กระทู้ที่ 2 แล้ว กระทู้นี้ขอเล่าเรื่องราวที่ได้มีโอกาสไปดอยหลวงเชียงดาว เป็นทริปที่มีจุดเริ่มต้นจากการค้นหาข้อมูลบ้านระเบียงดาวในอากู๋ แต่เรื่องราวของดอยหลวงเชียงดาวดันโผล่ขึ้นมาอยู่บนสุด เลยได้มีโอกาสรู้จัก จนหาข้อมูล จนหลงรักดอยนี้ตั้งแต่ยังไม่เคยเดินทางไป จากที่จะไปนอนสบายๆที่บ้านระเบียงดาว เลยกลายเป็นทริปผจญภัย เกือบได้ไปเองคนเดียว แต่ดีที่มีเพื่อนหลงยอมเดินทางมากับเราด้วย จึงเกิดเป็นทริปที่ดี เก็บไว้เป็นความทรงจำดีๆอีกทริปหนึ่งค่ะ
เริ่มเดินทางออกจาก กทม วันที่ 28 ธันวา รอบเวลา 16.30 โดย รถทัวร์ นิววิริยะทัวร์ รถ VIP เก้าอี้ใหญ่ นั่งสบาย โทรจองที่นั่งล่วงหน้าประมาณ 1 สัปดาห์ ราคาประมาณ 6-700 บาท บอก พนง.ลงที่เชียงดาว รร.เชียงดาวอินน์ หรือจองผ่านเนตเลือกลงจุดจอดฝาง แต่จะราคาแพงกว่าค่ะ
ถึงเชียงดาวตอน ตี 3 อากาศหนาวมากกกกก แต่นัดทัวร์ไว้ตอนตี 5 เลยเดินย้อนขึ้นไปตลาดเทศบาล หาอะไรรองท้องก่อน
มาครั้งนี้เราจองทัวร์ไว้ 3 วัน 2 คืน กับ ลุงนิคม เจ้าของบ้านระเบียงดาว ราคา 2,500 ต่อคน ราคานี้มีอาหาร 7 มื้อ (อาหารมื้อสุดท้ายไปกินที่บ้านระเบียงดาว) เตนท์ ถุงนอน น้ำดื่ม ลูกหาบแบกสัมภาระเราขึ้นดอย คนนำทาง แต่เวลาเดินขึ้นอ่างสลุง(ลานกางเตนท์)เดินขึ้นเองได้
ลุงนิคมมารับเราที่ตลาดพาไปส่งที่อุทยาน อาบน้ำครั้งสุดท้ายก่อนขึ้นดอย น้ำเย็นมาก
อาบเสร็จก็ไปที่ทางขึ้นเลย เราขึ้น-ลงทางปางวัว ทางชันมาก รองเท้าใส่แบบดอกยางลึกๆเลย อย่าลืมพกถุงมือไว้ปีน หยิบไม้เท้าตรงทางขึ้นติดตัวไปด้วย ก่อนขึ้นก็ไหว้ศาลด้วยนะคะ เป็นสิริมงคลก่อนลุย
ทางชันแต่ของฝากไว้กับลูกหาบแล้วเลยเดินตัวโล่งๆ แต่บอกเลยทางชันมาก ขนาดตัวโล่ง ยังแทบเดี้ยง 55
ระหว่างทางมีดอกไม้อยู่นะ เจอต้นพญาเสือโคร่งด้วย ใครว่าทางปางวัวไม่สวย ระหว่างเดินอย่ามองแต่พื้น เงยหน้าบ้าง สิ่งสวยงามรออยู่
ระหว่างเดิน พกน้ำไว้จิบ ขนม ลูกอม ช็อกโกแลต เราใช้เวลาเดิน 6 ชั่วโมง ถึงแล้ว นั่งพักสักแปป ทักทายลูกหาบ และ ผู้ดูแล รอขึ้นยอดดอยหลวง ชมพระอาทิตย์ตก
ระหว่างนี้ไปเข้าส้วมหลุม กลิ่นสุดยอด แนะนำให้พกทิชชู่ไปปิดจมูก ช่วยได้มาก ทิชชู่เปียก ทิชชู่แห้งพกไปให้พร้อม น้ำไม่มีให้อาบนะจ๊ะ
