ทริปนี้เริ่มต้นจาก....จาก จาก...........จากอะไรก็ไม่รู้
ก่อนเดินทางคืนนึงคิดแค่ว่าอยากนั้งรถไฟไปไหนสักที่
ไม่เล่าไม่บอกใครล่วงหน้า เพราะมันจะหาว่าเราบ้า เรยตั้งใจไว้ว่าจะไปคนเดียว
แต่มานึกๆว่ามีเพื่อนบ้าๆเหมือนกันอยู่คนนึง สรุปเอางี้ดีกว่าเราจะไม่บอกใครแต่เราจะไปกันสองคน
ลึกอะจะชวนมันไปถ่ายรูปให้แหละ แต่สรุปชวนมันมา เพื่อเป็นช่างภาพให้มัน แต่เอาเหอะเอาเป็นว่า Happy
เริ่มต้นการออกเดินทางจากที่นี้ละกัน หัวลำโพง เรามาถึงสถานีรถไฟประมาณ 6 โมง 45 นาที รีบตรงดิ่งไปซื้อตั๋ว
เรา : พี่ค่ะ ไปอยุธยาค่ะ
พนักงานขายตั๋ว : 20 บาท
เรา :รอบกี่โมงค่ะ 7 โมงใช่ไหม
พนักงานขายตั๋ว : คับ ซื้อตั๋วเสร็จรีบไปที่รถไฟเรยนะรถจะออกแล้วนะ
เราสองคน :โอเคค่ะ
วิ่งหาชานชลาที่ 9 รถไฟที่จะนำเราไปอยุธยา ขึ้นนั้งรอเวลารถออกจากสถานี เลทนิดหน่อย 15นาทีพอให้ภัยได้
เช้านี้อากาศดีมากเหมาะกับการนั้งรถไฟไปเที่ยวที่สุด
รถไฟก็ยังคงเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ ในขณะที่เราสองคนตื่นเต้นกันตลอดเส้นทาง (ตื่นเต้นเพราะกลัวเรยสถานีด้วยแหละ55+)
พอดีพี่คนตรวจตั๋วผ่านมา
เรา : พี่ค่ะสถานีอยุธยาใกล้หรือยังค่ะ
พี่เค้าตอบ : สถานีหน้าครับ
เย้ๆถึงแล้ว เราถึงสถานีอยุธยาประมาณเกือบ 9 โมงเช้า
ลงรถไฟมาแวะทำธุระส่วนตัวเล็กน้อย แล้วเราก็ไปกันต่อค่ะ
เดินออกมาถามพี่คนขับสามล้อว่าท่าเรือไปทางไหน
พี่เค้าชี้มาฝั่งตรงข้ามสถานีเรยค่ะ
ข้ามถนนมาเดินตรงเข้ามาเรื่อยๆไม่ไกลเราก็จะเจอท่าเรือเพื่อข้ามไปอีกฝั่ง ค่าโดยสารเรือข้ามฝากนี้คนละ 5 บาท
ก้าวขาขึ้นเรือมาปุ๊บจะเจอร้านเช่าจักรยานเรย เราหันหน้ามองกัน เช่าที่นี่แหละเนาะเราจะได้ไม่ต้องเดินหา
และขากลับเราจะได้คืนรถและข้ามเรือกลับได้เรย
ค่าเช่ารถจักรยาน วันละ 50 บาทค่ะ ได้ถึงเย็นเรย
พี่เค้าน่ารักและใจดีมากเลือกจักรยานให้ พี่เค้าบอก : เอาคันเบาๆเนาะ จะได้ปั่นง่ายๆไม่เหนื่อย
แล้วก็เปิดแผนที่กางออก อธิบายเราว่าตอนนี้เราอยู่ตรงไหน จะไปไหนบ้าง อะไรยังไง
ก่อนจากกันพี่เค้าให้เบอร์โทรไว้ถ้าหลงโทรหาพี่นะ ถ้ายางแตกหรือมีปัญหาไรก็โทรตามพี่ได้เรย
