คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 23
หน้าแรกผู้จัดการ Online | ข่าวออนไลน์
สมาคมนักข่าววิทยุโทรทัศน์จี้ “สรยุทธ์” แสดงสปิริตพักหน้าจอ หลังศาลสั่งจำคุกยักยอกเงินโฆษณา
โดย MGR Online
29 กุมภาพันธ์ 2559 16:45 น. (แก้ไขล่าสุด 29 กุมภาพันธ์ 2559 18:50 น.)
สมาคมนักข่าววิทยุโทรทัศน์จี้ “สรยุทธ์” แสดงสปิริตพักหน้าจอ หลังศาลสั่งจำคุกยักยอกเงินโฆษณา
สรยุทธ์ สุทัศนะจินดา
นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ชี้ กรณี “สรยุทธ์” ถูกจำคุก 13 ปี เป็นบทเรียนให้คนทำสื่อโปร่งใส ชี้เจ้าตัวต้องแสดงความรับผิดชอบ สมควรหยุดจัดรายการ เช่นเดียวกับคณบดีนิเทศศาสตร์ ม.หอการค้า แนะควรพักหน้าจอ ถ้าศาลตัดสินบริสุทธิ์ค่อยกลับมา
วันนี้ (29 ก.พ.) นายเทพชัย หย่อง นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย กล่าวถึงกรณีที่ศาลอาญาพิพากษาจำคุก 13 ปี 4 เดือน นายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา พิธีกรรายการข่าวทางไทยทีวีสีช่อง 3 โดยไม่รอลงอาญา ในกรณียักยอกเงินค่าโฆษณารายการคุยคุ้ยข่าว ทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี (ช่อง 9 อสมท) ว่า ถือเป็นบทเรียนสำหรับคนทำสื่อ ที่เตือนให้รู้ว่าต้องมีความโปร่งใส ครอบคลุมในทุกเวที หากต้องการให้ข้าราชการ นักการเมือง มีมาตรฐาน สื่อก็ต้องมีมาตรฐานด้วย
ส่วน นายสรยุทธ์ จะสมควรที่จะยุติการจัดรายการหรือไม่ นายเทพชัย มองว่า ชัดเจนอยู่แล้วหลังศาลมีคำตัดสิน ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องสปิริต แต่เป็นเรื่องที่ต้องแสดงความรับผิดชอบ สมควรที่ต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่
ด้าน นายมานะ ตรีรยาภิวัฒน์ คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า โดยภาพรวมคดีในลักษณะนี้ควรจะแสดงสปิริตด้วยการยุติทำหน้าที่หน้าจอเอาไว้ก่อน เพราะในบทบาทไม่ว่าจะเป็นผู้ประกาศข่าว หรือสื่อมวลชน ประชาชนคาดหวังและให้เครดิตค่อนข้างมาก เวลาที่เชิญแขกรับเชิญมาซักถาม ไม่ว่าจะเป็นประเด็นอะไรก็ตาม จะได้มีความโปร่งใสด้วย ขณะเดียวกัน ยังเป็นตัวอย่างให้กับเยาวชน เป็นสปิริตอันหนึ่งที่สื่อมวลชนน่าจะได้กระทำออกมา