ก่อนขึ้นยอดดอย เตรียมไฟฉายแบบรัดหัวเอาที่สว่างๆเลยนะ ทางชันมาก ถุงมือเอาไว้ปีน กับใส่กันหนาว ชุดใส่ให้รัดกุม ทางไม่แค่ชัน แต่ปีนหินตลอด ทางเป็นฝุ่นดินด้วย เข้าตาแสบตาเลย ระหว่างขึ้นอาจร้อน แต่บนโน้นหนาวมาก ทางอาจจะยาก แต่บนนั้นสวยคุ้มค่ามาก
ลงมาทานข้าวเย็นใต้แสงดาว ทานเสร็จจะเช็ดตัวด้วยทิชชู่เปียก อย่าลืมเช็ดรูจมูกนะ ฝุ่นทั้งนั้น 555 แปรงฟัน ตามอัธยาศัย เอาไฟฉายแบบแขวนได้ไปก็ดี ตอนกินข้าวจะได้มองเห็น ไว้ใช้ในเตนท์ด้วย กลางคืนหนาวมาก เอาหมวกไอ้โม่งไปด้วยก็ดี ชุดนอนจัดเต็ม ที่ขนมามีกี่ตัวใส่หมด 555
เช้าวันต่อมา ตื่นตี4 เช็ดหน้า เตรียมของไปปีนกิ่วลมใต้ ของเหมือนเดิมถุงมือไว้ปีน กับกันหนาว ไฟฉาย น้ำนิดหน่อยพอจิบระหว่างทาง บนโน้นคนนำทางจะมีโอวัลติน กาแฟร้อนให้ เอาลูกอมไปด้วย ตื่นมาก็ไปปีนเดี๋ยวหิวแล้วเป็นลม ชุดเอาที่สบายๆ ทางชันเช่นเดิมแต่ไม่เท่าปีนยอดดอย ตอนปีนร้อน แต่ถึงยอดกิ่วหนาวมาก จุดนี้จะมีดอกไม้ด้วย ให้เดินไปด้านหลัง ดอกไม้เยอะมาก แถมวิวทะเลหมอกสวยสุดๆ จุดนี้เราว่าดอกไม้กับทะเลหมอกสวย
ระหว่างวันไม่ค่อยมีอะไรทำ สัญญานโทรศัพท์ไม่มี เลยเอาไพ่ไปเล่นกับเพื่อนแก้เบื่อ เล่นเบื่อก็เข้าเต้นท์ เช็ดตัว นอนเล่น ถ้าไหวก็ไปดูพระอาทิตย์ตกอีกรอบ แต่เราไม่ไหว ขอบาย 55 ที่นี่ลมพัดตลอด หนาว มีแดดก็จริง แต่พอลมมานี่วูบเลย 55
อิ่มท้อง กับวิวอิ่มตา อิ่มใจ
เวลาผ่านไปไวมาก วันสุดท้ายล่ะ วันนี้เราตื่นตี4 เหมือนเดิม นัดคนนำทาง ก็น้องลูกหาบนั่นล่ะ ไว้ตี5 ตื่นมาเช็ดหน้าพอให้ตื่น เตรียมชุด วันนี้หนาวกว่าเมื่อวานชุดเลยจัดเต็ม ตอนแรกกะว่าจะไม่ไปแล้วกิ่วลมเหนือ กะเก็บแรงไว้ลงดอย แต่สุดท้ายก็ไป เพราะไหนๆก็มาแล้วไม่อยากพลาด จากตอนแรกจะไปกันแค่สองคน สุดท้ายก็ไปกันทุกคน
บอกเลยถ้าไม่มาจะเสียดายมาก ที่นี่ความเห็นส่วนตัว และเพื่อนๆพูดแบบเดียวกันเลยว่ามาจุดนี้ชมพระอาทิตย์ขึ้น สวยกว่ากิ่วลมใต้ ได้เห็นทะเลหมอก มีต้นไม้ กิ่งไม้ ดอกไม้ และกิ่วลมใต้เป็นฉากด้านหน้าไว้ให้มีมุมถ่ายกับพระอาทิตย์ ส่วนด้านหลังกิ่วลมเหนือมองไปเป็น ทิวเขา สลับ พอพระอาทิตย์ขึ้นแล้วท้องฟ้าจะเป็นสีชมพู บอกเลยสวยมาก