เอาละช่วงเวลาแห่งความสนุกกำลังจะเริ่มขึ้น ลุยค่ะลุยสองคนกับจักรยานสองคัน ดูกันว่าวันนี้เราจะไปไหนทำอะไรบ้าง
ออกจากร้านเช้าจักรยานปั่นตรงมาเรื่อยๆข้ามแยก ข้ามสะพานมาก็จะถึงที่หมายแรกของเราวัดมหาธาตุ
เป็นความโชคดีของเราที่มาถึงกันแต่เช้ายังไม่มีคนเท่าไรนัก อากาศก็ไม่ร้อน เดินเล่นกันจนทั่ว
เพื่อนเราคอเดียวกัน พูดตลอดทาง อากาศดีอะ ชอบอะ มีความสุขอะ เดี๋ยวนะคุณเพื่อนจะมีความสุขเกินหน้าเกินตากันไปหน่อยไหม
จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการมาหาเศียรพระพุทธรูปในต้นโพธิ์ ที่เป็นมรดกโลกที่ใครๆต้องมาตามหา เราสองคนหันไปถามเจ้าหน้าที่ที่ดูแลที่นี่ที่เดินอยู่แถวนี้
พี่เค้าชี้มาทางต้นโพธิ์ด้านหน้า
เดินจนทั่วแล้วเรยเดินมาด้านข้างติดๆกันก็เป็นวัดราชบูรณะ จริงๆแล้วถ้าเราไม่ดูแผนที่แทบไม่รู้เรยว่าวัดไหนเป็นวัดไหน ใกล้กันมากจนเราแยกไม่ออก
ใช้เวลาที่นี้สักพักนึง ก็นึกได้
เฮ้ย!!เรายังไม่ได้กินข้าวเช้ากันเรย ปะหาไรกินกัน
ปั่นไปร้านก๋วยเตี๋ยวเรือป้าเล็กร้านดังในอยุธยา อยู่ไม่ไกลกับวัดมหาธาตุ เราฝากท้องมื้อเช้ากันไว้ที่นี่
ค่าเสียหายมื้อนี้รวมน้ำดื่ม 136 บาทสำหรับสองคน
กินอิ่มแล้วปะเราไปกันต่อ กางแผนที่แล้วมองหน้ากันไปไหนกันต่อดี ปั่นจักรยานออกมาจุดหมายต่อไปบึงพระราม
วิวสวยๆลมเย็นๆเรานั้งพัก อัฟรูป เช็คอิน โพสโชว์ความบ้าของเราสองคนก่อน55+
เห็นวิวตรงหน้าแล้วอยากปูเสื่อนอน มันซะตรงนี้
จุดหมายต่อไปมาต่อกันที่ วิหารมงคลบพิตร หาที่จอดจักรยานคู่ใจของเราสองคน แล้วเดินเข้าไปไหว้พระ ทำบุญกันค่ะ
จากหน้าวิหารมงคลบพิตร เดินออกมาข้างด้านซ้ายมือจะเป็น วัดพระศรีสรรเพชญ
เดินชมความงดงามจนพอใจเราก็ไปกันต่อค่ะ วัดต่อไปคือวัดโลกยสุทธา (วัดพระนอน) จะอยู่ด้านหลังวิหารมงคลบพิตร
ตามวิถีของเราอยากรู้อะไรให้ถาม55 ถามแม่ค้าแถวนั้นเค้าบอกให้ออกไปด้านหลัง ข้ามสะพานไม้เล็กๆไปปากทาง
มีร้านก๋วยเตี๋ยวซอยนั้นเรย
เข้าซอยแรกๆแอบงงๆในซอยเแบบนี้จะมีวัดจริงหรอ เพราะซอยที่เราปั่นเข้าไปเป็นซอยเล็กๆ เราคิดเองนะว่ามันคงเป็นทางลัดที่คนพื้นที่จะรู้