ส่วนต้นสังกัดอย่างไทยทีวีสีช่อง 3 ต้องคำนึงถึงภาพลักษณ์ของช่องรายการและสื่อมวลชน เพราะบทบาทไม่ใช่แค่เสนอข่าวสารเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นแบบอย่างต่าง ๆ ด้วย เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนในด้านจริยธรรม ในสังคมก็คงจะตั้งคำถามต่อบทบาทของพิธีกรและผู้ประกาศข่าว ถ้ามีคดีที่ยาวนาน และศาลตัดสินเช่นนี้ ก็ควรพักหน้าจอไว้ก่อน แล้วหลังจากนั้น ถ้าอีกสองศาลตัดสินว่าบริสุทธิ์ค่อยทำหน้าที่เหมือนเดิมก็ยังไม่เป็นไร
“ในเรื่องจริยธรรมมีการตั้งคำถามกันเยอะในแวดวงว่าควร ไม่ควรอย่างไร โดยเฉพาะหลังจากที่ ป.ป.ช. มีการชี้มูลต่าง ๆ แต่วันนี้เมื่อศาลตัดสินชัดเจนแล้ว เป็นบทบาทที่ดีที่ตัวพิธีกรควรจะแสดงสปิริตออกมาอย่างชัดเจน ขณะเดียวกัน ช่องเองก็แสดงบทบาทชัดเจนออกมาด้วย มันเป็นจริยธรรม มันไม่ได้เป็นเรื่องของกฎหมาย” นายมานะ กล่าว
นายมานะ ยังกล่าวอีกว่า เรื่องจริยธรรมเป็นเรื่องที่สื่อมวลชนทุกคนควรจะตระหนักถึง จริยธรรมหลายอย่างที่มีอยู่ควรที่จะพิจารณาและให้ความสำคัญ แม้จะไม่ได้มีโทษอย่างรุนแรงเหมือนทางกฎหมายก็จริง แต่สื่อมวลชนมีบทบาทที่จะเป็นแบบอย่าง และมีผลกระทบทางสังคมค่อนข้างมาก ในเรื่องราวต่าง ๆ ที่นำเสนอ คนที่ทำหน้าที่สื่อมวลชนทั้งหน้าจอและหลังจอต้องตระหนักถึงจรรยาบรรณทางวิชาชีพ
สมาคมนักข่าววิทยุโทรทัศน์จี้ “สรยุทธ์” แสดงสปิริตพักหน้าจอ หลังศาลสั่งจำคุกยักยอกเงินโฆษณา
โดย MGR Online
29 กุมภาพันธ์ 2559 16:45 น. (แก้ไขล่าสุด 29 กุมภาพันธ์ 2559 18:50 น.)
สมาคมนักข่าววิทยุโทรทัศน์จี้ “สรยุทธ์” แสดงสปิริตพักหน้าจอ หลังศาลสั่งจำคุกยักยอกเงินโฆษณา
สรยุทธ์ สุทัศนะจินดา
นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ชี้ กรณี “สรยุทธ์” ถูกจำคุก 13 ปี เป็นบทเรียนให้คนทำสื่อโปร่งใส ชี้เจ้าตัวต้องแสดงความรับผิดชอบ สมควรหยุดจัดรายการ เช่นเดียวกับคณบดีนิเทศศาสตร์ ม.หอการค้า แนะควรพักหน้าจอ ถ้าศาลตัดสินบริสุทธิ์ค่อยกลับมา
วันนี้ (29 ก.พ.) นายเทพชัย หย่อง นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย กล่าวถึงกรณีที่ศาลอาญาพิพากษาจำคุก 13 ปี 4 เดือน นายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา พิธีกรรายการข่าวทางไทยทีวีสีช่อง 3 โดยไม่รอลงอาญา ในกรณียักยอกเงินค่าโฆษณารายการคุยคุ้ยข่าว ทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี (ช่อง 9 อสมท) ว่า ถือเป็นบทเรียนสำหรับคนทำสื่อ ที่เตือนให้รู้ว่าต้องมีความโปร่งใส ครอบคลุมในทุกเวที หากต้องการให้ข้าราชการ นักการเมือง มีมาตรฐาน สื่อก็ต้องมีมาตรฐานด้วย