ถ้าอยากชมพระอาทิตย์ขึ้นให้มากิ่วลมเหนือ ทางชันกว่าแต่ระยะสั้นกว่า ถ้าอยากชมดอกไม้ให้ไปกิ่วลมใต้ ดอกไม้เยอะกว่า ระวังผึ้งด้วย ถ้าใครมา 2 วัน 1 คืน ให้ไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่กิ่วลมเหนือก่อน แล้วค่อยแวะไปกิ่วลมใต้ ชมดอกไม้ (ความสวยงามเป็นความเห็นส่วนตัวนะคะ)
ขาลงทานข้าวเช้ามื้อสุดท้าย เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย แล้วลุยเลย ตอนลงเราใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ไม่เหนื่อยเหมือนตอนขึ้น ตอนขึ้นนี่หัวใจแทบหลุดออกมา 55 แต่ขานี่ปวดมาก หาท่ายืดกล้ามเนื้อก่อนไปด้วยจะช่วยได้มาก ออ ก่อนลงอย่าลืมถุงมือไว้ปีน ไม้เท้า ขนม น้ำ นะคะ
ลงมาถึงเราก็ไปต่อมื้อกลางวัน มื้อสุดท้ายที่บ้านระเบียงดาว บอกเลยสวยมาก ไว้ต้องกลับไปพักสักคืนแน่นอน
โน๊ตเล็กๆหลังจบทริป
- อาหารทุกมื้อ ง่ายๆ ส่วนใหญ่เป็นผัก เติมได้ เมนูเด็ดประจำกลุ่มเรา คือ ไข่เจียว 55
- น้ำดื่ม ก่อนขึ้นดอยจะมีแจกให้เป็นขวด เก็บขวดไว้ใช้ต่อ ห้ามทิ้ง น้ำเติมได้ แต่ใช้ประหยัดๆนะ
- พกน้ำยาบ้วนปากไปด้วย สะดวกดี
- ทิชชู่เปียกพกไปตาม ระดับการรักษาความสะอาด 55 เราพกแบบแพคใหญ่ 80 แผ่น ใช้เช็ดมือหลังไปปีน ก่อนทานข้าว หลังเข้าห้องน้ำ เอาทิชชู่แบบเช็ดเครื่องสำอางไปด้วยก็ดี ใช้สะดวก กลับมานี่สิวมาด้วย 555
- เครื่องกันหนาว เราใส่ขนเป็ดของยูนิโคล่ ข้างในก็ใส่คอเต่า ฮีทเทค กางเกงใส่เลคกิ้ง ยีนส์ ตอนนอนไม่อุ่นพอนะ แต่มุดๆถุงนอนก็พอไหว ใส่หมวกนอน หรือใส่หมวกไอ้โม่งเลยก็ดี แต่ใส่ตอนไปปีนรู้สึกสบายมาก เพราะชุดพอดีตัวเลยไม่เกะกะ ขึ้นไปก็อุ่นพอดี กันลมได้ด้วย ระหว่างปีนส่วนตัวไม่ร้อนเกิน ออ เราใส่airismไว้ในสุดตอนปีน ไม่รู้เกี่ยวไหม เน้นชุดเอาที่ไม่ยาวรุ่มร่าม ถ้าใครขี้ร้อนก็พับเสื้อหนาวก่อนปีนเลย เห็นถอดระหว่างทางหลายคน เก็บก่อน จะได้ไม่เสียเวลา
- ถ้าแพ้ฝุ่น อย่าลืมผ้าปิดจมูกด้วยนะ ทางมีฝุ่นด้วย ตอนเช็ดในรูจมูกนี่แดงเลย ฝุ่นทั้งนั้น
- ไฟฉาย เอาไปแบบ LED เลยจะได้สว่าง เพราะทางมีแต่หิน ชัน ลื่น แนะนำแบบคาดหัว ใช้สะดวกดีด้วย
- แบตสำรอง ก็พกไปให้พอใช้ ส่วนใหญ่ก็ชาร์ตกล้องเนี่ยแหละ เพราะมือถือไม่ได้ใช้ 55
