งแล้วต้องมาทะลุมาแก้ทีหลังก็ไม่ดีเนอะ

สรุปว่าเราพอใจนะคะ ออกมาธรรมชาติดี แต่กว่าจะเห็นทรงจริงๆก็คงอีกหลายเดือน เดี๋ยววันพรุ่งนี้ก็ตัดไหมค่ะ

เย้ จบแล้ว ยาวมาก หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่สนใจเสริมจมูกไม่มากก็น้อยนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่