ส่วน นายสรยุทธ์ จะสมควรที่จะยุติการจัดรายการหรือไม่ นายเทพชัย มองว่า ชัดเจนอยู่แล้วหลังศาลมีคำตัดสิน ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องสปิริต แต่เป็นเรื่องที่ต้องแสดงความรับผิดชอบ สมควรที่ต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่
ด้าน นายมานะ ตรีรยาภิวัฒน์ คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า โดยภาพรวมคดีในลักษณะนี้ควรจะแสดงสปิริตด้วยการยุติทำหน้าที่หน้าจอเอาไว้ก่อน เพราะในบทบาทไม่ว่าจะเป็นผู้ประกาศข่าว หรือสื่อมวลชน ประชาชนคาดหวังและให้เครดิตค่อนข้างมาก เวลาที่เชิญแขกรับเชิญมาซักถาม ไม่ว่าจะเป็นประเด็นอะไรก็ตาม จะได้มีความโปร่งใสด้วย ขณะเดียวกัน ยังเป็นตัวอย่างให้กับเยาวชน เป็นสปิริตอันหนึ่งที่สื่อมวลชนน่าจะได้กระทำออกมา
ส่วนต้นสังกัดอย่างไทยทีวีสีช่อง 3 ต้องคำนึงถึงภาพลักษณ์ของช่องรายการและสื่อมวลชน เพราะบทบาทไม่ใช่แค่เสนอข่าวสารเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นแบบอย่างต่าง ๆ ด้วย เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนในด้านจริยธรรม ในสังคมก็คงจะตั้งคำถามต่อบทบาทของพิธีกรและผู้ประกาศข่าว ถ้ามีคดีที่ยาวนาน และศาลตัดสินเช่นนี้ ก็ควรพักหน้าจอไว้ก่อน แล้วหลังจากนั้น ถ้าอีกสองศาลตัดสินว่าบริสุทธิ์ค่อยทำหน้าที่เหมือนเดิมก็ยังไม่เป็นไร
“ในเรื่องจริยธรรมมีการตั้งคำถามกันเยอะในแวดวงว่าควร ไม่ควรอย่างไร โดยเฉพาะหลังจากที่ ป.ป.ช. มีการชี้มูลต่าง ๆ แต่วันนี้เมื่อศาลตัดสินชัดเจนแล้ว เป็นบทบาทที่ดีที่ตัวพิธีกรควรจะแสดงสปิริตออกมาอย่างชัดเจน ขณะเดียวกัน ช่องเองก็แสดงบทบาทชัดเจนออกมาด้วย มันเป็นจริยธรรม มันไม่ได้เป็นเรื่องของกฎหมาย” นายมานะ กล่าว
นายมานะ ยังกล่าวอีกว่า เรื่องจริยธรรมเป็นเรื่องที่สื่อมวลชนทุกคนควรจะตระหนักถึง จริยธรรมหลายอย่างที่มีอยู่ควรที่จะพิจารณาและให้ความสำคัญ แม้จะไม่ได้มีโทษอย่างรุนแรงเหมือนทางกฎหมายก็จริง แต่สื่อมวลชนมีบทบาทที่จะเป็นแบบอย่าง และมีผลกระทบทางสังคมค่อนข้างมาก ในเรื่องราวต่าง ๆ ที่นำเสนอ คนที่ทำหน้าที่สื่อมวลชนทั้งหน้าจอและหลังจอต้องตระหนักถึงจรรยาบรรณทางวิชาชีพ