- ถุงดำ เอาไว้ใส่ขยะ ไว้รองเต้นท์ กันน้ำค้าง คลุมรองเท้า โอ๊ย ใช้ได้เยอะ ช่วยได้มาก พกไปเหอะ ได้ใช้แน่ ออ เอาเชือกไปด้วย ไว้ขึงผึ่งเสื้อ บนโน้นแดดดี ลมแรงนะ ขอบอก
- การเตรียมตัว แนะนำให้ฝึกเดินระยะทางไกล เดินขึ้นบันได ยืดกล้ามเนื้อ คนไม่ฝึกก่อนเดินขึ้นได้ก็จริง แต่ดูแลตัวเองก่อนไปก็ดี เดี้ยงมาไม่ใช่คนอื่นเจ็บ ตัวคุณแหละที่เจ็บ
- รองเท้า ใส่แบบหลวมตรงปลายเท้านิดนึง เน้นดอกยางลึกๆ เกาะแน่นๆ ใส่แล้วเดินสบาย กลับมานี่ซักไปน้ำตาไหล ดินติดอย่างเยอะ นี่ถ้าไม่แพงโยนทิ้งไปล่ะ 55 หรือซื้อรองเท้าสตั๊ดดอยใส่ 60 บาทเอง ยึดแน่น ไม่มีลื่น
- พกรองเท้าแตะไปด้วยก็ดี ใส่เดินเล่น สบายๆ
- ยาแก้ปวด แก้ไข้ ทาแก้แมลงกัด ยาแก้แพ้(ไม่แพ้อะไรแต่ช่วยให้หลับสบาย 555) ยาทาคลายกล้ามเนื้อ
- ศึกษาเรื่องดาวไปหน่อยก็ดี จะได้ดูเพลินๆ ตอนฟ้าเปิดนี่ดาวรอบตัวเลยนะ ขอบอก
- หาข้อมูลเรื่องดอกไม้ไปด้วยก็ดี พอเห็นจะได้รู้ว่าดอกอะไร บอกเลยว่าสนุกมาก มองหาตลอดทางว่าเราจะเจอดอกนี้ไหมนะ ดอกนี้ดอกอะไร เพราะแต่ละดอกเล็กๆ เหมือนดอกไม้ข้างทาง แต่ถ้าลองสังเกตจะเห็นรายละเอียดของแต่ละดอกว่าไม่ธรรมดาเลย
แนะนำไป 3 วัน 2 คืน จะได้สบายๆหน่อย ได้ไปครบด้วย สวยแบบไม่ควรพลาดเลยสักจุด แต่พอกลับมาแล้ว อยากไป 3 คืนเลย อากาศดีชอบๆๆๆ
ถามว่า 2500 ถ้าไปหลายคน จัดไปเอง หารๆแล้วถูกกว่านี้เยอะ แต่เราขอไม่ต้องแบกกระเป๋าเอง มีคนทำอาหารให้กินอิ่มๆ อาจไม่สบายมาก เตนท์ไม่ค่อยดี มีซิปแตกด้วย แต่เจ้าหน้าที่ น้องๆลูกหาบเป็นกันเองแถมดูแลดีมาก พวกเราเดินช้ามาก ก็รอ ต้องขอบคุณมากๆเลย
ขอบคุณเพื่อนๆที่ไปลำบากด้วยกัน ขอบคุณที่ดูแลกันตลอดทริป
ถ้าไปภูกระดึงกับแฟนแล้วเลิกกัน มาดอยหลวงเชียงดาวคงบอกว่าชาตินี้ไม่ต้องเจอกันอีก แต่ถ้าผ่านไปได้ บอกเลยว่าได้อะไรเยอะ สวยมากจนอยากไปอีกครั้งถ้ามีโอกาส
เรียบเรียงไม่ดีเท่าไหร่ ภาพไม่ค่อยสวย แต่อยากให้ทุกคนลองไปมาก "ดอยหลวงเชียงดาว" ไปแล้วช่วยกัน"รักษ์"ด้วยนะคะ
ปล. ขอฝากดอกไม้สวยๆที่ได้เจอระหว่างทาง บนยอดดอย กิ่วลมเหนือ/ใต้ ให้เพื่อนๆได้ชมกันหน่อยนะคะ ถ้าชื่อไม่ถูกต้องยังไงขออภัยด้วยนะคะ
ดอกกระดูกไก่น้อย
ดอกชมพูพิมพ์ใจ
ดอกนางจอยหรือแอสเตอร์เชียงดาว
ดอกบัวตอง
ดอกปลาบดอย
ดอกปืนนกไส้
