บรรยากาศตอนจบ ก็ไม่เศร้า ดูมีความหวังด้วย
เพลงประกอบก็ออกแนวสดใส
หลายคนบอกว่าพระเอกทำไมตัดใจง่าย
อยากบอกว่า พระเอกก็เป็นคนแบบนี้มาตลอดนะ
อย่างตอนที่นางเอกเจอคนเมา หรือตอนโอยองกน
พระเอกก็ทำตัวเฉยๆมาก กลับบ้านไปเฉยๆ ไม่รอดูผล
คือช่วยนะ แต่ก็ไม่ได้ช่วยจนถึงที่สุด
คือเป็นคนทำอะไรเด็ดขาดมากเลยอะ ฮ่าๆๆ
เราว่าก็ตรงคอนเซ็ปที่เป็นมาตั้งแต่แรกนะ
ตอนที่บอกเลิก ก็เหมือนพระเอกก็บอกว่าเลิกเพราะอะไร
เลิกเพราะไม่อยากให้นางเอกเดือดร้อน
แล้วยังบอกด้วยว่า ตอนนี้ยังไม่พร้อม รอพร้อมค่อยกลับมาคบ
ตอนจบที่เดินสวนกัน ก็เหมือนการบอกว่า พระเอกกลับมาแล้ว
เหมือนพร้อมกับการเริ่มใหม่กับนางเอกแล้วไรงี้
ยิ่งพระเอกมาอ่านเมลล์แล้วนี่ ยิ่งชัดเจนนะเราว่า
สำหรับเราถือว่าจบแฮปปี้นะ แต่อาจจะไม่ฟิน
ปล ดีใจที่ดูแล้วไม่เซ็ง เพราะดูกระแสแล้ว น่ากลัวมากกก กลัวผิดหวังงง
ดู Cheese in the trap ตอนจบแล้ว ไม่รู้สึกว่าจบแย่อะไรขนาดนั้นนะ
เพลงประกอบก็ออกแนวสดใส
หลายคนบอกว่าพระเอกทำไมตัดใจง่าย
อยากบอกว่า พระเอกก็เป็นคนแบบนี้มาตลอดนะ
อย่างตอนที่นางเอกเจอคนเมา หรือตอนโอยองกน
พระเอกก็ทำตัวเฉยๆมาก กลับบ้านไปเฉยๆ ไม่รอดูผล
คือช่วยนะ แต่ก็ไม่ได้ช่วยจนถึงที่สุด
คือเป็นคนทำอะไรเด็ดขาดมากเลยอะ ฮ่าๆๆ
เราว่าก็ตรงคอนเซ็ปที่เป็นมาตั้งแต่แรกนะ
ตอนที่บอกเลิก ก็เหมือนพระเอกก็บอกว่าเลิกเพราะอะไร
เลิกเพราะไม่อยากให้นางเอกเดือดร้อน
แล้วยังบอกด้วยว่า ตอนนี้ยังไม่พร้อม รอพร้อมค่อยกลับมาคบ
ตอนจบที่เดินสวนกัน ก็เหมือนการบอกว่า พระเอกกลับมาแล้ว
เหมือนพร้อมกับการเริ่มใหม่กับนางเอกแล้วไรงี้
ยิ่งพระเอกมาอ่านเมลล์แล้วนี่ ยิ่งชัดเจนนะเราว่า
สำหรับเราถือว่าจบแฮปปี้นะ แต่อาจจะไม่ฟิน
ปล ดีใจที่ดูแล้วไม่เซ็ง เพราะดูกระแสแล้ว น่ากลัวมากกก กลัวผิดหวังงง