แสดงความคิดเห็น
เสียดาย คุณสรยุทธ์ ครับ ผมชอบคุณนะ แต่สุดท้ายคุณทำให้ผมและแฟนคลับ เสียใจ.. (โจ ขิง)
3 ชม. ·
#สรุป ก็นั่นละฮะท่านผู้ชม ศาลชั้นต้นตัดสินออกมาแล้วว่า กรณีไร่ส้ม สรยุทธผิดจริงอะไรจริง จำคุก 13 ปี ไม่รอลงอาญา อ้าวแล้วเฮียสอผิดอัลไล ยังงั้ย? ตามกันได้ใน #สรุปเดียว
1.เฮียสอ เนี่ย เรียกได้ว่าเป็นลูกหม้อเนชั่น คน itv ยุคบุกเบิกเลย (เกิดทันกันล่ะสิพวกเธอ) เฮียมีสไตล์การเล่าข่าวที่โดดเด่น มีคนติดตามระดับนึง
2. แต่มาแจ้งเกิดเอาจริงๆ ก็ตอนจัดรายการ "เก็บตกจากเนชั่น" และ "คมชัดลึก" ร่วมกับกนก รัตน์วงศ์สกุล ในช่องเนชั่น (ตอนนั้นยังเป็นคู่หูคู่ฮากันอยู่นะเธอ ก่อนจะแตกกันทีหลัง)
3. ต่อมาช่อง3 ก็มาจีบให้เฮียไปทำรายการเล่าข่าวในช่วงเช้า (ต่อมากลายเป็นรายการ เรื่องเล่าเช้านี้) แต่ๆๆ ตอนเช้าแกก็มี “เก็บตกจากเนชั่น” ด้วยไง เนชั่นฯก็เลยไม่ยอมให้ไป
4. ณ จุดนั้น เฮียสอนี่จัดว่าเป็นคนข่าวที่ฮอทที่สุดละ คนจีบกันเยอะ ก็เริ่มรู้สึกตัวเองโตเกินกว่าอยู่ใต้ปีกของเนชั่นละ สุดท้ายเลยลาออกจากเนชั่นฯ จนบิ๊กบอสเนชั่นฯ สุทธิชัย หยุ่น ออกมาพูดว่าเนรคุณ (แรงอ่ะแกร)
5. พอออกมาแล้วก็รับจ้างเป็นพิธีกรรายการเรื่องเล่าเช้านี้ทางช่อง 3 และ "ถึงลูกถึงคน" ทางช่อง 9 อสมท. ซึ่งก็ทำงานรับตังค์เหมือนมือปืนรับจ้าง ส่วนช่อง 3 กับช่อง 9 เป็นผู้ดูแลการผลิตทั้งหมด เฮียสอเดินตัวปลิวเท่ๆ มาเข้ารายการอย่างเดียว (คล้ายๆดีเจแค่มาจัดรายการ ที่เหลือคลื่นวิทยุลงแรงหมด)
6. แต่ต่อมาช่อง 9 อยากได้รายการคุยข่าวแบบเรื่องเล่าเช้านี้บ้างไรบ้าง เลยเสนอให้เฮียเป็นผู้ร่วมผลิตรายการแล้วแบ่งเวลาโฆษณากันคนละครึ่ง ก็ออกมาเป็น "คุยคุ้ยข่าว"
7. ทีนี้พอทำเอง ก็ต้องมีทีมถ่ายทำ มีทีมหาสปอนเซอร์ละ งั้นเปิดบริษัทมันเลยดีกว่า จะได้บริหารจัดการง่ายๆ ก็เกิดมาเป็น บริษัท ไร่ส้ม จำกัด
8. ซึ่งในสัญญาบอกว่า รายการที่ออกเสาร์-อาทิตย์ให้โฆษณาได้ครั้งละ 5 นาทีนะ ถ้าโฆษณาเกิน 5 นาที ต้องจ่ายค่าเกินเวลาให้ อสมท ในอัตรานาทีละ 2 แสนบาท ส่วนที่ออกจันทร์-ศุกร์ ให้โฆษณาได้ครั้งละ 2 นาที 30 วินาที ถ้าเกิน ต้องจ่ายนาทีละ 240,000 บาท อ่ะ ก็โอเคสองฝ่ายตกลงทำสัญญากันไป
9. ต่อมาสหภาพแรงงานช่อง 9 ก็ไปเจอว่า เฮ้ย! ไร่ส้ม ค้างชำระรายได้จากการโฆษณาเกือบ 100 ล้านบาท เอาล่ะสิ เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา เฮียสอเลยอ่ะๆ ยอมจ่ายให้พร้อมดอกเบี้ยเป็นเงินร้อยกว่าล้านบาท ก็คิดว่าเรื่องคงจบละ แยกย้ายๆ