เย้ๆๆ ถึงแล้ว พระนอนองค์ใหญ่สูงตระหง้าน ไหว้พระ ทำบุญกันต่อค่ะ
ระหว่างที่ซื้อดอกไม้ไหว้พระ ก็มีคุณป้าที่ขายดอกไม้เค้าก็บอกเราว่าหนูๆตรงนั้นไปไหว้พระต่อได้
หนูต้องปั่นวนออกไปทางนั้นนะ พร้อมกับชี้มือบอกทางเรา
คุยกับป้าสักพักพร้อมขอบคุณ
ปั่นมาตามทางที่ป้าบอกไม่ถึง 5 นาทีก็เจอวัดวรเชษฐาราม
เป็นวัดที่คนไม่เยอะและค่อนข้างเงียบ อาจเพราะตัววัดไม่ได้ติดถนนใหญ่ แต่เรากลับชอบที่นี่นะสงบดี
เข้าไหว้พระเสร็จเราก็ออกมาวางแผนต่อว่าไปไหนกันอีก นั้งคุยๆกันแล้วได้ความว่าเราจะไป ปางช้าง
ปั่นจักรยานตามแผนที่ ที่ได้มากับพร้อมกับจักรยานและใช้ทักษะการสังเกตของเราสองคน
ถึงแล้วปางช้าง
ที่ปางช้างมีการแสดงและเก็บค่าเข้าชม ราคา 40 บาท พี่ที่นั้นเค้าบอกเราว่าแต่ก่อนไม่ได้เก็บค่าใช้จ่ายในการชม
แต่ด้วยจำนวนช้างที่จะต้องดูแล
และร่วมถึงเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆด้วย
ที่ต่อไปคือศาลหลักเมือง ซึ่งตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับปางช้างเรย ปั่นจักรยานข้ามถนนก็ถึง
เข้าไปไหว้และนั้งพักสักพักก่อนดูเวลา หะ!! จะบ่ายสองแล้ว หันไปถามเพื่อนหิวหรือยัง
ปะเราไปกินขนมหวานๆไอติมเย็นๆกันดีกว่า
ร้านสตางค์ไม่มีในแผนที่หรอกค่ะ งานนี้ต้องใช้ความจำบวกกับความสามารถส่วนตัวแล้ว55+
ถึงร้านได้จังหวะพอดี โต๊ะว่างได้นั้งด้านใน (ปรกติคนค่อนข้างเยอะต้องรอคิว)
อาหารมีทั้งคาวและหวาน แต่จะเน้นไปทางของหวานและเครื่องดื่มมากกว่า
เราก็ได้โอกาสนั้งชิลๆแอร์เย็นๆ ทานเสร็จเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวก่อนเดินทางต่อ
รวมแล้วมื้อนี้สองคน 258 บาท
ออกมานั้งน่าร้าน แล้วมองหน้ากันไปไหนต่อดีวะ ดูนาฬิกาอีกทีบ่ายสามแล้ว รถไฟอีกเที่ยว4โมงครึ่ง
รอบบ่ายสามครึ่งเราไม่น่าจะทัน ปะขับเล่นเรื่อยๆ ชิลๆไป ท่าเรือข้ามเรือกลับบ้านกัน
เดินข้ามถนนไปสถานีรถไฟ โชคดีอีกครั้ง ที่รถไปขบวนรอบสามโมงครึ่ง ยังไม่ออกจากสถานนี
เอ้า วิ่งค่ะวิ่ง และแล้วเราก็กลับทันรถไฟขบวนนี้