ดอกผักไผ่น้ำ
ดอกพญาเสือโคร่ง
ดอกมุกมังกร
ดอกวนารมย์
ดอกหนาดขาว
ดอกชมพูเชียงดาว
ดอกช่อศิลา/คำหิน
ดอกฟองหินเหลือง
ดอกฟ้าคราม
ดอกหญ้าดอกลาย
ดอกฮ่อมดอย
คิดถึงเสมอ ดอยหลวงเชียงดาว
[CR] เที่ยวเมืองไทย ดอยหลวงเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ 29-31 December 2014
เริ่มเดินทางออกจาก กทม วันที่ 28 ธันวา รอบเวลา 16.30 โดย รถทัวร์ นิววิริยะทัวร์ รถ VIP เก้าอี้ใหญ่ นั่งสบาย โทรจองที่นั่งล่วงหน้าประมาณ 1 สัปดาห์ ราคาประมาณ 6-700 บาท บอก พนง.ลงที่เชียงดาว รร.เชียงดาวอินน์ หรือจองผ่านเนตเลือกลงจุดจอดฝาง แต่จะราคาแพงกว่าค่ะ
ถึงเชียงดาวตอน ตี 3 อากาศหนาวมากกกกก แต่นัดทัวร์ไว้ตอนตี 5 เลยเดินย้อนขึ้นไปตลาดเทศบาล หาอะไรรองท้องก่อน
มาครั้งนี้เราจองทัวร์ไว้ 3 วัน 2 คืน กับ ลุงนิคม เจ้าของบ้านระเบียงดาว ราคา 2,500 ต่อคน ราคานี้มีอาหาร 7 มื้อ (อาหารมื้อสุดท้ายไปกินที่บ้านระเบียงดาว) เตนท์ ถุงนอน น้ำดื่ม ลูกหาบแบกสัมภาระเราขึ้นดอย คนนำทาง แต่เวลาเดินขึ้นอ่างสลุง(ลานกางเตนท์)เดินขึ้นเองได้
ลุงนิคมมารับเราที่ตลาดพาไปส่งที่อุทยาน อาบน้ำครั้งสุดท้ายก่อนขึ้นดอย น้ำเย็นมาก
อาบเสร็จก็ไปที่ทางขึ้นเลย เราขึ้น-ลงทางปางวัว ทางชันมาก รองเท้าใส่แบบดอกยางลึกๆเลย อย่าลืมพกถุงมือไว้ปีน หยิบไม้เท้าตรงทางขึ้นติดตัวไปด้วย ก่อนขึ้นก็ไหว้ศาลด้วยนะคะ เป็นสิริมงคลก่อนลุย
ทางชันแต่ของฝากไว้กับลูกหาบแล้วเลยเดินตัวโล่งๆ แต่บอกเลยทางชันมาก ขนาดตัวโล่ง ยังแทบเดี้ยง 55
ระหว่างทางมีดอกไม้อยู่นะ เจอต้นพญาเสือโคร่งด้วย ใครว่าทางปางวัวไม่สวย ระหว่างเดินอย่ามองแต่พื้น เงยหน้าบ้าง สิ่งสวยงามรออยู่
ระหว่างเดิน พกน้ำไว้จิบ ขนม ลูกอม ช็อกโกแลต เราใช้เวลาเดิน 6 ชั่วโมง ถึงแล้ว นั่งพักสักแปป ทักทายลูกหาบ และ ผู้ดูแล รอขึ้นยอดดอยหลวง ชมพระอาทิตย์ตก
ระหว่างนี้ไปเข้าส้วมหลุม กลิ่นสุดยอด แนะนำให้พกทิชชู่ไปปิดจมูก ช่วยได้มาก ทิชชู่เปียก ทิชชู่แห้งพกไปให้พร้อม น้ำไม่มีให้อาบนะจ๊ะ
ก่อนขึ้นยอดดอย เตรียมไฟฉายแบบรัดหัวเอาที่สว่างๆเลยนะ ทางชันมาก ถุงมือเอาไว้ปีน กับใส่กันหนาว ชุดใส่ให้รัดกุม ทางไม่แค่ชัน แต่ปีนหินตลอด ทางเป็นฝุ่นดินด้วย เข้าตาแสบตาเลย ระหว่างขึ้นอาจร้อน แต่บนโน้นหนาวมาก ทางอาจจะยาก แต่บนนั้นสวยคุ้มค่ามาก