10. แต่มันไม่จบไง เพราะตามกฎเกณท์แล้ว ช่อง9 ในฐานะที่เป็นรัฐวิสาหกิจก็ต้องตั้งกรรมการขึ้นมาสอบว่าทำแบบนี้มันผิดระเบียบผิดกฎหมายไรเปล่า ก็สอบกันไปแล้วฟันโช๊ะว่ามีความผิดจริง
11. เรื่องเลยส่งต่อไปถึง ป.ป.ช. ก็เจอว่า จริงๆแล้วมีพนักงาน อสมท คนนึงที่เป็นคนรับผิดชอบจัดทำคิวโฆษณารวมและเป็นคนที่ต้องทำรายงานกรณีโฆษณาเกินเวลาเพื่อเรียกเก็บเงินจาก บ.ไร่ส้ม อีกที แต่กรณีนี้เจ๊แกจงใจไม่รายงานการโฆษณาเกินเวลาของ บ.ไร่ส้ม!!! (เกลือเป็นหนอนชัดๆ)
12. แล้วยังมีคนไปเจออีกว่า รายการข่าวเที่ยงคืน มีการออกอากาศล่าช้ากว่าเวลาที่กำหนด พอตรวจสอบก็เจอว่ารายการของเฮียสอออกอากาศเกินเวลาเพราะมีโฆษณาเกินมา เลยมาเบียดเวลาข่าวเที่ยงคืนต้องไปออกอากาศหลังเที่ยงคืน (งี้ต้องเปลี่ยนชื่อรายการด้วยดิ)
13. ที่เด็ดคือ นอกจากเบียดรายการอื่นเพราะโฆษณาเกินเวลาแล้ว เจ๊เจ้าหน้าที่คนนั้นยังช่วยปกปิดด้วยการแก้ใบคิวโฆษณาด้วยน้ำยาลบคำผิดด้วยนะ แถมตอนหลังออกมาสารภาพว่าเพราะผู้บริหารบริษัทไร่ส้มแนะนำให้ทำ
14. งานนี้เจ๊ไม่ได้ทำฟรีๆนะฮะ เพราะมีหลักฐานว่าเฮียสอเซ็นชื่อสั่งจ่ายเช็คให้เจ้าหน้าที่คนนี้ พร้อมออกเอกสารหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้รวม 6 ครั้ง เป็นเงิน 7แสนกว่าบาท (ใบเสร็จชัดเจนเลย)
15. ถึงตรงนี้ก็น่าจะชัดเจนแล้วว่า บ.ไร่ส้ม ติดสินบนพนักงาน อสมท ผู้ดูแลคิวโฆษณา เพื่อให้ตัวเองได้เงินจากการโฆษณามากขึ้น แถมไม่ต้องแบ่งใคร เก็บเองเต็มๆ
16. ป.ป.ช. เลยลงมติเอกฉันท์ 7 ต่อ 0 ชี้มูลความผิดเจ้าพนักงานคนนั้นว่ามีมูลความผิดทางวินัยร้ายแรงและมีมูลความผิดทางอาญา ส่วนเฮียสอและกรรมการบริษัทไร่ส้มก็มีมูลความผิดทางอาญา ฐานสนับสนุนพนักงานกระทำความผิด
#สรุป ศาลอาญาพิจารณาแล้วเห็นว่าผิดจริง สั่งจำคุกเฮียสอกับลูกน้อง 20 ปี ลดเหลือ 13 ปี 4 เดือน ส่วนอดีตคน อสมท. คุก 30 ปี ลดเหลือ 20 ปี ไม่รออาญา และปรับไร่ส้ม 80,000 บาท ตามข่าว
#สรุป2 คนกลุ่มหนึ่งที่ต้องชื่นชมเป็นอย่างมาก คือกลุ่มสหภาพที่ออกมาปกป้องผลประโยชน์ขององค์กรและของประเทศชาติ เพราะตอนนั้นสรยุทธนี่เรียกว่าชื่อเสียงดังคับฟ้ามาก ไม่มีใครกล้าแตะ ขนาดนักการเมืองยังต้องเกรงใจ ตอนนั้นถ้าไม่มีคนกลุ่มนี้ออกมาตรวจสอบ ป่านนี้ก็คงยังไม่มีคนเห็นธาตุแท้