เกือบๆ 6 โมงเราก็ถึงสถานีรถไปหัวลำโพงแล้ว จบทริปรถไฟ เรือเมล์ จักรยาน สองเรา55+ เป็นทริปที่เพื่อนๆตั้งชื่อว่าทริปอินดี้ อยู่ดีๆก็ไป ไม่วางแผน ขอบคุณความบ้าหรืออะไรก็ตามที่ทำให้เราออกมาทำอะไรแบบนี้ มันมีความสุขมากจริงๆ
*******สรุปค่าใช้จ่ายต่อคน*******
ค่ารถไฟไปกลับ 40 บาท (เที่ยวละ20บาท)
ค่าเรือข้ามฝาก 10 บาท(เที่ยวละ5บาท)
ค่าเช่าจักรยาน 50 บาท
ค่าก๋วยเตี๋ยวเรือ 78 บาท (156 หารสองคน)
ค่าอาการร้านสตางค์ 129 บาท (258 หารสองคน)
รวม 385 บาท ไม่รวมค่าทำบุญหยอดตู้บริจาคตามศรัทธานะคะ
ทริป400บาทไทยเช้าไปเย็นกลับ นั้งรถไฟ ไปปั่นจักรยาน (อยุธยา)
ก่อนเดินทางคืนนึงคิดแค่ว่าอยากนั้งรถไฟไปไหนสักที่
ไม่เล่าไม่บอกใครล่วงหน้า เพราะมันจะหาว่าเราบ้า เรยตั้งใจไว้ว่าจะไปคนเดียว
แต่มานึกๆว่ามีเพื่อนบ้าๆเหมือนกันอยู่คนนึง สรุปเอางี้ดีกว่าเราจะไม่บอกใครแต่เราจะไปกันสองคน
ลึกอะจะชวนมันไปถ่ายรูปให้แหละ แต่สรุปชวนมันมา เพื่อเป็นช่างภาพให้มัน แต่เอาเหอะเอาเป็นว่า Happy
เริ่มต้นการออกเดินทางจากที่นี้ละกัน หัวลำโพง เรามาถึงสถานีรถไฟประมาณ 6 โมง 45 นาที รีบตรงดิ่งไปซื้อตั๋ว
เรา : พี่ค่ะ ไปอยุธยาค่ะ
พนักงานขายตั๋ว : 20 บาท
เรา :รอบกี่โมงค่ะ 7 โมงใช่ไหม
พนักงานขายตั๋ว : คับ ซื้อตั๋วเสร็จรีบไปที่รถไฟเรยนะรถจะออกแล้วนะ
เราสองคน :โอเคค่ะ
เช้านี้อากาศดีมากเหมาะกับการนั้งรถไฟไปเที่ยวที่สุด
พอดีพี่คนตรวจตั๋วผ่านมา
เรา : พี่ค่ะสถานีอยุธยาใกล้หรือยังค่ะ
พี่เค้าตอบ : สถานีหน้าครับ
เย้ๆถึงแล้ว เราถึงสถานีอยุธยาประมาณเกือบ 9 โมงเช้า
เดินออกมาถามพี่คนขับสามล้อว่าท่าเรือไปทางไหน
พี่เค้าชี้มาฝั่งตรงข้ามสถานีเรยค่ะ
ข้ามถนนมาเดินตรงเข้ามาเรื่อยๆไม่ไกลเราก็จะเจอท่าเรือเพื่อข้ามไปอีกฝั่ง ค่าโดยสารเรือข้ามฝากนี้คนละ 5 บาท
และขากลับเราจะได้คืนรถและข้ามเรือกลับได้เรย
พี่เค้าน่ารักและใจดีมากเลือกจักรยานให้ พี่เค้าบอก : เอาคันเบาๆเนาะ จะได้ปั่นง่ายๆไม่เหนื่อย
แล้วก็เปิดแผนที่กางออก อธิบายเราว่าตอนนี้เราอยู่ตรงไหน จะไปไหนบ้าง อะไรยังไง
ก่อนจากกันพี่เค้าให้เบอร์โทรไว้ถ้าหลงโทรหาพี่นะ ถ้ายางแตกหรือมีปัญหาไรก็โทรตามพี่ได้เรย