ลงมาทานข้าวเย็นใต้แสงดาว ทานเสร็จจะเช็ดตัวด้วยทิชชู่เปียก อย่าลืมเช็ดรูจมูกนะ ฝุ่นทั้งนั้น 555 แปรงฟัน ตามอัธยาศัย เอาไฟฉายแบบแขวนได้ไปก็ดี ตอนกินข้าวจะได้มองเห็น ไว้ใช้ในเตนท์ด้วย กลางคืนหนาวมาก เอาหมวกไอ้โม่งไปด้วยก็ดี ชุดนอนจัดเต็ม ที่ขนมามีกี่ตัวใส่หมด 555
เช้าวันต่อมา ตื่นตี4 เช็ดหน้า เตรียมของไปปีนกิ่วลมใต้ ของเหมือนเดิมถุงมือไว้ปีน กับกันหนาว ไฟฉาย น้ำนิดหน่อยพอจิบระหว่างทาง บนโน้นคนนำทางจะมีโอวัลติน กาแฟร้อนให้ เอาลูกอมไปด้วย ตื่นมาก็ไปปีนเดี๋ยวหิวแล้วเป็นลม ชุดเอาที่สบายๆ ทางชันเช่นเดิมแต่ไม่เท่าปีนยอดดอย ตอนปีนร้อน แต่ถึงยอดกิ่วหนาวมาก จุดนี้จะมีดอกไม้ด้วย ให้เดินไปด้านหลัง ดอกไม้เยอะมาก แถมวิวทะเลหมอกสวยสุดๆ จุดนี้เราว่าดอกไม้กับทะเลหมอกสวย
ระหว่างวันไม่ค่อยมีอะไรทำ สัญญานโทรศัพท์ไม่มี เลยเอาไพ่ไปเล่นกับเพื่อนแก้เบื่อ เล่นเบื่อก็เข้าเต้นท์ เช็ดตัว นอนเล่น ถ้าไหวก็ไปดูพระอาทิตย์ตกอีกรอบ แต่เราไม่ไหว ขอบาย 55 ที่นี่ลมพัดตลอด หนาว มีแดดก็จริง แต่พอลมมานี่วูบเลย 55
อิ่มท้อง กับวิวอิ่มตา อิ่มใจ
เวลาผ่านไปไวมาก วันสุดท้ายล่ะ วันนี้เราตื่นตี4 เหมือนเดิม นัดคนนำทาง ก็น้องลูกหาบนั่นล่ะ ไว้ตี5 ตื่นมาเช็ดหน้าพอให้ตื่น เตรียมชุด วันนี้หนาวกว่าเมื่อวานชุดเลยจัดเต็ม ตอนแรกกะว่าจะไม่ไปแล้วกิ่วลมเหนือ กะเก็บแรงไว้ลงดอย แต่สุดท้ายก็ไป เพราะไหนๆก็มาแล้วไม่อยากพลาด จากตอนแรกจะไปกันแค่สองคน สุดท้ายก็ไปกันทุกคน
บอกเลยถ้าไม่มาจะเสียดายมาก ที่นี่ความเห็นส่วนตัว และเพื่อนๆพูดแบบเดียวกันเลยว่ามาจุดนี้ชมพระอาทิตย์ขึ้น สวยกว่ากิ่วลมใต้ ได้เห็นทะเลหมอก มีต้นไม้ กิ่งไม้ ดอกไม้ และกิ่วลมใต้เป็นฉากด้านหน้าไว้ให้มีมุมถ่ายกับพระอาทิตย์ ส่วนด้านหลังกิ่วลมเหนือมองไปเป็น ทิวเขา สลับ พอพระอาทิตย์ขึ้นแล้วท้องฟ้าจะเป็นสีชมพู บอกเลยสวยมาก
ถ้าอยากชมพระอาทิตย์ขึ้นให้มากิ่วลมเหนือ ทางชันกว่าแต่ระยะสั้นกว่า ถ้าอยากชมดอกไม้ให้ไปกิ่วลมใต้ ดอกไม้เยอะกว่า ระวังผึ้งด้วย ถ้าใครมา 2 วัน 1 คืน ให้ไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่กิ่วลมเหนือก่อน แล้วค่อยแวะไปกิ่วลมใต้ ชมดอกไม้ (ความสวยงามเป็นความเห็นส่วนตัวนะคะ)