#สรุป3 หนังยังไม่จบนะ เพราะภาคแรกนี่จบแค่ศาลชั้นต้น เดี๋ยวเฮียก็คงต้องประกันตัวแล้วสู้ต่อศาลอุทธรณ์แหละ ใครจะยอมติดคุกง่ายๆล่ะ จริงปะ? ส่วนเรื่องทำรายการต่ออะไรยังไง ตามจรรยาบรรณสื่อแล้ว ถ้าเจอศาลตัดสินขนาดนี้คงต้องเลิกทำแล้วมั้ง แต่ไม่รู้เฮียจะยอมหยุดรึเปล่านะ เพราะล่าสุดช่อง3 ก็โยนให้ไร่ส้มไปคิดเองว่าจะเปลี่ยนตัวคนดำเนินรายการรึเปล่า
#สรุป4 อันนี้แถม ย้อนไปเหตุการณ์สรยุทธออกจากเนชั่นตอนนั้น วงในเมาท์กันว่าเป็นแผนบอนไซเนชั่นของฝั่งทักกี้ด้วยนะ คือตอนที่ทักกี้ยังเป็นนายกอยู่เนี่ย เนชั่นชอบไปแซะไปแขวะไปขุดฝั่งนายใหญ่จนเป็นที่ขวางหูขวางตา จนมาระเบิดเอาตอนเหตุการณ์จอดับรายการเนชั่นที่สัมภาษณ์ประสงค์ สุ่นสิริ ศัตรูที่ทักษินไม่ยอมอยู่ร่วมฟ้าเดียวกัน ก็ลือกันว่าจากนั้นก็มีความพยายามจะบอนไซเนชั่นเรื่อยมา เช่น บีบให้ UBC (อดีตเคเบิลทีวีก่อนมาเป็น True Vision) ถอดรายการเนชั่นออกแลกกับการให้มีโฆษณาได้ (เพราะตอนนั้นเคเบิลทีวีห้ามมีโฆษณา) ส่วนการให้ช่อง 9 ช่อง 3 ซึ่งซี้ปึ้กกับทักกี้มาดึงตัวสรยุทธไป ก็ว่ากันว่าเป็นแผนแบ่งแยกขุนพลให้เนชั่นอ่อนแอ สุทธิชัยหยุ่นตอนนั้นนี่เหมือนเล่าปี่โดนโจโฉแย่งตัวกวนอูยังไงยังงั้นทีเดียว (หูย แผนล้ำลึก ถ้าเป็นจริงนะ)
https://www.facebook.com/Zar00p/posts/1688041811470968?fref=nf
ถึงว่า ตอนนั้น พี่กนก ชีวิตรื่นรมย์ ออกมาบอกตอนนั้น ว่า ผมทำงานกับคนโกงไม่ได้
ผมยังไม่ค่อยเชื่อ พี่กนกเท่าไหร่ในตอนนั้น แต่ ณ วันนี้ เมื่อศาลตัดสินแบบนี้ ผมหมดคำพูดครับ
คุณไม่สงสารแฟนคลับบ้างหรือครับคุณสรยุทธ์ คุณทำลงไปได้ยังไง พรุ่งนี้คุณจะยังกล้าจัดรายการอีกหรือเปล่า
แล้วคุณจะเสนอข่าวตัวคุณเองหรือเปล่า เสียใจครับ ผมไม่ชอบคนโกงเลย คนโกงที่หนีคดีออกไปต่างประเทศก็หลายคน
ไม่ต้องบอกนะครับว่ามีใครบ้าง ถอนหายใจอย่างแรงหนึ่งเฮือก
ผมยังจำภาพสมัยคุณสรยุทธ์ กับ พี่กนก จัดรายการทางเนชั่นได้ สมัยนั้นยังหนุ่มๆ ทั้งคู่ เป็นเด็กปั้นของ คุณสุทธิชัย หยุ่น
ช่วงแรกดูเงอะๆ งะๆ ไปบ้าง แต่ผมก็มองเห็นแววรุ่งของหนุ่มหน้าตี๋คนนั้น ผมตามดูคุณทุกๆเช้า ทั้ง 7 วัน (ยกเว้นบางวันที่ไม่ได้ดู)
ไม่อยากตอกย้ำนะครับ แต่คนโกงสมควรได้รับการลงโทษ เงินทอง ชื่อเสียง มันไม่อาจมาทดแทนโทษนี้ได้ครับ