คือเราดูKdramaได้ไม่นาน ไม่กี่เรื่อง  
แต่จำนวนเรื่องที่เราดูแล้วเรารู้สึกทนไม่ไหวกับช่วงท้ายของเรื่องนี้มีเยอะมาก
สำหรับเราCheese in The Trap กับช่วงท้ายที่เละ ไม่ใช่เรื่องแรกของละครเกาหลีที่เราเจอ
มันเป็นลักษณะแปลกเฉพาะตัวของดราม่า ซีรีย์เกาหลีหรือเปล่า
และมันเป็นเพราะอะไร


ที่ผ่านมาเราดูละครไทยเป็นหลัก  ส่วนใหญ่ช่วงท้ายจะเป็นการคลายปมปัญหาของเรื่อง
ถ้าเป็นช่องเจ็ดเมื่อก่อน บางครั้งละครจะยืดมาก แต่หลังๆก็ไม่นะ
คือถ้าได้ดู ยังไงก็ดูไปจนจบได้ ไม่เบื่อถึงกับเลิกดูท้ายเรื่อง
ของช่องอื่นๆ ทั้งสามห้าเก้าก็เช่นกัน
คนที่เลิกดูมักเลิกดูตั้งแต่สองสามตอนแรกที่เข้าตา
ถ้าได้ดูต่อเนื่องแล้ว ยังไงก็ลุ้นไปจนจบเรื่อง

แต่ของเกาหลีที่เราดูมา ทำไมตอนเรือ่งช่วงท้ายมันกลายเป็นเรื่องยืดเยื้อแปลกๆ
โดยเฉพาะมักเน้นการสร้างฝันยืนหยัดอะไรแบบนั้น
คือไม่ว่านะถ้าพล็อทเรื่องตั้งแต่ต้นมันปูมาเป็นเรื่องสร้างฝันตัวละคร
แต่ปมเงื่อนของแต่ละเรื่องมันเป็นเรื่องอื่น ทำไมทุกเรื่องต้องจบด้วยการยืนหยัดให้ได้(ด้วยวะคะ)

ยกตัวอย่าง  she was pretty ช่วงท้ายกลายเป็นละครแสวงหาตัวตนของนางเอกในการเป็นนักเขียน
Oh my ghost เป็นการพยายามเป็นเชฟก้าวหน้าของนาบงซอน
Oh my venus  พระเอกหายไปเพื่อรักษาขา นางเอกระทมคิดถึง  แบบเราไม่เข้าใจ ว่าสำคัญขนาดนั้นหรือ
Master's sun แทกงชิลกับแฟนเก่า และการสร้างตัว กลับมาก็ตั๊กลีลาอยู่เป็นนาน เพื่ออะไรไม่เข้าใจ
stairway to heaven ละครเก่า ทำไมนางเอกต้องป่วยเป็นโรคตาย แบ่บ.. เพื่อให้มันเศร้าแค่นั้นเนี่ยนะ

ส่วน Citt อันนี้ประหลาดสุดๆ  ซึ่งยังไม่รู้ว่าคืนนี้ จะเป็น ภาคพิสดารอะไรขนาดไหน
เพราะตอนที่ 15 ที่ผ่านมานี่ เอาซะนึกว่าเป็นละครดัดแปลงจากแฟนฟิคกันเลย

คือแปลกใจ
ละครเกาหลีตอนท้ายมันประหลาดๆจริงๆนะสำหรับเรา
คือแต่แรกแล้ว เราไม่อินกับละครเกาหลีเลย แต่อยากอินอยากสนุกกับเค้าบ้าง
พยายามดูเรื่องที่ดังๆแล้วนะ การสื่อสารของละครเกาหลีเป็นอะไรที่เราไม่เข้าใจ
แล้วยิ่งตอนจบ  ยิ่งโคตรไม่เข้าใจ

Cheese นี่เสียดายจริงๆ ค่อนเรื่องแรก 75 เปอร์เซ็นต์ของเรื่อง ดีมากๆ ไม่น่าเลย