ขาลงทานข้าวเช้ามื้อสุดท้าย เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย แล้วลุยเลย ตอนลงเราใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ไม่เหนื่อยเหมือนตอนขึ้น ตอนขึ้นนี่หัวใจแทบหลุดออกมา 55 แต่ขานี่ปวดมาก หาท่ายืดกล้ามเนื้อก่อนไปด้วยจะช่วยได้มาก ออ ก่อนลงอย่าลืมถุงมือไว้ปีน ไม้เท้า ขนม น้ำ นะคะ
ลงมาถึงเราก็ไปต่อมื้อกลางวัน มื้อสุดท้ายที่บ้านระเบียงดาว บอกเลยสวยมาก ไว้ต้องกลับไปพักสักคืนแน่นอน
โน๊ตเล็กๆหลังจบทริป
- อาหารทุกมื้อ ง่ายๆ ส่วนใหญ่เป็นผัก เติมได้ เมนูเด็ดประจำกลุ่มเรา คือ ไข่เจียว 55
- น้ำดื่ม ก่อนขึ้นดอยจะมีแจกให้เป็นขวด เก็บขวดไว้ใช้ต่อ ห้ามทิ้ง น้ำเติมได้ แต่ใช้ประหยัดๆนะ
- พกน้ำยาบ้วนปากไปด้วย สะดวกดี
- ทิชชู่เปียกพกไปตาม ระดับการรักษาความสะอาด 55 เราพกแบบแพคใหญ่ 80 แผ่น ใช้เช็ดมือหลังไปปีน ก่อนทานข้าว หลังเข้าห้องน้ำ เอาทิชชู่แบบเช็ดเครื่องสำอางไปด้วยก็ดี ใช้สะดวก กลับมานี่สิวมาด้วย 555
- เครื่องกันหนาว เราใส่ขนเป็ดของยูนิโคล่ ข้างในก็ใส่คอเต่า ฮีทเทค กางเกงใส่เลคกิ้ง ยีนส์ ตอนนอนไม่อุ่นพอนะ แต่มุดๆถุงนอนก็พอไหว ใส่หมวกนอน หรือใส่หมวกไอ้โม่งเลยก็ดี แต่ใส่ตอนไปปีนรู้สึกสบายมาก เพราะชุดพอดีตัวเลยไม่เกะกะ ขึ้นไปก็อุ่นพอดี กันลมได้ด้วย ระหว่างปีนส่วนตัวไม่ร้อนเกิน ออ เราใส่airismไว้ในสุดตอนปีน ไม่รู้เกี่ยวไหม เน้นชุดเอาที่ไม่ยาวรุ่มร่าม ถ้าใครขี้ร้อนก็พับเสื้อหนาวก่อนปีนเลย เห็นถอดระหว่างทางหลายคน เก็บก่อน จะได้ไม่เสียเวลา
- ถ้าแพ้ฝุ่น อย่าลืมผ้าปิดจมูกด้วยนะ ทางมีฝุ่นด้วย ตอนเช็ดในรูจมูกนี่แดงเลย ฝุ่นทั้งนั้น
- ไฟฉาย เอาไปแบบ LED เลยจะได้สว่าง เพราะทางมีแต่หิน ชัน ลื่น แนะนำแบบคาดหัว ใช้สะดวกดีด้วย
- แบตสำรอง ก็พกไปให้พอใช้ ส่วนใหญ่ก็ชาร์ตกล้องเนี่ยแหละ เพราะมือถือไม่ได้ใช้ 55
- ถุงดำ เอาไว้ใส่ขยะ ไว้รองเต้นท์ กันน้ำค้าง คลุมรองเท้า โอ๊ย ใช้ได้เยอะ ช่วยได้มาก พกไปเหอะ ได้ใช้แน่ ออ เอาเชือกไปด้วย ไว้ขึงผึ่งเสื้อ บนโน้นแดดดี ลมแรงนะ ขอบอก