ออกจากร้านเช้าจักรยานปั่นตรงมาเรื่อยๆข้ามแยก ข้ามสะพานมาก็จะถึงที่หมายแรกของเราวัดมหาธาตุ
เพื่อนเราคอเดียวกัน พูดตลอดทาง อากาศดีอะ ชอบอะ มีความสุขอะ เดี๋ยวนะคุณเพื่อนจะมีความสุขเกินหน้าเกินตากันไปหน่อยไหม
พี่เค้าชี้มาทางต้นโพธิ์ด้านหน้า
ใช้เวลาที่นี้สักพักนึง ก็นึกได้
เฮ้ย!!เรายังไม่ได้กินข้าวเช้ากันเรย ปะหาไรกินกัน
ปั่นไปร้านก๋วยเตี๋ยวเรือป้าเล็กร้านดังในอยุธยา อยู่ไม่ไกลกับวัดมหาธาตุ เราฝากท้องมื้อเช้ากันไว้ที่นี่
ค่าเสียหายมื้อนี้รวมน้ำดื่ม 136 บาทสำหรับสองคน
ตามวิถีของเราอยากรู้อะไรให้ถาม55 ถามแม่ค้าแถวนั้นเค้าบอกให้ออกไปด้านหลัง ข้ามสะพานไม้เล็กๆไปปากทาง
มีร้านก๋วยเตี๋ยวซอยนั้นเรย
เข้าซอยแรกๆแอบงงๆในซอยเแบบนี้จะมีวัดจริงหรอ เพราะซอยที่เราปั่นเข้าไปเป็นซอยเล็กๆ เราคิดเองนะว่ามันคงเป็นทางลัดที่คนพื้นที่จะรู้
หนูต้องปั่นวนออกไปทางนั้นนะ พร้อมกับชี้มือบอกทางเรา
คุยกับป้าสักพักพร้อมขอบคุณ
ปั่นมาตามทางที่ป้าบอกไม่ถึง 5 นาทีก็เจอวัดวรเชษฐาราม
แต่ด้วยจำนวนช้างที่จะต้องดูแล
และร่วมถึงเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆด้วย
ปะเราไปกินขนมหวานๆไอติมเย็นๆกันดีกว่า
ร้านสตางค์ไม่มีในแผนที่หรอกค่ะ งานนี้ต้องใช้ความจำบวกกับความสามารถส่วนตัวแล้ว55+
ถึงร้านได้จังหวะพอดี โต๊ะว่างได้นั้งด้านใน (ปรกติคนค่อนข้างเยอะต้องรอคิว)
เราก็ได้โอกาสนั้งชิลๆแอร์เย็นๆ ทานเสร็จเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวก่อนเดินทางต่อ
รวมแล้วมื้อนี้สองคน 258 บาท
ออกมานั้งน่าร้าน แล้วมองหน้ากันไปไหนต่อดีวะ ดูนาฬิกาอีกทีบ่ายสามแล้ว รถไฟอีกเที่ยว4โมงครึ่ง
รอบบ่ายสามครึ่งเราไม่น่าจะทัน ปะขับเล่นเรื่อยๆ ชิลๆไป ท่าเรือข้ามเรือกลับบ้านกัน
เอ้า วิ่งค่ะวิ่ง และแล้วเราก็กลับทันรถไฟขบวนนี้
*******สรุปค่าใช้จ่ายต่อคน*******
ค่ารถไฟไปกลับ 40 บาท (เที่ยวละ20บาท)
ค่าเรือข้ามฝาก 10 บาท(เที่ยวละ5บาท)
ค่าเช่าจักรยาน 50 บาท
ค่าก๋วยเตี๋ยวเรือ 78 บาท (156 หารสองคน)
ค่าอาการร้านสตางค์ 129 บาท (258 หารสองคน)
รวม 385 บาท ไม่รวมค่าทำบุญหยอดตู้บริจาคตามศรัทธานะคะ