- การเตรียมตัว แนะนำให้ฝึกเดินระยะทางไกล เดินขึ้นบันได ยืดกล้ามเนื้อ คนไม่ฝึกก่อนเดินขึ้นได้ก็จริง แต่ดูแลตัวเองก่อนไปก็ดี เดี้ยงมาไม่ใช่คนอื่นเจ็บ ตัวคุณแหละที่เจ็บ
- รองเท้า ใส่แบบหลวมตรงปลายเท้านิดนึง เน้นดอกยางลึกๆ เกาะแน่นๆ ใส่แล้วเดินสบาย กลับมานี่ซักไปน้ำตาไหล ดินติดอย่างเยอะ นี่ถ้าไม่แพงโยนทิ้งไปล่ะ 55 หรือซื้อรองเท้าสตั๊ดดอยใส่ 60 บาทเอง ยึดแน่น ไม่มีลื่น
- พกรองเท้าแตะไปด้วยก็ดี ใส่เดินเล่น สบายๆ
- ยาแก้ปวด แก้ไข้ ทาแก้แมลงกัด ยาแก้แพ้(ไม่แพ้อะไรแต่ช่วยให้หลับสบาย 555) ยาทาคลายกล้ามเนื้อ
- ศึกษาเรื่องดาวไปหน่อยก็ดี จะได้ดูเพลินๆ ตอนฟ้าเปิดนี่ดาวรอบตัวเลยนะ ขอบอก
- หาข้อมูลเรื่องดอกไม้ไปด้วยก็ดี พอเห็นจะได้รู้ว่าดอกอะไร บอกเลยว่าสนุกมาก มองหาตลอดทางว่าเราจะเจอดอกนี้ไหมนะ ดอกนี้ดอกอะไร เพราะแต่ละดอกเล็กๆ เหมือนดอกไม้ข้างทาง แต่ถ้าลองสังเกตจะเห็นรายละเอียดของแต่ละดอกว่าไม่ธรรมดาเลย
แนะนำไป 3 วัน 2 คืน จะได้สบายๆหน่อย ได้ไปครบด้วย สวยแบบไม่ควรพลาดเลยสักจุด แต่พอกลับมาแล้ว อยากไป 3 คืนเลย อากาศดีชอบๆๆๆ
ถามว่า 2500 ถ้าไปหลายคน จัดไปเอง หารๆแล้วถูกกว่านี้เยอะ แต่เราขอไม่ต้องแบกกระเป๋าเอง มีคนทำอาหารให้กินอิ่มๆ อาจไม่สบายมาก เตนท์ไม่ค่อยดี มีซิปแตกด้วย แต่เจ้าหน้าที่ น้องๆลูกหาบเป็นกันเองแถมดูแลดีมาก พวกเราเดินช้ามาก ก็รอ ต้องขอบคุณมากๆเลย
ขอบคุณเพื่อนๆที่ไปลำบากด้วยกัน ขอบคุณที่ดูแลกันตลอดทริป
ถ้าไปภูกระดึงกับแฟนแล้วเลิกกัน มาดอยหลวงเชียงดาวคงบอกว่าชาตินี้ไม่ต้องเจอกันอีก แต่ถ้าผ่านไปได้ บอกเลยว่าได้อะไรเยอะ สวยมากจนอยากไปอีกครั้งถ้ามีโอกาส
เรียบเรียงไม่ดีเท่าไหร่ ภาพไม่ค่อยสวย แต่อยากให้ทุกคนลองไปมาก "ดอยหลวงเชียงดาว" ไปแล้วช่วยกัน"รักษ์"ด้วยนะคะ
ปล. ขอฝากดอกไม้สวยๆที่ได้เจอระหว่างทาง บนยอดดอย กิ่วลมเหนือ/ใต้ ให้เพื่อนๆได้ชมกันหน่อยนะคะ ถ้าชื่อไม่ถูกต้องยังไงขออภัยด้วยนะคะ
ดอกกระดูกไก่น้อย
ดอกชมพูพิมพ์ใจ
ดอกนางจอยหรือแอสเตอร์เชียงดาว
ดอกบัวตอง
ดอกปลาบดอย
ดอกปืนนกไส้
ดอกผักไผ่น้ำ
ดอกพญาเสือโคร่ง
ดอกมุกมังกร
ดอกวนารมย์
ดอกหนาดขาว
ดอกชมพูเชียงดาว
ดอกช่อศิลา/คำหิน
ดอกฟองหินเหลือง
ดอกฟ้าคราม
ดอกหญ้าดอกลาย
ดอกฮ่อมดอย
คิดถึงเสมอ ดอยหลวงเชียงดาว